x close

เรื่องน่ารู้...การขอวีซ่าเชงเก้นของออสเตรีย แบบละเอียดยิบ

ออสเตรีย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ PrinzSchweini สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          "ออสเตรีย" หนึ่งในประเทศโซนยุโรปที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งความเป็นอยู่ของชาวเมืองที่ดีพร้อม แถมยังเป็นจุดมุ่งหมายหลัก ๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเสมอ ส่วนเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปท่องเที่ยวออสเตรียอยู่ นอกจากการเตรียมตัวแล้วยังต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ มากมายให้พร้อม เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง โดยเฉพาะ "วีซ่าเชงเก้น" (วีซ่าสำหรับกลุ่มประเทศเชงเก้น มี 26 ประเทศ ในโซนยุโรป) วันนี้เราเลยแวะไปหยิบเอารายละเอียดต่าง ๆ จาก คุณ PrinzSchweini สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่แชร์ประสบการณ์การขอ "วีซ่าเชงเก้นของออสเตรีย" แบบแจงรายละเอียดทุกขั้นทุกตอนมาบอกกัน ส่วนจะมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้น ตามเราไปดูกันเลยจ้า
 

          สวัสดีค่ะ วันนี้ว่างจัดเลยตั้งใจมาแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าเชงเก้นของออสเตรีย ผ่าน VFS แบบละเอียดยิบกันเลย เราตั้งใจไปยุโรป 4 ประเทศ ช่วงสิงหาคมนี้ค่ะ : Austria-Czech-Slovakia-Germany ทริปของเราจะสบาย ๆ ตบท้ายไปดูบอลที่มิวนิค เพราะระยะเวลาเที่ยวของเราอยู่ที่ 32 วันค่ะ

ไปยื่นวีซ่าที่ไหน ?

          ตั้งแต่ช่วงประมาณกันยายนปีที่แล้ว สถานทูตให้ยื่นคำร้องผ่าน VFS เท่านั้นค่ะ

          ที่ตั้ง VFS ของสถานทูตออสเตรีย : ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศออสเตรีย ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15 ยูนิต C สีลมคอมเพล็กซ์ 191 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ10500

          ถ้ามา BTS ให้ลงสถานีศาลาแดง แล้วเดินเข้าไปที่ Office zone ขึ้นชั้น 15 ศูนย์รับคำร้องอยู่ขวามือค่ะ

เอกสารที่ต้องเตรียม

          กรณีของเรา คือ เราเป็นนักศึกษาค่ะ

          1. ใบนัดหมายยื่นวีซ่า : เข้าไปที่ http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/all_about_visa.html

          ด้านซ้ายมือจะมีเมนูเขียนว่า การนัดหมายเพื่อยื่นคำร้องขอวีซ่า แล้วให้คลิกเลือก "Schedule an Appointment"…

          เมื่อเข้าไปแล้วเค้าให้เราเลือกศูนย์ที่จะไปยื่น ในที่นี้ให้คลิกเลือก Bangkok อย่างเดียวค่ะ

          ถัดมาก็จะให้เราเลือกประเภทของวีซ่า (ของเราให้เลือก Tourist ค่ะ เพราะไปเที่ยว) ถ้าขอหลายคนคราวเดียวก็ให้ใส่จำนวนคนไปตามนั้นค่ะ

          เมื่อเลือกประเภทวีซ่าแล้วมันจะเด้งวันที่ว่างเป็นกรอบสีเขียวให้เราเห็นในเดือนนั้น ๆ ค่ะ เมื่อเลือกได้แล้วก็มาใส่ข้อมูลตามพาสปอร์ต จากนั้นก็เลือกเวลาที่จะเข้าไปยื่น อย่าลืมพริ้นท์ใบนี้ออกมาด้วยนะคะตอนยื่นวีซ่า เพราะคนที่ไม่มีใบนัดแล้ว walk in เข้าไป อาจจะต้องรอยันบ่ายสามหรือก็ไม่ได้ยื่นเลยค่ะ

          2. แบบฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่า ติดรูปถ่ายสีที่มีพื้นหลังสีขาว และเป็นรูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ขนาด 3.5 cm x 4.5cm ไม่ยิ้ม : ให้ใช้แบบภาษาอังกฤษนะคะ เพราะแบบภาษาเยอรมันสำหรับคนที่จะไปอยู่ยาวเพื่อเรียนต่อหรือกรณีอื่น ๆ

