"ดอยหลวงตาก" จังหวัดตาก ชื่อนี้อาจฟังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนัก แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลธรรมชาติของการเดินป่าและขุนเขา คุณอาจจะต้องเริ่มทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้นแล้วล่ะ ว่ากันว่าจุดชมวิวที่ดอยหลวงตากถือว่าสุดยอดเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ที่สำคัญที่นี่ยังมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปน้อยมาก คุณจึงสามารถตักตวงช่วงเวลาแห่งความสุขจากการเฝ้ามองดูผืนป่าทะเลภูเขาได้แบบไม่ต้องเกรงใจใคร เช่นเดียวกับ คุณ dream explorer สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้เดินเท้าหลายชั่วโมงเพื่อขึ้นไปพบกับความงามของวิวทะเลภูเขาสุดอลังการ เรียกได้ว่าคุ้มค่าและหายเหนื่อยสุด ๆ ใครที่ชื่นชอบการผจญภัยต้องลองมาดูสักครั้ง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อ๊ะ ๆ !!! ชักเริ่มสงสัยแล้วสิว่าที่ "ดอยหลวงตาก" มันแจ่มยังไง อย่าเสียเวลาไปดูกันเลยดีกว่า…
สวัสดีค่ะ ได้มีโอกาสไปขึ้นเขาที่ดอยหลวงตาก เมื่อวันที่ 23-24 ตุลาคม 2558 นี่เป็นครั้งแรกที่เดินขึ้นเขาแบบจริงจัง แบกเป้ขึ้นเขาไปเอง ต้องขอบอกคร่าว ๆ ถึงที่นี่ก่อนนะคะ เพราะบางคนอาจไม่เคยรู้จักที่นี่ "ดอยหลวงตาก" ดอยอีกแห่งที่ท้าทายเหล่านักเดินทางให้ต้องไปพิชิตเนิน "โล้นหลวง" ลักษณะของเนินโล้นหลวงมีลักษณะเป็นลานหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่ มีรูปร่างค่อนข้างมนคล้ายกับตัวหนอนขดตัวนิดหนึ่ง มีความสูง 1,175 เมตร ทอดตัวอยู่ในสันขอบอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช กับป่าสงวนแห่งชาติที่อาจจะผนวกรวมวนอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ไข จังหวัดตาก
กล้องที่ใช้ถ่ายในทริปนี้ คือ Fuji XA1/Gopro Hero 4/กล้องมือถือ
เรามาเริ่มไปเที่ยวกันเลยดีกว่า ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เราไปเป็นทัวร์แบบ Trekking ค่ะ เราเริ่มจากที่นัดหมายในวันที่ 22 ตุลาคม 2558 เวลาประมาณ 22.30 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดตากโดยรถตู้ 3 คัน เพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้ประมาณ 30 คน เราเดินทางถึงเทศบาลทุ่งกระเชาะ จังหวัดตาก ฟ้าก็ยังมืดอยู่ ก็นั่งหลับกันต่อในรถตู้ จนเริ่มสว่างก็แยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัว ใครจะอาบน้ำแปรงฟันก็ต้องทำที่นี่เลยค่ะ เพราะเราจะไม่ได้อาบน้ำอีกจนกว่าจะลงจากเขาในอีกวัน สภาพห้องน้ำก็พอรับได้ค่ะ เลยจัดการอาบน้ำเรียกความสดชื่นให้ร่างกายซะหน่อย
ร่างกายต้องการอาหารเช้ากันแล้ว หิวค่ะหิวววววววววว เรากินอาหารเช้าในร้านอาหารใกล้ ๆ แถวนั้น ข้าวผัดกับซุป กินง่าย ๆ ค่ะ
น้องหมาร้านข้าวน่ารักดี
กินข้าวเสร็จก็เดินกลับมาที่รถตู้เก็บของ เลือกเอาของใช้ที่จำเป็นใส่เป้
มีพี่ ๆ เจ้าหน้าที่และลูกหาบมาเตรียมขนของส่วนกลางจัดการแพ็กของกันใหญ่เลย
จากนั้นเราก็ขึ้นรถไปกันต่ออีกประมาณ 15 นาที เพื่อไปเริ่มทางขึ้นดอยหลวงตากกันค่ะ รับอาหารกลางวันกันไปคนละชุด จัดการเก็บยัดใส่กระเป๋าเลย
เจ้าหน้าที่มาแนะนำทำความรู้จักกับพวกเรา ก่อนที่จะนำทางเราขึ้นดอยกันค่ะ
ระยะทางในการเดินขึ้นดอยประมาณ 11 กิโลเมตร มีทั้งทางลาด ทางลาดชัน และทางชั้นชัน !!!
