เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต... เขาก็ได้พบกับมิตรภาพที่ตามหา


เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เรื่องเล่าสุดประทับใจ เมื่อผมต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต... เจ้ามิตรภาพที่ตามหาก็มาถึง... เป็นวัยรุ่นเกาหลีขี่จักรยานท่องโลก

                      เชื่อว่าหลายคนที่รักในการท่องเที่ยว คงจะเคยทราบเรื่องของเดินทางไปพักบ้าน Host ที่ต่างประเทศ หรือการเป็น Hosted เปิดบ้านของตัวเองให้นักท่องเที่ยวมาพักแบบฟรี ๆ โดยมีสิ่งตอบแทนคือ "มิตรภาพ" กันมาแล้วบ้าง ในขณะที่หลายคน แม้จะอยากลองเปิดบ้านเป็น Host แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี หรือไม่สะดวกด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง 

                      วันนี้ (11 มีนาคม 2558) กระปุกดอทคอม เลยขอนำเรื่องราวสุดประทับใจ จากคุณ จิงกะโบ๋ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งได้สัมผัสมิตรภาพดี ๆ จากการเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรก จากกระทู้ "เมื่อผมต้องเปิดบ้านเป็น Hosted...ครั้งแรกในชีวิต...เจ้ามิตรภาพที่ตามหา...ก็มาถึง...เป็นวัยรุ่นเกาหลีขี่จักรยานท่องโลก" มาฝากกันค่ะ แล้วคุณจะพบว่า มิตรภาพดี ๆ นั้น หาได้ไม่ยาก และสวยงามจริง ๆ

                      "ผมเป็นชายวัยกลางคนอายุ 40 ปี ที่รักการขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยว ผมมีครอบครัวเล็ก ๆ อบอุ่น กับภรรยาและลูกชายตัวเล็ก ๆ อีก 2 คน(4 และ 2 ขวบครึ่ง)... ครอบครัวเรารักการท่องเที่ยว ไปนอนป่ากางเต็นท์ แต่ยังไม่เคยได้ไปต่างประเทศด้วยกันสักที ซึ่งคงต้องรอลูกชายทั้ง 2 คน โตกว่านี้สักนิด...และเราก็ตั้งใจว่า เราจะเป็น Travelist (ท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หาประสบการณ์ส่วนตัว).... ไม่ใช่ Tourist (ท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบายโดยการซื้อทัวร์) อย่างแน่นอน...

                      เมื่อเดือนมกราคม ต้นปีที่ผ่านมา ผมได้เข้ามาอ่านกระทู้ในพันทิป...แล้วเจอกระทู้นึงที่พูดถึงการไปพักบ้านกับ Host ที่ต่างประเทศ และเปิดบ้านตัวเองเป็น Host ให้นักท่องเที่ยวมาพักแบบ "ฟรี" ไม่มีค่าใช้จ่าย....แลกกับสิ่งเดียวเท่านั้นคือ "มิตรภาพ".... ก็ทำให้ผมสนใจที่จะค้นหาเจ้า "มิตรภาพ" ที่ว่านี้...ที่เขาบอกว่า "เงินซื้อไม่ได้"....อยากได้ต้อง "ทำเอง"....ผ่าน เว็บ และ App ที่ชื่อว่า couchsurfing ....

                      มีผู้คนมากมายจากทั่วโลกส่งข้อความมาเพื่อให้ผมพิจารณาเป็น Hosted ให้เขา เนื่องจากบ้านของผมค่อนข้างใหญ่ มีห้องว่างหลายห้อง (เป็นตึกแถว 2 ห้อง 4 ชั้นครึ่ง) ซึ่งเราก็ตัดสินใจปฏิเสธไปหลายคน เพราะเรายัง "ใหม่" กับการเป็น Hosted และภาษาอังกฤษของเราก็ยังไม่ได้ดีมาก โดยเราตั้งสิ่งที่เราต้องการคนที่จะมาพักกับเราไว้ในใจไว้ 2-3 ประการคือ... คนเอเชียตะวันออก...มา 1 หรือ 2 คน...และถ้าเป็นคริสเตียนจะพิจารณาเป็นพิเศษ (ครอบครัวของเราเป็นคริสเตียนครับ)

                      จนในที่สุด...ก็มีข้อความจากนักศึกษาชาวเกาหลีใต้อายุ 24 ปี คนนึง...ส่งมา....บอกว่า....เขาเป็นคริสเตียนที่กำลังเดินทางท่องโลกด้วยจักรยานจากประเทศเกาหลีใต้...เพียงคนเดียว....สามารถแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวกับผมได้ และจะทำอาหารเกาหลีให้ครอบครัวเราทาน เป็นการตอบแทน....

                      เมื่อผมถามภรรยาแล้ว.....เราจึงตัดสินใจตอบรับเขามาเป็นแขกคนแรกของเรา...."มิตรภาพ" ที่ผมตามหาก็มาถึงครับ..... เขาชื่อ HYEONSOO KIM หรือ เคน

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      ตอนที่เคน ส่งข้อความมาคุยกับเรา และนำตัวง่าย ๆ แต่ก็สร้างความน่าสนใจให้กับเราตรงกับที่เราต้องการเลยทีเดียว ส่วนหน้าตา ก็เนิร์ด ๆ ดูไม่มีพิษมีภัย

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      แปล... ผมชื่อเคนเนท จากประเทศเกาหลี ผมกำลังท่องโลกด้วยจักรยาน ผมเริ่มต้นการท่องโลกในวันที่ 7 มกราคม ผมเป็นคริสเตียนด้วย และผมกำลังจะไปกรุงเทพฯ หลังจากเที่ยวในกัมพูชา ตอนนี้ผมอยู่ที่อุดรธานีในประเทศไทย ... เหตุผลที่ทำไมผมออกท่องโลก ก็คือ ผมต้องการรู้จักโลกที่พระเจ้าทรงสร้าง และผมต้องการจะเป็นมิชชั่นนารีในอนาคต....

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      แปล...ผมต้องการที่จะรู้จักคริสเตียนในประเทศไทยจริง ๆ ว่ามีอะไรที่แตกต่างจากคริสเตียนเกาหลี...อย่างไรก็ตามถ้าคุณตอบรับการร้องขอของผม...ซึ่งผมหวังว่า ผมจะได้แบ่งปันเรื่องราวของผมกับคุณเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและแสดงอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการท่องเที่ยวนี้ให้คุณดู...ผมชอบทำอาหาร ถ้าคุณต้องการที่จะทานอาหารเกาหลี ผมจะทำมันและผมจะสอนคุณทำอาหารเกาหลีด้วย

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      แปล...ผมมีถุงนอนและเต็นท์ ไม่ต้องเตรียมอะไรเผื่อผม เพราะผมเป็นนักท่องโลก ถ้าบ้านของคุณมีคนเต็ม ผมโอเคที่จะนอนบนสนามหลังบ้านของคุณ.... ถ้าผมมีเวลา ผมต้องการที่จะเดินรอบ ๆ กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ผมเป็นคนเปิดใจและพยายามที่จะเรียนรู้จักผู้คนอื่น ๆ เสมอ... และถ้าการร้องขอนี้สายไป แต่ถ้าคุณโอเค ผมหวังว่าจะได้รับการตอบกลับจากคุณ ขอบคุณ...

                      ผมอ่านข้อความเหล่านี้แล้วก็พอเดาได้ว่า วัยรุ่นเกาหลีคนนี้...อ้ายน้องชายคนนี้ มันมีอะไรน่าสนใจมาก ๆ แฮะ...ดูสุภาพ และมีกาลเทศะ ตามแบบของคนเอเชีย... (นี่คือเหตุผลที่ผมเลือกรับคนเอเชียมาพักบ้านของผมก่อนอื่นใดเป็นตัวเลือกแรก ๆ).....และผมก็อยากรู้ว่า การออกท่องโลกคนเดียวนี้...มันเป็นอย่างไรครับ...

                      วันที่เราคุยกันคือวันที่ 20 กุมภาพันธ์... และเคนรีเควสมาขอพักประมาณวันที่ 2-4 มีนาคม ซึ่งระยะเวลาก็กำลังดีไม่กระชั้นชิด และอยู่แค่ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น

                      แต่สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นก็คือ.... ผมกดเข้าไปดูการอ้างอิงรับรองจากบุคคลอื่นที่เคนเคยไปพักมาแล้วครับ (Reference) ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวแบบนี้ทุก ๆ คน และผมก็พบ 1 คนที่รับรองให้เคน เป็น Hosted ที่เคนไปพักในเวียดนาม เป็นผู้หญิงที่ชื่อ Thuong Tran

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      แปล.... เคนเป็นคนง่าย ๆ ที่ทุกคนจะพบและพูดคุยด้วย...เขาเป็นคนแบบฉบับเอเชียนสำหรับฉัน.. ภายนอกอาจจะดูเป็นคนขี้อายเล็กน้อย แต่ภายในแล้วเขาน่ารักมาก ๆ และเป็นคนกล้าหาญ...เขาจะท่องเที่ยวรอบโลกด้วยจักรยาน...มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก !!!!....ฉันเป็น Hosted ให้เขา 3 วัน และเขาพิสูจน์แล้วว่าเป็นคนน่ารัก สุภาพ และเป็นมิตร...สำหรับฉันเขายังเป็นครูสอนภาษาเกาหลีที่เยี่ยมยอดด้วย...เคน...ขอบคุณสำหรับอาหารเกาหลีที่คุณทำสำหรับเรา...ขอบคุณสำหรับการใช้เวลากับแม่ของฉัน...ถ้าเขาส่งการร้องขอไปถึงคุณ...อย่าลังเล...เพียงตอบว่าได้...คุณจะได้พบกับคนที่มหัศจรรย์และจักรยานที่สุดเจ๋งของเขา

                      ผมอ่านแล้ว....เออ...ท่าทางจะสนุกแฮะคนนี้

                      ผมก็เอาเรื่องของเคน ไปปรึกษาภรรยา... เราเห็นพ้องตรงกันว่า...เราจะลองต้อนรับเด็กหนุ่มหน้าตาเนิร์ด ๆ คนนี้มาเป็นแขกคนแรกของบ้านเรา...

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      ผมก็ตอบกลับดังนี้

                      แปล....  ผม : โอเค ยืนยันวันที่ 2-4 มีนาคม เมื่อคุณมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว คุณจะขี่จักรยานมาที่บ้านของเราเลยใช่ไหม ?? หรือคุณต้องการให้เราไปพาคุณมา ??

