แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ไปเที่ยวทั้งทีควรวางแผนไปที่ไหนบ้าง มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจและไม่ควรพลาด เตรียมปักหมุดได้เลย เมลเบิร์น (Melbourne) เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศออสเตรเลีย แถมยังติดอันดับเมืองน่าอยู่ของโลกมาหลายสมัย ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านศิลปวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการคมนาคม เพราะมีท่าอากาศยานนานาชาติ ท่าเรือโดยสาร ขนส่ง และทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างรัฐใกล้เคียง จึงทำให้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ถึงแม้จะเป็นศูนย์รวมต่าง ๆ แต่เมลเบิร์นกลับมีบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ผู้คนเป็นมิตร อีกทั้งเมืองยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิม อาคารบ้านเรือนมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวเมลเบิร์นทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ทั้งหาดทรายขาวสะอาด ขุนเขาอันอุดมสมบูรณ์ ถนนริมชายฝั่งทะเล และไร่องุ่น เป็นต้น แถมยังโด่งดังเรื่องกาแฟ ด้วยการเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน Coffee Expo เป็นประจำทุกปี เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ก่อนจะบินลัดฟ้าสู่เมลเบิร์น หลายคนน่าจะมีเรื่องอยากรู้เกี่ยวกับเมืองนี้กันอยู่บ้าง ไม่ว่าจะไปเที่ยวแล้วสภาพอากาศเป็นอย่างไร ? มีที่เที่ยวอะไรน่าเที่ยวบ้าง ? ไม่ต้องห่วง...เรามีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ให้ทุกคนได้เตรียมตัวก่อนไปเที่ยวที่นี่กัน สภาพอากาศ เมลเบิร์นมีภูมิอากาศ 4 ฤดู คือ - ฤดูร้อน ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ - ฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม - ฤดูหนาว ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม - ฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน (**** ทั้งนี้ สภาพอากาศโดยรวมค่อนข้างแปรปรวนเสียเป็นส่วนใหญ่ เคล็ดลับสำหรับการเตรียมตัวในแต่ละสภาพอากาศ ให้พกร่มและสวมเสื้อผ้าเป็นชั้น ๆ เท่าที่จำเป็นจะดีที่สุด) วีซ่าออสเตรเลีย ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย จะต้องทำเรื่องขอวีซ่ากับสถานทูตออสเตรเลีย โดยสามารถยื่นได้ 2 วิธี คือ การยื่นผ่านระบบออนไลน์ และการยื่นเอกสารผ่านศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) โดยจะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม เมื่อยื่นเอกสารแล้วต้องไปทำการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (การทำไบโอเมทริกซ์) ที่ VFS สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vfsglobal.com อัตราแลกเปลี่ยน ออสเตรเลียใช้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 20.8485 บาท ต่อ 1 AUD (สามารถตรวจสอบได้ที่ th.exchange-rates.org) ปลั๊กไฟ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ใช้ปลั๊ก Type I มีขาแบน 2 หรือ 3 ขา ลักษณะเหมือนตัว V คว่ำ แรงดันไฟฟ้า 240/250 V 50Hz แนะนำว่าให้พก Universal Adapter ไปด้วย การเดินทางท่องเที่ยวในเมลเบิร์น เมลเบิร์นได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เที่ยวง่ายมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยมีระบบขนส่งสาธารณะหลากหลายแบบ และยังมีเส้นทางให้บริการครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ของเมือง สามารถซื้อบัตรโดยสารใบเดียวแล้วใช้ขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้เกือบทุกประเภท ซึ่งแบ่งวิธีการเดินทางในเมืองเมลเบิร์น ดังนี้ Metro Trains : รถไฟฟ้าที่มีให้บริการหลายเส้นทาง มีสถานีให้บริการทั้งในเขต CBD (Central Business District) และพื้นที่รอบข้าง สถานีที่สำคัญมี 2 สถานี คือ Flinder Street Station จุดศูนย์รวมรถไฟฟ้าทุกสาย และ Southern Cross Station สถานีที่เชื่อมต่อกับ SkyBus ซึ่งเป็นรถโดยสารสาธารณะไป-กลับ Melbourne Airport และเชื่อมต่อกับ V/Line รถไฟระยะไกลที่แล่นไปสู่เมืองข้างเคียงของเมลเบิร์น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ metrotrains.com.au Tram : รถรางไฟฟ้าที่มีการเปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1950-1960 แม้จะเก่าแก่แต่ก็ยังคงใช้งานได้ดี และมีเส้นทางให้บริการครอบคลุมทั่วเมือง โดยจะสามารถนั่งได้ฟรีในบางเขตด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ptv.vic.gov.au Bus : รถโดยสารสาธารณะทั่วไป ที่มีให้บริการหลากหลายเส้นทางเช่นเดียวกับรถไฟฟ้าและรถราง แต่จะดีกว่าตรงที่จะมีสถานีไปถึงยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ทั่วถึงมากกว่า *ทั้ง Metro Trains, Tram และ Bus จะมีระบบการให้บริการแบบ Night Network ด้วย และสามารถใช้บัตรที่เรียกว่า MyKi Card ร่วมกันได้ Taxi : รถแท็กซี่มีให้บริการเหมือนเมืองอื่น ๆ แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าค่าแท็กซี่มักจะแพงกว่ารถโดยสารแบบอื่น ๆ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4-5 ดอลลาร์ออสเตรเลียเลยทีเดียว Rental a car : การขับรถเที่ยวเมลเบิร์นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะจะขับพวงมาลัยขวาเหมือนกับเมืองไทย เหมาะสำหรับโปรแกรมท่องเที่ยวที่จะต้องออกไปเที่ยวนอกเมืองเมลเบิร์น มีจุดให้เช่ารถทั้งที่สนามบินและในตัวเมืองเมลเบิร์น ตอนนี้เราก็ได้ทำความรู้จักเมลเบิร์นกันแบบหอมปากหอมคอแล้ว เริ่มสนใจอยากไปสัมผัสกับเสน่ห์ต่าง ๆ ของเมลเบิร์นกันแล้วใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่าตามเราไปเที่ยวเมลเบิร์นในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ กันดีกว่า เริ่มต้นสำรวจเมลเบิร์นกันด้วยเส้นทางการท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคน เพราะถนนเส้นนี้ได้ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลของเมือง มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ๆ ติดอันดับโลกเลยก็ว่าได้ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ได้นั่งมองวิวของท้องทะเลสุดกว้างใหญ่ สูดอากาศสดชื่นบริสุทธิ์เข้าปอดกันแบบเต็มที่ อีกทั้งยังได้ยลโขดหินริมทะเลรูปร่างแปลกตาที่เรียกว่า Twelve Apostles มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งอยู่ในทะเลริมชายหาด สามารถมองเห็นริ้วชั้นหินที่สวยงาม เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นได้อย่างเพอร์เฟกต์สุด ๆ ขบวนรถไฟจักรไอน้ำพัฟฟิง บิลลี่ เป็นขบวนและเส้นทางรถไฟเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1900 ตัวขบวนรถไฟสร้างอย่างเรียบง่ายแต่คลาสสิก หน้าต่างเปิดโล่งกว้าง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของป่าฝนอันเขียวชอุ่มของเทือกเขา Dandenong บ้านเรือนผู้คน ฟาร์ม ทุ่งหญ้า ได้อย่างสวยงาม ใคร ๆ ก็อยากซึมซับกับบรรยากาศ จนทำให้ช่วงหนึ่งนั้นมีการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถห้อยขาออกมาจากทางหน้าต่างได้ กลายเป็น "รถไฟห้อยขา" อันโด่งดัง (ปัจจุบันไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวห้อยขาออกมานอกหน้าต่าง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย) โดยจะมีสถานีหลักอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ สถานี Belgrave และสถานี Lakeside ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จุดไฮไลต์จะอยู่ตรงจังหวะที่ขบวนรถไฟค่อย ๆ เคลื่อนตัวผ่านสะพาน