Unseen ฮอลแลนด์-เบลเยียม เมื่อเส้นพรมแดนเป็นแค่เส้นสมมติ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Humble สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
 
           วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปชมความอันซีนของการแบ่งเส้นพรมแดนของประเทศ "ฮอลแลนด์" และ "เบลเยียม" เพราะนอกจากทั้ง 2 ประเทศจะมีพรมแดนติดกันแล้ว การแบ่งพรมแดนบริเวณเมือง Baarle ยังค่อนข้างซับซ้อน แต่ความซับซ้อนนั้นกลับมีความน่ารักแฝงไว้ด้วย อ๊ะ ๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ลองตามบันทึกการเดินทางของ คุณ Humble สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไปเยือนและถ่ายทอดมาให้เราได้ชมกัน




           วันนี้จะพามาชมพรมแดนที่แปลกที่สุดในโลกครับ เป็นชายแดนระหว่างฮอลแลนด์กับเบลเยียม ชายแดนตรงนี้อยู่ที่เมือง Baarle โดยแบ่งเป็น Baarle-Nassua ฝั่งฮอลแลนด์ กับ Baarle-Hertog ฝั่งเบลเยียม

           พรมแดนระหว่างฮอลแลนด์และเบลเยียม ด้านซ้ายเป็นประเทศฮอลแลนด์ ส่วนด้านขวาเป็นประเทศเบลเยียม สามารถข้ามไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ต้องใช้เอกสารหรือผ่าน ตม.ใด ๆ

           แต่ความพิเศษยังไม่หมดแค่นั้นครับ โดยความแปลก ก็คือ  Baarle-Hertog เป็นดินแดนของเบลเยียมที่ถูกโอบล้อมโดยฮอลแลนด์ครับ นอกจากนี้ ยังมีดินแดนของฮอลแลนด์อีก 8 ส่วน ที่ถูกโอบล้อมโดยเบลเยียมครับ และจากแผนที่จะเห็นว่ามีดินแดนของฮอลแลนด์ที่ถูกโอบล้อมโดยเบลเยียมและดินแดนของเบลเยียมก็ถูกโอบล้อมโดยฮอลแลนด์อีกที เป็นดินแดนที่ซ้อนกันไปมา

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           สาเหตุที่ทำให้ดินแดนเป็นแบบนี้ เนื่องจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของดินแดนตรงนี้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ซึ่งเป็นผลจากการซื้อขายและแลกเปลี่ยนดินแดนกันของ ลอร์ดแห่งเบรดา และดยุคแห่งบราบันท์ แต่ต่อมาเบลเยียมได้แยกตัวออกจากฮอลแลนด์ในปี 1839 ลอร์ดแห่งเบรดาอยู่ฝ่ายฮอลแลนด์ ส่วนดยุคแห่งบราบันท์อยู่ฝ่ายเบลเยียม ทำให้ที่ดินของลอร์ดเบรดากลายเป็นดินแดนของประเทศฮอลแลนด์ ส่วนที่ดินของดยุคแห่งบราบันท์กลายเป็นดินแดนของประเทศเบลเยียม หลังจากแยกประเทศได้มีการลงนามในสนธิสัญญามาสทริชท์ ในปี 1843 เพื่อปักปันเขตแดนระหว่างสองประเทศ โดยใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น แผนที่และสนธิสัญญาต่าง ๆ โดยดินแดนบริเวณนี้เพิ่งมีการปักปันดินแดนกันแล้วเสร็จเมื่อปี 1995

           จากภาพส่วนสีเหลือง คือ เบลเยียม ส่วนสีขาว คือ ฮอลแลนด์ครับ จะเห็นว่าดินแดนของเบลเยียมอยู่ในฮอลแลนด์ และในดินแดนสีเหลืองของเบลเยียม ก็ยังมีดินแดนของฮอลแลนด์อยู่ข้างในอีกที

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           วิธีการเดินทางไปเมือง Baarle-Nassua สามารถเดินทางด้วยรถประจำทางสาย 132 จากเมือง Breda  หรือ Tilburg โดยเป็นรถประจำทางที่วิ่งระหว่างสองเมืองนี้ครับ โดยลงที่ป้าย St.Janstraat  ครับ ค่ารถประมาณ 4 ยูโร

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ถ้าเราเดินชมเมืองนี้เราจะเข้า-ออกฮอลแลนด์และเบลเยียมไม่ต่ำกว่า 20 ครั้งครับ ตรงกลางเมืองจะมีโมเดลจำลองแสดงไว้ โดยอยู่ในฝั่งเบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           โดยถ้าเรากดปุ่ม เขตเมืองในส่วนของเบลเยียมก็จะยกตัวขึ้น ทำให้เห็นว่าอาคารบางหลังนั้นตั้งอยู่ในทั้งฝั่งเบลเยียมและฮอลแลนด์

