ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ


ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ในชีวิตการท่องเที่ยวของเพื่อน ๆ มีเป้าหมายหรือความตั้งใจอะไรเป็นพิเศษบ้างไหม ? หลายคนอยากเดินทางไปที่นู่นที่นี่ อยากพิชิตภูเขาลูกนั้นลูกนี้ และ "ภูเขาไฟฟูจิ" ที่ญี่ปุ่นก็อาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายในฝันที่ใครหลายคนอยากทำ แต่น้อยคนนักที่จะได้ไปสัมผัสอย่างใกล้ชิด เหมือนกับที่ คุณ Hibino Mirai สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มาเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เขาไปได้พิชิตภูเขาไฟลูกนี้มาแล้ว และถ้าหากว่าใครได้ไปสัมผัสแบบเดียวกับเขา จะต้องรู้สึกได้เลยว่าธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่มากแค่ไหน...



            ถ้าพูดถึงฟูจิซังใครก็น่าจะรู้จัก และแน่นอนผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะขึ้นไปพิชิตเขาลูกนี้กัน ไม่นานมานี้ผมเพิ่งได้มีโอกาสไปพิชิตเขาลูกนี้มา เลยอยากจะนำเรื่องราวและข้อมูลมาแบ่งปันกันครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปชมกันเลยครับ

            เกริ่นนำที่มา

            หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นนี้ นอกจากงานเทศกาลต่าง ๆ หรืองานพลุต่าง ๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นที่นิยม ไม่ว่าจะสำหรับชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติ นั่นก็คือ "การไปปีนหรือพิชิตภูเขาไฟฟูจิ" ภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นนั่นเอง หลังจากที่ปีที่แล้วผมได้ไปพิชิตยอดเขาอันดับสองของญี่ปุ่นมาแล้ว ก็เป็นความตั้งใจมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ผมต้องไปพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นให้ได้ น่าเสียดายที่ปีที่แล้วอากาศในวันที่ผมว่างไม่เป็นใจสักเท่าไร ดังนั้นผมเลยเก็บความตั้งใจจากปีที่แล้วและมาทำให้สำเร็จในปีนี้แทน

            เชื่อว่าคงไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่อยากจะพิชิตภูเขาลูกนี้ แต่คนไทยอีกหลาย ๆ คนก็น่าจะต้องการพิชิตมันเหมือนกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะมาเขียนบอกถึงขั้นตอนการเตรียมตัว เส้นทาง ฯลฯ ให้หมดเปลือกกันไปเลยครับ


            สามารถปีนได้ช่วงไหนบ้าง ?

            เริ่มต้นที่หัวข้อแรกในเรื่องของช่วงเวลาที่สามารถปีนได้ การปีนฟูจิซังนั้นจะแบ่งเป็นสองช่วง คือ ช่วงที่มีหิมะปกคลุมยอดและช่วงที่ไม่มีหิมะปกคลุม โดยหากเพื่อน ๆ คนที่อยากจะปีนตอนช่วงที่มีหิมะจะต้องทำการติดต่อสำนักงานเขต เพื่อขออนุญาตขึ้นไปครับ ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อนุญาตให้ปีนเฉพาะผู้ที่มีความชำนาญในการปีนเขาเท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นสำหรับคนธรรมดาจะสามารถปีนได้เฉพาะช่วงหน้าร้อน หรือประมาณเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            สามารถปีนขึ้นทางไหนได้บ้าง ?

            โดยปกติแล้วการปีนขึ้นฟูจิซังจะเริ่มเดินจากสถานีที่ห้า (5th Station) ของแต่ละเส้นทาง โดยทั้งหมดมี 4 เส้นทาง และแบ่งเป็นสีต่าง ๆ ตามภาพข้างล่างเลยครับ โดยสีทั้งหมดนี้จะเป็นสีเดียวกับที่ใช้กับป้ายบอกทางต่าง ๆ เวลาปีนเขาด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นเวลาปีนเส้นไหนให้จำสีไว้ด้วยนะครับ เวลาปีนจะได้ไม่หลงไปลงเส้นทางอื่น เพราะถ้าหากลงผิดเส้นอาจจะไปโผล่ที่จังหวัดอื่นได้เลยนะครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

           www.fujisan-climb.jp

            ซึ่งในแต่ละปีนั้น แต่ละเส้นทางอาจจะไม่ได้เปิดให้บริการพร้อม ๆ กันนะครับ ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับหิมะ อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ยกตัวอย่างเช่นของปีนี้

            1. Yoshida Trail (ขึ้นจากจังหวัด Yamanashi) เส้นสีเหลือง เปิดให้ปีนตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ถึง 14 กันยายน 2015 ​​ในปี 2014 มีจำนวนคนปีนทั้งหมดประมาณ 170,097 คน

           ww.fujisan-climb.jp

            2. Subashiri Trail (ขึ้นจากจังหวัด Shizuoka) เส้นสีแดง เปิดให้ปีนตั้งแต่ 10 กรกฎาคม ถึง 10 กันยายน 2015 ในปี 2014 มีจำนวนคนปีนทั้งหมดประมาณ 33,092 คน

            www.fujisan-climb.jp

            3. Gotemba Trail (ขึ้นจากจังหวัด Shizuoka) เส้นสีเขียว เปิดให้ปีนตั้งแต่ 10 กรกฎาคม ถึง 10 กันยายน 2015 ในปี 2014 มีจำนวนคนปีนทั้งหมดประมาณ 16,963 คน

            www.fujisan-climb.jp

            4. Fujinomiya Trail (ขึ้นจากจังหวัด Shizuoka) เส้นสีน้ำเงิน เปิดให้ปีนตั้งแต่ 10 กรกฎาคม ถึง 10 กันยายน 2015 ในปี 2014 มีจำนวนคนปีนทั้งหมดประมาณ 64,492 คน

            www.fujisan-climb.jp

            สำหรับทริปที่ผมไปมานั้น ผมเลือกไปตามเส้นทางสีเหลืองหรือเส้น Yoshida ซึ่งว่ากันว่าเป็นเส้นที่ง่ายที่สุด และมือใหม่นิยมไปมากที่สุดครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ
          
            www.fujisan-climb.jp

            เดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของแต่ละเส้นทางยังไง ?

            การเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของแต่ละเส้นทาง คือเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางครับ เพราะถึงแม้ที่สถานีเริ่มต้นบางจุดจะมีที่จอดรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าเข้าหน้าปีนฟูจิซังที่จอดรถส่วนใหญ่ก็จะปิดให้บริการ หรือไม่ก็มีคนใช้บริการจนเต็มครับ เพราะฉะนั้นยังไงผมก็แนะนำให้นั่งรถประจำทางไปจะสะดวกกว่าครับ โดยตารางรถบัสของแต่ละเส้นทางและเว็บไซต์ที่จองจะมีดังนี้ครับ

1. Fuji Subaru Line 5th Station (เส้นทาง Yoshida) สามารถเลือกเดินทางได้จากสองจุด จากสถานี Kawaguchiko หรือ Shinjuku ครับ

            เดินทางจากสถานี Kawaguchiko

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            โดยราคาตั๋วสำหรับ One-Way และตั๋วไป-กลับ คือ 1,540 เยน และ 2,100 เยน ตามลำดับครับ โดยสามารถจองตั๋ว เลือกวันเวลาเดินทางได้ทางนี้เลยครับ (มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ)

           http://bus.fujikyu.co.jp

            เดินทางจากสถานี Shinjuku

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            โดยราคาตั๋วสำหรับ One-Way คือ 2,700 เยน เท่านั้นครับ ไม่มีตั๋วไป-กลับ โดยสามารถจองตั๋ว เลือกวันเวลาเดินทางได้ทางนี้เลยครับ

           www.highwaybus.com

2. Subashiri 5th Station สามารถเลือกเดินทางได้จากสถานี Gotemba เท่านั้น

            เดินทางจากสถานี Gotemba



            www.japan-guide.com

            โดยราคาตั๋วสำหรับ One-Way และตั๋วไป-กลับ คือ 1,540 เยน และ 2,060 เยน ตามลำดับครับ โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วเพิ่มเติมได้ทางนี้เลยครับ (มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ)

            http://bus.fujikyu.co.jp

3. Gotemba 5th Station สามารถเลือกเดินทางได้จากสถานี Gotemba เท่านั้นเช่นกันครับ

            เดินทางจากสถานี Gotemba
 
ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.japan-guide.com

            โดยราคาตั๋วสำหรับ One-Way และตั๋วไป-กลับ คือ 1,110 เยน และ 1,540 เยน ตามลำดับครับ โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วเพิ่มเติมได้ทางนี้เลยครับ (มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ)

            http://bus.fujikyu.co.jp
 
4. Fujinomiya 5th Station สามารถเลือกเดินทางได้จากสองจุด คือ สถานี Mishima หรือ Shin-Fuji ครับ

            เดินทางจากสถานี Mishima

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.japan-guide.com

            โดยราคาตั๋วสำหรับ One-Way และตั๋วไป-กลับ คือ 2,460 เยน และ 3,100 เยน ตามลำดับครับ โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วเพิ่มเติมได้ทางนี้เลยครับ (มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ)

           http://bus.fujikyu.co.jp

           เดินทางจากสถานี Shin-Fuji

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ
            www.japan-guide.com

            โดยราคาตั๋วสำหรับ One-Way และตั๋วไป-กลับ คือ 2,380 เยน และ 3,100 เยน ตามลำดับครับ โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วเพิ่มเติมได้ทางนี้เลยครับ (มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ)

            http://bus.fujikyu.co.jp

            เดินทางอย่างไรดี ? ช่วงเวลาไหนดี ?

            เท่าที่ผมทราบมานักท่องเที่ยวที่ไปปีนฟูจิซังจะออกเดินทางกันประมาณ 3 รูปแบบครับ

            1. ออกเดินทางตั้งแต่เช้า เดินทางถึงสถานีที่ 5 ประมาณ 10-11 โมง และเริ่มปีนไปยังที่พัก จากนั้นเข้าพักที่พักตามเป้าหมาย และตื่นเช้าออกจากที่พักเดินทางเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

            2. ออกเดินทางบ่าย ๆ ถึงสถานีที่ 5 ประมาณช่วงเย็น ออกเดินทาง ซึ่งจะถึงที่พักชั้น 8 ประมาณสามสี่ทุ่ม จากนั้นออกเดินทางแต่เช้ามืดเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

            3. ออกเดินทางเย็น ถึงสถานีที่ 5 ช่วงหัวค่ำ จากนั้นเดินทางมาราธอนจนถึงยอดเขา ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและชมพระอาทิตย์ขึ้นแบบต่อเนื่อง

            ซึ่งรูปแบบการปีนผมแนะนำว่าให้เลือกตามสภาพร่างกายของแต่ละคนครับ บางคนสามารถเดินทางหนัก ๆ โดยไม่พักผ่อนได้ บางคนไม่สามารถต้องการการพักผ่อน ต้องวางแผนกันให้ดี ๆ ครับ สำหรับผมผมเลือกเส้นทางแบบที่ 1 ครับ โดยออกเดินทางตั้งแต่เช้าแล้วเดินทางจนถึงยอดเขาแล้วพักบนนั้นครับ

            ที่พักบนเขา มีที่ไหนบ้าง ? จองอย่างไร ?

