ใครอยากไปเที่ยวเกาหลี ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เตรียมเช็กพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2024 แล้ววางแพลนเที่ยว แพ็กกระเป๋า เตรียมชุดและพร็อพต่าง ๆ ให้พร้อมได้เลย ฤดูใบไม้ร่วงที่เกาหลีใต้ ถือเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวต่างเฝ้ารอคอย โดยเฉพาะการชมความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี ที่แต่งแต้มธรรมชาติให้เต็มไปด้วยสีสันหลากหลาย ตั้งแต่สีแดง ส้ม และเหลืองที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีนั้นค่อนข้างสั้น การพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีจึงเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการวางแผนการเดินทางให้ตรงกับช่วงเวลาที่สวยที่สุด และปี 2024 เรามีข้อมูลการพยากรณ์การเปลี่ยนสีของใบไม้ในแต่ละพื้นที่ของเกาหลีใต้มาฝากกัน เพื่อช่วยให้การท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและประทับใจที่สุด ในปี 2024 เว็บไซต์ weatheri.co.kr ได้ประกาศพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการออกมาว่า ฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้มีแนวโน้มจะร่วงช้ากว่าปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากอุณหภูมิเฉลี่ยรายวันในเดือนกันยายนและตุลาคมของปีนี้ที่สูงกว่า โดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มเห็นใบไม้เปลี่ยนสีแรกในวันที่ 29 กันยายน ที่ภูเขาซอรัคซานในภาคกลาง ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม และที่ภูเขาจิริซานและภาคใต้ ระหว่างวันที่ 14-24 ตุลาคม โดยระยะห่างของใบไม้เปลี่ยนสีบนภูเขาซอรัคซานและดูรุนซานจะเริ่มแตกต่างกันประมาณ 1 เดือน สำหรับช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสูงสุด หรือเมื่อต้นไม้ใบไม้บนภูเขาทั้งลูกจะเปลี่ยนสีประมาณ 80% จะเกิดขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากใบไม้เปลี่ยนสีครั้งแรก เริ่มตั้งแต่วันที่ 17-20 ตุลาคม ในโอแดซานและซอรัคซาน ตั้งแต่วันที่ 28-30 ตุลาคม ในพื้นที่ภาคกลาง และตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน ในจิริซานและภาคใต้ ภูเขาซอรัคซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,708 เมตร) วันแรก : 29 กันยายน 2024 วันที่พีคสุด : 20 ตุลาคม 2024 ภูเขาโอแดซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,565 เมตร) วันแรก : 4 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 17 ตุลาคม 2024 ภูเขาบุกฮันซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 835 เมตร) วันแรก : 16 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 28 ตุลาคม 2024 ภูเขาวอรักซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,095 เมตร) วันแรก : 15 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 28 ตุลาคม 2024 ภูเขาซองนิซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,058 เมตร) วันแรก : 17 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 30 ตุลาคม 2024 ภูเขาคเยรยองซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร) วันแรก : 16 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 29 ตุลาคม 2024 ภูเขากายาซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,432 เมตร) วันแรก : 16 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 27 ตุลาคม 2024 ภูเขาแนจังซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 763 เมตร) วันแรก : 24 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 5 พฤศจิกายน 2024 ภูเขาจีริซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,915 เมตร) วันแรก : 14 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 23 ตุลาคม 2024 ภูเขามูดึงซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,186 เมตร) วันแรก : 21 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 4 พฤศจิกายน 2024 ภูเขาฮัลลาซาน (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,947 เมตร) วันแรก : 14 ตุลาคม 2024 วันที่พีคสุด : 28 ตุลาคม 2024 กรุงโซล เมืองยอดฮิตสำหรับคนที่วางแผนไปเที่ยวเกาหลี เพราะเป็นเมืองที่มีกิจกรรมมากมายให้ทำตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะได้ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งในกรุงโซลนั้นก็มีจุดสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีกระจายไปทั่วเมือง ยกตัวอย่างดังนี้ พระราชวังชางด็อกกุง และสวนฮูวอน : ตื่นตาตื่นใจไปกับความแตกต่างระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ในพระราชวังหลวงของกรุงโซลในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และชมความงามทางสุนทรียะที่เกิดจากสถาปัตยกรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม ผสมผสานกับความงามตามธรรมชาติของฤดูใบไม้ร่วงในเกาหลี ซึ่งพระราชวังทุกแห่งในกรุงโซลจะมีทิวทัศน์ของใบไม้ร่วงที่สวยงาม แต่สถานที่ที่อยากจะแนะนำในปี 2024 คือ สวนฮูวอน หรือสวนลับ (Secret Garden) ซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังชางด็อกกุง ถือเป็นแลนด์มาร์กจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี ภายในสวนมีบ่อน้ำที่สามารถมองเห็นใบไม้สีทองในฤดูใบไม้ร่วงสะท้อนในน้ำได้ และอย่าลืมเช่าชุดฮันบก หรือชุดประจำชาติเกาหลีแบบดั้งเดิม มาใส่ถ่ายรูปเก็บความประทับใจ เพราะนอกจากจะได้อินกับบรรยากาศและสถานที่แล้ว ยังจะได้รับสิทธิ์เข้าชมพระราชวังฟรีหากสวมชุดฮันบกด้วย หอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ : หอคอยใจกลางกรุงโซล เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินป่าและชมใบไม้เปลี่ยนสีในวันที่อากาศเย็นสบายในฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงชมทิวทัศน์ที่น่าประทับใจของเมืองหลวงของเกาหลีจากมุมสูง สำหรับเส้นทางนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางการเดินยอดฮิตของทั้งคนเกาหลีและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะจะได้เดินผ่านเส้นทางกำแพงหินเก่า ต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม ชมทิวทัศน์ของโซลจากข้างทาง หรือถ้าต้องการการเดินทางที่ง่ายและสะดวกกว่าก็สามารถนั่งกระเช้านัมซานขึ้นไปยังยอดเขา ซึ่งสามารถชมทิวทัศน์ระหว่างทางจากมุมสูงได้เช่นกัน มหาวิทยาลัยคยองฮี : เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่คนหนุ่มสาวในกรุงโซลชอบไปดูใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยสภาพพื้นที่เป็นเนินเขาปกคลุมด้วยป่าไม้ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นอาคารสไตล์ยุโรป เมื่อเดินไปตามถนนที่เรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยก็จะได้พบกับแนวของต้นเมเปิลที่ปลูกอยู่ด้านล่างสะพานหินและทางเดินในป่า ที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัยยังมีคาเฟ่และร้านอาหารให้บริการราคาประหยัดให้ได้นั่งชิล ๆ ชมวิวทิวทัศน์อันผ่อนคลายอีกด้วย สวนสาธารณะโซลแกรนด์ : ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ มีทั้งสวนสนุกโซลแลนด์ สวนสัตว์โซล สวนสัตว์เลี้ยง สวนหย่อม และทะเลสาบกลางที่รายล้อมไปด้วยทางเดินยาวเรียงรายไปด้วยต้นไม้ พร้อมสวนสาธารณะและม้านั่งขนาดเล็กสำหรับพักผ่อน เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่อยู่ห่างจากอาคารสูง สามารถสนุกสนานไปกับธรรมชาติและชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงในกรุงโซลได้ สวนสาธารณะโอลิมปิกโซล : เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเขต Songpa ของกรุงโซล ซึ่งเงียบสงบกว่าสวนสาธารณะอื่น ๆ เป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถเดินเล่นไปตามเส้นทางที่เหมือนเขาวงกตอย่างช้า ๆ พร้อมชมทัศนียภาพธรรมชาติตลอดทาง และสิ่งที่ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคือ การผสมผสานระหว่างการจัดแสดงดอกไม้ ทุ่งดอกหญ้าสีชมพู พิงค์ มูลลี่ (Pink Muhly Grass) และแถวต้นไม้ที่เรียงรายไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงวิวที่น่าประทับใจของหอคอยล็อตเต้เวิลด์ที่เป็นฉากหลัง สวนลอยฟ้าฮานึล : เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะริมแม่น้ำฮันที่สวยที่สุด และมีชีวิตชีวาขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงด้วยต้นกกสีเงินสูงใหญ่ (Eulalia) ที่ปกคลุมสวนสาธารณะบนยอดเขาอันกว้างใหญ่แห่งนี้ นอกจากนั้นสวนแห่งนี้ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่ทอดยาวสุดสายตาของแม่น้ำฮันและทุ่งดอกหญ้าสีชมพู พิงค์ มูลลี่ (Pink Muhly Grass) ฟรุ้งฟริ้ง หวานถูกใจสายธรรมชาติและสายดอกไม้แน่นอน นอกจากกรุงโซลแล้ว ยังมีจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอีกมากมายอยู่นอกเมือง โดยตั้งอยู่ในชนบทของเกาหลีที่ล้อมรอบเมืองหลวง และสามารถไปถึงได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง จากกรุงโซล โดยรถยนต์ รถทัวร์ หรือระบบขนส่งสาธารณะ เกาะนามิ : เป็นแลนด์มาร์กยอดฮิตติดอันดับความสวยงามทางธรรมชาติของประเทศเกาหลีใต้ สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือฤดูใบไม้ร่วง เพราะสองข้างทางของถนนจะเรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยที่ใบจะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีทองอร่าม และต้นเมเปิลที่ใบจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีแดง น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ถนนต้นแปะก๊วยแห่งอาซาน : ในเกาหลีมีต้นไม้สองต้นที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง คือ ต้นเมเปิลและต้นแปะก๊วย โดยถนนต้นแปะก๊วยแห่งอาซานจะเน้นปลูกต้นแปะก๊วยเป็นพิเศษ เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามถนนที่เรียงรายด้วยต้นแปะก๊วย มีใบไม้สีทองร่วงหล่นเหมือนเป็นพรมผืนหนาปูไปทั่วทั้งถนนเลย สวนพฤกษศาสตร์ฮวาดัม : เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่สวยงามและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใน Konjiam Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ตสกีและสปาที่ได้รับความนิยมใกล้กับโซล สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มีต้นไม้และพืชมากกว่า 4,300 ชนิด กระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 165,000 ตารางเมตร จึงเป็นสถานที่ที่น่าประทับใจสำหรับการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงในเกาหลี จุดเด่นอย่างหนึ่งของสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้คือ เส้นทางโมโนเรลผ่านเรือนยอดไม้ที่เขียวชอุ่ม ทำให้เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันน่าทึ่งของใบไม้ที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้ในระดับสายตา หมู่บ้านเกาหลีโบราณที่จอนจู : เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่นอกกรุงโซล มีบ้านฮันอก หรือบ้านโบราณของเกาหลีแบบดั้งเดิม มากกว่า 700 หลัง รวมถึงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ เช่น โบสถ์ Jeondong ภายในหมู่บ้านมีสถาปัตยกรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม ถนนกว้าง และต้นไม้มากมาย จึงทำให้ที่นี่สวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองแผ่ขยายไปทั่วหลังคาบ้านที่ปูด้วยกระเบื้องสีดำของอาคารฮันอกหลังเตี้ย ๆ หรือจะเดินขึ้นไปชมวิวที่จุดชมวิวบนยอดเขาโอโมกแด เพื่อดูวิวในมุมสูงก็ได้ และอย่าลืมเช่าชุดฮันบกเกาหลีเพื่อถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีแบบเกาหลีให้จุใจด้วย หลายคนมักจะเลือกช่วงเวลาฤดูใบไม้ร่วง หรือประมาณเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ให้เป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวเกาหลี เพราะเป็นช่วงที่สภาพอากาศดี เย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป รวมถึงมีมลพิษทางอากาศที่ต่ำกว่าฤดูอื่น ๆ นอกจากนี้ยังได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี ได้เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและผลผลิตสด ๆ รวมถึงมีเทศกาลและวันหยุดต่าง ๆ ในช่วงนี้ด้วย โดยสภาพอากาศของเกาหลีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะร้อนและชื้นในช่วงต้นเดือนกันยายน (30 องศาเซลเซียส) ส่วนอุณหภูมิในเดือนตุลาคมจะอยู่ระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส ในตอนกลางวัน แต่ในตอนกลางคืนอาจลดลงต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส และเดือนพฤศจิกายนจะหนาวเย็นกว่ามาก ไปจนถึงหนาวจัดในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน บางครั้งอาจจะเกิดพายุไต้ฝุ่นในเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งอาจทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เช่น อาจมีฝนตกหรือลมแรงในวันหนึ่งและหายไปในวันถัดไป เนื่องจากอุณหภูมิในฤดูใบไม้ร่วง หรือช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างมากตั้งแต่เช้าถึงกลางคืน จึงแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าที่เบากว่าสำหรับสวมใส่ในเวลากลางวัน และเตรียมเสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อสเวตเตอร์เนื้อบางเบาเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นหลังพระอาทิตย์ตกดินด้วย ในส่วนของรองเท้าควรเลือกเป็นรองเท้าธรรมดาสำหรับเดินเล่นในเมือง แต่หากต้องการชมใบไม้เปลี่ยนสีในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ควรสวมรองเท้าเทรนนิ่งหรือรองเท้าเดินป่าที่สวมใส่สบายในภูมิประเทศที่ขรุขระ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลี ถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าไปเที่ยว ใครที่อยากไปชมความสวยงามตระการตาของธรรมชาติ อย่าลืมวางแผนกันให้ดี ๆ ก่อนจะจองตั๋วไปเที่ยวเกาหลีกันนะ หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง +++ จัดเต็มที่เที่ยวเกาหลีใต้ 2024 เก็บครบทั้งแลนด์มาร์กและที่เที่ยวใหม่มาแรง +++ วิธีลงทะเบียนระบบ K-ETA เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปเที่ยวเกาหลีใต้ +++ 12 เรื่องควรรู้ เที่ยวเกาหลีใต้ครั้งแรกด้วยตัวเองได้ ง่ายจัง +++ 7 ย่านน่าเที่ยวโซล เกาหลีใต้ แหล่งอัปเดตเทรนด์วัยรุ่นเกาหลีสุดชิค +++ 20 อาหารเกาหลีดี๊ดี มาส่องก่อนไปเที่ยวเกาหลีเร็ว ขอบคุณข้อมูลจาก : weatheri.co.kr, koreatodo.com, inmykorea.com
แสดงความคิดเห็น