แนะนำเส้นทางไหว้พระ จังหวัดสิงห์บุรี มีเวลาน้อยนิดก็ไปทำบุญเสริมดวง เสริมความสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวกันได้ เป็นกิจกรรมที่เที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย ได้ทั้งบุญและเที่ยวเพลิน ๆ วันหยุด การไปทำบุญไหว้พระ เป็นอีกตัวเลือกของกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ด้วยสามารถเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย เด็กก็เที่ยวดี ผู้ใหญ่ก็เที่ยวได้ ได้ทั้งบุญและเที่ยวสนุกสนาน เราเคยนำเสนอเส้นทางไหว้พระใกล้กรุงเทพฯ ไปแล้วหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นไหว้พระอยุธยา, ไหว้พระนนทบุรี, ไหว้พระนครปฐม, ไหว้พระ 9 วัด อ่างทอง, ไหว้พระ 9 วัด ชัยนาท, ไหว้พระ 9 วัด สมุทรสาคร, ไหว้พระ 9 วัด สมุทรสงคราม คราวนี้ก็ขอแนะนำเส้นทางไหว้พระสิงห์บุรีกันบ้าง มีวัดเด่นดังและศักดิ์สิทธิ์เพียบ มาเริ่มกันที่ วัดสำคัญอันเป็นที่ตั้งของ "หลวงพ่อใหญ่" หรือ "พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี" พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24k มีขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว มองเห็นได้ในระยะไกล นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพิฆเนศและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย พร้อมทั้งยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบ ๆ วัดให้สวยงามอยู่เสมอ ที่ตั้ง : หมู่ 3 ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. วัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตามหลักฐานต่าง ๆ บ่งบอกว่าที่นี่มีบทบาทอย่างมากต่อค่ายบางระจัน เป็นสถานที่ที่พระอาจารย์ธรรมโชติ พระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในสมัยอยุธยา เลือกเป็นที่ตั้งค่ายเพื่อเตรียมรับมือรบกับข้าศึกกองทัพพม่าร่วมกับชาวบ้านบางระจัน ปัจจุบันภายในวัดมีต้นแดงจำนวนมาก บรรยากาศร่มรื่น มีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ รูปหล่อหลวงปู่ธรรมโชติ พระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวองค์ใหญ่ ให้ได้เดินเที่ยวชม นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงยังมีที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างอุทยานวีรชนค่ายบางระจัน และตลาดย้อนยุคบางระจันให้ได้ไปเดินเที่ยวชม เลือกซื้ออาหารอร่อย ๆ และถ่ายรูปสวย ๆ กันด้วย โดยตลาดจะเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่ตั้ง : ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ตั้งอยู่ติดริมถนนทางหลวงเอเชียสาย 2 เป็นอีกวัดที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น โดยมีอาคารรูปทรงพระปรางค์สีเหลืองทอง ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางวัด สามารถที่จะเดินขึ้นไปเที่ยวชมด้านบนได้ และบริเวณโดยรอบก็ยังมีพระนอนองค์ใหญ่ พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ วิหารหลวงพ่อเย็น บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้นนารีผลจำลอง และพระพุทธรูปที่สำคัญ คือ พระภูเขาทอง และพระพุทธนิมิตพิชิตมารมหาจักรพรรดิให้ได้กราบไหว้ขอพร ที่ตั้ง : หมู่ 1 ตําบลม่วงหมู่ อําเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. วัดสำคัญอีกแห่งของสิงห์บุรี ด้วยเป็นวัดที่พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม พระนักเทศน์และพระวิปัสสนาจารย์ชื่อดังเคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ วัดแห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีการพัฒนาเรื่อยมา ปัจจุบันเป็นวัดที่ได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ พร้อมทั้งยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งนี้ภายในวัดมีสถานที่สำคัญ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ขณะนี้กำลังมีการก่อสร้างพระเจดีย์ธรรมสิงหบุราจริยานุสรณ์ คาดว่าจะเปิดให้เข้าเที่ยวชมได้เร็ว ๆ นี้ ที่ตั้ง : ตำบลพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. เว็บไซต์ : amphawan.net เฟซบุ๊ก : วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี วัดที่มีชื่อเสียงด้านการปฏิบัติธรรม และเป็นวัดสำคัญของชาวไทยวน ตั้งอยู่กลางเมืองพรหมบุรี ใกล้กับสถานที่ราชการต่าง ๆ และแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากจะสามารถมาปฏิบัติธรรมกันได้แล้ว ภายในวัดก็มีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น มณฑปย่อมุมไม้สิบสอง ที่ยอดมณฑปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนด้านในประดิษฐานพระพุทธบาทโลหะจำลอง และศาลพระพรหมศักดิ์สิทธิ์ สามารถขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันได้ตลอด ที่ตั้ง : ตำบลบางน้ำเชี่ยว อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. เว็บไซต์ : kuditong.net สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสิงห์บุรีและพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย โดยมีความยาว 47 เมตร 42 เซนติเมตร และยังมีพุทธลักษณะที่งดงามตามแบบสมัยสุโขทัย สันนิษฐานกันว่าผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ คือ ท้าวอู่ทอง มีความเก่าแก่และน่าศรัทธา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมาเยือน ณ วัดแห่งนี้ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ด้วย ทั้งนี้บริเวณโดยรอบของวัดก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสนใจอีกมากมาย พร้อมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ตลาดชุมชน (เปิดในช่วงวันหยุด) ให้เดินเที่ยวชม ที่ตั้ง : ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. แต่เดิมนั้นมีชื่อว่า วัดท่ากระบือ ชาวบ้านจะเรียกว่า วัดท่าควาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีพระพุทธรูปที่สำคัญ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปแบบศิลปะสุโขทัย สมัยพระมหาธรรมราชาลิไท หล่อขึ้นด้วยวัสดุโลหะสัมฤทธิ์ผสมทองคำสีเหลืองอร่าม พุทธลักษณะงดงามมาก มีอายุมากกว่า 100 ปี เปิดให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ขอพรทุกวัน นอกจากนี้ก็มีพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ พร้อมกับศาลเจ้าแม่ตะเคียนให้ได้ทำบุญขอพรด้วย ที่ตั้ง : ตำบลบางพุทรา อำเภอเมืองสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. วัดเก่าแก่อายุมากกว่า 400 ปี เดิมชื่อ วัดกระดังงา มีการขุดพบเศียรพระจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ หลวงพ่อดำ ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ด้านหลังวัด ส่วนที่มาของชื่อใหม่ของวัดนั้น มาจากที่ชาวบ้านบางระจันได้มาประชุมกันที่ใต้ต้นมะม่วง จึงได้เรียกว่า วัดม่วงชุม เรื่อยมา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายจุด เช่น พระพุทธรูปหลวงพ่อขาว และพระมหาเจดีย์บางระจัน แต่ที่ห้ามพลาด ก็คือ พระสิงห์ใหญ่ พระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคล พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หน้าตัก 21 เมตร สูง 37 เมตร อยู่บนฐานดอกบัวสีชมพูสวยสง่า จะมีการจัดงานตักบาตรดอกไม้ในช่วงเข้าพรรษาทุกปี ที่ตั้ง : ตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา โดดเด่นด้วยพระปรางค์ศิลปะแบบอยุธยาตอนต้น สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สร้างด้วยอิฐมอญ สูงราว ๆ 15 เมตร มีลักษณะเป็นพระปรางค์ทรงสูงคล้ายฝักข้าวโพด ฐานเตี้ย ด้านในกลวง นอกจากนี้ก็มีวิหารเก่า หน้าบันมีการแกะสลักไม้เป็นลวดลายสวยงามวิจิตรบรรจง ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478 ที่ตั้ง : หมู่ 7 บ้านโคกหม้อ ตำบลเชิงกลัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา มีประวัติยาวนาน สันนิษฐานผู้สร้างคือ ทหารเอกของพระมหาธรรมราชาธิราช พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวรมหราช ที่จัดสร้างวัดนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์ของการรบและเป็นสถานที่เก็บอัฐิของบรรพบุรุษ สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ หลวงพ่ออึ่ง ตั้งอยู่ภายในวิหารมหาอุด มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นแบบมอญ ปากสีแดง อยู่ภายในวิหารทรงไทยสมัยอยุธยาตอนต้น ก่ออิฐฉาบผนังทึบ มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว สันนิษฐานว่าที่นี่ใช้เป็นสถานที่ปลุกเสกของมงคลเพื่อการออกรบ นอกจากนี้ก็มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสมัยอยุธยา หลวงปู่จีน และโบสถ์เก่าแก่ที่มีหลังคามุงด้วยกระเบื้องดิน พร้อมกับบานประตูไม้แกะสลักสวยงามให้ได้ชม ที่ตั้ง : หมู่ 6 ตำบลบางกระบือ อำเภอเมืองสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. วัดคู่บ้านคู่เมืองของอำเภออินทร์บุรี มีการสร้างมาตั้งแต่สมัยช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีสิ่งที่สำคัญมากมาย ที่สำคัญคือ วิหารหลังเก่า ที่มีการออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า บริเวณหน้าบันงดงามไปด้วยการประดับประดาของเครื่องถ้วยชามหลากสีสัน ด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ ลายเส้นสวยวิจิตรบรรจง พร้อมด้วยพระประทานปางมารวิชัยสง่างาม นอกจากนี้ก็ยังมีพระปรางค์เก่าแก่แบบย่อมุมไม้สิบสองตั้งอยู่ด้วย ที่ตั้ง : ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. แลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดอีกแห่งของสิงห์บุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา น่าสนใจด้วยพระอุโบสถเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยรากไทรมากมาย กลายเป็นการยึดให้ผนังโบสถ์ไม่พังทลาย มีทางเข้า-ออกทางเดียว เชื่อกันว่าเป็นวิหารมหาอุดที่ใช้สำหรับการปลุกเสกพิธีสำคัญก่อนการออกรบ ด้านในประดิษฐานองค์พระประธาน ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อขาว หรือ หลวงพ่อทะยาน แต่ปัจจุบันเรียกกันว่า หลวงพ่อวัดไทร สามารถมาเที่ยวชมไหว้พระขอพรได้ตลอดทั้งวัน ที่ตั้ง : ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางไหว้พระใกล้กรุงเทพฯ หากจัดสรรเวลาดี ๆ ก็สามารถที่จะเที่ยวได้ครบจบภายในวันเดียว เป็นการท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เก็บไว้พิจารณาสำหรับทริปครั้งต่อไปกันนะ :) หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, thailandtourismdirectory.go.th, วัดโพธิ์เก้าต้น ค่ายบางระจัน, ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน, kuditong.net, amphawan.net, singburi.go.th, พระสิงห์ใหญ่ วัดม่วงชุม วัดพัฒนาตัวอย่าง จ.สิงห์บุรี, m-culture.go.th
แสดงความคิดเห็น