ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ เตรียมพุ่งสูงสุดในคืนวันแม่ 12 สิงหาคมนี้ เรียนรู้เบื้องหลังปรากฏการณ์ดาราศาสตร์สุดพิเศษ พร้อมคำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการดูดาว อย่างถูกวิธี ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ฝนดาวตกวันแม่ เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งปี วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ จากเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ มาฝากกันสำหรับคนที่ต้องการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการรับชมความมหัศจรรย์ของดาวตกนี้ในคืนวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ! ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ (Perseids Meteor Shower) คือปรากฏการณ์ที่เกิดจากเศษฝุ่นและซากของดาวหางสวิฟต์-ทัตเทิล (109P/Swift-Tuttle) ที่เหลือทิ้งไว้ตามแนววงโคจร เมื่อโลกโคจรเคลื่อนที่ผ่านบริเวณที่มีเศษฝุ่นเหล่านี้ แรงโน้มถ่วงของโลกจะดึงดูดเศษฝุ่นเข้ามาในชั้นบรรยากาศ เศษฝุ่นเหล่านี้จะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศและเกิดการลุกไหม้เป็นแสงสว่างวูบวาบที่เราเห็นเป็นดาวตกบนท้องฟ้านั่นเอง ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์มีลักษณะเด่นคือดาวตกสีเขียวสดใสจากองค์ประกอบของแมกนีเซียม ส่วนชื่อของฝนดาวตกนี้มาจากกลุ่มดาวเพอร์เซออัส (Perseus) ซึ่งเป็นทิศทางที่ดูคล้ายว่าฝนดาวตกจะพุ่งออกมาจากกลุ่มดาวดังกล่าว ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ เป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างเป็นอันดับสองรองจากฝนดาวตกลีโอนิดส์ สามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม (ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม - 24 สิงหาคม) ของทุกปี โดยในปี 2568 คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์จะพุ่งสูงสุดในช่วงค่ำคืน วันที่ 12 สิงหาคม จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 13 สิงหาคม โดยมีอัตราการตกสูงสุดประมาณ 60-100 ดวงต่อชั่วโมง สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับชมฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์คือ ช่วงหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตี 3 เนื่องจากเป็นช่วงที่ไม่มีแสงจันทร์รบกวน ทำให้มองเห็นดาวตกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับการชมให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกสถานที่ที่ห่างไกลจากแสงรบกวนในเมือง เช่น ชนบท หรือบริเวณที่มืดสนิท และนอนชมด้วยตาเปล่าเพื่อเปิดมุมมองการมองเห็นให้กว้างที่สุด ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ ได้รับการขนานนามว่า ฝนดาวตกวันแม่ เนื่องจากช่วงเวลาที่ปรากฏการณ์นี้พุ่งถึงจุดสูงสุดมักจะตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติของประเทศไทยพอดี ทำให้ประชาชนชาวไทยหลายคนคุ้นเคยและจดจำปรากฏการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี เลือกสถานที่ : หาสถานที่ที่มืดสนิท ห่างไกลจากมลภาวะทางแสงในเมือง ปรับสายตา : ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที เพื่อให้ดวงตาปรับตัวเข้ากับความมืดก่อนเริ่มสังเกตการณ์ อดทนรอ : ดาวตกอาจไม่ได้ปรากฏขึ้นทันที แต่การรอคอยจะคุ้มค่า มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : จุดกระจายตัวของฝนดาวตกอยู่ในกลุ่มดาวเพอร์เซออัส บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอนชม : การนอนราบจะช่วยให้มองเห็นท้องฟ้าได้กว้างขึ้น ตรวจสอบสภาพอากาศ : ในช่วงเดือนสิงหาคมประเทศไทยอยู่ในฤดูฝน หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย อาจพลาดการชมปรากฏการณ์ในปีนี้ แต่ก็สามารถรอชมได้ในปีถัดไป เพราะฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี นอกจากฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์แล้ว ในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 ยังมีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน : ดาวเสาร์เคียงดวงจันทร์ ที่เราสามารถชมดาวเสาร์อยู่ใกล้ดวงจันทร์ทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 21.20 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2568 ถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 สิงหาคม 2568 และ ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี ทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 03.40 น. จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ดวงอาทิตย์ตั้งฉากประเทศไทย ครั้งที่ 2 วันที่ 16 สิงหาคม ดาวพุธอยู่ห่างดวงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันตกมากที่สุด ทางทิศตะวันออก โดยสามารถชมได้ตั้งแต่เวลา 04.50 น. จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ หรือฝนดาวตกวันแม่ เป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกทุกปี โดยมีกำหนดพุ่งสูงสุดในคืนวันแม่ 12 สิงหาคมนี้ หากสภาพอากาศเป็นใจ อย่าลืมออกไปชมฝนดาวตกเพื่อเติมเต็มความสุขในโอกาสสำคัญนี้กันนะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติหมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์น่าติดตามปี 2568 รวมไว้ให้แล้ว เปิดพิกัด 18 เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด พื้นที่ดูดาวแห่งใหม่ในไทย ปี 2567 พิกัด 10 สถานที่ดูดาว ชมความแพรวพราวยามค่ำคืนจากทั่วไทย แจกพิกัด 18 สถานที่ดูดาวแห่งใหม่จากทั่วไทย ไปชมความงามยามค่ำคืนกัน ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ, science.nasa.gov, nhm.ac.uk, narit.or.th
แสดงความคิดเห็น