เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ White Lace สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
อุบลราชธานี...เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดสุดฮอตฮิต ที่เหล่าบรรดานักเดินทางต่างแวะเวียนไปสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวแจ่ม ๆ เจ๋ง ๆ ที่มีอยู่มากมาย หลากหลายรูปแบบ ทั้งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของผู้คน สมกับที่มีคำขวัญว่า...เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์
และวันนี้กระปุกท่องเที่ยวก็จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวอุบลฯ กันอีกสักครั้ง กับการตามบันทึกการเดินทางและภาพถ่ายสวย ๆ จากฝีมือของ คุณ White Lace สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไปท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ กัน
ทริปนี้เริ่มจากความอยากจะไปทุ่งดอกไม้ที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ อุบลราชธานีค่ะ จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลว่าอุบลฯ มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ก็เลยได้ความมาว่า ทริปนี้เราจะไป สามพันโบก ทุ่งดอกไม้น้ำตกสร้อยสวรรค์ ผาชะนะได น้ำตกลงรู และซืนวาน ช้อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ของอุบลฯ
เรามีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืนคะ ขับรถก็ 10 ชั่วโมงละ แล้วจะเที่ยวทันไหม ทริปนี้ไปกัน 4 คนค่ะ ค่าใช้จ่ายตกคนละ 2,000 บาท เราว่าถูกมาก คุ้มค่ากับการเดินทางครั้งนี้
เราออกจากกรุงเทพฯ 09.00 น. ขับรถตรงดิ่งไปอุบลฯ ไปถึง “บ้านสวนณัชชนา” ที่พักของเราก็ประมาณ 20.00 ค่ะ ตอนแรกกะว่าจะกางเต็นท์นอนริมแม่น้ำโขง แต่ อาจารย์เรืองประทิน บอกว่าสถานที่ยังไม่พร้อม...อดเลย ก็เลยนอนห้องพักคืนละ 900 บาท นอนได้ 3 คน แต่เรายัดเข้าไปนอน 4 คนเลย แล้วก็เพิ่มค่าห้องไปค่ะ ตอนแรกไปถึงที่บ้านสวนณัชชนาก็เงียบ ๆ ค่ะ แต่พออาจารย์เรืองประทินกลับมา ก็พาแขกออกไปถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือก สอนเทคนิคถ่ายรูปให้อีก สนุกสนานกันไป อาจารย์ใจดีค่ะ อัธยาศัยดีมาก ก่อนเข้านอนอาจารย์ก็นัดแนะเวลาค่ะ บอกว่าเจอกันพรุ่งนี้เช้าตีห้าครึ่ง ประหลาดใจ แล้วจะต้องตื่นกี่โมงล่ะเนี่ย ตอนแรกก็คิดว่าตั้งนาฬิกาปลุกไว้อย่างนั่นล่ะ ถ้าตื่นไม่ไหวก็ไม่ไปหรอก ปรากฏว่าตอนเช้านาฬิกายังไม่ทันปลุกก็ตื่นซะแล้ว
ขับรถมาแป๊บเดียว แป๊บเดียวจริง ๆ ค่ะ ก็เจอแสงทไวไลท์....ไทยลูกทุ่งแบบนี้ คุ้มค่ากับการตื่นตีห้าค่ะ (-_-)zzz
เรือของชาวบ้านออกหาปลาแต่เช้า เค้าคงชินกับวิวสวย ๆ แบบนี้ ต่างจากเราที่ต้องออกเดินทางแสวงหาความสวยงามแบบนี้
นั่งชมพระอาทิตย์ยามเช้ามีความสุขที่สุด บางคนเห็นแบบนี้ก็ไม่รู้สึกอะไรนะคะ แต่สำหรับเรารู้สึกมีความสุขมาก
อาจารย์บอกมากระโดดกันหน่อยเดี๋ยวอาจารย์ถ่ายรูปให้ ก็เลยจัดให้กระโดดซะแผ่นหินแทบแตก5555 (^0^)
นี่แหละจ้าผาวัดใจ ไม่ค่อยสูงนะคะ แต่ขาสั่น