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ใกล้ ๆ จะเป็นหลักเขตแดนจำลองครับ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           อันนี้เป็นหลักหมุดบันทึกการปักปันเขตแดนครับ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           และใกล้ ๆ กัน เราก็จะเห็นเส้นชายแดนแบ่งฮอลแลนด์กับเบลเยียมครับ ฝั่ง B คือ เบลเยียม ส่วน NL คือ ฝั่งเนเธอร์แลนด์หรือฮอลแลนด์

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           เราสามารถเห็นเส้นแบบนี้ได้ทั่วเมือง

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ใคร ๆ มาเที่ยวเมืองนี้ก็ต้องถ่ายรูปแบบนี้ครับ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           จากภาพเราจะเห็นแนวพรมแดนระหว่างฮอลแลนด์กับเบลเยียมจากด้านซ้ายไปยังกลางถนน แล้วก็ลากไปตามถนนก่อนที่จะลากข้ามไปอีกฝั่งบริเวณร้านอาหาร

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ร้านอาหารตั้งอยู่ติดชายแดนพอดีเลยครับ ถัดออกมากอีกนิดก็เป็นประเทศเบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           บ้านสองหลังนี้อยู่กันคนละประเทศครับ ด้านซ้ายเบลเยียม ด้านขวาฮอลแลนด์

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           บ้านหลังนี้ด้านซ้ายอยู่ฝั่งฮอลแลนด์ ด้านขวาเป็นเบลเยียมครับ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           หน้าต่างของอาคารหลังนี้อยู่คนละประเทศกันครับ ด้านซ้ายเป็นฮอลแลนด์ ด้านขวาเป็นเบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ถ้าเราต้องการทราบว่าบ้านหลังไหนอยู่ฝั่งเบลเยียม บ้านหลังไหนอยู่ฝั่งฮอลแลนด์ ต้องสังเกตจากป้ายเลขที่บ้านครับ จะมีธงชาติบ่งบอกว่าเป็นฝั่งไหน

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           สังเกตอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ฝั่งเบลเยียมจะมีร้านขายพลุหลายร้านเลยครับ แต่ฮอลแลนด์ไม่มีเพราะกฎหมายฮอลแลนด์อนุญาตให้ขายพลุก่อนช่วงปีใหม่เท่านั้น แต่ที่เบลเยียมสามารถขายได้ตลอดปีครับ นอกจากนี้ ร้านค้าฝั่งเบลเยียมเปิดร้านทุกวัน แต่ฝั่งฮอลแลนด์จะปิดร้านในวันอาทิตย์ ดังนั้น ในวันอาทิตย์ชาวเมืองก็จะไปช้อปฝั่งเบลเยียมกันครับ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           บ้านหลังนี้อยู่ฝั่งฮอลแลนด์ แต่สวนของบ้านหลังนี้อยู่เบลเยียมครับ และเส้นพรมแดนก็ลากต่อไป บ้าน 3-4 หลังที่เห็นหน้าบ้านจะอยู่ฝั่งเบลเยียม หลังบ้านอยู่ฝั่งฮอลแลนด์ครับ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           โรงรถของบ้านหลังนี้ตั้งอยู่สองประเทศครับ รวมถึงต้นไม้ที่เห็นก็อยู่ทั้งสองประเทศ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           หลังการปักปันดินแดนแล้วเสร็จ พบว่าเส้นพรมแดนนั้นต่างจากที่เข้าใจกันมาแต่เดิม บ้านบางหลังที่เคยอยู่ในฮอลแลนด์ก็พบว่ากลายเป็นฝั่งเบลเยียม บ้านบางหลังที่เป็นฝั่งเบลเยียมก็กลายว่าอยู่ฝั่งฮอลแลนด์ บ้านหลายหลังหลังจากขีดเส้นพรมแดนแล้วก็มีพื้นที่อยู่ทั้งฝั่งฮอลแลนด์และเบลเยียม แล้วถ้าบ้านหลังนั้นตั้งอยู่ในสองประเทศ แล้วต้องจ่ายภาษีให้ประเทศไหน คำตอบ ก็คือ ดูที่ประตูหน้าของบ้านครับ ถ้าประตูหน้าอยู่ที่ฝั่งไหนก็จ่ายภาษีและใช้สาธารณูปโภคของฝั่งนั้นครับ เช่น ร้านขายของร้านนี้จะเห็นว่าเส้นพรมแดนนั้นลากผ่านกลางร้านเลย พื้นที่ร้านส่วนใหญ่อยู่เบลเยียม แต่ประตูอยู่ฝั่งฮอลแลนด์ครับ ลูกค้าเมื่อซื้อของจากฝั่งเบลเยีมแล้วก็ข้ามฝั่งมาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ฝั่งฮอลแลนด์ครับ ขนของข้ามแดนกันเลยทีเดียว

