นั่งรถไฟชมวิวกับทริปเดินทางด้วยรถไฟ 10 แห่งทั่วโลก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ย้อนกลับไปกว่า 500 ปีก่อน การเดินทางด้วยรถไฟเคยเป็นเส้นทางยอดนิยมที่หลายคนใช้กันเป็นประจำ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เรื่อย ๆ จนมีทั้งเครื่องบิน, รถไฟฟ้า และอื่น ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้รถไฟค่อย ๆ ถูกใช้น้อยลงไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ดี ใช่ว่าการเดินทางด้วยรถไฟจะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาเสมอไป มีรถไฟไม่น้อยที่กลายมาเป็นทริปท่องเที่ยวชมวิวรอบข้างแทน ซึ่งมันมีเสน่ห์ความคลาสสิกแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น ๆ อย่างแน่นอน และวันนี้กระปุกท่องเที่ยวก็ได้รวบรวมทางรถไฟเก่าแก่ที่น่าสนใจ 10 แห่งทั่วโลก จากเว็บไซต์ The world geography มาฝากกันแล้ว...อย่ารอช้าลองไปดูกันเลยดีกว่า

1. Konkan, ประเทศอินเดีย

          ปัจจุบันรถไฟยังเป็นที่นิยมใช้กันมากในประเทศอินเดีย ทำให้ไม่ได้มีแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่คุณสามารถพบคนท้องถิ่นบนขบวนรถไฟได้มากมาย โดยมันเป็นรถไฟที่แล่นเลียบชาย ฝั่ง Konkan จากหมู่บ้าน Thokur ใกล้เมือง Mangalore ไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟ Roha ในรัฐ Maharashtra ซึ่งระหว่างทางคุณจะได้เห็นทิวทัศน์เขียวชอุ่มของป่าไม้ รวมทั้งทะเล และสิ่งพิเศษสุดคือน้ำตก Dudhsagar อันงดงาม
 

2. Rocky Mountaineer, ประเทศแคนาดา

          รางวัล World\'s Leading Travel Experience by Train ที่รถไฟสายนี้เคยได้รับเมื่อปี 2005, 2006 และ 2007 คงมากพอจะการันตีความงดงามของทริปนี้ได้แล้ว นอกจากนี้ นิตยสารชื่อดัง National Geographic ยังเคยเลือกให้ที่นี่เป็นสุดยอดการเดินทางเมื่อปี 2007 อีกด้วย โดยขณะที่อยู่บนรถไฟคุณจะได้เห็นความงามของภูเขาขนาดใหญ่ในแคนาดาอย่างใกล้ชิด จนแทบอยากให้เวลาเดินช้าลงและนั่งอยู่อย่างนี้ไปนาน ๆ เลยทีเดียว
 
 

3. Argo Gede, ประเทศอินโดนีเซีย

          โดยเฉลี่ยการขึ้นรถไฟสายนี้กินเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งมันจะพาคุณแล่นจาก Jakarta สู่ Bandung และระหว่างทางคุณก็จะได้เห็นวิวภูเขาและหุบเขาธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยสีเขียวขจี อีกทั้งยังมีภาพของการเพาะปลูกชาแบบลาดชัน, นาข้าว, น้ำตก และวิวของหมู่บ้านชนบท เป็นทิวทัศน์อีกอย่างที่ทำให้ 3 ชั่วโมง นั้นผ่านไปไวจนคุณไม่ทันรู้ตัวอีกด้วย
 


4. Jungfrau, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

          รถไฟร่วมสมัยขบวนนี้จะพาคุณเดินทางจากเมือง Kleine Scheidegg ผ่านเขา Eiger North Wall ไปที่สถานี Eigergletscher ซึ่งร้านอาหารบนเขาและกระท่อมสุนัขลากเลื่อนของที่นี่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ จนหลายคนต้องแวะมาเที่ยวชมกันสักหน่อย จากนั้นจึงเดินทางลอดผ่านอุโมงค์ Eiger ไปยังสถานี Eigerwand และ Eismeer สถานีทางทิศเหนือและใต้ของเขา Eiger โดยแวะพักจุดละ 5 นาที ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปชื่นชมบรรยากาศ โดยเฉพาะวิวลานน้ำแข็งขนาดใหญ่
 
 
 
5. Rovos Rail, ประเทศแอฟริกาใต้
 
          มันถูกเรียกว่าเป็น "ความภูมิใจของแอฟริกา" ซึ่งก็ดูจะสมเหตุสมผลอยู่หรอก จากการที่รถไฟขบวนนี้ เป็นโรงแรมบนรถไฟพร้อมเครื่องเรือนหรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีพร้อมทั้งห้องอาหารและพื้นที่พัก ผ่อนแบบส่วนตัว แบ่งเป็นขนาดแตกต่างกันออกไป ได้แก่ ห้องพัก Pullman ขนาดราว 7 ตารางเมตร และ Royal Suite 16 ตารางเมตร ที่มีแม้กระทั่งอ่างอาบน้ำสไตล์วิคตอเรียนสุดหรู ยิ่งไปกว่านั้นวิวการเดินทางชม Capital Park ของเมือง Pretoria ยังงดงามเหนือจินตนาการอีกด้วย ซึ่งจุดเด่นที่สุดของทริปนี้คงต้องยกให้น้ำตก Victoria อันโด่งดังนั่นเอง
 
 

6. Kuranda Scenic, ประเทศออสเตรเลีย

          Kuranda Scenic คือชื่อของรถไฟสายที่จะพาคุณเดินทางจากเมือง Cairns รัฐ Queensland ไปยังเมืองใกล้เคียงชื่อว่า Kuranda โดยระหว่างทางมีธรรมชาติเขียวชอุ่ม ให้ชมมากมายตลอดทาง แต่ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น Barron Gorge National Park ที่มีน้ำตก Barron แสนสวยรวมอยู่ด้วย ซึ่งรถไฟจะจอดแวะพักที่จุดนี้ให้นักท่องเที่ยวได้แวะชมวิว หรือถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอย่างแน่นอน
 

 
7. Outeniqua Choo Tjoe, ประเทศแอฟริกาใต้
 
          หากคุณคิดถึงการนั่งรถไฟแบบคลาสสิกย้อนยุคอย่างแท้จริง ก็ต้องนึกถึงรถไฟสาย Outeniqua Choo Tjoe นี้แหละ เพราะมันคือรถไฟหัวจักรไอน้ำสายสุดท้ายที่ถูกใช้งานในประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนจะปิดตัวลงเมื่อปี 2009 แต่สมัยที่มันถูกใช้เดินทางจากเมือง George ไปยัง Knysna เลียบชายฝั่งมองเห็นทะเลสาบสีฟ้าใสระหว่างข้ามสะพานใน Knysna นั้น เป็นทริปที่น่าประทับใจจนดึงดูดผู้โดยสารได้ราว 115,000 คนต่อปี แถม 70% ในนั้นยังเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียด้วย
 

8. Albula-Bernina Railway Line, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

          ทางรถไฟของ Rhaetian Railway บริษัทให้บริการเส้นทางการเดินรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นี้แบ่งออกเป็น 2 สายได้แก่ Glacier Express ซึ่งเดินทางจาก Zermatt ไปยัง Davos หรือ St. Moritz โดยใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง แล่นผ่านอุโมงค์ทั้ง 91 แห่ง นับเป็นเวลาการเดินรถไฟที่ยาวนานที่สุดในโลก และ Bernina Express ที่เป็นตัวเชื่อมเมือง Chur จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เข้ากับเมือง Poschiavo และ Tirano ในประเทศอิตาลี โดยมีวิวเทือกเขาอันสวยงามเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ทริปนี้คุ้มค่าอย่างที่สุด
 

9. Chemin de Fer de La Mure, ประเทศฝรั่งเศส

          รถไฟสายนี้จัดขึ้นมาเพื่อทำเป็นทัวร์ชมธรรมชาติในเมือง Grenoble ประเทศฝรั่งเศส สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เพราะเน้นการเดินทางเพื่อชมธรรมชาติด้วยรถไฟล้วน ๆ และช่วงกลางปี 1970 ก็เคยเกือบถูกปิดไปแล้วด้วย แต่เนื่องด้วยปัญหาวิกฤตน้ำมันช่วงนั้นมันจึงรอดมาได้ และกลายมาเป็นทัวร์นั่งรถไฟชมทะเลสาบพร้อมวิวภูเขาอันงดงามอย่างทุกวันนี้
 
 

10. Conway Scenic, สหรัฐอเมริกา

          ทางรถไฟสายเก่าแก่นี้เป็นทางเดินของรถไฟที่เริ่มต้นจากทางเหนือของเมือง Conway ไปสิ้นสุดที่เมือง Fabyan โดยมีทิวทัศน์ภูเขาเขียวชอุ่มพร้อมดอกไม้สีสันสวยสดใส ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐใน New Hampshire เป็นวิวประกอบอันงดงาม ที่ทำให้หลายต่อหลายคนติดใจถ่ายภาพสวย ๆ เอาไว้เป็นที่ระลึกกันมาแล้ว
 

          แม้ว่าการเดินทางด้วยรถยนต์หรือเครื่องบินจะสะดวกสบาย แต่ยังไงซะมันก็ไม่ได้บรรยากาศการเที่ยวแบบย้อนยุคเงียบสงบ ผ่อนคลาย เหมาะกับการชื่นชมธรรมชาติ อย่างการเลือกเดินทางด้วยรถไฟแน่นอน ดังนั้น ลองเปลี่ยนมานั่งรถไฟดูสักครั้ง รับรองว่าจะเป็นทริปท่องเที่ยวที่คุ้มค่าแน่นอนค่ะ