            ที่พักบนเขาภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า Yamagoya (山小屋) โดยจะแบ่งตามเส้นทางทั้งหมด 4 เส้น ตามที่ได้อธิบายไว้แล้ว เส้นทางที่นักท่องเที่ยวใช้มากที่สุด และผมเคยไปมาแล้ว คือเส้นทาง Yoshida เพราะฉะนั้นผมจะเน้นข้อมูลส่วนใหญ่ที่เส้นทางนี้เป็นพิเศษ แต่สำหรับเส้นทางอื่นผมจะใส่ข้อมูลให้ใครที่สนใจได้ค้นหาต่อได้นะครับ แต่อาจจะต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นเข้าช่วยสักเล็กน้อยครับ สำหรับวิธีจองที่พักส่วนใหญ่จะเป็นการจองผ่านทางโทรศัพท์ครับ มีเพียงบางที่พักเท่านั้นที่สามารถจองผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งทั้งหมดจะตามลิสต์ที่ผมให้ไว้ข้างล่างล่างเลยครับ

            1. Yoshida Trail (吉田口)

            เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นใช้บริการกันมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นเส้นทางนี้จะมีที่พักเรียงรายตลอดเส้นทางการปีน ตามรูปแผนที่ข้างล่างนี้เลยครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.fujisan-climb.jp

            ซึ่งจากที่พักตั้งแต่ชั้น 5 ไปจนถึงชั้น 8.5 (หลังจาก 8.5 จะไม่มีที่พักหรือจุดพักใด ๆ จนกว่าจะถึงยอดเขา) ก็จะมีรายละเอียดตามตารางข้างล่างเลยครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.city.fujiyoshida.yamanashi.jp

            ส่วนสำหรับใครที่ต้องการจะพักบนยอดเขา เท่าที่ผมหาข้อมูลมาจะมีอยู่สองที่ครับ ตามข้อมูลและรูปภาพข้างล่างนี้เลยครับ

            1. Yamaguchiya (山口屋) รับ ได้ 150 คน เบอร์ติดต่อ 090-5858-3776

            2. Ogiya (扇屋) รับได้ 50 คน เบอร์ติดต่อ 090-1563-3513
         
           www.fujisanpo.com

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            2. Subashiri Trail (須走口)

            เช่นกันสำหรับเส้นทางนี้ก็จะมีข้อมูลของที่พักตามรูปข้างล่างเลยครับ ซึ่งถ้าหากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลยครับ ซึ่งเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ

            www.fuji-oyama.jp

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.fujisanpo.com

            3. Gotemba Trail (御殿場口)

            สำหรับเส้นทาง Gotemba ก็เช่นกันครับ มีข้อมูลของที่พักตามรูปข้างล่างเลยครับ และถ้าหากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลยครับ ซึ่งเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกเช่นกันครับ

            http://gotemba.jp

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.fujisanpo.com

            4. Fujinomiya Trail (富士宮口)

            สุดท้ายครับกับเส้นทาง Fujinomiya มีข้อมูลของที่พักตามรูปข้างล่างเลยครับ และถ้าหากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลยครับ ซึ่งเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกเช่นกันครับ

            www.fuji-tozan.com/04_lodge.html

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.fujisanpo.com/yamagoya

            บนเขามีอินเทอร์เน็ตไหม ?

            เป็นอีกคำถามที่ทุกคนต้องถามกัน ว่าบนยอดเขามีเน็ตไหม มีสัญญาณโทรศัพท์ไหม ตอบได้ว่ามีครับ ซึ่งถ้าใครที่ใช้ซิมเน็ตของค่ายโทรศัพท์ญี่ปุ่น หรือเช่า Pocket Wi-Fi มา สามารถเล่นเน็ตได้ตามปกติครับ อาจจะมีสัญญาณตกบ้าง บางจุดบางตำแหน่ง แต่โดยรวมแล้วใช้งานได้ตามปกติครับ แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการหรือไม่ได้เช่ามา ตอนนี้บนภูเขาไฟฟูจิเปิดให้บริการ Free-Wi-Fi แล้วครับ โดยจะมีรายละเอียดตามภาพโฆษณาข้างล่างนี้เลยครับ หรือถ้าใครสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปที่นี่ได้เลยครับ

            www.fujisan-climb.jp/en/useful/news

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            วันที่จะปีนสภาพอากาศจะเป็นยังไง ?

            แน่นอนครับสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับการปีนเขาลูกนี้คือสภาพอากาศครับ เข้าใจว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนวันที่ตั้งใจจะปีนกันได้ง่าย ๆ เพราะข้อจำกัดเรื่องจำนวนวันที่บินมาเที่ยวญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามถ้าสภาพอากาศบนฟูจินั้นแย่มากจริง ๆ ผมอยากจะแนะนำว่าเลื่อนหรือยกเลิกครับ เพราะถ้าสภาพอากาศรุนแรงจริง ๆ นอกจากจะปีนไม่สนุกแล้วยังเสี่ยงอันตรายมากไปครับ

            วิธีหลักที่ผมใช้ในการเช็กก็จะมีเว็บต่าง ๆ ดังนี้ครับ

            1. JMA (Japan Meteorological Agency) หรือกรมอุตินิยมวิทยาของญี่ปุ่นนั่นเองครับ จริง ๆ แล้วเว็บนี้จะรวมข้อมูลหลาย ๆ อย่างของญี่ปุ่นไว้ทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเรื่องภูเขาไฟ แผ่นดินไหว สภาพอากาศ ฯลฯ ซึ่งเว็บนี้ค่อนข้างเชื่อถือได้และที่สำคัญคือมีภาษาอังกฤษครับ และปกติผมจะเทียบโดยดูอากาศบริเวณ Yamanashi ครับ

            www.jma.go.jp

            2. Yahoo เป็นอีกหนึ่งเว็บที่คนญี่ปุ่นใช้เช็กสภาพอากาศของประเทศญี่ปุ่นครับ มีความน่าเชื่อถือครับ แต่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นครับ โดยปกติผมจะเทียบโดยดูอากาศบริเวณ Kawaguchiko ครับ

            http://weather.yahoo.co.jp

            3. Tenkitokurasu เว็บนี้ผมได้รับคำแนะนำมาจากรุ่นพี่ที่ชอบปีนเขาครับ เว็บนี้สามารถดูอากาศได้โดยการเลือกยอดเขาที่จะไปได้เลยครับ ความแม่นยำ ถือว่าอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ครับ ซึ่งสำหรับฟูจิซังจะมีสองส่วนครับ คือ ส่วนสถานีที่ 5 กับส่วนยอดเขา ครับ

           http://tenkura.n-kishou.co.jp

           http://tenkura.n-kishou.co.jp/tk/kanko

            และสุดท้ายขอแถม Live Camera ของฟูจิซัง หากใครต้องการเช็กสภาพแบบ Realtime สามารถเช็กได้ที่นี่เลยครับ

            http://fujicalm

            การเดินทางครั้งนี้ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ?