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ร้านฝั่งหนึ่งอยู่เบลเยียม อีกฝั่งอยู่ฮอลแลนด์

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ผู้คนก็เดินข้ามแดนกัน ไม่สนใจพรมแดนเลยครับ

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ใกล้ ๆ กันนั้นจะเป็นลานจอดรถ รถที่นี่จอดกันข้ามประเทศกันเลยทีเดียว

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           คันนี้อีกล้อจอดอยู่ฝั่งฮอลแลนด์ อีกสามล้อจอดอยู่ฝั่งเบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           คันนี้ล้อหนึ่งจอดอยู่ฝั่งเบลเยียม อีกสามล้ออยู่ฝั่งฮอลแลนด์

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           บริษัทนี้มีทางเข้าสองประตูครับ สำหรับลูกค้าที่มาจากฮอลแลนด์และลูกค้าที่มาจากเบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           รถคันนี้มาจอดพอดีครับ ด้านหน้าของรถอยู่ฝั่งฮอลแลนด์ ส่วนท้ายรถจอดอยู่เบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           ร้านนี้ด้านหน้าร้านอยู่ฝั่งเบลเยียม แต่เดินเข้าไปข้างในเป็นประเทศฮอลแลนด์ครับ



           ตรงนี้ คือ ชายแดนครับ ระหว่างเมือง Baarle-Hetog ประเทศเบลเยียม กับ Baarle-Nassau ประเทศฮอลแลนด์

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           การแบ่งว่าบ้านนั้นอยู่ประเทศไหน พิจารณาจากประตูหน้าของบ้านหลังนั้น แต่มีบ้านอยู่หลังหนึ่งเส้นพรมแดนตัดผ่านกลางประตูบ้านเลยครับ บ้านหลังนี้ก็เลยเป็นบ้านที่มี 2 บ้านเลขที่ คือ บ้านเลขที่ 19 ถนนโลเวเรน ประเทศฮอลแลนด์ และบ้านเลขที่ 2 ถนนโลเวเรน ประเทศเบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           สุดท้ายแล้ว...เส้นพรมแดนมันก็เป็นแค่เส้นสมมติที่มนุษย์จินตนาการขึ้นมา เพื่อแบ่งแยกกันเท่านั้นเอง

เส้นพรมแดนฮอลแลนด์-เบลเยียม

           จะเห็นได้ว่าการที่ประชาชนและรัฐบาลมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เส้นเขตแดนก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป ในกรณีของฮอลแลนด์กับเบลเยียม ประชาชนก็ไปมาหาสู่กันตามปกติ เส้นเขตแดนก็เป็นเพียงเส้นสมมติ

           ถ้าเป็นประเทศอื่นที่รัฐบาลไม่ถูกกันก็คงสั่งทุบบ้านแล้วก็สร้างรั้วกั้นพรมแดนกันไปแล้ว ลองมาดูอีกกรณีหนึ่งที่มีดินแดนซ้อนกันไปมาเหมือนกันตามวิดีโอด้านบนนะครับ ที่ดินแดนของอินเดียอยู่ในบังกลาเทศและดินแดนของบังกลาเทศอยู่ในอินเดีย รัฐบาลอินเดียและบังกลาเทศไม่ค่อยถูกกัน ทำให้ชาวอินเดียที่อยู่ในดินแดนที่ล้อมรอบด้วยบังกลาเทศ และชาวบังกลาเทศที่อยู่ในดินแดนที่ล้อมรอบด้วยอินเดีย มีสภาพเหมือนถูกขังอยู่ในประเทศตนเอง ติดต่อกับดินแดนอื่น ๆ ไม่ได้ น้ำไฟจากประเทศตัวเองก็มาไม่ถึง อันนี้ก็แย่เหมือนกันครับ












เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Unseen ฮอลแลนด์-เบลเยียม เมื่อเส้นพรมแดนเป็นแค่เส้นสมมติ อัปเดตล่าสุด 24 มิถุนายน 2557 เวลา 22:08:30 13,744 อ่าน
TOP
x close