                      เคน : ผมเป็นนักขี่จักรยานท่องเที่ยว ดังนั้นผมไม่แน่ใจว่าผมจะถึงที่นั่น (กรุงเทพฯ) ในวันที่ 2 มีนาคมหรือเปล่า...บางที อาจจะสายหรือถึงก่อนหน้านั้นก็เป็นไปได้...ผมจะส่งข้อความหาคุณอีกครั้ง...ขอพระเจ้าอวยพรครับ

                      ผม : โอเค...คุณสามารถติดต่อเราเร็ว ๆ นี้ ขอพระเจ้าอวยพรทริปของคุณ

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      แปล...  เคน : ตอนนี้ผมอยู่ที่ขอนแก่น ที่บ้านของศิษยาภิบาลชาวเกาหลี....ผมกำลังจะไปเสียมเรียบในกัมพูชา แล้วผมถึงจะมายังกรุงเทพฯ ... คุณมี SMS, Facebook, What app หรือ Line ไหมครับ

                      ผม : เบอร์มือถือของผม.....และ Line ID ของผมคือ.....

                      หลังจากผม Accept และ Confirm เคนแล้วนั้น ผมก็ได้ให้เบอร์โทรศัพท์สำหรับการติดต่อ และ ID ไลน์เพื่อใช้ในการสื่อสารแทนที่จะคุยผ่าน Couchsurfing ซึ่งจะสะดวกสำหรับเราทั้ง 2 คนมากกว่า

                      วันรุ่งขึ้นตอนเช้า ก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของผม ปลายสายเป็นเสียงภาษาไทยแต่สำเนียงเกาหลี.... แนะนำตัวว่าเขาเป็นศิษยาภิบาลชาวเกาหลีที่อยู่ขอนแก่น ซึ่งให้เคนพักอาศัยบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา....ได้โทรมาถามผมว่าตกลงที่จะรับเคนมาอยู่ด้วยใช่ไหม ?.... เขาก็ให้การรับรองว่า เคนที่พักกับเขาไว้วางใจได้... ซึ่งในภายหลังผมได้ทราบจากเคนว่า....เขาได้ไปพักกับศิษยาภิบาลชาวเกาหลีคนนี้ด้วยความบังเอิญ...เพราะระหว่างที่ขี่จักรยานผ่านขอนแก่นนั้น เขาสังเกตเห็นโบสถ์ริมทาง และมีป้ายเป็นภาษาเกาหลีด้วย ก็เลยแวะเข้าไปคุย.... ก็เลยได้พักที่นั่นเลยแทนที่จะกางเต็นท์พักริมทางอย่างวันก่อน ๆ....

                      คนเกาหลีก็เหมือนเราคนไทยแหละครับ...ไม่ว่าอยู่ที่ไหน...ถ้าเราเจอว่าเขามาท่องเที่ยว...เราก็มีน้ำใจช่วยเหลือกัน....นี่คือสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจจากการท่องเที่ยวแบบนี้ครับ

                      หลังจากที่ผมได้ให้เบอร์มือถือ และ Line id ไป...เราก็เริ่มติดต่อผ่านทาง Line เป็นหลักครับ.... อีก 1 วันถัดมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เคนก็ได้ติดต่อมาทาง Line เป็นครั้งแรก

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เคน : สวัสดี ผมเคนเนทจากCouch Surfing 
                      ผม : ครับ
                      เคน : (ส่งรูปพิกัดแผนที่มา) นี่คือบ้านของคุณหรือเปล่า
                      ผม : (เฮ้ยมันที่ไหนฟละ) ไม่ใช่ !!!!! (แล้วผมก็ส่งพิกัดตำแหน่งบ้านที่ถูกต้องของผมไปให้แทน)
                      เคน : ผมไม่สามารถรับข้อความนี้ได้ คุณสามารถส่งที่อยู่เป็นตัวอักษรมาได้ไหม?

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต


                      ผม : (ส่งตำแหน่งซอยและที่อยู่ของผมไปให้ใหม่เป็นตัวอักษร อาจจะเพื่อสำหรับเขาเอาไปพิมพ์ค้นหาใน google map แต่ผมคิดว่าผมส่งพิกัด GPS ไปให้เลยดีกว่า ชัวร์กว่า) คุณสามารถเอาพิกัดที่ผมส่งให้นี้ไปวางใส่ใน Google Mapได้เลย
                      เคน : โอเค ขอบคุณมาก ๆ ครับ พระเจ้าอวยพระพร 
                      แล้วเคนก็ส่งภาพแผนที่พร้อมพิกัดอย่างถูกต้องของบ้านผมกลับมาให้ ผมดูแล้ว...โอเค ตรงเป๊ะ ถูกต้อง
                      เคน : ที่นี่ใช่ไหม??
                      ผม : ใช่แล้ว...
                      เคน : (หมีดีใจไชโย)....

                      แล้วก็ขาดการติดต่อไป 4 วัน ...เคนก็ติดต่อกลับมาอีกครั้ง....วันที่ 26 กุมภาพันธ์

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เคน : สวัสดีบัญชา...เช้าวันพรุ่งนี้ ผมจะออกจากที่นี่แล้ว...ระยะทางจากที่นี่ไปกรุงเทพฯ ประมาณ 400 กิโลเมตร...มันน่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 วัน น่าจะถึงที่นั่น....  บางทีผมจะถึงที่นั่น (บ้านผม) ประมาณวันที่ 1 มีนาคมตอนกลางคืน ไม่ก็วันที่ 2 มีนาคมตอนเช้า....โอเคไหม ???
                      ผม : โอเค....
                      เคน : ขอบคุณครับ....