          ดาวน์โหลดได้จากที่นี่ค่ะ >>> http://www.vfsglobal.com/austria/thailand/thai/tourist_visa_form.html

          ขอให้กรอกข้อมูลตามความเป็นจริงนะคะ ถ้าเกิดมีข้อมูลเท็จทางสถานทูตมีสิทธิปฏิเสธไม่ให้วีซ่าเราค่ะ ส่วนรูปถ่ายก็จำนวน 2 ใบนะคะ

          3. เล่มพาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาพาสปอร์ตจำนวน 2 ใบ : ลงชื่อกำกับพร้อมวัตถุประสงค์ลงในสำเนาให้เรียบร้อย

          4. จดหมายแนะนำตัว : กรณีนี้ คือ เราไปพักกับแฟนที่เป็นคนออสเตรีย เราเลยอธิบายเรื่องราวของเรารวมถึงความสัมพันธ์กับแฟนอย่างละเอียด แล้วก็แนบรูปที่ที่เรากับแฟนไปเที่ยวด้วยกัน, ทริปครอบครัว ฯลฯ อธิบายเพื่อให้ทางสถานทูตมั่นใจว่าเรามีภาระผูกพัน ต้องกลับมายังประเทศไทยแน่นอน (ของเรา คือ ต้องกลับมาเรียนต่อให้จบ) แล้วเราก็ใส่รายละเอียดไปด้วยว่าเรามีคุณแม่เป็นสปอนเซอร์ให้ โดยตกลงให้แฟนออกค่าใช้จ่ายเฉพาะอาหาร และให้เราอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เค้าเท่านั้น เราเขียนไป 3 หน้าค่ะ แล้วก็เขียนเป็นหัวเรื่องแยก ๆ ไปเลย เพื่อคนพิจารณาจะได้อ่านง่ายขึ้น หน้าเดียวบางทีรายละเอียดไม่ค่อยมี อาจซวยโดนปฏิเสธวีซ่าได้ เพราะงั้นยาวหน่อยแต่รายละเอียดแน่นน่าจะช่วยได้มากอยู่ค่ะ เพราะเราไม่ได้ไปสัมภาษณ์กับสถานทูตเองแล้ว ข้อนี้ถือว่าสำคัญเลยค่ะ

          5. เอกสารรับรองความเป็นนักศึกษา : ให้ขอแบบภาษาอังกฤษนะคะ เพราะมีกฎอยู่แล้วว่าเอกสารทุกอย่างต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน ในกรณีถ้าทำงานแล้ว ขอใบรับรองความเป็นพนักงานจากบริษัทพร้อมตราประทับค่ะ

          6. แผนการเดินทาง : อันนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สุดค่ะ เพราะจะทำให้สถานทูตได้รับทราบคร่าว ๆ ว่าจะไปทำอะไรที่ไหนบ้าง วางแผนอย่างไร และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้สถานทูตค่ะว่าเราไม่มี Hidden agenda แน่นอน ภายในแผนการเดินทางควรจะประมาณค่าใช้จ่ายในแต่ละวันด้วยนะคะ แล้วค่อยมาสรุปตัวเลขคร่าว ๆ อีกทีที่ท้ายตารางค่ะ ใครที่อยากได้ตัวอย่างของเราก็หลังไมค์มาได้นะคะ

          7. เอกสารประกันการเดินทาง ขั้นต่ำ 30,000 ยูโร : เช็กกับเว็บสถานทูตได้เลยค่ะว่าบริษัทไหนได้รับการรับรองบ้าง เราใช้ของบูพาค่ะ

          8. ใบจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ : ยังไม่ต้องซื้อนะคะ เราติดต่อกับเอเจนซี่ว่าเราจะไปยื่นวีซ่า เค้าจะออกใบจองมาให้เราค่ะ ไว้วีซ่าผ่านก็จะมาคุยกันอีกที