ไกด์เด็กน้อยเอาเรือมารับพวกเราแล้ว ถ้าหากบางคนไปผาวัดใจอาจจะกลับไปที่พักก่อนแล้วค่อยไปสามพันโบกตอนสาย แต่เราอยากไปต่อเลย อาจารย์ก็เลยโทรศัพท์เรียกเรือมารับที่ผาวัดใจนั่นแหละค่ะ
ถึงแล้วค่ะ...สามพันโบก
สระมรกตไม่ได้มีแต่ที่กระบี่นะคะ ที่สามพันโบกก็มี น้ำน่าเล่นค่ะ เหมือนเป็นสระน้ำ แต่น้อง ๆ เค้าบอกเห็นอย่างนี้มันลึกนะพี่
ถ่ายรูปไม่ค่อยเยอะค่ะมันร้อน (เปล่าหรอกถ่ายมาแล้วแต่ทุเรศเกินกว่าจะเอามาลง 555)
นี่ไกด์พาเที่ยวสามพันโบกของเราค่ะ
เสร็จกิจที่สามพันโบกก็นั่งเรือไปหาดหงส์ต่อเลย ตอนไปนี่ประมาณ 7 โมงกว่า ๆ แต่อยากจะบอกว่าร้อน ร้อน และร้อนมาก แนะนำว่าควรพกอุปกรณ์กันความร้อนไปด้วย ตอนแรกกะว่าจะไม่ลงเพราะร้อนเหลือ แต่พอเห็นหาดหงส์แล้วก็คิดว่าลงดีกว่า ไปถ่ายรูปแอ๊บหลอกเพื่อนว่าไปทะเล Sahara มา
ข้อดีของแดดจัด ๆ ก็คือถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยดีค่ะ *อย่าลืมใส่เสื้อผ้าสีสด ๆ ไปนะคะ จะได้ถ่ายรูปออกมาสวย ๆ
เหมือนทะเลทรายเลยถ้ามีอูฐจะเวิร์คมาก...ถ้าไปคราวหน้าเช่าอูฐจากเขาดินวนาไปด้วยดีกว่า
ปิดท้ายสามพันโบกด้วยภาพนี้นะคะ
กลับจากสามพันโบกเราก็ทานอาหารเช้าที่บ้านสวนณัฐชนา ทานเสร็จเราก็เก็บของเดินทางไปที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ต่อกันเลยค่ะ จะได้ไปดูทุ่งดอกไม้ดังที่ตั้งใจไว้
เดินขึ้นไปด้านบนของน้ำตกแต่น้ำค่อนข้างจะแห้งแล้วค่ะ ต้องปีนป่ายกันนิดนึง ขึ้นไปก็เจอเด็กพวกนี้เล่นน้ำอยู่กระโดดลงมาจากหน้าผาเห็นแล้วเสียวค่ะเพราะมันสูง บ่อน้ำข้างล่างเล็กนิดเดียวเอง
จากที่เราปีนขึ้นมามันทะลุไปทุ่งดอกไม้ได้นะคะ ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะได้ แต่ถามน้อง ๆ พวกนี้เค้าก็บอกว่าเดินไปได้ก็เลยลองไปดู ขึ้นมาก็เจอทุ่งดอกไม้ 1 ทุ่งค่ะ
สำหรับใครหวังว่าจะเจอทุ่งดอกไม้ดอกใหญ่ ๆ บานสะพรั่ง ความจริงมันไม่ใช่นะคะ มันจะเป็นทุ่งดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ที่อยู่รวมกันเป็นจำนวนมากเป็นทุ่งกว้างเลยค่ะ แต่ไม่ได้ผิดหวัง เพราะมันสวยค่ะ เราชอบ บวกกับฟ้าใส ๆ ยิ่งสวยไปใหญ่ แต่อากาศที่นี่ร้อนมากค่ะ เรามาถึงตอนบ่ายโมงแดดนี่แผดเผาสุด ๆ กรุณาเตรียมอุปกรณ์ป้องกันแดดมาด้วย ย้ำว่าร้อนจริงนะคะ ทำเอาหน้ามืดได้เลย
สีม่วงเข้ม "ดอกดุสิตา"
สีม่วงอ่อน "ดอกหงอนนาค"
"หญ้าน้ำค้าง" สีแดงสวยเหมือนมีน้ำค้างเกาะตลอดเวลา คงเป็นที่มาของชื่อนี้
อันนี้ไม่รู้ค่ะ ใครรู้ก็ช่วยบอกที
ส่วนอันนี้น่าจะเป็นหญ้ารากหอมมั้งค่ะ
ประมาณบ่ายสามเราก็ออกจากน้ำตกสร้อยสวรรค์มุ่งหน้าไปผาชะนะได ใครจะไปค้างคืนที่ผาชะนะไดเตรียมอาหาร เครื่องดื่มให้พร้อมนะคะ เพราะข้างบนไม่มีร้านขายอะไรเลย ไม่มีเลยจริง ๆ ถ้าไม่เตรียมไปอดแน่ค่ะ ทางขึ้นผาชะนะไดค่อนข้างลำบาก เหมือนขับรถบนลานหิน แนะนำให้ใช้รถ 4WD ค่ะ คนขับก็ควรมีประสบการณ์ด้วย
เส้นทางขึ้นผาชะนะไดเริ่มจากสุดถนนลาดยางตรงปากทางเข้าวัดถ้ำปาฏิหาริย์ เป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ในที่สุดเราก็มาถึง กางเต็นท์เตรียมตัวนอนหนาวดูดาวคืนนี้