                      วันที่ 28 กุมภาพันธ์ เคนติดต่อกลับมาอีกครั้ง

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เคน : ผมกำลังออกจากอรัญประเทศ (น่าจะกำลังข้ามชายแดนเข้ามาจากกัมพูชา)
                      เคนส่งพิกัดของเขามาให้ผมดู แล้วบอกว่า.....วันนี้ตอนกลางคืนหรือพรุ่งนี้ผมจะถึงที่บ้านของคุณ.....ประมาณ 230 กิโลเมตรจากที่นี่ ถึงบ้านของคุณ
                      ผม : โอเค ระมัดระวัง ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ....

                      และในวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคมเวลาสี่โมงเย็น...เคนโทรมายังมือถือของผม...และบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ปากซอยบ้านผมแล้ว แต่ไม่รู้ว่าบ้านผมอยู่ตรงไหน...ผมบอกว่าให้ออกมารอปากซอย บ้านผมอยู่ปากซอย...เป็นตึกแถว...ไปนั่งรอที่ร้านอาหารเกาหลีติดกับบ้านผมก่อนได้...แนะนำตัวว่าคุณมาจากเกาหลีกับเจ้าของร้าน เขาเป็นชาวเกาหลีเหมือนคุณ... รอผมกำลังเดินทางกลับบ้านจากโบสถ์อยู่....

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เคน : สวัสดี...ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านอาหารเกาหลี BBQ แล้ว....

                      ตอนที่ผมพบเคนครั้งแรก...ตอนนั้นผมกำลังขับรถขึ้นบ้าน เห็นหนุ่มวัยรุ่นเกาหลีใส่แว่นหน้าเนิร์ด ๆ เหมือนรูป กำลังนั่งคุยกับเจ้าของร้าอาหารเกาหลีข้างบ้านของผมพอดี พร้อมกับจักรยานคันใหญ่และสัมภาระเต็มพิกัด....ตามรูปนี้....

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เมื่อผมจอดรถเสร็จ ก็เชิญเคนเอารถเข้ามาในบ้าน....แล้วเราก็ทักทายกัน....หลังจากคุยกันโดยไม่เห็นหน้ามาเกือบครึ่งเดือน....

                      หลังจากเราได้พบกันแล้ว ผมก็ได้แนะนำภรรยา และคนในครอบครัวให้รู้จัก.... ผมพาเคนไปดูห้องพักและห้องน้ำ รวมทั้งบอกว่า สามารถใช้เครื่องซักผ้าของเราได้.... แล้วก็ปล่อยให้เขาเก็บข้าวของและสัมภาระออกจากจักรยาน เอาขึ้นห้อง และพักผ่อน....

                      พอหัวค่ำ ผมก็ไปตามให้เคนมาทานอาหารค่ำร่วมโต๊ะกับเรา พร้อมกับพูดคุยกันเล็กน้อย...ผมเลือกซื้ออาหารที่มีความเป็นไทย เช่นขนมจีนน้ำยา...ปลาราดพริก...น้ำพริกปลาทูจากตลาดมาให้เคนลองทาน...ซึ่ง ตามคาด...นี่คือครั้งแรกสำหรับเคนที่ทานอาหารไทยต่าง ๆ เหล่านี้...แต่หนุ่มคนนี้ใช้ได้ครับ...ทานง่าย ทานได้ทุกอย่าง...ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของนักเดินทางครับ....^^ 

                      แต่ผมเข้าใจว่าวันนี้เคนใช้เวลาเดินทางทั้งวันบนจักรยาน.... หลังอาหารค่ำผมก็ใช้เวลาไม่นานนักในการพูดคุย และปล่อยให้เคนไปพักผ่อน... และผมบอกว่า เจอกันพรุ่งนี้...ผมมีธุระที่จะเข้าเมือง...โดยมอเตอร์ไซค์คันเล็ก (Scoopy i) ซึ่งหลังจากผมเสร็จธุระแล้ว...เราจะเที่ยวกรุงเทพฯ ด้วยกัน....

                      พอเข้าสู่เช้าวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม.... 

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      ผมพาเคนซ้อนท้าย Scoopy i จากแถวบางนา ไปทำธุระถึงแถวแยกวงศ์สว่าง.... แต่ถือว่าโชคดีที่วันนั้นไม่มีแดดเลย ฟ้าครึ้มเมฆทั้งวัน...ก็เลยขี่ 2 ล้อท่องเมืองแบบสบาย ๆ....หลังจากเสร็จธุระในช่วงบ่ายโมง... ผมก็พาเคนขี่รถเที่ยวกรุงเทพฯ ง่าย ๆ โดยเลือกเข้าไปดูถนนข้าวสาร พร้อมลงเดินไป 1 รอบแถวริมแม่น้ำหน้าบ้านพระอาทิตย์-สนามหลวง-วนรอบ ๆ วัดพระแก้ว-เสาชิงช้า-และกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็น ๆ

                      ซึ่งผมค่อนข้างชื่นชอบการเดินทางด้วย 2 ล้อ ในเมืองอย่างมากครับ (แม้ว่าจะมีรถเก๋งถึง 2 คันก็ตาม) เพราะความคล่องตัว...จะจอดถ่ายรูป จะแวะที่ไหนก็ง่าย ๆ แถมไม่ต้องกังวลกับรถติดมากนัก.... ผมคิดว่านี่คือเสน่ห์ของ 2 ล้อครับ ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ก็ตาม....