Monbulk Creek Trestle คดโค้งไปตามราง สร้างความหวาดเสียวให้ได้ตื่นเต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเช็กตารางเวลาได้ที่ puffingbilly.com.au หมายเหตุ : ในบางสถานีอาจจะมีการปิดให้บริการบางวัน ควรตรวจสอบข้อมูลจากออฟฟิเชียลเว็บไซต์ก่อนการเดินทาง ย่านเก่าแก่ริมแม่น้ำ Yarra แถบชานเมืองเมลเบิร์น บรรยากาศสบาย ๆ เพลินไปกับการเดินเที่ยวชมอาคารและบ้านเรือนสไตล์อาร์ตเดโค (Art Deco) ที่มีอายุหลักร้อยปี มีสถาปัตยกรรมสมัยใหม่แทรกตัวสลับกันไป ดูกลมกลืนสบายตา ซึ่งก็ครบครันไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่น่ารัก ๆ มีจุดเช็กอินเด่น ๆ เช่น Como House คฤหาสน์ที่มีการอนุรักษ์อย่างดี ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1847 นอกจากนี้ยังมีห้องเสื้อชื่อดัง แกลลอรี่ศิลปะ ไปจนถึงเลานจ์ค็อกเทลและบิสโทรแบบผสมผสาน ตั้งเรียงรายอยู่บน Toorak Road และ Chapel Street ถนนที่ได้ชื่อว่าคึกคักที่สุดในย่านนี้ อีกทั้งยังมีตลาด Prahran ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1864 ให้ได้เดินเลือกซื้ออาหาร ผัก-ผลไม้ และของสดนานาชนิด ใกล้ ๆ กันนั้นก็ยังเป็นที่ตั้งของสวนพฤกษศาสตร์ Royal Botanic Gardens สวนสาธารณะใจกลางเมืองเมลเบิร์น สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1846 เต็มไปด้วยพืชพรรณพื้นเมืองนานาชนิด เป็นสวนพฤษศาสตร์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก พื้นที่ของสวนมีลักษณะเหมือนเนินขึ้น ๆ ลง ๆ ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำยาร์รา นักท่องเที่ยวอาจมาเฝ้าดูหงส์ดำว่ายน้ำอย่างสง่างาม หรืออาจเดินเล่นบนสนามหญ้าที่มีต้นไม้พื้นเมืองแปลก ๆ ของออสเตรเลียอยู่นับพันชนิด และถ้าไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์จะเห็นผู้คนมาออกกำลังกาย ครอบครัวพากันมานั่งปิกนิก หรือคู่รักพากันมาเดินเล่นพักผ่อนชิล ๆ สถานที่พักผ่อนขวัญใจคนเมืองเมลเบิร์น อยู่ห่างจากย่านธุรกิจใจกลางเมืองเมลเบิร์นเพียง 4 กิโลเมตร แต่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 16 เอเคอร์ บรรยากาศคลาสสิกเพราะเต็มไปด้วยอาคารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อีกทั้งยังมีสวนสวย ๆ ให้ได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอีกหลายแห่ง รวมถึงมีสตูดิโอ ร้านกาแฟ ตลาด สถานีวิทยุ โรงเรียน และพื้นที่เปิดโล่งสีเขียวให้ได้ไปพักผ่อนหย่อนใจมากมาย ในแต่ละปีจะมีงานอีเวนต์ต่าง ๆ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจัดแสดง เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-22.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ abbotsfordconvent.com.au ภาพของบ้านไม้หลังเล็ก ๆ สีสันสดใสตั้งเรียงรายอยู่บนพื้นทราย ทอดยาวไปตลอดชายหาด Brighton Beach ริมอ่าว Port Phillip กว่า 80 หลัง กลายเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง ซึ่งจริง ๆ แล้วบ้านไม้หลากสีเหล่านี้ คือห้องอาบน้ำเก่าแก่จากยุควิกตอเรียน ถึงปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่มันกลับเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นที่ตั้งอยู่ริมหาด เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาแอ็คท่าถ่ายรูปเก๋ ๆ พร้อมกับนั่งเล่นรอชมพระอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติก เต็มอิ่มกับการเก็บเกี่ยวบรรยากาศความเป็นฮิปสเตอร์ที่ย่าน Fitzroy ยิ่งถ้าใครอยากเป็นสาย Cafe Hopping ด้วยแล้ว น่าจะถูกใจแบบสุด ๆ ไปเลย เพราะคุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับบรรดาร้านรวงคาเฟ่ ร้านกาแฟ และร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ และพอตกกลางคืน ย่านนี้จะกลายเป็นแหล่งรวมบาร์คูล ๆ เอาไว้ให้นั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ กันชิล ๆ งานนี้เหล่า Instragramer ทั้งหลาย เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย เพราะคุณจะได้รูปที่ทั้งสวยและเก๋ลงโซเชียลไปอีกนาน ตลาดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมลเบิร์น มีอายุไม่ต่ำกว่า 130 ปี ความคลาสสิกของตลาดแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาจับจ่ายใช้สอย เดินเล่นช้อปปิ้งซึมซับบรรยากาศและวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่น ภายในตลาดละลานตากับของกินหลากหลาย โดยแบ่งโซนแยกตามประเภทสินค้าต่าง ๆ ไล่เรียงตั้งแต่อาหารสด ผลไม้ อาหารปรุงสำเร็จรูป กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า อีกทั้งร้านของฝากของที่ระลึก รวมถึงร้านกาแฟเอาใจเหล่าบรรดา Cafe Hopping เรียกว่ามาเช็กอินที่นี่ได้ทั้งของดีแถมยังได้เสพไลฟ์สไตล์ของคนเมลเบิร์น สนุกเพลินคูณสองเข้าไปอีก แหล่งนัดพบปะและศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างของเมลเบิร์น ทั้งการคมนาคมขนส่ง Flinders Street Station สถานีรถไฟแห่งแรกของออสเตรเลีย ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเมลเบิร์น (Melbourne Visitor Centre) พร้อมเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถมาร่วมแบ่งปันความสุข ผ่านการแสดงดนตรี ละคร และนิทรรศการกลางแจ้ง ซึ่งจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกิจกรรมเหล่านี้มาให้ชมอยู่เรื่อย ๆ บรรยากาศย่าน Flinder Square จึงเต็มไปด้วยสีสันและความคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของเมลเบิร์น ชมวิวเมืองเมลเบิร์นในมุมสูงเฉียดฟ้าที่ Eureka Skydeck ตั้งอยู่บนชั้น 88 ของ Eureka Tower ความสนุกและความตื่นเต้นก่อตัวขึ้น ทันทีที่ลิฟต์โดยสารทะยานพาตัวคุณขึ้นไปยังชั้นดังกล่าวภายในเวลาไม่เกิน 40 วินาที หลังจากนั้นจะได้ยลโฉมความสวยงามของทัศนียภาพเมืองเมลเบิร์นแบบ 360 องศา ไม่เพียงแต่ความสวยเท่านั้น ที่นี่ยังมีความเสียวให้คุณได้สัมผัส กับพื้นกระจกใสมองเห็นทะลุเท้าของเราลงไปได้เลย ถ้าอยากได้ภาพสวย ๆ เห็นทีว่าต้องยอมแลกกับความกล้ากันหน่อยแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ความทรงจำแห่งอนุสรณ์สถาน สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงเหล่าทหารออสเตรเลียที่ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามต่าง ๆ มากมาย ภายในพื้นที่ตกแต่งสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศความเคร่งขรึม เงียบสงบ และศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกันยังชื่นชมไปกับทัศนียภาพเมืองในมุมมองแบบพาโนรามาจากบริเวณระเบียงอนุสรณ์สถานได้อีกด้วย สำหรับใครที่แวะไปเยี่ยมชมสถานที่นี้แล้วรู้สึกประทับใจกับวีรกรรมของเหล่าทหารกล้า ก็สามารถซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไปได้อีกด้วย ชายหาดสวยตั้งอยู่ห่างจากเมลเบิร์นเพียงแค่ 7 กิโลเมตรเท่านั้น ! ด้วยระยะทางไม่ไกล บวกกับการเดินทางสะดวกสบาย จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนที่ชาวเมืองเมลเบิร์นนิยมไปเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีกิจกรรมกลางแจ้งให้ได้ทำมากมาย ไล่เรียงตั้งแต่เดินเล่นรับลมเย็น ๆ นอนอาบแดด หรือจะเป็น Kite board ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น หรือใครไม่ถนัดกิจกรรมเอาต์ดอร์ ก็นั่งเล่นร้านอาหารชิล ๆ รอชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น อีกหนึ่งบรรยากาศความสุขแสนเรียบง่ายที่หาได้จากเมลเบิร์น ตื่นตาตื่นใจไปกับความน่ารักของขบวนพาเหรดเพนกวิน ณ เกาะฟิลลิป (Penguin Parade at Phillip Island) ที่ต่างเดินต้วมเตี้ยม ๆ พากันกลับขึ้นฝั่งยามเย็น ใครได้เห็นเหล่าฝูงเพนกวินตัวจิ๋วที่อยู่ตรงหน้า ก็อดหลงรักในความน่ารักน่าเอ็นดูไม่ได้ ทั้งนี้ การดูเจ้าเพนกวินจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบเวลาให้ดี ๆ เพราะเวลาพระอาทิตย์ตกดินจะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงฤดู และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เนื่องจากว่าแสงแฟลชของกล้องจะทำลายการมองเห็นของเพนกวิน และถึงขั้นอาจทำให้พวกมันเดินกลับบ้านไม่ถูกเลยก็ได้ เดินทางสำรวจพื้นที่ไร่องุ่นขนาดใหญ่ แหล่งผลิตไวน์ที่ทั้งเก่าแก่และมีชื่อเสียงของประเทศออสเตรเลีย อยู่ห่างจากเมลเบิร์นเป็นระยะทาง 50 กิโลเมตร นอกเหนือจากการเรียนรู้กระบวนการบ่มไวน์ เยี่ยมชมไร่องุ่น และลิ้มรสไวน์ชั้นเลิศแล้ว พลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งกิจกรรมอย่างการขึ้นบอลลูนชมไร่องุ่น ให้คุณได้เปิดประสบการณ์สุดตื่นเต้น รายล้อมด้วยทิวทัศน์สวยและอากาศแสนบริสุทธิ์ หรือใครไม่ชอบความสูงก็สามารถเลือกขับรถลัดเลาะเส้นทางความสนุกนี้ได้ที่ Yarra Valley ห้องสมุดสาธารณะขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมลเบิร์น หนึ่งในจุดแลนด์มาร์กที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปเช็กอินเป็นจำนวนไม่น้อย นอกจากคลังหนังสือที่มีอยู่มากมายมหาศาลแล้ว การยลโฉมความสวยงามของอาคารที่มีอายุเก่าแก่เป็นร้อย ๆ ปี ก็นับว่าคุ้มค่าแล้วสำหรับการไปเยี่ยมชม นอกจากพื้นที่ของห้องสมุดแล้ว ยังมีพื้นที่ที่ใช้เป็นส่วนในการจัดนิทรรศการหมุนเวียน บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองผ่านสื่อผสมรูปแบบต่าง ๆ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นมากกว่าห้องสมุดของเมือง หากแต่ยังทำหน้าที่เป็นผู้บันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ตามเส้นทางการเดินแห่งเวลาเอาไว้อย่างทรงคุณค่าและน่าประทับใจ และนี่เป็นที่เที่ยวเมลเบิร์นเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาแนะนำกัน มหานครมากเสน่ห์แห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ร้านอาหารอร่อย ๆ หรือคาเฟ่บรรยากาศดีอีกมากมายรอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยู่ หากการได้ไปเที่ยวเมลเบิร์นเพื่อสัมผัสกับความงดงามต่าง ๆ เป็น Dream Destination ที่คุณหมายมั่นปั้นมือไว้ละก็...อย่ารอช้าออกเดินทางไปเยือนเมืองน่าอยู่ติดอันดับโลกกันดีกว่า ซึ่งการไปเที่ยวเมลเบิร์นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันสายการบินสกู๊ตให้บริการเส้นทางบินจากประเทศไทยไปยังเมืองเมลเบิร์น ดังนี้ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - เมลเบิร์น เส้นทางบินจากหาดใหญ่ - เมลเบิร์น เส้นทางบินจากภูเก็ต - เมลเบิร์น เส้นทางบินจากเชียงใหม่ - เมลเบิร์น เส้นทางบินจากกระบี่ - เมลเบิร์น ที่สำคัญสายการบินสกู๊ตยังมีราคาสบายกระเป๋าเมื่อเทียบกับคุณภาพระดับพรีเมียม พร้อมบริการสะดวกสบายอันน่าประทับใจและอบอุ่นใจตลอดการเดินทาง และพิเศษสุด ๆ กับรหัสโปรโมชั่น SCOOT15 จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินสกู๊ตรับส่วนลดได้เลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.flyscoot.com … เห็นไหมล่ะว่าจะไปเที่ยวเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว *ช่วงเวลาโปรโมชั่น (GMT +7) : รับส่วนลด 15% เมื่อจองระหว่างวันที่ 2-15 มีนาคม 2563 และรับส่วนลด 10% เมื่อจองระหว่างวันที่ 16-25 มีนาคม 2563 ระยะเวลาเดินทางตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม-31 ตุลาคม 2563 หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563ขอขอบคุณข้อมูลจาก flyscoot.com, vfsglobal.com, melbourne.vic.gov.au, visitvictoria.com, abbotsfordconvent.com.au และ puffingbilly.com.au
แสดงความคิดเห็น