สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ณ ท้องสนามหลวง อัญเชิญมาถึงประเทศไทยวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ร่วมกราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ หรือ พระเขี้ยวแก้ว จากประเทศจีน มาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่งในชีวิต และเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ใกล้ชิดกับพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระพุทธองค์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตและสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก พระลาน เชิญชวนประชาชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 - 14 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. *** วันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น. รัฐบาลได้จัดให้มีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ไปยังท้องสนามหลวง สำหรับโอกาสนี้ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว เป็นการดำเนินการเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 รัฐบาลจีนให้รัฐบาลไทยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาสู่ประเทศไทยในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 และจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) กลับสู่สาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 พระเขี้ยวแก้ว วัดหลิงกวง ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่สำคัญของพระพุทธศาสนา เชื่อว่าเป็นฟันของพระพุทธเจ้า ซึ่งถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1955 ภายในเจดีย์โบราณใกล้เมืองซีอาน และถูกนำมาประดิษฐานในอาคารพิเศษที่วัดหลิงกวง วัดนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและบรรยากาศที่สงบงดงาม พระเขี้ยวแก้วเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วโลกที่เดินทางมาสักการะและแสวงบุญเพื่อแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า สำหรับการเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ณ ท้องสนามหลวง สามารถเดินทางมาด้วยรถสาธารณะ ซึ่งทั้ง ขสมก. และกรมเจ้าท่า อำนวยความสะดวกประชาชนไว้อย่างเรียบร้อย ดังนี้ กรมเจ้าท่า จัดเรือข้ามฟากจากฝั่งธนบุรีมาฝั่งพระนคร ในเส้นทางท่าเรือวัดระฆังฯ - ท่าเรือวัดอรุณฯ - ท่าเรือท่าช้าง ระหว่างวันที่ 5-11 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขสมก. จัดเดินรถโดยสารธรรมดาให้บริการประชาชน จำนวน 2 เส้นทาง (จอดรับ-ส่งทุกป้าย) 1. เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - สนามหลวง (จอดส่งใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร) เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ฯ - ถนนพญาไท - แยกพญาไท - ถนนศรีอยุธยา - วัดเบญจมบพิตรฯ - แยกกองทัพภาคที่ 1 - ถนนราชดำเนินนอก - ถนนราชดำเนินกลาง - สุดเส้นทางที่สนามหลวง (บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า) 2. เส้นทางวงเวียนใหญ่ - สนามหลวง (จอดส่งตรงข้ามศาลฎีกา) เริ่มตันจากวงเวียนใหญ่ - ถนนประชาธิปก - ข้ามสะพานพุทธ - ถนนมหาราช - ถนนสนามไชย - ถนนราชดำเนินใน - สุดเส้นทางที่สนามหลวง (ตรงข้ามศาลฎีกา) *** โดยท่าต้นทางเที่ยวแรก เวลา 07.00 น. และเที่ยวสุดท้าย เวลา 19.30 น., ท่าปลายทาง เที่ยวสุดท้าย เวลา 20.30 น. หรือจนกว่าผู้มาร่วมงานหมดพื้นที่ โดยจะมีรถบริการทุก ๆ 20 นาที ขอเชิญทุกคนร่วมสร้างบุญ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ณ ท้องสนามหลวง รับสิริมงคลสู่ชีวิตไปพร้อมกัน ^ ^ หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง +++ ไหว้พระ 9 วัด กรุงเทพฯ ตะลอนทัวร์ขอพรเสริมสิริมงคลตามย่านต่าง ๆ +++ แนะนำ 10 ทริป เที่ยวไหว้พระใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับ +++ ไหว้พระปีใหม่ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ เหนือจรดใต้ +++ สถานที่ไหว้พระกรุงเทพฯ แจกพิกัด 20 วัด ทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก พระลาน, เฟซบุ๊ก กระทรวงวัฒนธรรม, เฟซบุ๊ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, เฟซบุ๊ก 108Guide Travel
แสดงความคิดเห็น