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      ในระหว่างที่เดินถนนข้าวสาร....เคนเห็นรถเข็นขายผัดไทย มีนักท่องเที่ยวรอต่อคิวซื้อกันเป็นสิบคน....แต่ผมบอกว่า....เดี๋ยวระหว่างทางกลับบ้านผมจะพาแวะทานผัดไทยของจริง....เมื่อผมได้พาเคนมากินผัดไทยเจ้าอร่อยแถวบ้าน ซึ่งมันอร่อยมากจนแทบทำให้เคนน้ำตาไหล.... ผมบอกว่า ถ้าที่นี่ผมให้ 4 ดาว จาก 5 แต่ผัดไทยรถเข็นที่ฝรั่งต่อคิวกินแถวถนนข้าวสาร....ผมให้ไม่เกิน 2 ดาวครับ....เคนบอกว่า เขาจะตอบแทนผมโดยการจะทำอาหารเกาหลีให้ผมทานบ้าง....โอ้....รอเลยครับ....ฮ่า ๆ

                      พอวันรุ่งขึ้น ช่วงกลางวันผมทำงาน โดยเคนขี่จักรยานออกไปหาซื้อของและวัตถุดิบเพื่อทำอาหารเกาหลี....ในช่วงเย็นผมกับครอบครัวและเคน ก็ได้ออกไปซื้อของที่ Makro โดยเคนบอกว่าจะทำข้าวผัดกิมจิ.... เขาก็จัดการตระเตรียมซื้อวัตถุดิบในตอนกลางวันเกือบหมดแล้ว....

                      พอกลับมา เคนก็ลงมือทำอาหารด้วยความคล่องแคล่วครับ.....ถือว่าสกิลใช้ได้เลย...เคนบอกว่า ตอนอยู่เกาหลี เขามักจะทำอาหารกินเองเสมอ และทำให้พี่สาวทานด้วย

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เข้าครัวอย่างคล่องแคล่ว

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      หน้าตาของข้าวผัดกิมจิ...มีสาหร่าย...ไข่กุ้ง...อร่อยสุดยอดดดดดมาก

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      กินกันพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว....

                      เคนบอกว่า....วันที่ 4-7 มีนาคม พี่สาวแท้ ๆ ของเขาจะเดินทางมาจากเกาหลีบินมาลงที่ดอนเมืองเพื่อมาเที่ยวกรุงเทพฯ ...เขาขอไปพักกับพี่สาว...แต่สัมภาระต่าง ๆ จะขอฝากเอาไว้ที่ห้อง...แล้วจะกลับมาขอพักที่ห้องผมอีกในวันที่ 8-9 มีนาคม...แล้วจะเดินทางต่อไปยังยุโรป เพื่อขี่จักรยานท่องเที่ยวแถวนั้นอีก 3 เดือน.... ผมก็บอกว่า...ผมเชิญเคนกับพี่สาวมาทานอาหารค่ำกับผมในเย็นวันเสาร์ที่ 7 ผมจะพาไปทานร้านอาหารไทยกัน.... 

                      วันที่พี่สาวบินมาถึงกรุงเทพฯ เคนก็ขี่จักรยานไปที่โรงแรมที่พี่สาวจองในช่วงเย็น โดยพี่สาวเขามาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 6โมงเย็น และเดินทางเข้าที่พักแถวสวนลุมพินีไปเจอกับเคนที่นั่น.....

                      ระหว่างที่เคนกับพี่สาวเที่ยว เขาก็ส่งรูปมาให้ผมดูเป็นระยะครับ  ดูสนุกสนานมาก 2 พี่น้อง

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      ระหว่างที่เคนไปเที่ยวกับพี่สาวนั้น ผมก็ยังตาม ๆ FB ของเขาอยู่บ้าง ก็มีการลงรูปว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้าง... โดยเรานัดเจออีกครั้งเย็นวันศุกร์ โดยให้เคนพาพี่สาวมาร่วมทานอาหารค่ำกับเรา....

                      ผมตั้งใจจะพาทั้ง 2 คนไปกินอาหารไทยที่สวนอาหารแห่งหนึ่งแถวบ้าน ที่อร่อย และได้บรรยากาศที่ดี

                      เคนและพี่สาวมาถึงบ้านผมประมาณ 1 ทุ่มโดยเดินทางด้วย BTS และต่อสองแถวเข้าซอย (เออมาอยู่ไม่กี่วันชักเดินทางเก่งแฮะ)

                      ผมเจอพี่สาวเคน หน้าตาเกาหลีมาก...เกาหลีแท้ที่ไม่ทำศัลยกรรม.... ภรรยาผมยังชมเลยว่า เป็นคนที่ผิวหน้าดีมาก ใสไม่มีริ้วรอย หรือสิวแม้แต่น้อย...พี่สาวเคนชื่อว่าโซเฟีย....

