Jurassic World: The Experience นิทรรศการจากภาพยนตร์ชื่อดัง เปิดให้ชมครั้งแรกในไทยที่ เอเชียทีค กรุงเทพฯ แฟนไดโนเสาร์และ Jurassic Park / World ไม่ควรพลาด ถ้าคุณเคยฝันอยากเดินท่ามกลางไดโนเสาร์เหมือนในหนัง Jurassic World ความฝันนั้นใกล้เป็นจริงแล้ว ! นิทรรศการระดับโลก Jurassic World: The Experience เปิดให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์สุดตื่นตาตื่นใจเป็นครั้งแรก ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เราเพิ่งไปมาแบบครบทุกโซน เลยอยากชวนทุกคนไปดูรีวิวเต็ม ๆ ว่าในงานมีอะไรบ้าง ได้เจอไดโนเสาร์ตัวไหน ใครกำลังวางแผนไปหรือยังลังเล ลองอ่านรีวิวนี้ก่อนตัดสินใจได้เลย แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น (AWC) จับมือกับสองพันธมิตรระดับโลกอย่าง NEON และ Universal Destinations & Experiences เปิดตัว Jurassic World: The Experience ครั้งแรกในไทย ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น พร้อมการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อผลักดันกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก โดยงานเปิดตัวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 และด้วยพื้นที่จัดแสดงกว่า 10,000 ตร.ม. Jurassic World: The Experience ไม่ใช่เพียงนิทรรศการ แต่เป็นประสบการณ์อิมเมอร์ซีฟเต็มรูปแบบที่เชื่อมโยงความบันเทิงกับการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ผ่านโซนไดโนเสาร์เสมือนจริง ร้านอาหารธีมจูราสสิค และกิจกรรมสำหรับครอบครัวในพื้นที่ริมแม่น้ำ โดยทั้งหมดนี้พัฒนาภายใต้แนวคิด Building Better Future For All ที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของ AWC ในการสร้างจุดหมายปลายทางแห่งอนาคตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ การจัดแสดงครั้งนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะถอดแบบบรรยากาศจากภาพยนตร์มาอย่างละเอียด ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินผ่าน "ประตู Jurassic" อันเป็นสัญลักษณ์ บอกเลยว่าได้ฟีลเหมือนเข้าไปอยู่ในหนังจริง ๆ ทั้งแสง เอฟเฟกต์เสียง และหมอกที่ลอยเอื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความลึกลับและตื่นเต้น ก่อนที่เราจะเข้าสู่การผจญภัยแบบเต็มรูปแบบในพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ที่แบ่งออกเป็น 10 โซนหลัก ซึ่งแต่ละโซนมีเรื่องราวต่อเนื่องกัน เหมือนเดินอยู่ในเกาะ Isla Nublar เลยทีเดียว โซนแล็บทดลอง - จุดเริ่มของทุกชีวิต บริเวณนี้เราจะได้เห็นกระบวนการคืนชีพไดโนเสาร์ด้วยเทคโนโลยีพันธุกรรมสุดล้ำ มีกระจกใสให้มองเข้าไปเห็นไข่ฟักตัว และฉากจำลองที่เหมือนหลุดมาจากหนังทุกประการ โซนฝึก Velociraptor - แรปเตอร์สายพันธุ์นักล่า บอกเลยว่าตื่นเต้นสุด ๆ กับโชว์ฝึกเจ้าแรปเตอร์ ที่ทั้งฉลาด ดุ และเคลื่อนไหวได้สมจริงมาก แบบ animatronics ทุกชิ้นดูมีชีวิตจริง ๆ แถมยังมีเสียงร้องและการตอบสนองต่อคนฝึกอีกด้วย โซนป่า - บุกเข้าใจกลางเกาะ เราจะเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางป่า เจอทั้ง Stegosaurus, Brachiosaurus และไดโนเสาร์สายพันธุ์อื่น ๆ ที่ใหญ่โตและเคลื่อนไหวสมจริงแบบใกล้ชิดมาก (ใกล้จนต้องเผลอถอย) พร้อมเอฟเฟกต์ธรรมชาติและเสียงพื้นหลังที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่า โซน Crisis - หลบหนีจาก T-Rex ซีนพีคที่สุดคือการเจอกับเจ้า T-Rex ที่ใหญ่และน่าเกรงขามแบบบ้าคลั่ง เสียงคำรามสั่นสะเทือนใจ แถมมีช่วงที่เหมือนเราต้องรีบหนีตายไปยังบังเกอร์ เรียกได้ว่า adrenaline พุ่ง ! จุดถ่ายรูปสุดปัง ตลอดเส้นทางจะมีจุดถ่ายภาพ themed มากมาย ทั้งหน้าประตู Jurassic, ไดโนเสาร์ตัวโปรด หรือแม้แต่แล็บทดลอง ทุกจุดคือถ่ายออกมาแล้วเท่มาก พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยแนะนำมุมถ่ายตลอดทาง ช้อปปิ้งที่ Jurassic World Retail Store