6 เกาะสวรรค์แห่งทะเลตรัง (Lisa)
ทะเลสีมรกต หาดทรายขาวดุจแป้ง หมู่ปะการังและดอกไม้ทะเลสีสวย หยอกล้อกับฝูงปลาหลายสีสัน...คือความมหัศจรรย์แห่งท้องทะเลตรังที่คุณต้องไปเห็นด้วยตา
1 เกาะลิบง : พี่ใหญ่แห่งทะเลกับพะยูนน้อย
ด้วยพื้นที่ 25,000 ไร่ ทำให้เกาะลิบงเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลตรัง และเนื่องจากรอบ ๆ เกาะเต็มไปด้วยหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูนไฮไลต์ของการมาเยือนเกาะนี้จึงอยู่ที่โอกาสที่คุณจะได้เซย์ไฮกับพะยูน สัตว์ที่กำลังจะสูญพันธุ์ นอกจากนี้ บนเกาะยังเป็นแหล่งรวมนกหลายชนิดทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ เช่น นกหัวโตขาดำ นกนางนวลแกลบเคราขาวฯ จึงได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง โดยรอบ ๆ เกาะมีแหลมและชาดหาดหลายแห่ง เช่น แหลมจุโหย แหลมทวดและหาดตูบ เวลาน้ำลดคุณสามารถเดินจากแหลมไปถึงหาดได้เลย หรือจะขึ้นเขามุกดาเพื่อชมวิวสวยแบบพาโนรามาก็ได้
การเดินทาง : ลงเรือที่ท่าเรือหาดยาว บ้านเจ้าไหม ค่าเรือคนละ 30 บาท ถ้าเช่าเหมาลำ 10 คน 800 บาท ใช้เวลา 20 นาที บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
2 เกาะมุก : ที่สุดความงาม ณ ถ้ำมรกต
หลายคนกล่าวขวัญถึงเกาะแห่งนี้เพราะมี ถ้ำมรกต ถ้ำน้ำขนาดเล็กที่พอน้ำลดจะสามารรถนั่งเรือลอดเข้าไปได้ หรือไม่นักท่องเที่ยวก็ต้องลอยคอฝ่าความมืดเข้าไป เมื่อพ้นปากถ้ำจะพบกับห้องโถงใหญ่ที่มีพื้นเป็นน้ำทะเลสะท้อนแสงสีเขียวมรกต ล้อมรอบด้วยผนังผาสูงชัน และหาดขาวละเอียด
ช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยวถ้ำมรกต คือช่วงที่น้ำขึ้นในแต่ละวันระหว่างเวลา 10.00-14.00 น. เดือนที่เหมาะสมในการเที่ยวก็คือช่วงเดือนธันวาคม-พฤษภาคม นอกจากนี้ บริเวณรอบเกาะยังมีชายหาดสวยงามกับวิถีชุมชนมุสลิมที่ยังชีพด้วยการประมงพื้นบ้านเป็นบรรยากาศเงียบสงบที่เหมาะจะหลบมาพักใจซะจริง
การเดินทาง : จากท่าเรือควนตุ้งกู มีเรือโดยสารออกวันละเที่ยวในช่วงเช้า หรือเหมาเรือก็ได้ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ขึ้นที่ท่าเรือสะพานยาวด้านหน้าเกาะ จากนั้น ต่อเรือไปเที่ยวถ้ำมรกตซึ่งอยู่ด้านหลังเกาะ แต่ถ้าลงเรือที่ท่าปากเมงใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ค่าเช่าเรือแบบเหมา 1,800-2,500 บาท หรือใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ One Day Tour ที่ท่าเรือปากเมงก็ได้
3. เกาะเชือก : แหล่งปะการังน้ำลึกที่สมบูรณ์
เกาะเชือกเป็นเกาะหินเล็ก ๆ ไร้หาด ทว่า กระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวจึงต้องใช้เชือกคอยพยุงตัวเวลาดำน้ำ จนกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะ แต่ก็เป็นแหล่งปะการังน้ำลึกและน้ำตื้นที่สมบูรณ์และสวยงาม โดยเฉพาะแนวกัลปังหาห้าสี รวมถึงเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาหลากชนิด
การเดินทาง : สามารถเหมาเรือจากท่าเรือปากเมง ประมาณ 1.800-2,500 บาท ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ในรูปแบบ One Day Tour ซึ่งมีราคาถูกกว่าและยังมีอุปกรณ์ดำน้ำให้ครบด้วย
4. เกาะแหวน : สวรรค์ของนักดำน้ำ
เกาะแหวนถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำโดยแท้ แค่ลอยตัวออกไปไม่กี่เมตรก็เหมือนดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลลึก ทั้งดอกไม้ทะเล ปะการังเขากวางปะการังอ่อน และฝูงปลา และหลังจากเกิดสึนามิ ก็ได้มีการติดตั้งประติมากรรมใต้ทะเลหลายชิ้นที่รอให้นักดำน้ำได้ดำดิ่งไปชมความงามอีกด้วย
การเดินทาง : สามารถเหมาเรือจากท่าเรือปากเมง ประมาณ 1.800-2,500 บาท ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ในรูปแบบ One Day Tour ซึ่งมีราคาถูกกว่าและยังมีอุปกรณ์ดำน้ำให้ครบด้วย
5 เกาะไหง : ลานตาปะการังสีสวย
เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีพื้นที่คาบเกี่ยวสองจังหวัด คือกระบี่และตรัง แต่เกาะไหงจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มทะเลรังมากกว่า เพราะการเดินทางจากตรังสะดวกกว่า รอบ ๆ เกาะอุดมไปด้วยปะการังหลากสีน้ำทะเลใส และหาดทรายขาวเนียนดุจแป้ง มีแหลมกวนอิมเป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจ ส่วนหน้าหาดเป็นจุดชมหมู่เกาะน้อยใหญ่ได้สวยงาม เสร็จจากว่ายน้ำเล่นจะพายเรือแคนูเที่ยวหมู่เกาะใกล้เคียงหรือไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติบนเกาะก็สนุกไปอีกแบบ
การเดินทาง : มีเรือโดยสารจากท่าเรือปากเมงใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง อาจใช้บริการเช่าเรือเหมาลำหรือโดยสารเรือท่องเที่ยวก็ได้ และบนเกาะมีที่พักเอกชนให้บริการอยู่หลายแห่ง
6 เกาะเหลาเหลียง : ดำดิ่งสู่ทะเลสีมรกต
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สีน้ำทะเลรอบ ๆ เกาะเป็นสีเขียวมรกตงดงาม ยิ่งยามแดดจัดน้ำทะเลสะท้อนแดดเป็นประกายดูสวยงามราวกับมีมนต์สะกด แต่ทะเลแถบนี้ลึกและน้ำไหลแรง จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหากจะลงดำน้ำ นอกจากนี้ บนเกาะเป็นภูเขาหินปูนที่มีขนาดใหญ่จึงมีหน้าผาสูงชัน ซึ่งให้ทัศนียภาพสวยสะดุดตาไปอีกแบบ
การเดินทาง : เช่าเหมาเรือได้ที่ท่าเรือหาดยาว หากซื้อแพ็กเกจทัวร์ในจังหวัดก็จะได้เที่ยวเกาะเภตราและเกาตะเกียงที่อยู่ใกล้เคียงด้วย
ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่การท่องเที่ยวฯ สำนักงานตรัง โทร. 075-215-867 อุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม โทร. 075-213-260 เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หมู่เกาะลิบง โทร. 075-251-932 อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะเภตรา โทร. 075-783-074
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
, , อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา