รวบรวม 10 ดอยยอดนิยมตลอดกาล สถานที่ชมทะเลหมอกและนอนกางเต็นท์ชมดาวท่ามกลางขุนเขา จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลย
การเที่ยวภูเขาหรือดอยเมืองไทยได้รับความนิยมตลอดทั้งปี
เพราะว่าอากาศบนยอดดอยนั้นค่อนข้างเย็น และวิวทิวทัศน์ยังสวยงามอีกด้วย
มีแนวของขุนเขาน้อยใหญ่ ทะเลหมอกสีขาวนวลละมุนละไม
สามารถมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในยามค่ำคืน
และแสงดาวที่ทอประกายบนฟากฟ้าอย่างสง่างาม ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวม 10
ดอยฮอตฮิตมาฝากกัน ใครไปเอามือแตะขอบฟ้าที่ไหนกันมาแล้วบ้าง...ไปดูกันเลย
ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางมากถึง 2,565 เมตร แวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ อาทิ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาและเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงและไม่ควรพลาด อาทิ น้ำตกแม่ยะ, น้ำตกแม่กลาง, พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ, โครงการหลวงอินทนนท์ เป็นต้น และหากใครต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาที่ดอยอินทนนท์ บริเวณโดยรอบก็มีที่พักไว้รองรับมากมาย
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ให้ขับไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ขับมุ่งหน้าไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองจะมีแยกขึ้นดอยอินทนนท์อยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนสายจอมทอง-อินทนนท์ ทางหลวงหมายเลข 1009 ขับไปเรื่อย ๆ จะเข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และไปสิ้นสุดที่ยอดดอยอินทนนท์
ดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยหุบเขาสีเขียวอุดมสมบูรณ์
เที่ยวชมแปลงปลูกดอกไม้ ผัก และผลไม้เมืองหนาว เดินเก็บสตรอว์เบอร์รีสด ๆ
จากไร่แบบชิล ๆ ชมแปลงปลูกชาท่ามกลางสายหมอก
สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาและอากาศที่หนาวจับใจ
สวรรค์บนเขาสูงที่คุณก็สามารถเอื้อมถึง
จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในดอยอ่างขาง อาทิ จุดชมวิวม่อนสน, สวนบอนไซ,
สวนบ๊วย สวนท้อ, จุดชมวิวขอบด้ง, ไร่ชาสองพัน, จุดชมวิวกิ่วลม, สวน 80 ปี,
แปลงปลูกกุหลาบ และดอกไม้เมืองหนาว เป็นต้น
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ขับตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) ขับไปเรื่อย ๆ จนถึงกิโลเมตรที่ 79 จะพบกับทางแยกขึ้นดอยอ่างขางเส้นที่ 1 ผ่านตำบลเมืองงาย บ้านอรุโณทัย บ้านหลวง ไปจนถึงดอยอ่างขาง เส้นทางนี้ค่อนข้างแคบแต่ไม่ลาดชัน ควรเดินทางช่วงเช้าหรือบ่ายเท่านั้น เพราะถนนเส้นนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะติดต่อขอความช่วยเหลือได้ยากลำบาก
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ถนนหมายเลข 107 เส้นทางเชียงใหม่-ฝาง เช่นกัน แต่เมื่อขับไปจนถึงหลักกิโลเมตรที่ 137 จะเจอกับทางแยกทางซ้ายขึ้นดอยอ่างขาง เส้นทางนี้จะมีความลาดชัน ผู้ขับขี่จึงต้องมีความชำนาญในการขับรถ และชำนาญเส้นทางพอสมควร ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่มากเป็นพิเศษ
ภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตาในอำเภอเชียงดาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,225 เมตร สูงเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย ผจญภัยไปกับเส้นทางเดินป่าสู่ยอดดอยสุดประทับใจ ได้พบเห็นพืชพรรณแปลกตาหายาก ดอกไม้ป่า และสัตว์ป่ามากมายตลอดเส้นทาง ด้านบนสามารถนอนมองทะเลดาวและทะเลหมอกสุดอลังการได้อย่างเต็มตาและใกล้ชิด เป็นประสบการณ์ที่คุณต้องจดจำไปตลอดแน่นอน
สถานที่ที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกสุด ๆ สามารถมองเห็นขุนเขาน้อยใหญ่ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ยามเช้ามีทะเลหมอกขาวลอยคลอเคลียยอดเขาอย่างน่าหลงใหล พร้อมทั้งทุ่งดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสีสัน สร้างบรรยากาศสุดผ่อนคลาย และยังได้เพลิดเพลินไปกับการนั่งรับประทานอาหารบนหน้าผาสูงแบบชิล ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเดินเที่ยวชมแปลงผักในโครงการหลวงหนองหอย นักท่องเที่ยวสามารถเก็บผักสด ๆ กลับไปกินที่บ้านอย่างอิ่มอกอิ่มใจ
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนหมายเลข 107 เส้นทางเชียงใหม่-ฝาง ตรงไปยังอำเภอแม่ริม เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 17 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1096 สายแม่ริม-สะเมิง จากนั้นเลี้ยวขวาตรงบ้านโป่งแยง ตรงไปเรื่อย ๆ จะเห็นป้ายบอกทางไปโครงการหลวงหนองหอย ม่อนแจ่มจะอยู่เลยโครงการหลวงไปเพียงเล็กน้อย
สวรรค์ของคนรักหมอก ยอดดอยสูงเสียดฟ้าและหน้าผาปลายยอดแหลมที่ยื่นออกไปอย่างสง่างาม เป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ยามเช้าจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกสุดอลังการ มีแสงพระอาทิตย์สีทองที่ค่อย ๆ โผล่พ้นขึ้นจากขอบฟ้าทอลงมาที่หมอกสีขาวอย่างสวยงาม และยังสามารถมองเห็นขุนเขาและธรรมชาติอันงดงามของทางฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจนทีเดียว นอกจากนี้ใกล้ ๆ กับภูชี้ฟ้ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ภูผาสวรรค์, ดอยผาตั้ง, น้ำตกภูซาง และสถานีเกษตรที่สูงดอยผาหม่น เป็นต้น
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงรายให้ขับรถมุ่งหน้าไปยังอำเภอเทิง ผ่านสามแยกโรงเรียนภูซางวิทยาคม บ้านสบบง และสามแยกบ้านม่วงชุม จากนั้นเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ จะถึงภูชี้ฟ้า
ยอดดอยที่แสนเงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่
สัมผัสวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ ลิ้มรสชารสชาติหวานนุ่ม
กลิ่นหอมกรุ่น และอาหารไทยจีนยูนนาน อีกทั้งบ๊วย พลัม ลูกพลับ
และผัก-ผลไม้เมืองหนาวอื่น ๆ อีกมากมาย และไม่ควรพลาดงานชิมชา ซากุระบาน
อาหารชนเผ่า ดอยแม่สลอง ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองจังหวัดเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 ขับตรงไปอำเภอแม่จัน แล้วไปเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1089 เส้นทางแม่จัน-ท่าตอน ก่อนจะถึงอำเภอแม่จัน จะผ่านน้ำพุร้อนป่าตึง บ้านห้วยหินฝน พอถึงหลักกิโลเมตรที่ 55 บริเวณด่านตรวจยาเสพติด ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางขึ้นดอย
เส้นทางที่ 2 ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 ผ่านอำเภอแม่จัน มุ่งหน้าไปอำเภอแม่สาย เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 860 จะมีป้ายบอกทางซ้ายมือให้เลี้ยวไปดอยแม่สลอง ขับเข้าเส้นทางนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงบ้านป่าเหมี้ยง หลักกิโลเมตรที่ 10 ให้เลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 1234 ขึ้นไปยังดอยแม่สลอง
ไปนอนนับดาวที่พร่างพราวบนฟากฟ้า พร้อมชมความงดงามของลานดอกไม้ป่าใต้ต้นสน ซึ่งชูช่อออกดอกอย่างสวยงาม ท่ามกลางสายหมอกบางเบาและละอองน้ำค้างมากมายจากสายฝน มีทั้งดอกหงอนนาค, ดอกหญ้ารากหอม, ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกกระดุมเงิน ฯลฯ เป็นที่เที่ยวหน้าฝนที่คุณต้องไม่พลาด
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากจังหวัดพิษณุโลก ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 11 แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะ เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1143 ขับเลยอำเภอชาติตระการ ไปจนถึงทางแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ขับผ่านบ้านบ่อภาคไปจนบรรจบทางหลวงหมายเลข 1268 ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1047 เส้นทางอุตรดิตถ์-น้ำปาด ขับไปจนถึงอำเภอน้ำปาด แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1239 ไปจนถึงทางหลวงหมายเลข 1238 ขับไปเรื่อย ๆ จนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
พิชิตยอดภูกระดึง
ชมความสวยงามของพระอาทิตย์สีแดงกลมโตโผล่ขึ้นจากขอบฟ้า
พร้อมทั้งทะเลหมอกสุดกว้างใหญ่ที่ผานกนางแอ่น
และชมพระอาทิตย์ตกดินอย่างสง่างามที่ผาหล่มสัก นั่งริมหน้าผาสูงชันพิชิตใจ
ไปชมใบเมเปิลสีแดงสดที่หล่นร่วงลงสู่พื้น
ซึ่งตัดกับสีเขียวของตะไคร่น้ำบนผาหินอย่างสวยงามที่ริมน้ำตกเพ็ญพบใหม่
ใครยังไม่เคยมาสัมผัสภูกระดึงบอกเลยว่าพลาดมาก
การเดินทาง : จากตัวเมืองเลย ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 201 เส้นทางเลย-ขอนแก่น แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 ขับไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ความอลังการของทะเลหมอกที่ใครได้เห็นต่างก็ต้องหลงรักที่นี่ หมอกจำนวนมหาศาลลอยอัดแน่นอยู่ในหุบเขา เหนือไร่กะหล่ำปลีสีเขียวอย่างสวยงาม แสงพระอาทิตย์สีทองสาดส่องลงมาในม่านหมอกทุกเช้า อากาศหนาวเย็นมีให้ได้สัมผัสตลอดทั้งปี
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 21 ตรงไปอำเภอหล่มสัก ประมาณ 40 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางเลี่ยงเมืองหล่มสัก มุ่งหน้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ตรงไปสักพัก จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 2372 ตามป้ายบอกทางไปอุทยานภูหินร่องกล้าและภูทับเบิก จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 2331 ตลอดเส้นทางนี้จะคดเคี้ยว ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง และผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญในการขับรถมากพอสมควร เพราะมีบางช่วงเป็นโค้งหักศอกและสูงชัน เมื่อไปถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตรงนี้จะมีแยกทางขวามือ ให้เลี้ยวไปทางขวาเพื่อไปยังภูทับเบิกอีกประมาณ 6 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จากอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้ขับรถมาที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ขับผ่านเข้ามาในอุทยาน แล้วขับตรงมาเรื่อย ๆ เส้นทางนี้มีความคดเคี้ยวเช่นกัน ควรใช้ความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ เมื่อขับผ่านที่ทำการอุทยาน ตรงไปเรื่อย ๆ จะไปบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปที่อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จะมีถนนทางด้านซ้ายมือ บอกไปภูทับเบิก ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร
สถานที่ชมดาวที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดน่านและประเทศไทย สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับการนอนกางเต็นท์ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราระยิบระยับและสายหมอกบาง ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้ทุกโมงยาม ตอนเช้าชมทะเลหมอกท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ และชมพระอาทิตย์ขึ้นอย่างงดงาม หรือแม้กระทั่งวิวของพระอาทิตย์ตกดิน ดอยเสมอดาวก็มีให้คุณได้เห็นเช่นกัน
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ผ่านนครสวรรค์ พิษณุโลกถึงแพร่ จากแพร่ตามถนนยันตรกิจโกศล ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ไปถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1026 จากอำเภอเวียงสาไปอำเภอนาน้อย ระยะทางประมาณ 35 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตามถนนสายนาน้อย-ปางไฮ ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1083 ไปสักระยะ จะเห็นป้ายแยกซ้ายเข้าไปทางดอยเสมอดาว
ทั้งหมดนี้คือยอดดอยฮอตฮิตที่นักท่องเที่ยวมักจะไปชมหมอกหยอกทะเลดาวกัน แล้วคุณล่ะ...ไปเก็บมาแล้วกี่ดอย ถ้ายังไม่ครบก็เตรียมตัวไปเก็บกันต่อในปีนี้ได้เลย ยอดเขาเหล่านี้ยินดีต้อนรับผู้มาเยือนเสมอ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org, portal.dnp.go.th, angkhangstation.com, tatcontactcenter, ดอยอินทนนท์.com, chiangmaiairportthai.com
ปักหมุดที่เที่ยวดอย
1. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางมากถึง 2,565 เมตร แวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ อาทิ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาและเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงและไม่ควรพลาด อาทิ น้ำตกแม่ยะ, น้ำตกแม่กลาง, พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ, โครงการหลวงอินทนนท์ เป็นต้น และหากใครต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาที่ดอยอินทนนท์ บริเวณโดยรอบก็มีที่พักไว้รองรับมากมาย
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ให้ขับไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ขับมุ่งหน้าไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองจะมีแยกขึ้นดอยอินทนนท์อยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนสายจอมทอง-อินทนนท์ ทางหลวงหมายเลข 1009 ขับไปเรื่อย ๆ จะเข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และไปสิ้นสุดที่ยอดดอยอินทนนท์
2. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ขับตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) ขับไปเรื่อย ๆ จนถึงกิโลเมตรที่ 79 จะพบกับทางแยกขึ้นดอยอ่างขางเส้นที่ 1 ผ่านตำบลเมืองงาย บ้านอรุโณทัย บ้านหลวง ไปจนถึงดอยอ่างขาง เส้นทางนี้ค่อนข้างแคบแต่ไม่ลาดชัน ควรเดินทางช่วงเช้าหรือบ่ายเท่านั้น เพราะถนนเส้นนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะติดต่อขอความช่วยเหลือได้ยากลำบาก
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ถนนหมายเลข 107 เส้นทางเชียงใหม่-ฝาง เช่นกัน แต่เมื่อขับไปจนถึงหลักกิโลเมตรที่ 137 จะเจอกับทางแยกทางซ้ายขึ้นดอยอ่างขาง เส้นทางนี้จะมีความลาดชัน ผู้ขับขี่จึงต้องมีความชำนาญในการขับรถ และชำนาญเส้นทางพอสมควร ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่มากเป็นพิเศษ
3. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตาในอำเภอเชียงดาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,225 เมตร สูงเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย ผจญภัยไปกับเส้นทางเดินป่าสู่ยอดดอยสุดประทับใจ ได้พบเห็นพืชพรรณแปลกตาหายาก ดอกไม้ป่า และสัตว์ป่ามากมายตลอดเส้นทาง ด้านบนสามารถนอนมองทะเลดาวและทะเลหมอกสุดอลังการได้อย่างเต็มตาและใกล้ชิด เป็นประสบการณ์ที่คุณต้องจดจำไปตลอดแน่นอน
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ถนนหมายเลข 107 เส้นทางเชียงใหม่-ฝาง
เมื่อถึงเขตอำเภอเชียงดาวจะเห็นป้ายบอกทางไปหน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้าขัด
ให้ขับเข้าที่หน่วยทำการ
เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่จะนำทางขึ้นไปยังยอดดอยหลวงเชียงดาว
4. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
สถานที่ที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกสุด ๆ สามารถมองเห็นขุนเขาน้อยใหญ่ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ยามเช้ามีทะเลหมอกขาวลอยคลอเคลียยอดเขาอย่างน่าหลงใหล พร้อมทั้งทุ่งดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสีสัน สร้างบรรยากาศสุดผ่อนคลาย และยังได้เพลิดเพลินไปกับการนั่งรับประทานอาหารบนหน้าผาสูงแบบชิล ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเดินเที่ยวชมแปลงผักในโครงการหลวงหนองหอย นักท่องเที่ยวสามารถเก็บผักสด ๆ กลับไปกินที่บ้านอย่างอิ่มอกอิ่มใจ