ร้านของที่ระลึกตกแต่งในธีมบังเกอร์นิรภัย มีทั้งเสื้อ ของสะสม โมเดล ฟอสซิลจำลองแบบพรีเมียม และสินค้าที่ระลึกธีมไดโนเสาร์เหมือนในหนัง พร้อมกะโหลกฟอสซิล T-Rex ให้ถ่ายรูป เหมาะซื้อกลับไปเป็นของขวัญหรือของสะสมสุดเท่ เติมพลังที่ Fossil & Flame Restaurant ห้องอาหารธีม Jurassic World บนดาดฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศแบบเกาะไดโนเสาร์ มีเมนูแนะนำคือ Tree Top Nacho Tower หอคอยนาโช่กรอบท็อปด้วยชีสและซัลซ่า และ Molten Chocolate Egg ช็อกโกแลตเอ้กลาวาเสิร์ฟพร้อมบราวนี่และไอศกรีมวานิลลา ที่ตกแต่งมาอย่างครีเอทีฟ ก่อนกลับอย่าลืมแวะไปที่ Hatch Dome โดมอินเตอร์แอ็คทีฟขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับ Jurassic World: The Experience ซึ่งจัดเต็มด้วยเทคโนโลยี Liminal Space 4D ให้ได้เรียนรู้ผ่านความรู้สึกกับแนวคิด Better World Better Future ที่ผสานความบันเทิงเข้ากับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีร้าน The Gallery: Art of Giving ให้เลือกช้อปของคราฟต์เก๋ ๆ จากศิลปินชุมชนด้วยนะ สถานที่ : เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (โกดัง 5) ใกล้ชิงช้าสวรรค์ วันที่ : เริ่ม 8 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป เวลาเปิดทำการ : ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. (รอบสุดท้าย เวลา 21.00 น. เวลาในการให้บริการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เช่น วันหยุดพิเศษหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์) จองบัตรออนไลน์ได้ที่ : jurassicworldexperience.com ราคาบัตรงาน Jurassic World: The Experience แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ Off-Peak : วันจันทร์-ศุกร์ (ก่อน 16.00 น.) - บัตรเด็ก 579 บาท (อายุ 3-10 ขวบ) - บัตรผู้ใหญ่ 769 บาท (อายุ 11 ปีขึ้นไป) Peak : วันจันทร์-ศุกร์ (เวลา 16.00-21.00 น.), วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ - บัตรเด็ก 789 บาท (อายุ 3-10 ขวบ) - บัตรผู้ใหญ่ 989 บาท (อายุ 11 ปีขึ้นไป) ทั้งนี้ ผู้เข้าชมที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป โดยรถยนต์ส่วนตัว ปักหมุด Asiatique The Riverfront (โกดัง 5) บน Google Maps มีที่จอดรถของเอเชียทีคบริเวณลานจอดที่ 1, 2 และ 3 (แนะนำไปช่วงเช้า-บ่ายต้น ๆ เพื่อหาที่จอดง่าย) โดยรถไฟฟ้า BTS นั่งรถไฟฟ้าลงที่สถานีสะพานตากสิน ตัวเลือกที่ 1 - เดินไปที่ทางออก 3 และเดินต่อไปขึ้นเรือหรือรถตู้บริการรับ-ส่งฟรี - เรือรับ-ส่ง เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 16.00-23.30 น. (เรือออกทุก ๆ 25- 30 นาที) - รถตู้รับ-ส่ง เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00-19.00 น. (รถตู้ออกทุก ๆ 25- 30 นาที) ตัวเลือกที่ 2 - ออกที่ทางออก 1 เพื่อต่อรถแท็กซี่ โดยรถประจำทาง สายที่ผ่าน เช่น 1, 15, 75 และ 504 (ลงถนนเจริญกรุง ใกล้ซอย 72) อีเมล : jwebkk@assetworldcorp-th.com เว็บไซต์ : www.jurassicworldexperience.com/th เฟซบุ๊ก : Jurassic World: The Experience (Bangkok) อินสตาแกรม : jurassicworldexperiencebkk บอกเลยว่าการเดินชม Jurassic World: The Experience ได้สัมผัสกับโลกยุคไดโนเสาร์แบบใกล้ชิดมาก ๆ มีทั้งความรู้ ความบันเทิง จุดถ่ายภาพสวย ๆ และของที่ระลึกน่ารัก ๆ ด้วย ใครชอบไดโนเสาร์หรืออยากหากิจกรรมใหม่ ๆ ในกรุงเทพฯ ลองไปดูได้ หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ยุคใหม่ไดโนเสาร์เริ่มต้นแล้ว ! Jurassic World: Rebirth การกลับมาของสายพันธุ์ล้านปี ส่องสายพันธุ์ไดโนเสาร์ Jurassic World: Rebirth ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ มีอะไรบ้าง Jurassic World: The Experience นิทรรศการไดโนเสาร์ที่เอเชียทีค กรุงเทพฯ เปิดพิกัดตามรอย Jurassic World: Rebirth เที่ยวไทยให้เหมือนอยู่ในโลกจูราสสิก
แสดงความคิดเห็น