หมู่เกาะสิมิลัน เปิดฤดูท่องเที่ยวแล้ว เริ่มตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2567 ไปแหวกว่ายน้ำทะเลใส ดูปะการังและสัตว์น้ำนานาชนิดกันเถอะ หมู่เกาะสิมิลัน พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิมิลัน จังหวัดพังงา ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของทะเลไทย ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาวสะอาด และแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งฤดูกาลท่องเที่ยวของสิมิลันกำลังเริ่มต้นอีกครั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 หลายคนคงจะเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติที่งดงามและสัตว์ทะเลหายากหลังจากช่วงปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางท้องทะเลสงบเงียบ งดงาม และสัมผัสกับโลกใต้น้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร (87,500 ไร่) ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2525 ทั้งนี้ คำว่า สิมิลัน เป็นภาษายาวี หรือมลายู แปลว่า เก้า โดยหมู่เกาะสิมิลันประกอบไปด้วยเกาะใหญ่น้อย 10 เกาะเรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ ได้แก่ เกาะหูยง (เกาะหนึ่ง), เกาะปายัง (เกาะสอง), เกาะปาหยัน (เกาะสาม), เกาะเมียง (เกาะสี่), เกาะห้า, เกาะหก, เกาะปายู (เกาะเจ็ด), เกาะสิมิลัน (เกาะแปด) ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดภายในอุทยานแห่งชาติสิมิลัน, เกาะบางู (เกาะเก้า) และเกาะบอน ต่อมาได้ผนวกพื้นที่ เกาะตาชัย เข้ามารวมอยู่ด้วย รวมเป็น 11 เกาะ ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกับความสวยงามของโลกใต้ทะเลได้ 6 เกาะ ส่วนเกาะที่เหลือทางอุทยานได้ทำการปิดไม่ให้เข้าชม เพราะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของสัตว์ทะเล อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ไม่ได้เปิดให้เข้าเที่ยวตลอดทั้งปี โดยจะมีช่วงเปิดฤดูท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 15 ตุลาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคมของทุก ๆ ปี และจะปิดฤดูท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม และหยุดเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู ถือเป็นกิจกรรมที่หลายคนไม่ควรพลาดกับการปีนขึ้นจุดชมวิวที่ชื่อว่า จุดชมวิวหินเรือใบ (Sliing Rock) ใครไม่ปีนก็เหมือนมาไม่ถึงหมู่เกาะสิมิลัน เพราะเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะสิมิลันและท้องทะเลไทยทางฝั่งอันดามัน โดยจุดชมวิวแห่งนี้จะอยู่ที่เกาะแปด ซึ่งเป็นเกาะที่เรือนำเที่ยวทุกลำต้องมาแวะที่เกาะแห่งนี้ ตรงนี้ระยะการเดินไม่ไกล แต่ต้องใช้ความใจเย็น เพราะทางสมบุกสมบัน มีความลาดชัน ต้องเกาะเชือกขึ้นไป เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วจะเจอกับจุดถ่ายรูปมากมายหลายมุมที่มองเห็นทั้งเกาะ ทะเล และน้ำใส ๆ ชวนให้ใจฟูสุด ๆ ไปเลย หมู่เกาะสิมิลัน เป็นหนึ่งในเกาะสวรรค์ของเหล่านักดำน้ำและผู้ที่หลงใหลในความงดงามของท้องทะเล เพราะมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ความสวยงามทั้งใต้น้ำและบนพื้นทรายและสัตว์ทะเลหายาก จนเรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 10 ของแหล่งดำน้ำลึกของโลกที่ต้องไปเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยมีจุดดำน้ำให้เลือกหลายจุด เช่น อ่าวเกือกม้า (Donald Duck Bay) : เป็นอ่าวรูปร่างคล้ายเกือกม้า ตรงปลายแหลมมีหินขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายเรือใบ เรียกว่า หินเรือใบ ใต้น้ำมีแนวปะการังและสัตว์น้ำหลากหลาย เช่น กุ้งมังกร กั้งกระดาน ปลานกแก้ว ปลาตาเดียว ฯลฯ ฝั่งตะวันออก : มีแนวปะการังขนานกับชายฝั่งจนถึงหัวเกาะ แต่ไม่อนุญาตให้เรือเข้าเทียบชายหาด การดำน้ำตื้นต้องเดินเท้าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติจากอ่าวเกือกไปเท่านั้น โดยใช้เวลา 1.30-2 ชั่วโมง และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ส่วนการดำน้ำลึก เรือสามารถจอดในที่ลึกได้ จุดที่นิยมคือ อ่าวกวางเอน (Beacon Reef) และ Beacon Point หินปูซาร์ (หินหัวช้าง, หินหัวกะโหลก, Elephant Head Rock) : เป็นกองหินพ้นน้ำที่มีหุบเหวใต้น้ำและโพรงถ้ำ ความลึก 20-50 เมตร สามารถพบฉลาม เต่าทะเล กระเบนราหู กั้งตั๊กแตน ปลาสากฝูงใหญ่ รวมถึงปลากบ เหมาะกับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์เนื่องจากมีกระแสน้ำแรง West of Eden : เป็นจุดดำน้ำลึกที่ดีมากอีกแห่ง เต็มไปด้วยสีสันทั้งจากปะการังอ่อน กัลปังหา ทากทะเลหลากชนิด ปลาวัวตัวตลก ส่วนในที่ลึกก็อาจเจอฉลามหูดำและฉลามครีบขาวได้ ส่วนปลากบ ปลาสาก ปลาทูน่า ก็มีโอกาสเจอได้ Deep Six : เป็นจุดดำน้ำลึกสำหรับผู้มีประสบการณ์ เนื่องจากน้ำค่อนข้างแรง ความลึกสูงสุด 40 เมตร ซึ่งในที่ลึกสามารถเจอฉลามครีบขาว ฉลามเสือดาว กระเบนจุดฟ้า เป็นจุดดำน้ำลึกที่น่าสนใจอีกแห่ง ขึ้นชื่อเรื่องฝูงปลาชุกชุม มีทากทะเลหลายชนิด มีโอกาสลุ้นเจอฉลามวาฬและกระเบนราหูดีกว่าที่อื่น คริสต์มาสพอยต์ : เป็นจุดดำน้ำลึก มีปะการังอ่อนและกัลปังหาขนาดใหญ่ ฝั่งตะวันออก : มีแนวปะการังแข็ง และเป็นจุดชมปลาไหลสวน ต้นไม้ 3 ต้น : เป็นแนวปะการังลาดชัน สามารถเจอฉลามเสือดาว รวมถึงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอย่างเช่น pygmy pipehorse อ่าวนำชัย : เป็นจุด Night Dive ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย เจอกุ้งผึ้งน้อย (Bubble Bee) ได้ไม่ยาก มีทากทะเลหลากหลายชนิด แม้นักท่องเที่ยวที่ดำน้ำตื้นก็สามารถเจอเต่าทะเลได้ง่าย ๆ ฝั่งตะวันออก : มีชายหาดและแนวปะการังสำหรับดำน้ำตื้น ฝั่งตะวันตก : มีกองหินใต้น้ำและปะการังขึ้นกระจัดกระจาย เหมาะสำหรับดำน้ำลึก มีปลาสวยงามหลายชนิด พบเจอเต่าทะเลได้ง่าย หินม้วนเดียว / สวนปลาไหล (Eel Garden, Anita’s Reef) : เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยปะการังอ่อนและกัลปังหา ปลาหลากหลายชนิด นับตั้งแต่พวกสีสันโดดเด่นไปจนถึงนักพรางตัว บนพื้นทรายมีปลาไหลสวนจำนวนมากจนได้ชื่อว่า สวนปลาไหล หาดหน้าและหาดเล็ก : เป็นจุดดำน้ำตื้น มีปะการังกระจายเป็นหย่อม มีปลาสวยงาม เช่น ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร รวมถึงทากทะเล Stonehedge : เป็นหินก้อนใหญ่ตั้งตระหง่าน กระแสน้ำค่อนข้างแรง ใต้น้ำมีหน้าผาและซอกหลืบให้ว่ายลอด มีสัตว์ที่น่าสนใจตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ อย่างปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ ไปจนถึงสัตว์ใหญ่อย่างฉลามเสือดาว ฉลามครีบขาว ฉลามหูดำ และถ้าโชคดีก็มีโอกาสเจอปลาโรนันได้ กำแพงเมืองจีน : เป็นจุดดำน้ำลึกที่เป็นแนวหินใต้น้ำทอดยาว มีปลาน่าสนใจหลายชนิด เช่น ปลาไหลริบบิ้นสีสด ปลาไหลมอร์เรย์หลายชนิด ปลายูนิคอร์นหัวโหนก ปลาวัวตัวตลก ฯลฯ แต่กระแสน้ำค่อนข้างแรง หินสันฉลาม, หินแพ (Shark Fin Reef, Hin phae) : เป็นหินใต้น้ำที่มีโอกาสเจอสัตว์ใหญ่ เช่น กระเบนราหู ฉลามเสือดาว ไปจนถึงปลานกแก้วหัวโหนก หรือปลานกขุนทองนโปเลียน แม้ว่าบางเกาะในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะมีหาดทรายที่ขาวนวลเนียนละเอียด แต่ส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมบนเกาะ เพราะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และวางไข่ของเต่าทะเล แต่มีเพียงเกาะแปด หรือเกาะสิมิลัน และเกาะสี่ หรือเกาะเมียง เท่านั้นที่มีหาดทรายให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นและนั่งพักผ่อนได้ โดยเฉพาะ หาดหน้า ที่อยู่บนเกาะสี่ จุดเด่นคือทรายละเอียดนุ่มเท้า เดินเล่นถ่ายรูปถ่ายคอนเทนต์ได้แบบชิล ๆ เลย แถมน้ำทะเลบริเวณนี้ก็ใสแจ๋ว มองเห็นพื้นทรายใต้น้ำเป็นทรายนวล ๆ สวยงามมาก นอกจากนี้หาดหน้าแห่งนี้ยังเป็นหาดที่มีความยาวที่สุดของหมู่เกาะสิมิลัน มีระยะทางประมาณ 400 เมตร สามารถเดินเล่นเพลิน ๆ ชมทะเลสวย ๆ ได้เลยชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 250 บาท บนเกาะสี่และเกาะแปดมีร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ และห้องน้ำ สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยว ในอดีต อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีเกาะที่อนุญาตให้สามารถไปพักค้างแรมกันได้คือ เกาะสี่และเกาะแปด โดยที่เกาะสี่จะมีเต็นท์และบ้านพักของอุทยานให้บริการ แต่ว่าไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำเต็นท์มากางนอนเอง ต้องเช่าเต็นท์ของอุทยานเท่านั้น และที่เกาะแปดจะไม่มีบ้านพัก แต่มีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวกางเต็นท์ ซึ่งสามารถนำเต็นท์มากางเองได้เลย แต่ในปัจจุบันได้มีการยกเลิกการนอนพักค้างแรมที่หมู่เกาะสิมิลัน เนื่องจากปะการังได้รับความเสื่อมโทรม