โลกยุคดึกดำบรรพ์กำลังฟื้นคืนชีพ Jurassic World: The Experience พร้อมเปิดให้สัมผัสแล้วที่เอเชียทีค พบไดโนเสาร์เสมือนจริงและฉากสุดอลังจากภาพยนตร์ สิงหาคมนี้ ไดโนเสาร์กำลังจะบุกกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อมกับ Jurassic World: The Experience นิทรรศการสุดอลังการจากภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่จักรวาล Jurassic World แบบอินเตอร์แอ็คทีฟเต็มรูปแบบ พบกับฉากจำลองสุดสมจริง ไดโนเสาร์แอนิเมทรอนิกส์ขนาดเท่าของจริง และภารกิจผจญภัยที่น่าตื่นเต้นรอให้คุณสัมผัสครั้งแรกของประเทศไทย ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ จะมีรายละเอียดอย่างไร ไปติดตามกันเลย Jurassic World: The Experience นิทรรศการระดับโลกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Jurassic World ที่หลายคนหลงรัก โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้พื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร บริเวณ Asiatique The Riverfront Destination ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวนิทรรศการถูกออกแบบให้เป็นประสบการณ์อินเตอร์แอ็คทีฟสุดอลัง ผู้เข้าชมจะได้ดื่มด่ำกับฉากจำลองเสมือนจริง พร้อมฝูงไดโนเสาร์แอนิเมทรอนิกส์ขนาดเท่าของจริง พาคุณหลุดเข้าไปในโลกของ Isla Nublar อย่างแท้จริง Jurassic World: The Experience มีกำหนดเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป โดยเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. (รอบสุดท้ายเข้าได้ถึง 21.00 น.) และใช้เวลาชมประมาณ 60-90 นาทีต่อรอบ นิทรรศการ Jurassic World: The Experience แบ่งออกเป็น 10 โซนที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดังนี้ Origins of Wonder ต้นกำเนิดแห่งความมหัศจรรย์ของเกาะอิสลา นูบลาร์ ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งผ่านภาพและเสียงสมจริง Arrival at Isla Nublar เดินทางสู่เกาะอิสลา นูบลาร์ กับประตูทางเข้า Jurassic World อันเป็นเอกลักษณ์ที่ตั้งตระหง่านต้อนรับทุกคนเข้าสู่โลกไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ A Close Encounter with Giants เผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่แห่งโลกล้านปีเหนือยอดไม้สูงเสียดฟ้า สัมผัสช่วงเวลาสุดระทึกเมื่อได้เผชิญหน้ากับ บราคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ร่างยักษ์ที่เคลื่อนไหวท่ามกลางสายหมอก เบื้องล่างยังมีแขกพิเศษอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่พร้อมปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาการให้อาหาร The Petting Zoo สัมผัสไดโนเสาร์รุ่นเยาว์ตั้งแต่ลูกไดโนเสาร์ที่กำลังทดสอบความแข็งแรงของตัวเอง ไปจนถึงเจ้าตัวน้อยขี้เล่นวัยอยากรู้อยากเห็นที่กำลังเรียนรู้โลกใบใหม่ ประสบการณ์เข้าสู่ความมหัศจรรย์ของ Jurassic World The Predator Pavilion ดินแดนนักล่าดึกดำบรรพ์ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดเมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่ของเหล่านักล่าแห่งโลกล้านปี ดินแดนของไดโนเสาร์กินเนื้อที่น่าเกรงขามที่สุดของ Jurassic World เผชิญหน้ากับ เวโลซีแรปเตอร์ (Velociraptor) The Observation Deck จุดชมวิว หอสังเกตการณ์ไฮเทคค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ป่าดงดิบหนาทึบ ที่ซึ่ง อินโดไมนัส เร็กซ์ (Indominus rex) นักล่าสุดอันตราย กำลังเคลื่อนไหวและเฝ้ามอง A Fight for Survival ผจญภัยเพื่อเอาชีวิตรอด เสียงสัญญาณเตือนดังทั่วผืนป่า ในขณะที่คุณกำลังเดินลัดเลาะผ่านช่องทางซ่อมบำรุงแคบ ๆ และเผชิญหน้ากับ คาร์โนทอรัส (Carnotaurus) Lost in the Jungle หลงในป่าดงดิบ ลัดเลาะเอาชีวิตรอดจนมาสู่ใจกลางป่าดงดิบ พบกับเศษซากจากอดีตกับป้าย Jurassic Park ที่หลงเหลืออยู่ และรถจี๊ปที่ถูกเถาวัลย์ปกคลุมจนเกือบมิด จนกระทั่ง ไดโลโฟซอรัส (Dilophosaurus) ก้าวออกมาพร้อมกับแผงคอสีสันสดใส Caged Up กรงปริศนา กรงนกยักษ์สูงเสียดฟ้าปรากฏอยู่เบื้องหน้า เผชิญหน้า เทอราโนดอน (Pteranodon) ที่พุ่งชนผนังกรง ขณะที่ สไตกิโมล็อค (Stygimoloch) ยืนจ้องมองผู้มาเยือน The Final Escape การหลบหนีครั้งสุดท้ายในห้องวิจัยที่ดูปลอดภัยได้เพียงไม่นาน เจอกับเสียงฝีเท้าของ ทีเร็กซ์ (T. rex) กำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้ามา ส่งเสียงคำรามไปทั่วป่า ก่อนที่ประตูทางออกจะปิดลงทันเวลาอย่างหวุดหวิด นอกจากโลกไดโนเสาร์สุดอลัง ยังมีจุดกิจกรรมเสริมที่น่าสนใจ ได้แก่ ร้านขายของที่ระลึก Jurassic World: The Experience Retail Store : เลือกซื้อของที่ระลึกและสินค้าลิขสิทธิ์แท้เฉพาะของ Jurassic World ภายในร้านค้าออกแบบมาในธีมพื้นที่หลบภัยในโลกยุคดึกดำบรรพ์ พร้อมพบกับอีกหนึ่งไฮไลต์สุดพิเศษอย่างกะโหลกฟอสซิลของทีเร็กซ์ ถือเป็นจุดหมายสุดท้ายของการผจญภัยในโลกจูราสสิค ที่ซึ่งเรื่องราวจบลง The Experience Hatch Dome : พื้นที่อินเตอร์แอ็คทีฟที่รวมร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก Jurassic World: The Experience Retail Store และนิทรรศการด้านความยั่งยืนแบบ 4D จาก AWC ภายใต้แนวคิด “Better World, Better Future” The Experience Fossil & Flame Restaurant : ห้องอาหาร Jurassic World แห่งแรกนอกธีมพาร์ค ซึ่งผสานเรื่องเล่าจากภาพยนตร์เข้ากับประสบการณ์การรับประทานอาหาร กับเมนูและบรรยากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจักรวาล Jurassic World ราคาบัตรงาน Jurassic World: The Experience แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ 1. Off-Peak : วันจันทร์-ศุกร์ (ก่อน 16.00 น.) บัตรเด็ก 579 บาท (อายุ 3-10 ขวบ) บัตรผู้ใหญ่ 769 บาท (อายุ 11 ปีขึ้นไป) 2. Peak : วันจันทร์-ศุกร์ (เวลา 16.00-21.00 น.), วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ บัตรเด็ก 789 บาท (อายุ 3-10 ขวบ) บัตรผู้ใหญ่ 989 บาท (อายุ 11 ปีขึ้นไป) หมายเหตุ : ผู้เข้าชมที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป Jurassic World: The Experience จัดที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เช่น รถไฟฟ้า BTS : ลงที่สถานีสะพานตากสิน และเดินทางด้วยวิธีต่อไปนี้ เรือรับ-ส่ง เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 16.00-23.30 น. (เรือออกทุก ๆ 25-30 นาที) รถตู้รับ-ส่ง เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00-19.00 น. (รถตู้ออกทุก ๆ 25-30 นาที) ต่อรถแท็กซี่ ต่อรถเมล์ สาย 1, 4-68, 15, 17, 22 หรือ 75 หรือหากใครที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมาก็มีบริการที่จอดรถ บริเวณลานจอดรถรอบโครงการเอเชียทีคฯ ลานจอดที่ 1-3 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Jurassic World: The Experience (Bangkok) หรือเฟซบุ๊ก Asiatique The Riverfront Destination หากคุณคือแฟนพันธุ์แท้ Jurassic World หรือใฝ่ฝันอยากเห็นไดโนเสาร์ตัวจริงใกล้ ๆ นี่คือโอกาสครั้งสำคัญในไทยที่จะได้สัมผัสประสบการณ์สุดยิ่งใหญ่ระดับโลก ณ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ Jurassic World: The Experience เอเชียทีค เตรียมพบความตื่นเต้นไม่รู้ลืม พร้อมเพื่อนและครอบครัว แล้วมาร่วมผจญภัยในโลกล้านปีไปด้วยกัน
แสดงความคิดเห็น