                      เมื่อเราไปถึงสวนอาหารไทย... ผมสั่งรายการอาหารที่คิดว่าน่าจะอร่อยถูกปากเกาหลีทั้ง 2 คน ได้แก่...แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ, ปลาหมึกผัดไข่เค็ม, ยำปลาดุกฟู, ไก่ย่าง, ส้มตำไทย.....ตบด้วยของหวานคือไอศครีมกะทิราดหน้าด้วยมะม่วงน้ำดอกไม้สุก.... โดนแน่ ๆ ฮ่า ๆ

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      โซเฟียพูด-ฟังอังกฤษได้ไม่ค่อยดีนัก ถ้าเทียบคะแนนภาษาอังกฤษนั้น ผม-ภรรยา และเคน อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน...บางทีเคนก็ต้องแปลอังกฤษเป็นเกาหลีให้พี่สาวฟัง....แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการคุยกัน.... โซเฟียทำงานในมูลนิธิ....เคนเรียนระดับปริญญาตรี ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ...ทั้ง 2 อาศัยในโซล แต่พ่อแม่อยู่ในเมืองที่ห่างออกไปประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร....

                      ทั้ง 2 ตอนที่เที่ยวกรุงเทพฯ นั้น ก็ดูจากคนเกาหลีที่มาเที่ยวรีวิวเอาไว้ จึงไปตาม เช่น...วัดพระแก้ว..เอเชียทีค...ตลาดนัดจตุจักร...สยามพารากอน...และต้องกินปูผัดผงกะหรี่ที่ร้านสมพงษ์ (ใครบอกฟละ...จานละ 400 เลยนะเนี้ยะ)....

                      เคนเล่าให้ฟังว่า เขาตัดสินใจเตรียมตัวสำหรับการเดินทางครั้งนี้เมื่อกลางปีที่แล้ว...และเริ่มซื้อจักรยานเมื่อปลายปี โดยจักรยานคันนี้ผลิตที่จีนในราคาที่ไม่ได้แพงมากนัก...แต่ก็ได้รับการยอมรับจากนักขี่จักรยานท่องเที่ยวเกาหลี....เขาใช้งบประมาณทั้งหมดรวมอุปกรณ์ ตั๋วเครื่องบิน Pocket Money เป็นเงินประมาณ 300,000 บาท โดยเก็บเอง 100,000 บาท ส่วนที่เหลือพ่อแม่ของเขาออกทุนให้ ....โอ้โห...ขนาดพ่อแม่ไม่ได้ทำงานใหญ่โต แต่สนับสนุนลูกในการออกมาค้นหาตัวเองจากการท่องโลกแบบนี้...นับถือครับ.... เคนวางแผนการเดินทางทั้งหมด  2 เฟส 5 เดือน 

                      เฟสแรกได้แก่เอเชีย...เริ่มต้นที่ฮ่องกง-จีน-เวียดนาม-ลาว-ไทย (อีสาน)-กัมพูชา-ไทย (กรุงเทพ) ตั้งแต่มกราคม-มีนาคม......อีกเฟสคือ...อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน และข้ามไปยังโมรอคโค แอฟริกาตอนเหนือ.... ในช่วงมีนาคม-พฤษภาคม ...แต่ยังไม่ได้วางแผนว่าจะจบทริปนี้ที่ประเทศไหน.....

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      รูปนี้น่าจะที่จีน

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      ที่กัมพูชา

                      ผมมาคิดว่า...เป็นเรื่องที่สุดยอดมาก กับการออกท่องโลกคนเดียวบนจักรยานตั้งแต่อายุยังน้อย...เป็นการผจญภัยที่จะสอนชีวิตให้กับตัวเขาเองด้วยครับ....ผมก็ยังมีฝันแบบนี้เช่นเดียวกัน...แต่จะเป็นบนมอเตอร์ไซค์ครับ ^^ 

                      หลังอาหารมื้ออร่อย...ผมก็ลาโซเฟีย เพราะวันรุ่งขึ้นโซเฟียจะต้องกลับเกาหลีแล้ว... และยังชวนเราว่าถ้าไปเกาหลีเมื่อไหร่ต้องไปพักกับเขาให้ได้...

                      โซเฟียเตรียมของขวัญมาให้ภรรยาผมเป็นหน้ากากมาสก์หน้ายี่ห้อดังจากเกาหลีหลายอัน...ภรรยาตาโตเลยทีเดียวครับ ฮ่า ๆ....

                      เคนกลับไปกับโซเฟียด้วย....และจะเดินทางกลับมาด้วยจักรยานในวันรุ่งขึ้นช่วงบ่าย.... เพื่อพักกับผมอีก 1 คืน...ก่อนจะบินไปยังยุโรป....

                      เคนมาถึงบ้านของผมในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พร้อมกับทุเรียน 1 พู โดยเคนบอกว่ามาแล้วต้องลอง...แต่ยอมรับว่ากินได้ยากจริงเพราะกลิ่นมันแรงมาก...ผมบอกว่า...ต้องลองกิน และกินให้หมดด้วย...แล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจาก...เหม็น...กลายเป็นเสพติดทุเรียน....เหมือนหลาย ๆ คน ฮ่า ๆ....

