นาขั้นบันไดสวย ๆ ที่เที่ยวธรรมชาติ สูดอากาศให้เต็มปอด ชมความเขียวขจีของทุ่งนาที่ลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดจากหลากหลายที่ในเมืองไทย พอเข้าสู่ช่วงหน้าฝน อากาศชุ่มฉ่ำเย็นสบาย หลายคนก็มองหาที่เที่ยวหน้าฝน เหมาะกับการไปพักผ่อนท่ามกลางวิวสวย ๆ โดยเฉพาะ นาขั้นบันได ที่มองไปทางไหนก็เขียวขจีสดชื่นสบายตา ซึ่งในเมืองไทยก็มีนาขั้นบันได สวย ๆ อยู่หลายที่ด้วยกัน วันนี้เราเลยจะขอพาทุกคนไปเที่ยวธรรมชาติ ชมความสวยงามของนาข้าวสีเขียวที่ลัดเลาะตามไหล่เขาและเนินสูง ดูต้นข้าวยืนต้นเขียวปลิวไสวไปตามแรงลม จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย บ้านป่าบงเปียง เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยนาขั้นบันไดและไร่ข้าวโพด ในอำเภอแม่แจ่ม เป็นพื้นที่ที่มีนาขั้นบันไดสวยมาก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองไทย ด้วยสภาพพื้นที่อยู่บนภูเขาสูง สามารถมองเห็นนาขั้นบันไดในมุมกว้างลดหลั่นตามระดับ ถ้าหากเดินทางมาในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ไปจนถึงเดือนกันยายน จะได้เห็นทุ่งนาขั้นบันไดสีเขียวสดชื่นกว้างสุดสายตา มีฉากหลังเป็นแนวภูเขาเรียงรายสลับซับซ้อน ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเช้าของฤดูฝนก็จะมีทะเลหมอกแบบฟุ้ง ๆ ลอยคลอเคลียไปกับทุ่งนาสีเขียว เวลาแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจะเห็นภาพที่สวยงามชวนฝันมาก ๆ หรือหากไปช่วงเย็นก็สามารถเก็บภาพพระอาทิตย์ตกและแสงยามเย็นสวย ๆ ลอดผ่านก้อนเมฆมากระทบกับหุบเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน เป็นภาพที่งดงามอย่างมาก บ้านกองกาน ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม อยู่เส้นทางเดียวกับวัดพระพุทธเอ้น ใกล้ ๆ กับวัดกองกาน เป็นจุดถ่ายรูปวิวนาขั้นบันไดยอดนิยมสำหรับนักเดินทางที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ หากใครอยากชมวิวสวย ๆ ของท้องนาแบบไม่มีอะไรมากั้นก็ต้องขับรถขึ้นไปบนเขาเพื่อชมวิวจากมุมสูง ส่วนใครที่อยากสัมผัสท้องนาอย่างใกล้ชิดก็สามารถเข้าไปเดินภายในไร่ได้เช่นกัน บ้านแม่ลอง ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอแม่แจ่มประมาณ 38 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา แต่ถนนหนทางยังไม่ดีนัก เวลาจะเข้าไปต้องใช้รถ 4x4 ตลอดเส้นทาง คนขับต้องชำนาญเส้นทางและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยระหว่างทางเข้าหมู่บ้านจะมีจุดให้แวะถ่ายรูปนาขั้นบันไดเป็นชั้น ๆ ไต่เล่นระดับไปตามสันเขา มีความงดงามตลอดสายตาที่ทอดยาวออกไป แถมยังมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ บ้านแม่ปาน ถือว่าเป็นจุดชมวิวนาข้าวขั้นบันไดที่สวยอีกจุดหนึ่งในอำเภอแม่แจ่ม ถึงแม้ตัวนาขั้นบันไดบ้านแม่ปานจะมีลักษณะค่อนข้างเตี้ยเมื่อเทียบกับนาขั้นไดที่จุดอื่น แต่ก็มีข้อดีคือ สามารถชมวิวนาขั้นบันไดเขียวขจีได้จากมุมสูง และถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดของแม่แจ่มด้วย หมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาของดอยอินทนนท์ ห่างจากตัวเมืองแม่แจ่มประมาณ 8 กิโลเมตร ที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขาปกาเกอะญอ นอกจากเราจะได้ชมวิถีชีวิต วัฒนธรรมของชนเผ่าที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายแล้ว ยังได้พบกับธรรมชาติ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของนาข้าวขั้นบันไดและพืชทางเกษตร เช่น ข้าวโพด ฟักทอง ที่ปลูกลดหลั่นบนภูเขาสูงสลับกันลูกแล้วลูกเล่า บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่ที่อำเภอจอมทอง ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นหมู่บ้านของชนเผ่าปกาเกอะญอ ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของนาขั้นบันไดและกาแฟรสเลิศ สำหรับหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ระหว่างเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ จึงมักได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ เพราะอยู่ติดถนนเส้นหลัก ไม่ต้องขับรถเข้าไปไกลมาก ภายในหมู่บ้านมีที่พักโฮมสเตย์เอาไว้ให้บริการ และมีกิจกรรมท่องเที่ยวเดินป่า เส้นทางสู่ น้ำตกผาดอกเสี้ยว ด้วย ใครต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจแบบสโลว์ไลฟ์ มองต้นข้าวในนาเขียวขจีให้สบายใจ เพลินไปกับการจิบกาแฟหอมกรุ่น ต้องมาที่นี่เลย บ้านผาหมอน อีกหนึ่งจุดชมวิวนาขั้นบันไดในอำเภอจอมทอง ที่อยู่ระหว่างทางขึ้นดอยอินทนนท์ จะอยู่ถึงก่อนบ้านแม่กลางหลวง โดยเป็นชุมชนของชาวปกาเกอะญอ เป็นหมู่บ้านขนาดกลางที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ประมาณ 8 กิโลเมตร ไฮไลต์เด็ดคือ การได้มาพักผ่อนนอนเล่นที่ รีสอร์ตชุมชน หรือโฮมสเตย์ ที่ตั้งอยู่บนสันดอย มองเห็นทิวทัศน์นาข้าวขั้นบันไดที่เรียงรายลงมาเป็นลำดับขั้นอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ท่ามกลางหุบเขาที่สวยงามและเงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีแปลงดอกไม้เมืองหนาวที่ปลูกตามแปลงนา แต่งแต้มสีสันให้ท้องนาดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก พอพูดถึงโครงการหลวงขุนแปะ หลายคนก็มักจะนึกถึง ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย ดอกไม้เมืองหนาวที่บานชูช่อในช่วงหน้าหนาวของทุกปี แต่ในช่วงหน้าฝนแสนชุ่มฉ่ำ เราก็อยากให้ลองแวะไปเที่ยวยลความสวยงามของ นาขั้นบันได ที่อยู่ระหว่างทางและรอบโครงการหลวงด้วย เพราะนาข้าวของที่นี่จะเป็นพื้นที่กว้างสุดลูกหูลูกตาลดหลั่นไปตามความสูงชันของทิวเขา นอกจากนี้ยังสามารถชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยงในหมู่บ้าน ซึ่งเลือกได้ว่าจะเที่ยวแบบวันเดียว หรือจะพักค้างคืน เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์รอบโครงการก็ได้ นาขั้นบันไดที่แม่ลาน้อย เป็นโครงการในพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ต้องการให้ชาวบ้านสร้างอาชีพหารายได้อย่างยั่งยืนด้วยการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว ไร่นา ไร่กาแฟ และทุ่งดอกไม้ ทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ บริสุทธิ์ และอบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิตที่งดงามของชาวเขา โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม จะเป็นช่วงเวลาของการปลูกข้าว นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดภายในพื้นที่ของโครงการตลอดสองข้างทาง รวมทั้งชมแปลงผักปลอดสารพิษที่ปลูกตลอดทั้งปีอีกด้วย จุดชมนาขั้นบันไดที่บ้านดง อยู่ไม่ไกลจากโครงการหลวงแม่ลาน้อย เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนาขั้นบันไดที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคเหนือ เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทุ่งนาจำนวนมาก ปลูกข้าวไล่ระดับไปตามสันเขา จนได้รับฉายาว่าเป็น เมืองร้อยนา เลยทีเดียว นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ ตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นโครงการในพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 แนวทางของโครงการคือ เริ่มต้นด้วยการลดการใช้พื้นที่ป่าแสวงหาวิธีปลูกข้าวแบบใหม่ โดยนำวิธีการทำนาขั้นบันไดบนพื้นที่ภูเขามาแทนข้าวไร่ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน จากความร่วมแรงร่วมใจของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นสีเขียวของนาข้าวที่ปลูกลดหลั่นไปตามไหล่เขาอันงดงาม ครอบคลุมพื้นที่หลายหมู่บ้าน ตั้งแต่บ้านสะจุก-สะเกี้ยง บ้านบวกอุ้ม บ้านเปียงซ้อ ตลองสองข้างทางจะได้พบกับความเขียวขจีของนาข้าวขั้นบันไดแซมด้วยพืชไร่อย่างข้าวโพด ท่ามกลางความเขียวขจีของต้นไม้ และความอลังการของภูเขาที่สลับซับซ้อน เป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก แม้ สะปัน จะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในอำเภอบ่อเกลือ แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามของนาขั้นบันได บอกได้ว่าไม่แพ้ที่ไหนเลย กับทุ่งนาสีเขียวสดใสที่เรียงตัวเป็นลำดับขั้นอย่างสวยงาม ต้นไม้ใบหญ้าตามท้องนาและภูเขาจะกลายเป็นสีเขียวขจีดูร่มรื่นสบายตา ยิ่งตัดกับไอหมอกหลังฝนซาแล้วก็ยิ่งทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้มีเสน่ห์มากขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว เหมาะสุด ๆ กับการมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สัมผัสความชุ่มฉ่ำของอากาศในช่วงหน้าฝน แถมยังสามารถเดินเล่นถ่ายรูปและขี่จักรยานตามท้องนาได้อีกด้วย อีกหนึ่งจุดนาขั้นบันไดในอำเภอบ่อเกลือ เป็นจุดท่องเที่ยวหน้าฝนที่สายธรรมชาติห้ามพลาด ตื่นตาตื่นใจไปกับวิวนาข้าวสีเขียวกว้างไกลสุดสายตาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา พร้อมอากาศที่เย็นสบาย สดชื่น โดยชาวบ้านจะเริ่มปลูกข้าวกันในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป หากใครชอบทุ่งนาสีเขียวสดชื่นแนะนำให้เริ่มมาเที่ยวได้ตั้งแต่ช่วงนี้ แต่หากใครชอบทุ่งนาสีเหลืองทองก็แนะนำเป็นช่วงปลายหน้าฝน ประมาณเดือนตุลาคมนะ ข้อแนะนำสำหรับใครที่อยากไปเที่ยว นาขั้นบันได ตามสถานที่ที่เรานำมาฝากกัน คือแต่ละที่นั้นจะเริ่มฤดูทำนาในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยปกติจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงพฤศจิกายน ซึ่งนาข้าวจะมีความสวยงามแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ดังนี้ ช่วงที่เพิ่งเริ่มปลูกข้าว หรือช่วงดำนา (ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม) ก็จะได้ภาพนาข้าวที่เป็นต้นอ่อนเล็ก ๆ สะท้อนกับผิวน้ำ ในระยะกลาง ช่วงนาเขียว (ประมาณปลายเดือนสิงหาคม-ตุลาคม) ก็จะได้นาข้าวสีเขียวขจีสดชื่นเต็มทุ่งนา ช่วงปลายฤดูกาล หรือช่วงนาสีทอง (ประมาณกลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน) เป็นช่วงที่รวงทองจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เตรียมพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว หากใครอยากได้ภาพหรือความประทับใจแบบไหนก็สามารถเลือกไปเที่ยวนาขั้นบันไดตามช่วงเวลาที่ชอบได้เลย หรือทางที่ดีควรสอบถามกับทางที่พักหรือหมู่บ้านนั้น ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นอนอีกครั้ง ช่วงหน้าฝนนี้เหมาะสุด ๆ ที่จะไปพักผ่อนท่ามกลางวิวสวย ๆ ของทุ่งนาขั้นบันได คนรักธรรมชาติทั้งหลายรีบเก็บกระเป๋า เตรียมชุดสวย ๆ และกล้องถ่ายรูปให้พร้อม แล้วออกเดินทางกันได้เลย หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง นาข้าวขั้นบันไดสวย ๆ ทั่วไทย สัมผัสธรรมชาติสวยบนภูเขาสูง 7 นาขั้นบันได จังหวัดเชียงใหม่ สักครั้งต้องไปเยือน ที่เที่ยวหน้าฝน 2566 ทั่วไทย เต็มอิ่มบรรยากาศความชุ่มฉ่ำ ฟีลนี้ดีต่อใจ ที่พักหน้าฝน 2566 เที่ยวทั่วไทย กรีนซีซั่นชุ่มฉ่ำ ดื่มด่ำธรรมชาติในวันฝนโปรย ที่เที่ยวเดือนมิถุนายน 2566 ตะลอนหน้าฝน ชุ่มฉ่ำหัวใจไปกับวิวหลักล้าน ชี้เป้าที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดฮิต 60 แห่ง พร้อมพาตะลอนทัวร์ให้ทั่วเมือง ตะลุยเที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดคูล ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานเชียงใหม่ - TAT Chiang Mai, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน TAT. Maehongson, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานน่าน
แสดงความคิดเห็น