          9. ใบจองโรงแรม : เราใช้ของ booking.com เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียมในการจอง เราจองไว้ที่ Munich กับ Prague ค่ะ แต่ที่ Munich จริง ๆ เราจะไปพักที่อพาร์ทเม้นท์ของแฟนบอลท่านหนึ่งที่อยู่ใกล้สนามซ้อมพอดี โชคดีไปค่ะ เพราะหาห้องราคาที่พอใจใน Munich ยากมาก ยิ่งช่วงหน้าร้อนที่นู่นราคาเพิ่มอีกสองเท่าเลยค่ะ

          10. จดหมายสปอนเซอร์ : เราให้คุณแม่เป็นสปอนเซอร์ในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ โดยท่านจะรับผิดชอบในเรื่อง pocket money กับค่าตั๋วให้ และถ้าหากสถานทูตมีคำถามเราก็ให้เบอร์ท่านเอาไว้ ดังตัวอย่างค่ะ

วีซ่าเชงเก้นออสเตรีย

          11. สำเนาบัตรประชาชนสปอนเซอร์

          12. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสปอนเซอร์ : เราใช้ทะเบียนบ้านค่ะ แล้วก็แปลเป็นภาษาอังกฤษ ฟอร์มทะเบียนบ้านสามารถหาโหลดได้ที่เว็บไซต์กรมการกงสุลนะคะ ไม่ต้องส่งให้กงสุลประทับรับรอง แค่ต้องให้ผู้แปลเซ็นชื่อรับรองด้วยค่ะ (เราแปลเอาเอง)

          13. สำเนาบัญชีธนาคารของสปอนเซอร์ : ของเราย้อนไป 3 เดือนเลยค่ะ แล้วเราแนบสำเนาใบทะเบียนการค้าของคุณแม่ไปด้วยกันเหนียว อย่าลืมให้เซ็นลงสำเนาทุกฉบับนะคะ

          14. จดหมายเชิญจากแฟน : ความจริงแล้วสถานทูตให้ผู้สมัครแสดง Code เชิญจากสถานีตำรวจที่ออสเตรีย พร้อมทั้งแสดงหน้าหนังสือเดินทางของคนเชิญ ประกอบด้วย (ในกรณีไปพักกับเพื่อน ญาติ หรือ คู่สมรส) แต่ทีนี้เราไม่รู้ค่ะ เลยให้แฟนเขียนแบบจัดเต็ม พร้อมแนบสำเนาพาสปอร์ต, proof of resident แล้วก็สัญญาการเช่าอพาร์ทเม้นท์ค่ะ

ข้อควรจำ

          เอกสารควรอัพเดทให้ใกล้เคียงกับวันยื่นมากที่สุดไม่เกิน 1 เดือน

          เอกสารที่ใช้ยื่นทั้งหมดต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาเยอรมัน

          รวมเวลาที่เราเตรียมเอกสาร ก็ประมาณเกือบสองเดือนค่ะ เมื่อยื่นเสร็จเค้าก็จะเรียกไปเสียค่าวีซ่าแล้วก็เก็บลายนิ้วมือไบโอเมตริกเพื่ออ้างอิงค่ะ

ค่าวีซ่า

          ให้จ่ายด้วยเงินสด ณ เวลายื่นวีซ่าเท่านั้นค่ะ

          ค่าธรรมเนียมวันที่เราไปยื่น (22 พฤษภาคม 2557) อยู่ที่ 2,680 บาท
          ค่าดำเนินการ 1,120 บาท
          ค่าอื่น ๆ 260 บาท

          เราขอให้เค้าส่งมาทางไปรษณีย์ให้ค่ะ เพราะเราอยู่เชียงราย ไม่สะดวกไปรับเอง

          เราตกใจมากเลยล่ะค่ะที่สถานทูตพิจารณาไวมากกก ทั้งที่บอกว่าใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน เรายื่นเรื่องไป 22 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาวันที่ 26 พฤษภาคม ว่าเรียบร้อยแล้ว 28 พฤษภาคม เราได้รับเล่มคืนพร้อมเชงเก้นวีซ่าค่ะ ให้เราแถมมาด้วยตั้ง 14 วัน อีกต่างหาก

          หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้ทุกคนนะคะ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องน่ารู้...การขอวีซ่าเชงเก้นของออสเตรีย แบบละเอียดยิบ อัปเดตล่าสุด 9 มิถุนายน 2557 เวลา 10:59:05 13,051 อ่าน
TOP