                      และเย็นวันนั้น ผมพาเคนซ้อนมอเตอร์ไซค์ Scoopy i เพื่อไปเที่ยวตลาดนัดรถไฟซีคอน...ซึ่งที่นี่เคนตื่นเต้นมากเนื่องจากมีอาหารแปลก ๆ หลายอย่างที่ผมให้เขาลองเป็นครั้งแรก เช่น หนอนรถด่วน...เคนกินได้ไม่มีปัญหา แต่ผมบอกว่าจะให้ลองตั๊กแตนด้วย...เคนไม่เอาครับ ...อันนี้กลัวจริง ฮ่า ๆ.... บะหมี่จอมพลัง...ที่ไม่ได้กิน แต่เข้าไปดู ชามเท่าน้องกะละมัง...ซึ่งเคนบอกว่าถ้ามีโอกาสกลับมาไทย จะมากินให้ได้....ส่วนน้ำ...ก็ให้ลองดื่มน้ำตาลสด.... เคนบอกว่าอร่อยน้ำตาไหล...มันหอมอร่อยมาก...และถ้าโซเฟียยังไม่ได้กลับ เธอจะต้องชอบที่นี่แน่นอน...ว่าแล้วเคนก็ถ่ายรูปส่งไปเย้ยพี่สาวทาง Line ...พี่สาวก็ตอบกลับมาว่าอิจฉาที่ไม่ได้เที่ยวที่นี่ด้วย.....

                      ผมก็ถามเคนเรื่องผู้หญิงคนไทยเป็นอย่างไร...เคนบอกว่าผู้หญิงไทยน่ารัก ดูเหมือน ๆ กับสาวจีน เวียดนาม และเกาหลี...(อ้าว เจ้าชู้ป่าว ชมทุกประเทศ)... แต่จริง ๆ แล้ว เคนไม่มีแฟนครับ เขาบอกว่าในชีวิตนี้ไม่เคยมีแฟนมาก่อนแม้แต่คนเดียว....มีแต่ชอบเขา...แต่เขาไม่เล่นด้วย ฮ่า ๆๆ.... 

                      แต่ผมเชื่อว่าหลังจากเขาจบทริปการท่องโลกนี้...จะมีสาว ๆ หลายคนอยากรู้จักและเป็นแฟนเจ้าหนุ่มเกาหลีคนแน่นอนครับ....เพราะเคนมันกล้าหาญและเท่มากบนจักรยาน....หน้าอาจจะไม่หล่อ...แต่ใจเคนหล่อกว่าครับ...

                      วันสุดท้ายที่เคนจะอยู่กับครอบครัวของผมก็มาถึงครับ ....วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม... ผมออกไปทำงาน และกลับมาช่วงบ่าย...เคนใช้เวลาช่วงกลางวันในการแพ็กของใส่กระเป๋า และแพ็กจักรยานลงกล่องที่หาซื้อจากร้านจักรยานแถวบ้านผม....จนเสร็จเรียบร้อยในตอนบ่าย

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      เขาซื้อกระเป๋าผ้าพลาสติกขนาดใหญ่จากแถวสยามฯ ในราคา 100 บาท เพื่อใส่สัมภาระทั้งหมดลงไป แล้วรัดด้วยเทปกาวอีกชั้น ชั่งน้ำหนักได้ประมาณ 27 กก.

                      ส่วนจักรยานได้ถอดชิ้นส่วนเช่นล้อหน้าและ Hand ใส่กล่องกระดาษจักรยานแล้วรัดด้วยเทปกาวเรียบร้อย...ชั่งน้ำหนักได้ประมาณ 21 กก.

                      โดยน้ำหนักรวมสัมภาระทั้งหมดของเคนปาไป 48 กก. ผมก็ถามเคนว่า...แล้วจะไม่ได้โดนเก็บน้ำหนักเพิ่มเหรอ...เคนบอกว่าสัมภาระของเขา Load ได้ถึง 30 กก. ซึ่งไม่ถึง...ส่วนจักรยานน่าจะอยู่ในเคสอุปกรณ์กีฬา ซึ่งสายการบินนี้ให้เอาขึ้นได้ฟรี แต่ไม่ได้บอกว่าน้ำหนักไม่เกินเท่าไร.. ซึ่งก็ต้องไปวัดดวงเอาอีกที.....

                      เดิมทีเคนจะเรียกแท็กซี่แบบลีมูซีน (Toyota Innova) แต่ผมบอกว่าไม่ต้อง ผมมี Toyota Fortuner ผมจะไปส่งเขาเอง เพราะบ้านเราที่บางนา ไปสนามบินสุวรรณภูมิไม่ไกล....หลังจากผมพาเขาไปทานอาหารเย็นมื้อสุดท้ายใกล้ ๆ บ้าน เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูมะนาว....ซึ่งเคนบอกว่า คนไทยคงจะชอบกินต้มยำ เหมือน ๆ กับคนเกาหลีกินกิมจิแน่ ๆ  ...เพราะอะไร ๆ ก็เป็นต้มยำไปหมด ฮ่า ๆ..... ผมก็คิดว่าเออ...ใช่นะ คนไทยชอบต้มยำจริง ๆ และดูเหมือนจะภูมิใจในอาหารนี้ด้วย....(คนต่างชาติไหนมา...พากินต้มยำหมด)

                      เคนต้องขึ้นเครื่องตอน 21.00 น. สายการบินศรีลังกา...(แต่ผมไม่แน่ใจว่าต้องไปต่อเครื่องที่ไหนไหม.. ตามตั๋วปลายทางที่โรม ประเทศอิตาลี) เราวางแผนจะให้เคนถึงสนามบินตอน 18.00 น. โดยผมกับเคน 2 คน จะแวะไปรับลูกชายคนโตของผมที่โรงเรียน แล้วเลยไปส่งที่สนามบินด้วยกัน....(ภรรยาผมไม่ได้ไปด้วย).... ระหว่างทาง ลูกชายผมบ่นหิวไส้กรอก ผมก็เลยจอดรถแวะปั๊มปตท.เพื่อเข้า 7-11 ซื้อของว่างกินรองท้องให้เคนเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ เบอร์เกอร์ข้าวเหนียวหมูลาบ ซึ่งเคนบอกว่า อาหารไทยอร่อยทุกอย่างจริง ๆ ...เขายังไม่เคยเจออะไรไม่อร่อยเลย...ผมก็เลยถือโอกาสอธิษฐานต่อพระเจ้า อวยพรในการเดินทางของเขาที่เหลือ.... 