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            หลังจากที่ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ไปแล้ว ก็มาถึงเรื่องสุดท้ายก่อนการเดินทาง นั่นก็คือเรื่องการเตรียมสิ่งของที่จะพกติดตัวขึ้นไปครับ โดยสิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมไป และบางอย่างก็อาจจะเตรียมไปไม่ต้องเยอะ เพราะสามารถหาซื้อได้บนเขาครับ

            1. เงิน : เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยครับ เพราะของที่ขายบนนั้นแพงกว่าบนพื้นดิน สองถึงสามเท่าขึ้นไปและรับแค่เงินสด ไม่รับบัตรเครดิต ไม่ว่าจะซื้อของทั่วไปหรือจ่ายค่าที่พัก เพราะฉะนั้นการเตรียมเงินไปให้เพียงพอจึงสำคัญมากครับ

            2. รองเท้าสำหรับปีนเขาหรือรองเท้าหุ้มส้น : เนื่องจากทางปีนบนฟูจิซังเต็มไปด้วยหิน ดิน และทราย ถ้าหากใส่รองเท้าที่มีการป้องกันไม่ดีพอ อาจจะเกิดอันตรายกับเท้าได้ครับ

            3. อุปกรณ์กันฝน : เช่น ชุดกันฝน เสื้อแจ็คเก็ตกันฝน กางเกงกันฝน เนื่องจากสภาพอากาศบนยอดเขา สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากเกิดฝนตกลงมาระหว่างเดินทางอาจจะไม่มีที่ให้หลบฝนครับ เลยควรจะเตรียมการล่วงหน้าไว้ครับ

            4. เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาว : สำคัญคืออุปกรณ์กันหนาวครับ เนื่องจากอุณหภูมิจากบริเวณสถานีที่ 5 กับบนยอดเขามีความต่างกันมากครับ เพราะฉะนั้นแม้ว่าบนพื้นดินจะร้อนตับแตก แต่ยอดเขาก็หนาวสุดขั้วได้ครับ ผมแนะนำให้เช็กจากเว็บที่ผมให้ไว้แล้วเตรียมไปให้เพียงพอครับ โดยส่วนใหญ่บนยอดเขาจะหนาวประมาณ 0-10 องศาครับ ส่วนเสื้อผ้าธรรมดาก็แล้วแต่ความพอใจส่วนตัวเลยครับ ว่าจะต้องเปลี่ยนกันบ่อยแค่ไหน แต่ผมแนะนำว่าเตรียมสำรองไว้เผื่ออีกชุดหนึ่งก็น่าจะเพียงพอครับ

            5. ไฟฉายติดหัว : อันนี้ผมแนะนำอย่างยิ่งเลยครับสำหรับไฟฉายที่ติดหัว บางคนอาจจะถามว่า ใช้ไฟฉายธรรมดาได้ไหม ? จริง ๆ ก็ได้ครับ แต่มันจะไม่สะดวกและเกะกะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเหนื่อย ทุกคนจะมีความรู้สึกไม่อยากถืออะไรทั้งสิ้นครับ เพราะฉะนั้นถ้าซื้อแบบติดหัวจะดีที่สุดครับ

            6. น้ำดื่ม : จริง ๆ น้ำดื่มสามารถหาซื้อได้บนเขาครับ แต่ผมเห็นว่าน้ำดื่มสำคัญมากสำหรับตอนปีน ควรจะปีนไปจิบไปเรื่อย ๆ ครับ เพื่อกันการขาดน้ำครับ

            7. ขนมหรือของกินให้พลังงาน : ถ้าเตรียมได้ก็ควรเตรียมไปครับ อย่างน้อยก็ให้พลังงานระหว่างเดินทางหรือกันหิวได้บ้างเล็กน้อยครับ

            8. ถุงขยะ : เนื่องจากบนนั้นจะไม่มีถังขยะให้ เพราะฉะนั้นถ้านำอะไรขึ้นไปอย่าลืมพกถุงไปใส่กลับมากันด้วยนะครับ ถือว่าช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมกันนะครับ

            9. ถุงมือ : ในที่นี้อาจจะหมายถึงถุงมือที่ใส่กันเลอะหรือการบาดเจ็บระหว่างปีน เพราะระหว่างการปีนในบางจุดอาจจะต้องมีการใช้มือช่วยปีนป่าย ถ้าไม่อยากให้มือเลอะหรือบาดเจ็บ แนะนำให้เตรียมไปด้วยครับ

            10. หมวก แว่นตากันแดดและครีมกันแดด : สำคัญอีกเช่นกันครับ เพราะบนนั้นไม่มีต้นไม้สักต้น แถมถ้าอากาศดี เมฆยังไม่มีด้วย เพราะฉะนั้นแดดจะแรงมากครับ ควรจะเตรียมไปเผื่อด้วยครับ เพื่อป้องกันสุขภาพผิวและสายตาครับ

            11. ทิชชูเปียกสำหรับเช็ดตัว : อันนี้สำหรับใครที่รักความสะอาดเป็นพิเศษหน่อย เนื่องจากบนนั้นน้ำมีจำกัดครับ ยังไงก็ไม่สามารถอาบน้ำได้ เพื่อช่วยประทังหรือลดความสกปรกสามารถพกพวกกระดาษเปียกหรือทิชชูเปียกไปใช้แก้ขัดชั่วคราวก่อนได้ครับ

            12. ออกซิเจนกระป๋อง : สำหรับใครที่กลัวเรื่องโรค Altitude Sickness (AMS) หรือโรคที่ป่วยจากขึ้นที่สูง ผมก็แนะนำให้ติดไปครับ ซึ่งถ้าหากใครยังไม่แน่ใจสามารถไปหาซื้อได้บนเขาครับ