แรก ๆ แรงยังมีเดินไปชิล ๆ ไม่เหนื่อยหรอก หน้ายังไหว !!!
เดินไปก็ชมธรรมชาติไป เดินไป ๆ ก็เริ่มเหนื่อย แวะพักแถว ๆ ลำธาร แต่น้ำไม่ค่อยมีเท่าไรค่ะ ไม่รอช้าวางเป้แล้วถ่ายรูปเล่นเลยจ้า
มีผีเสื้อบินเต็มเลย แต่ถ่ายมาได้แค่นี้เอง
ฝากรอยเท้าเอาไว้
นั่งพักแป๊บหนึ่ง
เดินทางกันต่อเลยจ้า ระหว่างทางเห็นภูเขาไกล ๆ เหมือนภูเขาไฟฟูจิเลย
แต่ละคนเริ่มเหนื่อยกันแล้ว
ข้าวกลางวันของเราคือข้าวกะเพรา+ไข่ต้ม ณ จุดนั้นอร่อยค่ะ หิวมากกกกกกก
ได้เวลาเดินย่อยข้าวกันต่อแล้ว เราจะเดินไปตามสันเขา บางช่วงเดินเลียบหน้าผาหวาดเสียวเล็กน้อย จากนั้นเราจะเดินผ่านประตูหิน เส้นทางหลังประตูนี้จะเริ่มเดินชัน ชัน และชันขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงเนินป่าสนสามใบ นั่งพักชมวิวเอาแรงกันหน่อย
ชมดอกไม้ระหว่างทาง พูดเลยว่าตอนนั้นเหนื่อยมาก เหงื่อไหลเต็มตัว
เดินขึ้นทางชัน ๆ จนถึงป่าสนค่ะ ข้างบนอากาศดี๊ดี นั่งพักหน่อย เราก็คิดว่าถึงแล้วที่ไหนได้ยังค่ะ ยังอีกไกล
ที่นี่สัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตดีมากจริง ๆ ไม่ขาดการติดต่อกับโลกโซเชียลเลย อัพรูปได้สบาย ๆ
จากนั้นเดินต่อไปอีกสักพัก ทิ้งเป้ไว้ระหว่างทางเพื่อเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ถ่ายรูปมุมสวย ๆ กันให้หนำใจ
เดินตามเจ้าหน้าที่ไปเลยจ้า อัดรูปไปยาว ๆ เลย
วิวหลักล้านจริง ๆ สวยมากเลยค่ะ ที่เดินเหนื่อย ๆ มาทำให้รู้สึกเลยว่าหายเหนื่อย
มัวแต่ถ่ายรูปกันอยู่เลยกลายเป็นกลุ่มที่เดินรั้งท้าย จากนั้นเดินลงมาที่เดิม มาเอาเป้ขึ้นหลังเดินฝ่าดงป่ากล้วย บริเวณนี้จะมีทากด้วย ต้องเตรียมตัวใส่ถุงกันทากหรือถุงเท้ากันด้วยนะ
ทากเกาะรองเท้า
เดินฝ่ากันประมาณ 30 นาที ก็จะถึงจุดตั้งแคมป์ เราก็มากางเต็นท์กันเลย
คืนนี้เรานอนกันที่นี่ค่ะ
ลืมบอกไปว่าเราใช้เวลาเดินขึ้นมาทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมง ทั้งแวะพักแวะถ่ายรูปมาเรื่อย ๆ กางเต็นท์เสร็จก็เก็บสัมภาระของตัวเอง พักเหนื่อยกันพอหอมปากหอมคอแล้วเราก็เดินกันต่อไม่ไกลจากจุดกางเต็นท์มากนัก เตรียมตัวไปดู "โล้นหลวง" เราจะไปเก็บภาพทะเลภูเขา เขาหน้าลิง กันเลย
