วัดผาลาด (สกทาคามี) วัดสวยที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขาบริเวณเชิงดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความสงบเงียบ เชียงใหม่ เมืองแห่งภูเขาและวัดวาอารามที่งดงาม ใครที่มาเยือนคงไม่พลาดการไปไหว้พระขอพรที่วัดดังอย่าง วัดพระธาตุดอยสุเทพ หรือ วัดอุปคุต ที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ แต่รู้หรือไม่ว่าท่ามกลางความสงบร่มรื่นของดอยสุเทพ ยังมีวัดเก่าแก่อีกแห่งที่ซ่อนตัวอยู่ นั่นคือ วัดผาลาด (สกทาคามี) วัดงามที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวและมีประวัติศาสตร์ยาวนานไม่แพ้ใคร ซึ่งเราจึงอยากจะชวนทุกคนไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งวัดเชียงใหม่อย่าง วัดผาลาด สถานที่ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขาบนเส้นทางสู่ดอยสุเทพ ที่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการปฏิบัติธรรม วัดผาลาด ตั้งอยู่ที่ 101 บ้านห้วยผาลาด หมู่ 1 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ห่างจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยบริเวณเชิงดอยสุเทพขึ้นมาประมาณ 5 กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดอยู่ทางด้านซ้ายมือ แม้จะไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่าวัดผาลาดสร้างขึ้นเมื่อใด แต่คาดว่ามีอายุหลายร้อยปี โดยมีชื่อปรากฏขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา กษัตริย์ล้านนา รัชกาลที่ 6 ในราชวงศ์มังราย ซึ่งเป็นช่วงที่มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากสุโขทัยมายังเชียงใหม่ และพระธาตุได้แยกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งประดิษฐานที่วัดสวนดอก และอีกส่วนหนึ่งได้อัญเชิญขึ้นหลังช้างเพื่อเสี่ยงทายหาสถานที่ประดิษฐาน ช้างได้หยุดพักชั่วระยะหนึ่งที่บริเวณผาลาด ก่อนจะเดินทางต่อไปยังยอดดอยสุเทพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุดอยสุเทพในปัจจุบัน หลังจากสร้างพระธาตุดอยสุเทพแล้วเสร็จ พระเจ้ากือนาได้มีพระราชดำริให้สร้างวัด ณ จุดที่ช้างแวะพักเพื่อเป็นอนุสรณ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ วัดผาลาด หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดสกทาคามี ซึ่งเป็นหนึ่งในสามวัดที่สร้างขึ้นตามรอยเส้นทางเสี่ยงทายพระบรมสารีริกธาตุ ชื่อเดิมของวัดคือ ผะเลิด เนื่องจากผู้คนที่เดินตามช้างมาตามลำธารน้ำตกเกิดลื่นหกล้มกันหลายคน บ้างก็ว่าช้างก็ลื่นเช่นกัน ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็น ผาลาด ตามลักษณะของผาน้ำตกที่ลาดชัน วัดผาลาดเคยเป็นวัดร้างและได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในราว พ.ศ. 2534 เพื่อให้มีสถานภาพเป็นวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรมอีกครั้ง แม้กระทรวงศึกษาธิการจะเคยประกาศยกเลิกสถานะวัดไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2524 แต่ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์และคุณค่าทางจิตใจ ทำให้วัดแห่งนี้ได้รับการฟื้นฟูและเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน ภายในวัดผาลาดมีโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างที่สำคัญหลายจุด ซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและศิลปะอันงดงาม ได้แก่ เจดีย์ : เป็นเจดีย์โบราณที่ถูกปกคลุมด้วยมอสและเฟิร์นสีเขียวดูชุ่มชื้น องค์เจดีย์เป็นศิลปะแบบพม่า สร้างโดยช่างชาวพม่าในสมัยครูบาศรีวิชัย สันนิษฐานว่ารูปทรงน่าจะคล้ายกับเจดีย์ที่วัดมหาวัน ถนนท่าแพ เชียงใหม่ เจดีย์องค์นี้เคยถูกขุดเจาะนำของสำคัญออกไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ยอดเจดีย์พังลงมา และได้รับการบูรณะให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดังที่เห็นในปัจจุบัน วิหาร : สร้างขึ้นในสมัยครูบาศรีวิชัยสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ โดยเลี่ยงจากฐานวิหารเดิมมาทางทิศใต้ เพื่อไม่ให้ฐานซ้อนที่กัน มีสล่า (ช่าง) เป็นชาวพม่า ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของครูบาเทิ้ม วัดแสนฝาง และครูบาสิทธิ วัดท่าสะต๋อย ด้านหน้าบันวิหารแกะสลักเป็นรูปนกยูง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพม่า ส่วนด้านหลังแกะเป็นรูปกระต่าย อันเป็นปีเกิดของครูบาเทิ้ม บ่อน้ำ : บ้างก็บอกว่าเป็นบ่อน้ำทิพย์ จากการสังเกตพบว่ามีการสร้างบูรณะขึ้นหลายครั้ง สันนิษฐานว่าครั้งแรกสร้างขึ้นร่วมสมัยกับการอัญเชิญพระธาตุขึ้นประดิษฐานบนดอยสุเทพของพระเจ้ากือนา เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ และเป็นวิธีการกรองน้ำของคนโบราณ พระพุทธรูปหน้าผา : เดิมเป็นหอพระพุทธรูปที่สวยงามมาก มีผู้เล่าว่าสมัยก่อนพระที่อยู่หน้าผาเป็นพระศิลปะแบบเชียงแสน และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งเรียกว่า “พระไล่กา” (เหตุที่ได้ชื่อเช่นนี้ เพราะว่าอีกาไม่สามารถบินผ่านวัดขึ้นไปได้) ภายหลังมีชาวบ้านขึ้นมาหลบภัยสงครามอยู่ ณ ถ้ำผาลาด จึงพากันสร้างพระพุทธรูปไว้สักการะและป้องกันภัย วิหารพระเจ้ากือนา : ปัจจุบันเห็นเพียงแนวอิฐอยู่ข้างลำธาร ตรงฐานพระประธาน ได้มีการสร้างศาลาครอบเอาไว้ และวัดกำลังปรับภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวเพื่อให้เป็นสถานที่นั่งปฏิบัติธรรม วิหารวัดสามยอบ และม่อนภาวนา : ปัจจุบันเห็นเพียงเนินดินสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร กว้างประมาณ 20 x 40 เมตร มีอิฐและลวดลายปูนปั้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณด้านหน้าวิหารมีร่องรอยของสระน้ำอยู่ บรรยากาศภายในวัดผาลาดเต็มไปด้วยความเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นตามธรรมชาติ บางส่วนได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อความสวยงาม และยังคงได้ยินเสียงสายน้ำที่ไหลเอื่อย ๆ ช่วยเพิ่มความรู้สึกสงบทั้งร่างกายและจิตใจ วัดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและการเดินป่า วัดผาลาดเป็นจุดเริ่มต้นของ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่เชื่อมต่อไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพ รวมระยะทางไปกลับประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางโบราณที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและโบราณสถานสำคัญตลอดเส้นทาง นับเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสงบและธรรมชาติอย่างแท้จริง วัดผาลาด (สกทาคามี) เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดผาลาด - สกทาคามี วัดผาลาด (สกทาคามี) เป็นอีกหนึ่งสมบัติทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เชื่อมโยงกับการสร้างพระธาตุดอยสุเทพ สถาปัตยกรรมแบบล้านนา-พม่าที่งดงาม และบรรยากาศอันเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลบหนีจากความวุ่นวายของเมือง มาหาความสงบทางใจ ศึกษาประวัติศาสตร์ล้านนา หรือเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติใกล้ชิดความสงบที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขาบนดอยสุเทพ หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง +++ 50 ที่เที่ยวเชียงใหม่ ฉบับอัปเดต ไปไหว้พระ ชมธรรมชาติ ยลวิถีชุมชน +++ 15 วัดดังเชียงใหม่ สายมูต้องเช็กอิน ปี 2568 เสริมดวงดีไม่มีสะดุด +++ ไหว้พระ 9 วัด เชียงใหม่ เสริมสิริมงคลให้ชีวิต +++ 25 วัดเชียงใหม่ ชวนเที่ยวเชียงใหม่ ไหว้พระทำบุญ เสริมดวง ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก วัดผาลาด - สกทาคามี, เทศบาลเมืองสุเทพ, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย Doi Suthep-Pui National Park ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Maymei Maythinee
แสดงความคิดเห็น