            13. สเปรย์กันน้ำ : แนะนำว่าให้ฉีดไปก่อนออกเดินทาง ส่วนถ้าใครคิดว่าอากาศจะย่ำแย่ก็สามารถพกเอาไปฉีดเพิ่มด้วยระหว่างการปีนก็ได้ครับ

            14. หน้ากากกันฝุ่น : ถ้าหากใครได้ไปในช่วงท้าย ๆ ของฤดูการปีน จะพบว่ามีฝุ่นจากดินและทรายมากหน่อย ถ้าไม่ลำบากยังไงก็อย่าลืมติดหน้ากากกันฝุ่นไปด้วยก็ได้ครับ

            15. หมวกกันกระแทก : อันนี้อาจจะดูแปลกประหลาด แต่ก็มีคนญี่ปุ่นพกขึ้นไปจริง ๆ เอาไว้กันเศษหินที่อาจจะตกลงมาใส่ศีรษะได้ ในความเห็นผมถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรประหลาด ผมว่าไม่ค่อยมีความจำเป็นเท่าไรครับ

            16. อุปกรณ์ถ่ายภาพ : เข้าใจว่าเรื่องนี้ ไม่น่าจะมีใครลืม แต่อยากจะบอกว่า คำนวณน้ำหนักดี ๆ นะครับ อย่าแบกขึ้นไปหนักเกินไป ไม่งั้นอาจจะหมดสนุกเพราะหมดแรงข้าวต้มตั้งแต่ปีน (เหมือนผม) นะครับ ๕๕๕

            ***** เพิ่มเติมเล็กน้อยจาก Thailand Mountaineering Club Group *****

            1. เตรียมเหรียญ 100 เยน ไปสำหรับเข้าห้องน้ำด้วย เริ่มที่ชั้น 5 ครั้งละ 100 เยน จากนั้น 200 เยน จนแพงสุดที่ 300 เยน ที่ยอดเขา

            2. บนยอดเขามีตู้กดน้ำ…ราคาขวดละ 500 เยน

            3. มีร้านอุปกรณ์ Trekking ที่ใหญ่มากชื่อ Mount Bell อยู่แถว ๆ Shinjuku ใกล้ ๆ ท่ารถไป Fuji ค่ะ

            สำหรับ Gotemba Trail ควรเตรียม

            1. ไกเตอร์ กันหินเข้าไปในรองเท้าด้วยค่ะ เพราะทั้งขาขึ้นขาลง ทางเป็นหินกรวดหนาและนิ่ม แต่ละก้าวแทบจะจมลงไปในพื้น โดยเฉพาะขาลง

            2. น้ำและอาหาร เตรียมไปสำหรับการเดินทางทั้งวัน สำหรับ Trail นี้ เพราะมีที่พักแค่ 3 แห่ง ตั้งแต่ชั้น 7.4 ก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเลย ทั้งร้านค้าและร่มไม้ที่ให้นั่งพัก

            3. ส่วนเรื่องอุปกรณ์ ที่ Gotemba outlet มีร้านขายอุปกรณ์หลายยี่ห้อ ทั้ง northface columbia coleman aigna ลดราคา


            วันเดินทางจริง


            จากข้อมูลเกริ่นกันไปแล้ว ทุกวันเสาร์ของสัปดาห์ผมจะเปิดเข้าเช็กข้อมูล เพื่อที่จะเช็กดูว่าอาทิตย์ไหนอากาศจะดีเหมาะแก่การปีน เนื่องจากช่วงที่เปิดให้ปีนฟูจินั้นจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนฤดูจากใบไม้ผลิมาเข้าฤดูร้อน ซึ่งช่วงนี้ฝนจะตกมากเป็นพิเศษ แถมบางครั้งไต้ฝุ่นยังเข้าอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าจะเข้าฤดูร้อนแล้วฝนก็อาจจะตกที่ฟูจิซังได้เสมอ เพราะฉะนั้นผมจึงเลือกที่จะเช็กไว้ก่อน เพราะใจจริงไม่อยากจะไปปีนทั้ง ๆ ที่ฝนตกหนัก คงจะเละน่าดูเลยครับ

            จนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา พยากรณ์อากาศบอกว่าอากาศดี ผมก็ไม่รอช้าครับ รีบโทรไปหาที่พัก จัดการจองรถบัส รวมไปถึงยื่นวันลากับหัวหน้าเพื่อไปปีนฟูจิซัง ๕๕๕ โดยเส้นทางที่ผมเลือกปีนก็คือ เส้น Yoshida ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมและปีนง่ายที่สุด การเดินทางก็จะเริ่มจากขึ้นรถบัสจากชินจุกุเที่ยวแรก เพื่อไปถึงสถานีที่ 5 ให้เร็วที่สุด เพื่อที่ว่าจะได้เริ่มปีนไปให้ถึงยอดให้เร็วที่สุด จากนั้นจะเข้าพักที่พักบนยอดเขา แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยตื่นมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ

            เมื่อวางแผนทุกอย่างพร้อมแล้ว ในคืนวันที่ 23 กรกฎาคม รีบเข้านอนให้ไวและตื่นแต่เช้านั่งรถไฟไปยังสถานีชินจุกุ เพื่อไปต่อรถบัส แต่น่าเสียดายที่ผมพลาดรถรอบแรกสุดไป คาดว่าคนญี่ปุ่นเองก็น่าจะเห็นว่าวันนั้นอากาศดีเหมาะแก่การปีนเช่นกัน ทำให้รถบัสรอบแรกนั้นเต็ม ผมกับเพื่อนเลยต้องรอรถบัสรอบถัดไป ซึ่งต้องรออีก 1 ชั่วโมงครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            เมื่อขึ้นรถแล้วไม่คิดอะไรมากครับ หลับทันที หลับอย่างเดียว นอนเอาแรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะคาดว่าหนทางข้างหน้าน่าจะต้องใช้พลังงานสูงแน่นอน จนนั่งไปได้ประมาณชั่วโมงครึ่ง เป้าหมายของผมก็โผล่มาให้เห็น แต่โผล่มาแบบมีเมฆปกคลุม ซึ่งตอนแรกก็แอบหวั่นใจ “ไหนพยากรณ์อากาศว่าอากาศดีไงฮะ ทำไมเมฆมากขนาดนี้” แต่ยังไงก็แล้วแต่ ถอยไม่ได้แล้วครับ เล่นใช้วันลา เสียเงินนั่งรถบัสมาขนาดนี้แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด สู้ตาย !



            เมื่อถึงเวลา 10.30 น. รถบัสก็มาสถานีที่ 5 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปีนเขาครั้งนี้นั่นเองครับ ไม่ผิดไปจากที่คาดไว้ อากาศดีแบบนี้มีหรือที่คนญี่ปุ่นเองจะพลาด

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่ ขนาดเด็กที่สูงยังไม่ถึงเอวผมก็ยังมาปีน (ถึงกับบอกตัวเองว่าอย่าแพ้เด็กนะครับ ๕๕๕)

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะมานั่งเล่นนอนเล่นที่สถานีที่ 5 ไม่ได้ ว่าแล้วผมก็เดินไปดูแผนที่เพื่อศึกษาเส้นทางก่อนเป็นอย่างแรก และถ่ายเก็บไว้ในกล้องเพื่อที่ว่าหากต้องการใช้งานสามารถเรียกกลับมาดู มาใช้งานได้ตลอด (ถ้าแบตกล้องไม่หมดนะครับ ๕๕๕)

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            แต่การเดินทางจะเริ่มไม่ได้ถ้าผมยังไม่ได้ซื้อของสะสมชิ้นสำคัญ ของชิ้นนั้นก็คือไม้เท้าสำหรับประทับตรานั่นเอง เล่าคร่าว ๆ ก็คือ ขณะที่ปีนขึ้นเวลาผ่านสถานที่ต่าง ๆ ก็จะมีบริการให้เหล็กร้อนจี้ลงไปบนไม้เท้า เป็นลวดลายต่าง ๆ ตามแต่สถานที่นั้นจะออกแบบ ซึ่งไม้เท้านี้มี 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง และใหญ่ ส่วนตัวแล้วผมซื้อขนาดกลางมา เพราะคิดว่าเล็กน่าจะเล็กไป สะสมไม่ครบ ส่วนใหญ่ก็อาจจะใหญ่ไป เกะกะระหว่างเดิน (หลังจากปีนเสร็จผมคิดว่าตอนนั้นน่าจะซื้อเป็นเล็กมาสองอันน่าจะสะดวกกว่า และเอากลับไทยง่ายกว่าด้วย เหอะ ๆ)

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ออกเดินทาง ในช่วงแรกยังไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร เป็นทางเดินธรรมดา ไม่ชัน ไม่ต้องปีน ไม่ลำบากอะไร ซึ่งถ้าหากมาปีนแต่เช้าก็จะเดินสวนทางกับบรรดาผู้คนที่เพิ่งลงมาจากเขากัน ซึ่งนับว่า โชคดีของผมที่วันนั้นมีเมฆ จึงทำให้อากาศไม่ร้อนเท่าไร กำลังสบาย ๆ ครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            และเมื่อเดินผ่านสถานีที่ 6 ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เดินในแนวราบซะส่วนใหญ่ มีความชันเล็กน้อย กลับกลายเป็นแทบจะเดินแนวดิ่งทั้งหมด และตั้งแต่จุดนี้เพียงแค่มองขึ้นไปก็สามารถเห็นเป้าหมายของเราอยู่ไกลลิบ ๆ เป็นขวัญกำลังใจอันดีให้กับผู้ปีนเขาจริง ๆ ๕๕๕

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            แต่ไม่ว่าทางจะคดเคี้ยวแค่ไหน ผมคิดว่าการมาปีนฟูจิซังนั้นยากครับที่จะหลงทาง เพราะตลอดเส้นทางการเดินนั้นจะมีป้ายบอกทางตลอด ซึ่งมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น หรืออย่างที่บอกในตอนก่อน ๆ ว่าให้จำสีของเส้นทางดี ๆ จากรูปข้างล่างก็จะเห็นว่าผมใช้เส้นทางสีเหลือง ซึ่งเป็นสีของเส้นทาง Yoshida นั่นเองครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ยิ่งไปไกลเท่าไรทางเรียบยิ่งหายไปครับ เริ่มจะต้องปีนป่ายหรือบางทีเป็นทางชันตามภาพในรูปข้างล่างเลยทีเดียว งานนี้ถ้าใครเตรียมถุงมือมาก็สบายครับ ใช้มือช่วยปีนได้ชิล ๆ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            และอย่างที่บอกไปเรื่องตราประทับในตอนแรก ถ้าใครที่ซื้อไม้มาก็อย่าลืมแวะประทับตรากันนะครับ โดยตราประทับนี้ไม่ได้ฟรีนะครับ เฉลี่ยตกที่ตราละประมาณ 300 เยน สามารถให้ประทับได้ทุกจุดแวะพักที่ผ่านระหว่างทางเลยครับ จากทริปนี้ผมเก็บมาทั้งหมดประมาณ 20 ดวง ได้ครับ น่าจะไม่ครบ แต่ก็เต็มไม้ขนาดกลางพอดีครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            และระหว่างปีนไปเดินไปเมื่อหันกลับไปมองด้านหลัง ก็พบว่าวิวของเส้นทางที่เดินผ่านมาก็สวยแปลกตาดีนะครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ในวันนั้นช่วงระหว่างชั้น 7-8 จะเป็นช่วงที่ความสูงจะประมาณเมฆพอดีครับ ซึ่งถ้าใครมาปีนในวันที่เมฆสวย ๆ ก็อาจจะได้เห็นริ้วเมฆสวย ๆ แต่ในทางกลับกัน ถ้าใครมาในวันที่ฝนตกก็ต้องลุยฝ่าให้เลยชั้น 8 ไปให้ได้ อากาศถึงจะดีขึ้นครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ระหว่างสองข้างทางส่วนใหญ่ก็มีแต่หินกับทราย ซึ่งเดาว่าถ้าใครมาปีนหลังจากนี้ก็น่าจะต้องเตรียมหน้ากากกันฝุ่นกันมาแล้วละครับ เพราะฝุ่นน่าจะเยอะน่าดูครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ไม่รู้ว่าผมเหนื่อยหรือระยะทางมันไกล แต่ผมรู้สึกเหมือนว่าไม่ว่าเดินไปมากแค่ไหนทำไมมันไม่เข้าใกล้สถานีที่ 8 สักที

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            จนกระทั่งประมาณเวลา 16.00 น. ผมก็มาถึงโรงแรม Goraiko-kan ซึ่งเป็นโรงแรมสุดท้าย จากที่ผมติดต่อกับโรงแรมที่จะพักบนยอดเขา ทางโรงแรมแนะนำว่าให้หาอาหารเย็นกินก่อนเลย เพราะหลังจาก 18.00 น. ไปแล้วบนยอดเขาเองก็ไม่มีอาหารอะไรขายแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมกับเพื่อนจึงตัดสินแวะพักกินข้าวที่นี่ ก่อนที่จะเดินทางต่อครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            เนื่องจากผมไม่ใช่ลูกค้าที่จะเข้าพักกับทางโรงแรม ผมจึงไม่สามารถเข้าไปใช้บริการโต๊ะของทางโรงแรมได้ สามารถนั่งทานได้แค่บริเวณนอกโรงแรมหรือบริเวณที่เปลี่ยนรองเท้าเท่านั้น ซึ่งสำหรับใครที่มาปีนฟูจิซัง ผมอยากจะบอกว่าของที่ขายบนนี้แพงทุกอย่างครับ และไม่ต้องคาดหวังว่าจะดีเลิศมากมายนะครับ อาหารที่ขายส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารง่าย ๆ เช่น ข้าวแกงกะหรี่ ราเมง อุด้ง เป็นต้น

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            เมื่อกินอิ่มและพักเพียงพอแล้วก็เดินทางต่อ ในตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเดินไม่ถ่ายรูปเล่นแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ครับ วันนั้นแสงเย็นที่สาดลงมามันสวยจริง ๆ ครับ ทำให้ต้องหยุดถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            และที่สวยที่สุดก็คือเมื่อตอนที่ผมหันหลังไปเจอวิวของทะเลสาบยามานากะยามเย็น ตามรูปข้างล่างเลยครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ด้วยความที่เดินทางค่อนข้างล่าช้า หลังจากนี้ผมจึงต้องเก็บกล้องแบบจริงจังและตั้งใจเดินเพื่อให้ไปถึงยอดเขาก่อนมืด เพราะถ้าหากมืดแล้วกลัวว่าจะอันตราย จนกระทั่งเมื่อเดินมาถึงเสาโทริอิที่ชั้น 9 ก็ต้องพบกับความประหลาดใจ ว่าทำไมเสานี้ถึงมีแต่คนเอาเหรียญมาปักไว้ ซึ่งผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้นะครับว่าทำไม ถ้าใครรู้เหตุผลรบกวนคอมเม้นท์บอกไว้ด้วยนะครับ ^__^

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            เมื่อถึงยอดเขาตามจริงแล้วผมต้องเข้าพักเลย เพราะปกติสตาฟของโรงแรมเองจะเข้านอนเร็ว เพื่อที่จะได้พักผ่อนเตรียมตัวสำหรับการทำงานในวันรุ่งขึ้น แต่ด้วยที่ผมแบกกล้องขึ้นมาเต็มตัว ทางสตาฟเลยถามผมว่าจะถ่ายรูปก่อนสักหน่อยไหม ในเมื่อถามมาแบบนี้ผมเลยขอโทษทางสตาฟแล้วบอกว่า ขอเวลา 15 นาทีเท่านั้น แล้วจะรีบกลับมาครับ และในที่สุดผมก็มาถึงโทริอิของชั้นบนสุดหรือบนยอดเขาฟูจินั่นเองครับ ซึ่งเป็นไปตามแผนครับ ผมสามารถไปถึงก่อนค่ำได้ โดยถึงประมาณ 19.00 น. ครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ซึ่งถ้าใครไม่เห็นภาพผมมีวิดีโอที่ผมบันทึกไว้ระหว่างเดินมาให้ชมด้วย แต่ขอเตือนนะครับ เนื่องจากกล้องตอนถ่ายติดอยู่ที่ไหล่ จึงทำให้วิดีโอนี้ค่อนข้างสั่น และด้วยความผิดผมเองที่นำ memory ไปไม่พอ ทำให้ถ่ายได้ถึงแค่ชั้นที่ 9 เท่านั้น ถ้าใครพร้อมแล้วคลิกดูจากลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ



            สรุปทริปขาขึ้นมาทั้งหมดใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ 10.30-19.00 น. ทั้งหมดประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งจากที่หาข้อมูลแล้วปกติเฉลี่ยคนทั่วไปใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้นครับ และเมื่อถึงที่นอนก็พบว่าแขกคนอื่นเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้ผมต้องรีบเข้านอนเลย ไม่กล้าที่จะถ่ายรูปสภาพที่นอนออกมาให้ทุกคนได้ชมกัน แต่จากความเห็นส่วนตัวแล้ว ที่พักที่ผมไปพักมานั้นไม่ได้ดี สะดวกสบาย แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นที่รับไม่ได้ครับ

            พอมาถึงวันรุ่งขึ้น จากที่โรงแรมแจ้งไว้ว่าจะเปิดประตูให้ออกไปข้างนอกได้ตอนตีสาม ผมจึงตื่นเวลานั้นครับ เพราะนอกจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง นั่นก็คือแสงไฟของคนที่ปีนเขาขึ้นมาตอนเช้ามืดครับ และผมก็ถ่ายชอตนี้มาตามที่อยากได้ตามภาพข้างล่างเลยครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            ต่อจากแสงคนปีนขึ้นเขาก็ต้องเป็นพระอาทิตย์ขึ้นครับ ในภาษาญี่ปุ่นจะใช้คำว่า Goraiko (ご来光) คือ พระอาทิตย์ขึ้นที่เห็นจากฟูจิซังครับ ซึ่งงานนี้ก็แล้วแต่ความชอบเลยครับ เดินไล่ตามขอบหามุมที่ชอบที่ถูกใจได้เลยครับ แต่ระวังกันด้วยนะครับ อย่าพลาดลื่นตกเขาไปนะครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            สำหรับผมผมเลือกมุมที่เห็นทะเลสาบยามานากะเป็นส่วนประกอบด้วย ตามภาพข้างล่างเลยครับ ซึ่งถ้าจะถามเหตุผลคงไม่มีเหตุผลครับ เพียงแค่คิดว่าถ้ามีทะเลสาบน่าจะสวยกว่าทะเลหมอกที่ลอยเฉย ๆ เท่านั้นครับ ^____^

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            หรือถ้าสนใจผมมีวิดีโอตอนพระอาทิตย์ขึ้นมาให้ชมด้วยครับ



            น่าเสียดายที่วันนั้นเมฆไปรวมกันตรงพระอาทิตย์ขึ้นมากเป็นพิเศษ ทำให้ไม่สามารถเห็นพระอาทิตย์ลอยขึ้นมาเป็นลูกกลม ๆ ได้ แต่ในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีความโชคดีอยู่ครับ เพราะเมื่อพระอาทิตย์ลอยได้สูงนิดหนึ่ง แสงจากพระอาทิตย์ก็สาดทะลุผ่านเมฆออกมาเป็นลำแสงราวกับแสงจากสวรรค์เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งแสงนี้แม้มองด้วยตาเปล่าก็สามารถเห็นได้ชัดเจนมากครับ ตามภาพข้างล่างเลยครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            และไหน ๆ ก็มาถึงยอดแล้ว ก่อนลงก็ต้องขอถ่ายรูปคู่กับปากปล่องภูเขาไฟไว้สักรูปเป็นที่ระลึก ว่า "ครั้งหนึ่งเคยได้พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นเหมือนกันนะครับ"

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            หลังจากเสร็จภารกิจข้างบนทั้งหมดก็ถึงเวลาลง ถ้าหากใครคิดว่าขาลงจะสบาย ผมอยากจะบอกว่าคิดผิดครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องปีนป่ายอะไร แต่ทางลงนั้นค่อนข้างชันไม่ใช่เล่นเลยครับ ถ้าใครพกไม้เท้าช่วยเดินมา งานนี้ได้ใช้แน่นอนครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            จากการเดินไปอู้ไป แถมหมดเรี่ยวแรงด้วย ผมก็กลับลงมาถึงที่สถานีที่ 5 ประมาณ 10 โมงเช้าครับ นับว่านานกว่าปกติมากครับ เพราะจากที่หาข้อมูลจริง ๆ แล้ว คนทั่วไปจะใช้เวลาเดินทางลงมาแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            สรุปท้ายที่สุดแล้วทั้งทริปนี้ผมใช้เงินไปทั้งหมดประมาณ 21,000 เยน ได้ครับ แบ่งเป็นรายละเอียดดังนี้ครับ

            ค่ารถบัสไป-กลับ เที่ยวละ 2,700 เยน รวมเป็น 5,400 เยน

            ค่าไม้เท้า 1,000 เยน

            ค่าตราประทับ 5,600 เยน (ถ้าไม่ปั๊มเยอะเท่าผมก็น่าจะประหยัดในส่วนนี้ไปได้นะครับ ๕๕๕)

            ค่าที่พัก 6,000 เยน

            ค่ากินจิปาถะ 2,000 เยน

            สุดท้ายแล้วจริง ๆ ครับ สำหรับทุกคนที่ไปปีนฟูจิซัง ตอนนี้สามารถยื่นขอใบรับรองหรือ Certificate จากจังหวัดยามานาชิได้นะครับ โดยเข้าไปที่นี่เลยครับ จากนั้นคลิกเลือกว่าจะเอาใบรับรองแบบไหน จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัว วันที่ปีนถึง พร้อมแนบรูปหลักฐานว่าไปถึงจริง (สำหรับใครที่ปีนไม่ถึงสามารถยื่นรับรองแค่ว่าเคยปีนก็ได้นะครับ) ทั้งหมดมีบริการจัดส่งไปยังต่างประเทศครับ โดย Certificate มีค่าธรรมเนียม 1,000 เยน (ไม่รวมค่าส่ง) สามารถชำระได้ด้วยระบบ PayPal ครับ ถ้าใครสนใจสามารถยื่นชำระเงินและเอาใบรับรองหน้าตาตามรูปข้างล่างมาประดับฝาบ้านกันครับ

ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

            www.fujisan3776.com

            ที่มา

            www.knotmirai.com/travel/climbing-fujisan-1

            www.knotmirai.com/travel/climbing-fujisan-2

            www.knotmirai.com/travel/climbing-fujisan-3

            จบแล้วครับผม ขอบคุณทุกคนที่อ่านกันจนจบนะครับ อาจจะยาวไปนิด แต่หวังว่าข้อมูลต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่อยากจะไปปีนฟูจิกันไม่มากก็น้อยนะครับ

            ถ้ายังไงฝากเพจไว้นิดนะครับ สำหรับคนที่สนใจเรื่องราวในประเทศญี่ปุ่นมาพูดคุยกันได้ครับที่ เฟซบุ๊ก knotmirai

            สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนนะครับ

            ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Hibino Mirai สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก knotmirai

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ข้อมูลแน่น ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ อัปเดตล่าสุด 14 สิงหาคม 2558 เวลา 14:19:07 18,871 อ่าน
TOP
x close