
ช่วงฤดูใบไม้ผลินับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของญี่ปุ่น เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงามของดอกซากุระญี่ปุ่น ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งเต็มต้นราวปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งที่ญี่ปุ่นเองก็ได้มีการจัดงานเทศกาลชมซากุระอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่โตเกียวเองก็มีจุดที่สามารถชมซากุระอยู่หลายจุด และแน่นอนว่าจำนวนคนก็เยอะมากด้วยเช่นกัน แต่วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ จากเว็บไซต์ matcha-jp.com ที่จะพาเราไปรู้จักแหล่งชมซากุระกลางโตเกียวบางจุดที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ไม่ชอบเบียดเสียดกับผู้คน จะได้ชมความสวยงามของดอกซากุระกันแบบเต็มอิ่มอย่างแน่นอน


แต่ตรงสี่แยกถนนยามาโนเตะโดริและแม่น้ำเมกุโระจะเห็นได้ว่ามีคนน้อยลงอย่างชัดเจน เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าเส้นทางชมซากุระคงหมดแค่ตรงนี้ จึงเลี้ยวกลับฝั่งสถานีนากาเมกุโระกันหมด ดังนั้นถนนซากุระเลียบแม่น้ำเมกุโระที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Ohashi Junction (ทางแยกโอฮาชิ) ตรงทางด่วนจึงกลายเป็นแหล่งชมซากุระที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักไปโดยปริยาย

เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเดินชมซากุระที่ผลิบานเลียบแม่น้ำทั้งสองฝั่งได้อย่างชิล ๆ โดยไม่ต้องไปเบียดเสียดกับฝูงชนบริเวณสถานีรถไฟแล้วล่ะค่ะ เนื่องจากแถวนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ Ikejiri-Ōhashi Station (Tōkyū Den-en-toshi Line) มากกว่า การเดินทางกลับจึงเป็นเรื่องง่ายสะดวกสบายสุด ๆ
2. ถนนซากุระแบบย้อยภายในย่านสำนักงานของชิบูย่า



เมื่อเดินจากประตูฝั่งใต้ของสถานีชิบูย่ามาประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับ Namikibashi Foursquare (สี่แยกนามิคิบาชิ) จากตรงนี้มีการปลูกต้นซากุระแบบย้อยเอาไว้บนทางเท้ายาว 1 บล็อก ไปทางฝั่งสถานีเอบิสึ หลังเดินเข้าตรอกมาจากถนนใหญ่ก็จะพบกับแม่น้ำชิบูย่า ซึ่งริมฝั่งแม่น้ำเต็มไปด้วยต้นซากุระตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจาย ตรงนี้แหละที่เป็นแหล่งชมซากุระถึง 2 สายพันธุ์
3. ซากุระบริเวณสุสานที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว


ถนนทั้งสองข้างทางยาวกว่า 1.7 กิโลเมตร ที่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้ ซึ่งตั้งอยู่เกือบใจกลางเขตสุสานเรียงรายไปด้วยต้นซากุระเก่าแก่มากมายอายุมากกว่า 70 ปี ภายในสวนมีการปลูกต้นซากุระเอาไว้กว่า 230 ต้น เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูซากุระ บริเวณนี้จะกลายเป็นประตูโค้งของต้นซากุระเลยทีเดียว


นอกจากนี้สุสานแห่งนี้ก็ยังขึ้นชื่อเรื่องเต็มไปด้วยหลุมฝังศพของเหล่าคนดังมากมาย ตั้งแต่สมัยเมจิมาจนถึงช่วงก่อนสงคราม ไม่ว่าจะเป็นเจ้า "ฮาจิโกะ" สุนัขผู้ซื่อสัตย์ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดรูปปั้นฮาจิโกะในชิบูย่า, "ฮิเดะซาบูโร่ อุเอโนะ" เจ้าของของเจ้าฮาจิโกะ, "ชินอิจิ โฮชิ" นักเขียน และ "โคคิจิ มิกิโมโตะ" ผู้ก่อตั้งบริษัทจำหน่ายไข่มุกมิกิโมโตะ เป็นต้น
4. ชมซากุระเลียบทางรถไฟริมแม่น้ำคันดะ


สำหรับใครที่ไม่ชอบคนแน่นก็ขอแนะนำเป็นทางเท้าเลียบ Sotobori-dori (ถนนโซโตโบริ) ฝั่งตรงข้ามเลยจ้า เพราะว่ามีคนน้อยกว่ามาก จึงเหมาะกับการเดินเล่นชมซากุระสบาย ๆ เป็นอย่างยิ่ง


บนทางเท้าซึ่งสร้างขึ้นเลียบถนนทั้งสองฝั่งเรียงรายไปด้วยต้นซากุระมากมาย ที่แผ่กิ่งก้านจนเกือบคลุมทางเดินเลยทีเดียว เนื่องจากฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเป็นทางรถไฟของ JR Chūō Line เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับวิวซากุระและรถไฟได้พร้อมกันในแห่งเดียว


ถนนซากุระที่ผลิบานเลียบแม่น้ำเป็นอะไรที่งดงามสุดยอด ! แถมบางเวลาเรายังได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามเวลามีเรือแล่นผ่านไป-มาด้วยนะ


เนื่องจากริมถนนทั้งสองข้างทางมีการปลูกต้นซากุระเอาไว้มากมาย ในช่วงที่ซากุระบานสะพรั่งเต็มต้น เราจึงสามารถนั่งรถลอดอุโมงค์ต้นซากุระชมความงดงามในมุมมองใหม่ได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งชมซากุระคนน้อยที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักเป็นอันดับต้น ๆ ในหมู่แหล่งชมซากุระที่ได้แนะนำกันไปข้างต้นเลยก็ว่าได้ จึงขอแนะนำสำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับซากุระแบบจัดเต็มเลย
เป็นยังไงกันบ้างกับแหล่งชมซากุระคนน้อยทั้ง 5 แห่ง บ้างก็เป็นที่รู้จักกันเฉพาะในหมู่ผู้คนท้องถิ่น บ้างก็ไม่ค่อยเป็นที่คุ้นเคยกันสักเท่าไรก็จริง แต่บอกเลยว่านี่แหละคือข้อดีที่ช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการชมซากุระได้อย่างชิล ๆ ไหนใครอยากลองแวะไปชมซากุระสุดพิเศษกันแบบส่วนตั๊วส่วนตัวจากข้อมูลที่ได้แนะนำกันไปบ้างคะ ? ^^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
matcha-jp.com