และน้ำเสียที่มาจากการพักแรม แต่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวที่หมู่เกาะสิมิลันแบบไปเช้า-เย็นกลับได้ หรือหากต้องการค้างคืนจริง ๆ ก็สามารถเลือกโปรแกรมดำน้ำลึกแบบ Night Dive ซึ่งจะเป็นการนอนค้างแรมบนเรือได้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดพังงาได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถประจำทาง : เส้นทาง กรุงเทพฯ-พังงา มีให้บริการทุกวัน โดยจะออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ลงที่ปากทางท่าเรือทับละมุ และติดต่อบริษัททัวร์ให้มารับไปท่าเรือได้สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 2874 6122 และบริษัทเดินรถเอกชน บริษัท ลิกไนท์ทัวร์ จำกัด โทร. 0 2894 6151-2 สถานีพังงา ถนนเพชรเกษม (หลังธนาคารนครหลวงไทย) โทร. 0 2641 2300, 0 7641 2014 รถยนต์ ◇ เส้นทางแรก : จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง จากนั้นจึงเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดพังงา รวมระยะทาง 788 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 12 ชั่วโมง ◇ เส้นทางที่สอง : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึงจังหวัดชุมพร และจากจังหวัดชุมพรให้ตรงไปใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401 จนถึงอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 415 ผ่านอำเภอทับปุดเข้าสู่ตัวเมืองพังงา อย่างไรก็ตาม หากใครจะเดินทางโดยเครื่องบิน จังหวัดพังงาไม่มีสนามบิน แต่สามารถลงที่สนามบินระนอง หรือสนามบินภูเก็ต และต้องต่อรถตู้ไปที่ท่าเรือ ซึ่งท่าเรือที่ใช้เดินทางไปยังหมู่เกาะสิมิลัน คือ ท่าเรือทับละมุ และท่าเรือคุระบุรี โดยขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์ว่าจะขึ้นเรือที่ท่าไหน ส่วนเรือที่ให้บริการไปหมู่เกาะสิมิลันจะเป็นเรือสปีดโบ๊ท เนื่องจากเป็นหมู่เกาะที่อยู่ห่างไกล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ปัจจุบันการเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันจะเป็นแบบวันเดย์ทริป หรือไปเช้า-เย็นกลับเท่านั้น และต้องจองล่วงหน้า 1 วัน กับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจากทางอุทยาน ซึ่งบริเวณท่าเรือทับละมุ ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา จะมีบริษัททัวร์นำเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันให้เลือกมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน - Mu Ko Similan National park โทรศัพท์ 0 7645 3272 หมู่เกาะสิมิลัน หรืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลในฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะมีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำ อีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก จึงทำให้ หมู่เกาะสิมิลัน เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักดำน้ำทั้งชาวไทยและต่างชาติ ปัจจุบันการเดินทางไปเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันก็สะดวกสบาย มีบริษัทนำเที่ยวมากมายคอยให้บริการ ใครอยากไปชิลกับธรรมชาติที่สวยงามและโลกใต้น้ำที่สมบูรณ์ ก็จองตั๋วแล้วซื้อแพ็กเกจเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันกันได้เลย หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง +++ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา สวรรค์ของคนรักการดำน้ำ +++ พาไปตะลุย 10 ที่เที่ยวในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ +++ 12 แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เมืองที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี +++ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เที่ยวชมดินแดนแห่งป่าเกาะ น่าไปเยือน +++ 14 ทะเลพังงา ไม่ต้องนั่งเรือก็เที่ยวชิล ๆ ถ่ายรูปสวยได้เหมือนกัน +++ เสม็ดนางชี ที่เที่ยวอันซีนพังงา จุดชมวิวที่สวยจนคุณต้องร้องว้าวดัง ๆ +++ 15 เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ รู้ไว้จะได้เที่ยวเพลิน ๆ +++ ที่พักเกาะหลีเป๊ะ สตูล ดำน้ำดูปะการัง นอนฟังเสียงคลื่น พักผ่อนเพลิน ๆ ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน - Mu Ko Similan National park, สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
แสดงความคิดเห็น