พอมืดดาวก็เต็มท้องฟ้าเลย แต่เสียดายอากาศไม่หนาวเลย ถุงนอน เสื้อหนาวขนไปเต็มที่ไม่ได้ใช้เลย ถ่ายดาวมาได้แค่นี้นะคะ ถ่ายไม่เป็นค่ะ
คืนนี้เรารีบเข้านอน เพื่อจะได้ตื่นแต่เช้าไปดูแสงแรกของประเทศไทยกันค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดจะชอบรอดูตอนพระอาทิตย์ตกกับตอนพระอาทิตย์ขึ้นมาก ๆ ขนาดปกติเป็นคนขี้เกียจตื่น แต่เพื่อจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นนี่แทบไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกเลยค่ะ เช้านี้ก็เช่นกัน ตื่นมาก่อนตีห้าเพราะกลัวจะไม่ทันพระอาทิตย์ ตื่นมาฟ้ายังมืด คลำ ๆ หาทางไปผาชะนะไดก็ดมกลิ่นตาม ๆ เค้าไปค่ะ ถ้าใครไปอย่าลืมพกไฟฉายไปนะคะ เพราะมืดเดี๋ยวจะเดินตกเขาไปซะก่อน 55 พระอาทิตย์วันนี้มาช้าเล่นตัวนิดหน่อย
ชอบวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ค่ะ เพราะวิวแม่น้ำให้ดูด้วยปรกติจะเป็นแต่ภูเขา ภูเขา แล้วก็ภูเขา
พระอาทิตย์มาแล้ว แต่ไม่เป็นไข่แดงอย่างที่แอบหวัง ผากำปั่นอยู่ทางด้านซ้ายของผาชะนะได แต่ว่ายังไม่มีทางสำหรับนักท่องเที่ยวไปนะคะ
ระหว่างทางก็จะมีหินแปลก ๆ เยอะแยะค่ะ ส่วนหินที่เค้ามีชื่อที่ฮิต ๆ กันเราก็ไม่ได้ถ่ายมาหรอกนะคะ ถ่ายแต่ที่ ๆ เราอยากถ่าย
วัดถ้ำปาฏิหาริย์แบบไกล ๆ เราไม่ได้แวะเข้าไปเพราะเวลาน้อย และต้องรีบไปที่เป้าหมายต่อไป
แวะกินข้าวกลางวันที่น้ำตกแสงจันทร์สักหน่อย
ออกจากน้ำตกก็ประมาณเที่ยง ๆ ขับรถตรงเข้าอำเภอวารินชำราบเพื่อจะไปเป้าหมายสุดท้ายของเราในทริปนี้ ที่นี่เป็นเหมือนช้อปปิ้งมอลล์ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ แล้วก็มีร้านอะไรอีกไม่รู้ เพราะว่าตอนที่เราไปเค้ายังสร้างไม่เสร็จเลยค่ะ เห็นเพื่อนในเฟซบุ๊กคนนึงเค้าไปถ่ายรูปแล้วมาโพสต์ไว้ เห็นว่าสวยดีเพราะทำจากไม้ เป็นคนชอบสิ่งก่อสร้างจากไม้ค่ะ ก็เลยคิดว่าถ้ามาอุบลฯ ต้องแวะมาที่นี่ ไม่ว่าจะเสร็จหรือไม่ก็ตาม ที่นี่มีชื่อว่า "ซืนวาน" ค่ะ ตั้งอยู่ที่ ถนนสถลมาร์ค วารินฯ-เดชอุดม หรือทางหลวงหมายเลข 24 อยู่ระหว่างแยกกกแต้ และ ธกส.วารินชำราบ เลยแยกกกแต้มาประมาณ 500 เมตร อยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วน ธกส.วารินชำราบอยู่เลยไปอีกประมาณ 300 เมตร ด้านขวามือ
ตอนแรกได้ยินชื่อแอบคิดว่าเป็นเจ้าของเดียวกับเพลินวานรึเปล่า...แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่าใช่รึเปล่า ตอนนี้เค้ายังไม่เปิดเป็นทางการนะคะแต่ว่าเข้าชมได้ ถ้าคุณไปเยี่ยมชมที่นี่จะมีน้อง ๆ ที่ดูแลที่นั่นอยู่ เค้าก็จะถ่ายรูปเราแล้วก็ไปโพสต์ที่เพจของเค้า www.facebook.com/zuenwan รู้สึกว่าเค้าจะถ่ายเกือบทุกคนเลยนะคะแต่ถ้าเปิดอย่างเป็นทางการแล้วคนถ่ายไม่ไหวแล้วล่ะ
ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะเลย คนที่ชอบถ่ายรูปน่าจะชอบที่นี่
ปิดท้ายด้วยดอกไม้จาก "ซืนวาน" รีวิวครั้งแรกมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