                      ผมขับรถไปส่งเคนหน้าสนามบินเส้นขาออก...จอดเปิดไฟกะพริบแล้วขนของลงจากรถใส่รถเข็นให้...แล้วก็ร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย....

                      เคนพูดคำนึงขึ้นมาว่า... "I feel sad" ......  ผมก็รีบบอกว่า.... Don\'t feel that.... because... your next adventure will start now.....ให้สนุกกับมัน และระมัดระวังเดินทางด้วยความปลอดภัย......ตบบ่า และจับมือครั้งสุดท้าย......ผมก็ขับรถออกมา โดยมีลูกชายผมโบกมือบ๊ายบาย....

                      ผมก็รู้สึกใจหายเหมือนกันที่เวลามันเดินไปเร็ว...เหมือนตลอดหลายวันที่ผ่านมา ผมได้น้องชายเพิ่มเข้ามาในชีวิตอีกคนนึง ซึ่งก่อนหน้านี้เรายังเป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น....เกิดเป็นความผูกพันกัน....และเหมือน "มิตรภาพ" ที่เกิดขึ้นนี้...จะคงอยู่ตลอดไปกับชีวิตที่เหลือของเราทุกคนที่ได้มาเจอกันครับ ...ไม่ใช่แค่ผม...เคน...เท่านั้น ...แต่รวมถึงภรรยาของผม....โซเฟีย....และลูกชายของผมทั้ง 2 คนด้วย (ในอนาคตลูกผมอาจจะไป Backpack แล้วพักที่เกาหลีบ้านของอาเคนก็ได้)

                      ผมมองว่า....ยุคสมัยนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วครับ....โลกของเรา "เล็กลง" ซึ่งทำให้ก่อเกิด "มิตรภาพ" ของคนในโลกนี้อย่างง่ายได้มากขึ้น....คนเรามีความฝันที่จะท่องโลก และผจญภัย....โลกของอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาช่วยเราให้ออกค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ประทับใจร่วมกับผู้คนต่าง ๆ ในโลกใบนี้ ทุกที่ ทุกชาติ ทุกภาษา โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น...คิดดูถ้าไม่มีสงคราม....เคนอาจจะขี่จักรยานเริ่มต้นจากเกาหลีใต้เลย -ทะลุผ่านเกาหลีเหนือ - เข้าจีน แล้วไล่ลงมาถึงเวียดนาม ไม่ต้องไปเริ่มต้นที่ฮ่องกงอย่างที่ทำ.....

                      ตอนนี้.... ผมตัดสินใจเปิด Status ใน Couch Surfing จาก Maybe Accept......เป็น Alway Accept แล้วครับ.....  ^^ สำหรับต้อนรับเพื่อนที่มีชื่อเล่นว่า "มิตรภาพ" จากทั่วโลกคนต่อไปครับ.....

                      หลังจากส่งเคนเสร็จ ผมก็ได้กลับมาเขียน Reference ให้เคน เพื่อส่งต่อเขาให้เจอ Host ที่ดีคนต่อไป

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      แปล.... เคนเป็นคนที่ดีมาก ๆ เขาสุภาพ อ่อนโยน จริงใจ และรู้จักกาลเทศะ คุณสามารถเชื่อใจเขาได้ ผมรู้สึกว่าเขาเหมือนน้องชาย แม้ว่าเราจะไม่เคยรู้จักมาก่อนก็ตาม.. เขาเป็นคนใจดี ลูกชายอายุ 4 ขวบ ของผมชอบเข้าไปเล่นในห้องเขาเสมอ... 7 วันที่เขาอยู่กับเรา เขาไม่เคยทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ ในทางตรงกันข้าม เรารู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครับของเรา ...ถ้าคุณตัดสินใจต้อนรับเขา เขาจะเป็นการตัดสินใจที่เยี่ยมของคุณ และได้โปรดช่วยดูแลเขาเสมือนน้องชายของคุณด้วยครับ

                      ขอบคุณครับที่ติดตามกระทู้นี้

                      ป.ล. ตอนนี้เคนถึงโรม ประเทศอิตาลีแล้ว และได้ Host เป็นชาวเกาหลีที่นั่นครับ.... ^^

เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต

                      ภาพล่าสุด สัมภาระและจักรยานในกล่องของเคน ที่สนามบินประเทศอิตาลีครับ"


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ จิงกะโบ๋ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมื่อต้องเปิดบ้านเป็น Hosted ครั้งแรกในชีวิต... เขาก็ได้พบกับมิตรภาพที่ตามหา อัปเดตล่าสุด 12 มีนาคม 2558 เวลา 11:38:13 6,287 อ่าน
TOP
x close