
การไปเที่ยวญี่ปุ่นนอกจากการไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเด่นดังต่าง ๆ พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมายของญี่ปุ่นแล้ว สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนญี่ปุ่นอีกหนึ่งสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็คือการไปเคารพและกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่นของญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งวัดในญี่ปุ่นก็มีมากถึง 77,000 แห่งเลยทีเดียว แต่จะให้ไปเที่ยวทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เว็บไซต์ mcha-th.com จึงได้คัดสรร 5 วัดขึ้นชื่อ ที่ไม่ควรพลาดของญี่ปุ่น มาเป็นแนวทางให้กับมือใหม่ตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น จะมีวัดไหนบ้างนั้น...ไปชมกันเลยค่ะ













เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่าในญี่ปุ่นมีวัดทั้งหมดกี่แห่ง ? คำตอบก็คือ 77,000 แห่งเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามีจำนวนมากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศญี่ปุ่นเสียอีก (ปี 2015) ในบทความนี้เราจะขอมาแนะนำวัดยอดนิยม 5 แห่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวคัดสรรพิเศษจากบรรดาวัดทั่วประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ


วัดโฮริวจิโด่งดังจากการที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานเป็นจำนวนมาก คุเซะคันนง (รูปปั้นยืนของพระโพธิสัตว์กวนอิม) ซึ่งเป็นสมบัติของชาติไม่ได้เปิดให้เข้าชมได้ทั่วไป แต่ในฤดูใบไม้ผลิ (11 เมษายน-18 พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (22 ตุลาคม-23 พฤศจิกายน) ของทุกปีจะมีการเปิดให้เข้าไปสักการบูชาเป็นโอกาสพิเศษ ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองแวะไปเยือนตามช่วงเวลากันดูนะคะ
และที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำหรับการท่องเที่ยว 「โฮริวจิ I เซ็นเตอร์」 ยังมีบริการฟรีไกด์ภาษาอังกฤษอีกด้วย ถ้าใครอยากทราบข้อมูลรายละเอียดของวัดโฮริวจิก็ขอแนะนำให้จองไว้ค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หลัก





แต่ละฤดูกาลก็จะมีการจัดงานเทศกาลมากมาย เช่น โฮสึคิอิจิ และ โทชิโนะอิจิ เป็นต้น สำหรับใครที่ไปก็ขอแนะนำให้เช็กข้อมูลงานเทศกาลให้ดีก่อนนะคะ
ผู้คนจำนวนมากมักจะมาตั้งกล้องถ่ายรูปกันตรงประตูฟูไรจิมมง (หรือเรียกกันว่า คามินาริมง) ที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าของวัดเซ็นโซจิ ซึ่งนับเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตเลยค่ะ ถนนตั้งแต่ประตูยาวไปจนถึงตัววัดจะเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย และมีขนมขึ้นชื่อคืออาเกะมันจู หรือมันจูทอดน้ำมันนั่นเอง





บริเวณรอบบ่อน้ำมีสวนสาธารณะพื้นที่กว้างกว่า 92,400 ตารางเมตร เหมาะแก่การเดินเล่นชมสวนสาธารณะอย่างสบาย ๆ ไม่รีบร้อนเลยล่ะค่ะ วัดโรคุอนจินี้โด่งดังเรื่องการให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปตามแต่ละฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งงดงามจากภาพที่ตัดกับใบไม้แดงและฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยกองหิมะขาวโพลน ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองไปชมในฤดูแนะนำกันให้ได้นะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน !





รูปปั้นนั่งของพระไวโรจนะพุทธะนี้โด่งดังในฐานะที่เป็นสิ่งก่อสร้างจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในเสาหนึ่งของวิหารที่ประดิษฐานองค์พระใหญ่มีช่องเปิดไว้ซึ่งเรียกว่า「ไดบุทสึโนะฮานะโนะอานะ(ช่องพระนาสิกขององค์พระใหญ่)」มีความเชื่อว่าใครที่ลอดผ่านไปได้จะโชคดีมีความสุข แต่ถ้าลอดไม่ได้ก็ห้ามฝืน เพราะว่าช่องมีขนาดเล็กจึงอาจเกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิตั้งอยู่ใกล้ ๆ ให้เราได้เข้าไปชมสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าอย่างพระพุทธรูปด้วย สำหรับใครที่ได้ไปเยือนวันโทไดจิก็อย่าลืมแวะชมพิพิธภัณฑ์กันด้วยนะคะ





บริเวณโดยรอบวัดจูซนจิอุดมไปด้วยธรรมชาติมากมายให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการชมใบไม้แดงที่สวยงามในฤดูใบไม้ร่วงได้ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ติดกับ ยูเมะยากาตะ โอชูฟุจิวาระเรกิชิโมโนกาตาริ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของโอชูฟุจิวาระ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในตระกูลฟุจิวาระด้วย จึงขอแนะให้ใครที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นลองแวะไปชมกันนะคะ
ถ้านั่งรถไฟชินคันเซ็นโทโฮคุจากโตเกียวไปฮิโยริซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดจูซนจิ เราจะสามารถไปถึงฮิไรซุมิได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น



เรื่องโดย mcha_th
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ