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนหมายเลข 107 เส้นทางเชียงใหม่-ฝาง ตรงไปยังอำเภอแม่ริม เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 17 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1096 สายแม่ริม-สะเมิง จากนั้นเลี้ยวขวาตรงบ้านโป่งแยง ตรงไปเรื่อย ๆ จะเห็นป้ายบอกทางไปโครงการหลวงหนองหอย ม่อนแจ่มจะอยู่เลยโครงการหลวงไปเพียงเล็กน้อย
5. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย
สวรรค์ของคนรักหมอก ยอดดอยสูงเสียดฟ้าและหน้าผาปลายยอดแหลมที่ยื่นออกไปอย่างสง่างาม เป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ยามเช้าจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกสุดอลังการ มีแสงพระอาทิตย์สีทองที่ค่อย ๆ โผล่พ้นขึ้นจากขอบฟ้าทอลงมาที่หมอกสีขาวอย่างสวยงาม และยังสามารถมองเห็นขุนเขาและธรรมชาติอันงดงามของทางฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจนทีเดียว นอกจากนี้ใกล้ ๆ กับภูชี้ฟ้ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ภูผาสวรรค์, ดอยผาตั้ง, น้ำตกภูซาง และสถานีเกษตรที่สูงดอยผาหม่น เป็นต้น
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงรายให้ขับรถมุ่งหน้าไปยังอำเภอเทิง ผ่านสามแยกโรงเรียนภูซางวิทยาคม บ้านสบบง และสามแยกบ้านม่วงชุม จากนั้นเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ จะถึงภูชี้ฟ้า
6. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองจังหวัดเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 ขับตรงไปอำเภอแม่จัน แล้วไปเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1089 เส้นทางแม่จัน-ท่าตอน ก่อนจะถึงอำเภอแม่จัน จะผ่านน้ำพุร้อนป่าตึง บ้านห้วยหินฝน พอถึงหลักกิโลเมตรที่ 55 บริเวณด่านตรวจยาเสพติด ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางขึ้นดอย
เส้นทางที่ 2 ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 ผ่านอำเภอแม่จัน มุ่งหน้าไปอำเภอแม่สาย เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 860 จะมีป้ายบอกทางซ้ายมือให้เลี้ยวไปดอยแม่สลอง ขับเข้าเส้นทางนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงบ้านป่าเหมี้ยง หลักกิโลเมตรที่ 10 ให้เลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 1234 ขึ้นไปยังดอยแม่สลอง
7. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
ไปนอนนับดาวที่พร่างพราวบนฟากฟ้า พร้อมชมความงดงามของลานดอกไม้ป่าใต้ต้นสน ซึ่งชูช่อออกดอกอย่างสวยงาม ท่ามกลางสายหมอกบางเบาและละอองน้ำค้างมากมายจากสายฝน มีทั้งดอกหงอนนาค, ดอกหญ้ารากหอม, ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกกระดุมเงิน ฯลฯ เป็นที่เที่ยวหน้าฝนที่คุณต้องไม่พลาด
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากจังหวัดพิษณุโลก ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 11 แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะ เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1143 ขับเลยอำเภอชาติตระการ ไปจนถึงทางแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ขับผ่านบ้านบ่อภาคไปจนบรรจบทางหลวงหมายเลข 1268 ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1047 เส้นทางอุตรดิตถ์-น้ำปาด ขับไปจนถึงอำเภอน้ำปาด แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1239 ไปจนถึงทางหลวงหมายเลข 1238 ขับไปเรื่อย ๆ จนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
8. ภูกระดึง จังหวัดเลย
การเดินทาง : จากตัวเมืองเลย ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 201 เส้นทางเลย-ขอนแก่น แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 ขับไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
9. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ความอลังการของทะเลหมอกที่ใครได้เห็นต่างก็ต้องหลงรักที่นี่ หมอกจำนวนมหาศาลลอยอัดแน่นอยู่ในหุบเขา เหนือไร่กะหล่ำปลีสีเขียวอย่างสวยงาม แสงพระอาทิตย์สีทองสาดส่องลงมาในม่านหมอกทุกเช้า อากาศหนาวเย็นมีให้ได้สัมผัสตลอดทั้งปี
การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 21 ตรงไปอำเภอหล่มสัก ประมาณ 40 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางเลี่ยงเมืองหล่มสัก มุ่งหน้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ตรงไปสักพัก จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 2372 ตามป้ายบอกทางไปอุทยานภูหินร่องกล้าและภูทับเบิก จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 2331 ตลอดเส้นทางนี้จะคดเคี้ยว ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง และผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญในการขับรถมากพอสมควร เพราะมีบางช่วงเป็นโค้งหักศอกและสูงชัน เมื่อไปถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตรงนี้จะมีแยกทางขวามือ ให้เลี้ยวไปทางขวาเพื่อไปยังภูทับเบิกอีกประมาณ 6 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จากอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้ขับรถมาที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ขับผ่านเข้ามาในอุทยาน แล้วขับตรงมาเรื่อย ๆ เส้นทางนี้มีความคดเคี้ยวเช่นกัน ควรใช้ความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ เมื่อขับผ่านที่ทำการอุทยาน ตรงไปเรื่อย ๆ จะไปบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปที่อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จะมีถนนทางด้านซ้ายมือ บอกไปภูทับเบิก ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร
10. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
สถานที่ชมดาวที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดน่านและประเทศไทย สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับการนอนกางเต็นท์ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราระยิบระยับและสายหมอกบาง ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้ทุกโมงยาม ตอนเช้าชมทะเลหมอกท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ และชมพระอาทิตย์ขึ้นอย่างงดงาม หรือแม้กระทั่งวิวของพระอาทิตย์ตกดิน ดอยเสมอดาวก็มีให้คุณได้เห็นเช่นกัน
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ผ่านนครสวรรค์ พิษณุโลกถึงแพร่ จากแพร่ตามถนนยันตรกิจโกศล ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ไปถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1026 จากอำเภอเวียงสาไปอำเภอนาน้อย ระยะทางประมาณ 35 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตามถนนสายนาน้อย-ปางไฮ ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1083 ไปสักระยะ จะเห็นป้ายแยกซ้ายเข้าไปทางดอยเสมอดาว
ทั้งหมดนี้คือยอดดอยฮอตฮิตที่นักท่องเที่ยวมักจะไปชมหมอกหยอกทะเลดาวกัน แล้วคุณล่ะ...ไปเก็บมาแล้วกี่ดอย ถ้ายังไม่ครบก็เตรียมตัวไปเก็บกันต่อในปีนี้ได้เลย ยอดเขาเหล่านี้ยินดีต้อนรับผู้มาเยือนเสมอ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวภูเขา เที่ยวดอย อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ที่เที่ยวภูทั่วไทย ชมทะเลหมอกสวย ๆ สัมผัสธรรมชาติอันสมบูรณ์
- 9 พิกัด ดอยในเชียงราย ชมวิวธรรมชาติและขุนเขา มีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง
- พิชิต 15 ยอดเขาสูงของไทย ที่สุดแห่งความงามปลายขอบฟ้า
- วิธีการเตรียมตัวเดินป่าเบื้องต้น เที่ยวภูเขาด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด
- 9 พิกัด ดอยในเชียงราย ชมวิวธรรมชาติและขุนเขา มีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง
- พิชิต 15 ยอดเขาสูงของไทย ที่สุดแห่งความงามปลายขอบฟ้า
- วิธีการเตรียมตัวเดินป่าเบื้องต้น เที่ยวภูเขาด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด