
ถ้ามีเวลาว่างสัก 2-3 วัน ใคร ๆ ก็อยากที่จะหลีกหนีออกไปจากเมืองหลวงที่วุ่นวาย สู่ป่าเขาอันเขียวขจี อากาศเย็นสบายและบริสุทธิ์ ซึ่ง คุณสมาชิกหมายเลข 2576913 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ไม่ปล่อยให้มันเป็นแค่เพียงความคิด เขาขับรถออกไปกับรถคู่ใจ มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งขุนเขา "เพชรบูรณ์" ขับรถลัดเลาะขึ้นไปตามภูเขา แวะตรงนั้นตรงนี้เพื่อถ่ายภาพความสวยงามของสวรรค์แห่งนี้ และมันจะสวยงามจนทำให้หัวใจคุณโหยหาธรรมชาติได้มากน้อยแค่ไหน ไปชมกันเลยค่ะ












ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพไปแบบลุย ๆ ด้วยงบที่จำกัด (จนแล้วไม่เจียม 555) แต่ผมก็มีความสุขนะที่ได้เดินทางไปกับรถคันเล็ก ๆ คู่ใจที่เป็นมากกว่า ยานพาหนะสำหรับใครหลาย ๆ คน เกริ่นมาเยอะแล้วเราไปเที่ยวกันดีกว่า ทริปแรกเป็นทริปหนาวนะครับ 3 วัน 2 คืน ไปสัมผัสลมหนาวที่ภูทับเบิกและนอนดูดาวที่ทุ่งแสลงหลวง อย่าเสียเวลาครับไปกันเลย...^_^
ป.ล. ภาพสวยบ้างไม่สวยบ้างต้องขออภัยด้วยครับ
แวะพบปะพูดคุยทักทายกันได้ครับ
เฟซบุ๊ก yuttana.pichanchai

ผมออกเดินทางจากโคราช (นครราชสีมา) ประมาณตีสองครับ ไปกับเจ้าลูกชายคู่ใจ ถึงสภาพจะไม่ค่อยลุยก็เถอะ 555 แต่ก็ลุยไหนลุยกันไม่เคยบ่นหรืองอแง จอดซื้อเสบียงและรอเพื่อนร่วมทางอีกสองครอบครัวครับ....^_^

เรามาถึงภูทับเบิกกันประมาณ 10 โมงเช้าครับ เราเตรียมเต็นท์มากางนอนกัน เพราะอยากสัมผัสกับอากาศเย็น ๆ และลมหนาวของที่นี่ จริง ๆ ผมว่านอนเต็นท์มันมีเสน่ห์นะครับ ได้ทำอาหารกินกันเอง ได้อยู่กับธรรมชาติ ยิ่งถ้าใครมาเป็นคู่รักนะยิ่งฟิน...อีโมติคอน kiki หน้าหนาวภูทับเบิกนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะครับ ผมเลยเลือกที่จะไปกางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์ของเอกชน เพราะน่าจะสะดวกกว่าในการเข้าห้องน้ำ เพราะเพื่อนร่วมทางมีเด็กมาด้วย ราคากางเต็นท์ 300 ต่อเต็นท์มั้งครับถ้าจำไม่ผิด หลังจากเตรียมที่ซุกหัวนอนได้แล้วผมก็คว้ากล้องคู่ใจเดินทัวร์ภูทับเบิกเลยครับ

ตอนนี้ที่ภูทับเบิกมีรีสอร์ทเกิดขึ้นมากมายครับ เดินเก็บภาพไปเรื่อย ๆ มอง ๆ ดูบ้างครั้งก็ใจหายนะที่ภูเขาทั้งลูกกลายเป็นภูเขากะหล่ำปลี มองไปไกล ๆ เห็นยอดเจดีย์อยู่ลิบ ๆ ไม่แน่ใจว่าใช่เจดีย์วัดป่าภูทับเบิกรึเปล่า ถ้าข้อมูลผิดต้องขออภัยด้วยครับ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ด้านบนตามมุมต่าง ๆ ที่ได้เห็นกันตามสื่อต่าง ๆ ผมเลยเลือกที่จะเดินลุยทุ่งกะหล่ำปลีครับ ได้เห็นมุมใหม่ ๆ บ้าง เดิน ๆ ลุย ๆ ไปเรื่อย




อีกสักภาพครับการรดน้ำทุ่งกะหล่ำปลีท่ามกลางความหนาว...^_^

รีสอร์ทนี้มีทั้งบ้านพักและลานกางเต็นท์ ด้านหน้ารีสอร์ทปลูกทั้งสตรอว์เบอร์รีและกะหล่ำปลีครับ...^_^

มาเก็บกะหล่ำปลีกันเถอะ...^_^

เดินถ่ายเพลิน ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ พี่ ๆ โทรตามให้ขึ้นไปภูแผงม้ากันได้แล้ว เราก็ออกเดินทางไปเก็บแสงเย็นกันที่นั่นครับ ภูแผงม้าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ต้องขับรถออกมาจากภูทับเบิกแล้วขับรถเข้าไปในอุทยานอีกนิดหน่อยจะมีทางขึ้นไปทางซ้ายมือ ทางขึ้นค่อนข้างลื่นและลาดชันนะครับ เหมาะสำหรับรถ 4*4 และมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ใครขับรถเก๋งไปแนะนำให้จอดข้างทางแล้วเดินขึ้นไปดีกว่าครับ
เราขึ้นมาถึงประมาณสี่โมงเย็น อากาศข้างบนตอนนั้นวัดได้ 15 องศา ถ่าย ๆ ภาพอยู่มือแข็งเลยทีเดียว แต่วิวที่อยู่ข้างบนก็สวยจนเกินบรรยายจริง ๆ ครับ

ไม่เจอหมอกแต่ก็เจอแสงสวย ๆ กับอากาศเย็น ๆ แค่นี้ก็สุขใจ

ก่อนจะสิ้นแสงครับ อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ บวกกับสายลมที่พัดผ่านตลอดเวลา ทำเอาคนโสดอย่างผมต้องอิจฉาคู่รักที่ขึ้นไปสวีทกันบนนั้นเลยทีเดียว...^_^

แสงสุดท้ายของวัน....^_^

แสงสุดท้ายของวัน....^_^

ก่อนนอนก็ไปเก็บภาพภูทับเบิกยามค่ำคืนอีกนิดหน่อยครับ ก่อนจะกลับมานอนเอาแรงเพื่อตื่นมาลุ้นหมอกยามเช้า ถึงแม้รู้ดีว่าโอกาสเจอจะน้อยก็ตาม...^_^

อากาศหนาวมาก ๆ ครับ หนีไปนอนก่อนดีกว่า...^_^

และแล้วก็เป็นไปอย่างที่คิดครับ พี่หมอกไม่มาแต่ก็ได้แสงเช้าอ่อน ๆ มาทดแทน เดินเก็บภาพอีกนิดหน่อยก่อนหาอะไรรองท้องเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป ป.ล. ทำไมคนมาเที่ยวมีแต่คนมาเป็นคู่ ๆ ผมนี่เดินตาร้อนเป็นไฟเลย 555




หลังจากเก็บเต็นท์เรียบร้อยเราก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปครับ...ทุ่งแสลงหลวง แต่เราจะแวะไหว้พระกันที่พระธาตุผาซ่อนแก้วกันก่อน ที่วัดสวยมาก ๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาน้อยใหญ่ ถ้ามาหน้าฝนคงจะสวยมาก ๆ ครับ วัดท่ามกลางทะเลหมอก ^_^ แต่เราไปหน้าหนาวก็ได้ฟ้าใส ๆ มาแทน








ผู้ชายหนึ่งคน รถหนึ่งคัน เก้าอี้หนึ่งตัว กล้องอีกหนึ่งตัว เต็นท์หนึ่งหลัง เบียร์ 10 กระป๋อง แต่มันรู้สึกขาด ๆ อะไรไปบางอย่าง

อากาศเย็นสบายมาก ๆ ครับ อาจจะไม่หนาวเท่าภูทับเบิกแต่ก็ไม่ถึง 20 องศา ฟ้าใส ๆ นอนดูดาวเพลิน ๆ ด้วยฤทธิ์เบียร์ก็เลยได้ภาพยามค่ำคืนมาอีกนิดหน่อย ฟ้าใส ๆ ดาวสวย ๆ ไอหมอกจาง ๆ ลมหนาวอ่อน ๆ ฟินจุง...^_^

ฟ้าใสจริง ๆ ครับคืนนี้

ดาวหมุน ๆ สักภาพ

ฟินจริง ๆ นะครับ ถ่ายภาพไปจิบเบียร์ไป

อีกสักภาพทิ้งท้ายก่อนนอน

หลังจากนอนพักเอาแรงแบบหลับสบาย ๆ ด้วยผลของเบียร์ ตื่นเช้ามาก็ได้เจอกับสายหมอกสวย ๆ ที่พัดผ่านป่าสนและภูเขา ณ เวลานั้นผมแทบอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ครับ ฟูจิซังเมืองไทยในม่านหมอก












ยังคงอยู่กับแสงยามเช้าครับ



สาย ๆ เราขับรถเข้าไปเที่ยวด้านในป่าเจอเด็กหลงป่าหนึ่งคนน่ารักจริง ๆ...^_^
ต้นสนที่นี่ต้นใหญ่และสูงมาก ๆ ครับ ธรรมชาติบางส่วนยังอุดมสมบูรณ์ แต่บางส่วนก็โดนมนุษย์อย่างเรา ๆ ที่เป็นคนเข้าไปทำลายเห็นแล้วบางครั้งก็อดปวดใจไม่ได้ T-T



เด็กน้อยในป่าใหญ่...^_^





สำหรับทริปนี้ผมปิดทริปที่นี่ครับ ก่อนจะขับรถกลับบ้านโดยแยกทางกันกับพี่ ๆ ซึ่งจะไปกางเต็นท์นอนกันต่อที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ด้วยใจอาวรณ์ อยากไปด้วยแต่เวลาไม่เอื้ออำนวย...T_T
มีโอกาสคงได้ไปเยือนอีกครั้ง ฟูจิซังเมืองไทย...^_^

เหมือนที่เกริ่นไว้ตอนต้นนะครับ ผมขอเริ่มต้นอีกทริปในกระทู้เดียวกันเลย แต่เป็นการเที่ยวช่วงหน้าฝน ภูทับเบิกวันเดียวก็เฟี้ยวได้
ทริปนี้เป็นทริปที่อยากออกเดินทางล้วน ๆ ครับ ไปกับน้อง ๆ สี่คน เป็นทริปลุย ๆ ฮา ๆ...^_^
ออกเดินทางจากโคราช 3 ทุ่ม เจออุปสรรคตลอดทาง ฝนตกตลอดทาง ต้นไม้ล้มขวางทาง รถไม่มีไฟตัดหมอกแต่ก็ดันทุรังขึ้นภูทับเบิกเพราะใจหวังกันลึก ๆ ว่าจะเจอทะเลหมอกกับแสงสวย ๆ ยามเช้า แต่ด้วยทัศนวิสัยที่เป็นศูนย์เพราะหมอกลงจัด ถนนขึ้นทับเบิกลาดชันและมีแต่โค้งโหด ๆ ในใจคิดว่าขอให้มีรถขนกะหล่ำปลีขึ้นมาสักคัน เราจะได้อาศัยขับตามตูดขึ้นไป แต่ปรากฏว่าพอเค้าขับมาปุ๊บเค้าแซงแล้วหายไปในสายหมอก เราเลยต้องดันทุรังกันจนถึงยอดภูทับเบิกและถ่ายภาพกันขับรถเที่ยวกัน ก่อนจะปิดทริปลงจากภูทับเบิกตอนหกโมงเย็น กลับถึงโคราชสี่ทุ่มกว่า ๆ เป็นอันปิดทริปครับผม...^_^
บรรยากาศหน้าฝนจะต่างจากหน้าหนาวแบบชัดเจนครับ สวยคนละแบบ แต่อากาศเย็นสบายเหมือนเดิม...^_^









มีภาพบนภูแผงม้ากับน้ำตกบนภูหินร่องกล้ามาฝากอย่างละภาพครับ


ปิดท้ายด้วยภาพทุ่งนาข้างทางตอนกำลังเดินทางกลับบ้านนะครับ แสงอาทิตย์ที่รอมาทั้งวันกลับมาเล่นตลก โผล่ออกมาตอนกำลังกลับบ้าน....Y_Y

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เสียเวลาเข้ามาเยี่ยมชมนะครับ ถ้ามีโอกาสจะเอาภาพบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวของผมมาฝากอีกนะครับ เนื่องจากเป็นกระทู้แรกมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับ ^_^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2576913 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก yuttana.pichanchai