ข้างบนนี้บอกเลยว่าสูงมาก ไม่เคยรู้สึกขาสั่นแบบนี้มาก่อน มันมองเห็นไปได้ไกลมาก ข้างบนก็มีลมพัดเย็นอยู่ตลอด แต่แดดก็แรงใช้ได้เลย
ความรู้สึกตอนนั้นเราอยู่ใกล้ท้องฟ้าและเมฆมาก ๆ เลย
บอกเลยว่าเขาลูกนี้ดูเหมือนจะไม่สูง แต่พอขึ้นไปถึงข้างบนคิดอยู่ว่าจะลงมายังไงไม่ให้กลิ้งลงมา เพราะว่าค่อนข้างชัน ควรเดินให้อยู่ช่วงกลางของเขา เพราะริม ๆ น่ากลัวมากจริง ๆ
บอกไว้ก่อนเลยสำหรับสาว ๆ ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีส้วมหลุมนะคะ เป็นห้องธรรมชาติล้วน ๆ เลือกที่ลับตาคนหน่อย หามุมส่วนตัวทำธุระส่วนตัวเลยจ้า อย่าลืมไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางด้วยนะคะ เพื่อความสบายใจ ข้างบนนี้ขนาดขึ้นมาสูงขนาดนี้ยังมีขี้วัวเต็มไปหมดเลย ระวังเจอของคนด้วยนะ อิอิ
หลังจากที่เราขึ้นไปชมความสวยงามของ "โล้นหลวง" แล้ว ก็ได้เวลาอาหารกันแล้วจ้า ข้อดีของการมาทัวร์คือเราไม่ต้องเตรียมอาหารเองค่ะ เพราะเค้าจัดการเตรียมไว้ให้เราเรียบร้อยเลย ทุกคนมาล้อมวงกินข้าวด้วยกัน และได้มาทำความรู้จักกันมากขึ้น
ล้อมวงกินข้าวด้วยความหิวโหย 555++
เจ้าหน้าที่และลูกหาบเค้าก่อไฟทำกับข้าวกันเอง อลังการมาก หลังจากกินข้าวกันเสร็จก็ได้เวลามาทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ใครมาคนเดียว ใครมาเป็นแก๊งกันบ้าง นั่งคุยกันไป บางคนก็เพลียขอตัวไปพักผ่อน ส่วนเราก็ไปเปลี่ยนเสื้อใส่เสื้อกันหนาวออกมา เพราะอากาศเริ่มหนาวแล้ว ลมแรงมาก ๆ มากถึงมากกกกกกกกกกก
หลังจากที่แยกย้ายกันเข้านอนก็ประมาณ 3 ทุ่ม เหนื่อยมาก นอนหลับไปแบบหลับสนิทมาก ตื่นอีกทีได้ยินเสียงคนเดินไปมาเวลาประมาณตีห้า เลยเปิดเต็นท์ออกมาดู เค้าออกมาถ่ายรูปดาวกัน มองไปบนฟ้า ดาวเต็มท้องฟ้า นอนมองดาวจากในเต็นท์มันสวยเกินคำบรรยายจริง ๆ ไม่ได้เห็นดาวเยอะขนาดนี้มานานมากแล้ว สวยสุด ๆ ประทับใจมาก แต่ถ่ายรูปมาไม่ได้ กล้องดันแบตฯ จะหมดซะงั้น เซ็งเลย !!!
เราตื่นแล้วเตรียมตัวขึ้นไปบนโล้นหลวงอีกครั้งเพื่อที่จะรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ท้องฟ้าดันไม่เป็นใจ มีหมอกหนามาก เห็นทุกอย่างเป็นขาว ๆ หมด ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินมาก ๆ เราขึ้นไปกินกาแฟ กินขนมปังกันบนยอดดอยแบบบรรยากาศชิลมาก ๆ ให้ความรู้สึกแบบพักผ่อนสุด ๆ
นี่คือเพื่อนร่วมทริปของเราทั้งหมดค่ะ
เสร็จจากการชื่นชมธรรมชาติบนยอดดอยแล้วเราก็กลับมาที่แคมป์ กินอาหารเช้ากัน มีเบอร์เกอร์กับข้าวผัดให้กินกัน
จากนั้นเราก็เก็บสัมภาระส่วนตัว เก็บเต็นท์ให้เรียบร้อยแล้ว สตาฟแจกข้าวห่อให้คนละ 1 ห่อ เตรียมตัวเดินทางกลับ เราเริ่มออกจากที่ตั้งแคมป์ตอนประมาณ 9 โมงเช้า เดินย้อนกลับทางเดิมเลยจ้า !!!
บอกเลยว่าทริปนี้เป็นทริปหน้าสดมาก ๆ ไร้เครื่องสำอางแบบสุด ๆ 5555++
ตอนขาลงดอย ไอ้เราก็มัวแต่เซลฟี่ตัวเอง เห็นว่ามันเป็นทางตรงธรรมดา ๆ ไม่มีอะไร ก็เดิน ๆ เซลฟี่ไม่ได้มองทาง มีหลุมอยู่ ตกหลุมเล็ก ๆ นั้นล้มสิคะ มีวิดีโอตอนล้มด้วยแต่ไม่กล้าอัพ น่าอายที่สุด !!! เจ็บตัวเลย ดีนะข้อเท้าไม่พลิก ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่เลย เพิ่งลงดอยยังไม่ถึงครึ่งทางเลย 5555++ ไหน ๆ ก็ล้ม ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทริป กลัวเป็นคนที่ถึงทีหลัง เลยพยายามเดิน ๆๆๆ ไม่ยอมพักยาว ๆ จนถึงแถวลำธารเลยขอแวะพักถ่ายรูปก่อนกลับส่งท้ายซะหน่อย
เดินๆๆ จนเกือบถึงทางออกแล้ว เจอฝูงวัวตัวโตขวางทางอยู่ วัวก็มองเรา เราก็มองวัว ไม่กล้าเข้าไปใกล้กลัวมันวิ่งใส่ เลยรอให้ลูกหาบเดินมา ที่ไหนได้เราต้องเดินย้อนขึ้นเขาไปหน่อยหนึ่ง เพื่อเลี่ยงฝูงวัว 555++
เราลงมาถึงปากทางตอนประมาณ 12.30 น. ถือว่าทำเวลาได้ดี สมาชิกของรถเราครบก่อน ก็อำลาดอยหลวงตาก แล้วเดินทางไปที่เทศบาลทุ่งกระเชาะ ที่เดิมตอนขามา ไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายกันให้สดชื่นไปเลย
ทำภารกิจอาบน้ำเก็บของกันเสร็จ เราก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่แล้วออกเดินทางเตรียมตัวไปแวะกินข้าวเย็นที่นครสวรรค์ ถึงร้านอาหาร ร.เรือ ประมาณ 6 โมงเย็น ท้องก็ร้องพอดีเป๊ะ อาหารมาแบบจัดเต็ม กิน ๆๆ เวลานั้นหิวมาก
กินอาหารกันเสร็จก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลับพักผ่อนกันในรถ ถึงกรุงเทพฯ อย่างปลอดภัยประมาณ 4 ทุ่มค่ะ
******สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้ เราเดินทางไปกับทัวร์ของ TKT ECOTOUR ราคา 3,300 บาทค่ะ ******
The End
**ฝากรีวิวด้วยนะคะ
วังเวียง http://pantip.com/topic/33494507
กระบี่ http://pantip.com/topic/33782206
นอนแพเมืองกาญจน์ http://pantip.com/topic/34230832
เฟซบุ๊ก dreamexplorer
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ dream explorer สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก dreamexplorer