เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld
ถ้าเอ่ยถึงจังหวัดเชียงราย หลาย ๆ คนคงนึกถึงอากาศที่หนาวเย็น ภูเขาสูง และดอกไม้นานาพันธุ์สุดตระการตา โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่าง ภูชี้ฟ้า, ดอยตุง, ไร่แม่ฟ้าหลวง และสามเหลี่ยมทองคำ เป็นต้น แต่วันนี้กระปุกท่องเที่ยวจะพาเพื่อน ๆ ไปชมอีกหนึ่งความงดงามของเชียงราย นั่นก็คือ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยบ่อ ตั้งอยู่บริเวณท้องที่หมู่บ้านลอบือ หมู่ 13 ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย กันจ้า
ประวัติ
ดอยบ่อ เป็นแหล่งประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ในอดีตมีบ่อน้ำแต่ในปัจจุบันไม่มีน้ำขัง อันเนื่องมาจากสภาพป่าถูกทำลายลงไปมาก โดยใน พ.ศ. 2488 ชาวเขาเผ่าเย้ากลุ่มหนึ่งประมาณ 30 หลังคาเรือน ได้พากันอพยพขึ้นมาอยู่บนดอยบ่อบริเวณขุนห้วยแม่ซ้าย ชาวเขาเผ่าอาข่าอีกกลุ่มหนึ่งได้พากันอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณขุนห้วยโป่งผำ และชาวเขาเผ่ามูเซออีกกลุ่มหนึ่งก็ได้อพยพมาอยู่บริเวณขุนห้วย แม่สักกอง โดยชาวเขาทั้ง 3 กลุ่มได้พากันแผ้วถางป่าเพื่อเอาพื้นที่ปลูกฝิ่นและทำไร่ข้าว ป่าไม้ได้ถูกทำลายลงเป็นจำนวนมากจนดินหมดความอุดมสมบูรณ์ ชาวเขาเผ่าเย้าและอาข่าจึงพากันอพยพไปอยู่ที่อื่น คงเหลือแต่เผ่ามูเซอที่ยังอยู่ที่เดิมจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้สภาพป่าบริเวณขุนห้วยแม่สักกองถูกทำลายมากที่สุด
จนเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2547 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่บริเวณดอยบ่อ และทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือราษฎร โดยมุ่งสร้างความเข้าใจและให้ตระหนักถึงความสำคัญการดำรงชีวิตร่วมกับธรรมชาติ เพื่อหยุดยั้งการทำลายป่า โดยให้ดำเนินการจัดระเบียบชุมชนราษฎร ชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่บริเวณในพื้นที่ทั้ง 3 หมู่บ้าน จำนวน 91 ครอบครัว ให้ทำงานในโครงการฯ โดยจัดจ้างแรงงานและส่งเสริมฝึกอบรมอาชีพด้านศิลปหัตถกรรม รวมทั้งสนับสนุนให้ราษฎรปลูกพืช นอกจากนั้นยังให้ความรู้ในการทำเกษตรบนพื้นที่สูงอย่างถูกวิธี โดยไม่ทำลายระบบนิเวศตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยรักษาแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารและสัตว์ป่า
และในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ถูกฟื้นฟูจนกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีทัศนียภาพของขุนเขาที่งดงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางเชิงเกษตร วัฒนธรรม และธรรมชาติอีกมากมายให้ไปสัมผัส สำหรับใครที่ยังนึกภาพไม่ออกก็ตามไปดูบันทึกการเดินทางและภาพถ่าย คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กันเลยจ้า...
I MISS YOU ::: สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยบ่อ/เชียงราย
หลังจากเดินทางหลุดมาจากดอยกาดผี เชียงราย ผมก็มุ่งหน้าขึ้นตัวเมืองเชียงราย แล้วก็ทำการบ้านนิดหน่อยว่าสถานีเกษตรนี้ตั้งอยู่ตำบลไหนของเชียงราย ผมก็ค้นหาที่พักที่อยู่ในตำบลนั้น เพื่อให้การเดินทางขึ้นดอยในตอนเช้าสบายขึ้น ผมก็เลือกที่นี่ แม่ยาวรีสอร์ท เป็นบ้านพักไม้สัก ราคา 800 บาท/คืน ที่เลือกที่นี่เพราะ...
1. อยู่ตำบลเดียวกับสถานีเกษตรดอยบ่อ
2. ราคาประหยัด
3. ที่รีสอร์ทมีบริการโฟร์วีลพาเที่ยวด้วย ซึ่งก็ทำให้ทริปนี้ง่ายมาก
วิวในรีสอร์ทก็ไม่ได้มีอะไรมาก เอาแบบแค่นอนได้ก็พอสำหรับคืนนี้ เพราะประเด็นสำคัญคือพรุ่งนี้เช้าต่างหาก แล้วเราก็เหมารีสอร์ทอีกครั้ง เพราะไม่มีใครมาพักเลย
วิวไม่ค่อยมีให้ชม แต่ก็พอมีอะไรให้ได้เก็บกลับมาให้ได้คิดถึงมันบ้าง
มันจะเป็นความคิดถึงแบบไหน? เป็นแบบที่เราคาดหวังไหม? แต่ผมรู้ว่ามันไม่เคยทำร้ายเรา เหมือนกับทุกครั้งที่เราได้เห็นบางอย่างที่ค่อยเติบโตและรอคอยการผลิบาน มันคงเป็นความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกัน และความคิดถึงของผมก็พร้อมที่จะบอกเล่าเป็นบันทึกการเดินทางที่เรียบง่าย สบาย ด้วยภาพ 30 ใบ
ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็บ่าย 3 เข้าไปแล้ว หลังจากเช็กอินตั้งแต่เที่ยงแล้วก็ดูทีวี เบื่อ ๆ ไม่มีอะไร ก็เลยค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ประมาณว่าตอนเย็นไปไหนดี ไปดูวิวพระอาทิตย์ที่ไหนดี เห็นแต่ละที่ไกล ๆ ทั้งนั้น ในเชียงรายก็ไม่ค่อยมีอะไรที่ผมชอบ
พวกเราขับรถไปทานข้าวกันข้างชุมชนในตำบลแม่ยาว เป็นตำบลเดียวกับรีสอร์ทที่เราพัก ซึ่งห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางตะวันตกราว ๆ 7 กิโลเมตร วนขับรถหาข้าวกิน แล้วขับผ่านบ้านคนแถวนั้น เห็นวิวพระอาทิตย์กำลังตกดินพอดี ก็เลยจอดแวะชมวิว เคาท์ดาวน์กันตรงนั้น
มันเป็นวิวที่โอเคนะครับ แต่คนที่ผ่านไปผ่านมาก็มองว่าพวกนี้มาทำอะไรกัน เพราะเราต้องเอากล้องลอดช่องตรงกำแพงไปยังวิว แต่ชอบที่นี่มาก วิวข้างทางและวิวจากกำแพงบ้านใครก็ไม่รู้
จบจากส่องวิวกำแพงบ้านคนอื่นเรียบร้อยแล้ว ผมก็แวะหาของกินไม่ได้เลย แวะร้านไหนก็บอกว่าหมดสต็อก หมดแล้ว ปิดแล้ว ทำให้ต้องขับรถไปทานข้าวกันที่ตัวเมืองเชียงราย แล้วคืนนั้นผมก็เผลอหลับไปตอน 3 ทุ่ม เพื่อให้พรุ่งนี้เป็นเช้าที่ดีที่สุดของผมอีกหนึ่งวัน
เช้านั้นผมตื่นขึ้นมาตามที่เจ้าของรีสอร์ทแนะนำ คือ ไปกันตั้งแต่ตี 5 เชื่อเจ้าถิ่นนะครับ เราตื่นกันแต่ตี่ 4.30 น. ล้างหน้าพอ เพราะหนาวมาก (แต่รูปคือตอนตะวันขึ้นแล้ว) แล้วเจ้าของรีสอร์ทก็พาโฟร์วีลเราขึ้นสถานีเกษตรดอยบ่อ ด้วยระยะทางห่างจากรีสอร์ท เพียง 30-40 กิโลเมตร (กะ ๆ เอานะ) ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีน่าจะได้
ปล. ที่นี่ไปยังไง ดูที่นี่ได้นะครับ (แต่เป็นข้อมูลเก่าแต่ใช้ได้อยู่) : สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยบ่อ
รู้จักที่นี่ได้ยังไง? ก็หาเอาในกูเกิล อยากไปที่ไม่ค่อยมีคนไป อยากอยู่ในบรรยากาศที่คนน้อย วิวสวย ๆ ประมาณนั้น แล้วก็เหมาดอยอีกครั้ง ทั้งที่เป็นวันหยุดยาว ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับว่าที่นี่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย
แล้วความคิดถึงก็พาให้ผมมาถึงที่นี่จนได้ แล้วก็ไม่เคยพลาดกับสิ่งที่ผมรักและรักมาก ทะเลหมอกของผม
ทุกครั้งที่ได้เจอทะเลหมอก นั่นคือ เป้าหมายสูงสุดของการเดินทางของผม มันเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าทริปนั้นผมจะต้องรู้สึกดีมาก และผูกพันกับที่แห่งนั้นมาก และแน่นอนมันทำให้ทุกอย่างที่เรียกว่าความคิดถึงได้เริ่มต้นทำงาน เหมือน ๆ กับเวลาในตอนนี้ละมั้ง
มันคงเหมือนกับตอนที่หิวก็นึกถึงของกินบางอย่าง หรือจะเหมือนกับตอนขับรถเวลาผ่านที่ไหนสักที่แล้วคิดถึงเรื่องราวบางอย่าง หรือจะเป็นเพลงนี้ก็ได้ที่ทำให้ความคิดถึงได้กลับมาอีกครั้ง
♪♪...when I need a place to hang my heart...♪♪
You were there to wear it from the start
And with every breath of me...♪♪
♪♪...You\'ll be the only light I see
♪♪...เมื่อฉันต้องการที่พักใจคุณก็อยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก
ในทุกลมหายใจของฉัน...♪♪...เธอจะเป็นแสงเดียวที่ฉันจะมองเห็น♪♪...
แล้วมันก็มากเพียงพอที่จะทำให้บรรยากาศยามเช้าที่นั้นเต็มไปด้วยความคิดถึง
มันเป็นเช้าที่รู้สึกดี ดีมาก ดีใจที่ได้ค้นเจอที่นี่ ดีใจที่เชื่อในเซ้นส์ตัวเอง ดีใจที่โฟกัสมัน และดีใจที่ไม่เคยผิดแผน เพราะเราไม่เคยเปลี่ยนไป
มันเป็นความยิ่งใหญ่ที่ไม่ได้หมายถึงขนาด แต่มันอะไรสักอย่างที่บอกว่าเราตั้งใจมา เราอยากมา และต้องมาให้ได้
ไหน ๆ ก็ได้มาแล้ว อยากเห็นวิวที่ดีที่สุดเพราะเราคงไม่ได้มาทุกวัน ไม่ได้มาทุกเดือน ไม่ได้มาทุกปี หรือบางทีก็อาจจะไม่ได้มาอีกเลยก็ได้
แม้กระทั้งความรู้สึกที่แสงยามเช้าที่ส่องมาถึงตอนนั้น ยังรู้สึกอุ่นจนร้อนมาถึงตอนนี้ แต่มันก็ทำให้รู้สึกดีโคตร ๆ ที่เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ ได้เห็นในสิ่งที่เราอยากเห็น
นั่นไงครับทะเลหมอก ทะเลหมอกสีขาว ทะเลหมอกของผม สัญลักษณ์แห่งความคิดถึง สัญลักษณ์ที่ทำให้ภูเขามีชีวิต เหมือนกับความคิดถึงที่มีตัวตน มองเห็นได้ และสัมผัสได้ทุกครั้ง
ผมรักที่นี่นะ มันจะต้องเป็นความคิดถึงที่ไม่หายไปไหน ไม่ว่าบางอย่างจะเปลี่ยนไปหรือไม่เปลี่ยนไป และไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างน้อยผมก็รู้ว่าผมได้เก็บภาพพวกนี้ด้วยมือของผมเอง รู้ว่าไปกับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร แล้วรู้สึกอย่างไร?
ได้รู้ว่าช่วงชีวิตในตอนนั้นเป็นอย่างไง มีความสุขยังไง มีความทุกข์แค่ไหน? แล้วมันผ่านมาได้ยังไงเมื่อเวลาผ่านไป
นึกถึงตอนนั้นอาจจะอีก 5 ปี 10 ปี หรืออีก 30 ปีข้างหน้า เรายังนึกถึงเรื่องนี้ได้ มันจะเป็นความรู้สึกแบบไหนกัน? มันจะเรียกว่าความคิดถึงได้ไหม?
ความคิดถึงที่กำลังรอผมอยู่ในอีก 5 ปี 10 ปี หรืออีก 30 ปีข้างหน้า มันจะเป็นความคิดถึงแบบไหน? มันจะทำให้ผมมีความสุขไหม?
และเมื่อผมได้คิดถึงวันข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง มันก็เลยทำให้วันนี้ผมอยากเต็มที่กับทุกสิ่งกับสิ่งที่ผมรัก อยากรู้ว่าแรงบันดาลใจของผมไปได้แค่ไหนกับสิ่งที่ผมรู้สึกดี อยากรู้ว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตเป็นอย่างไร และดีแค่ไหน? อยากอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะช่วงเวลาที่ดีไม่ได้มีทุกวัน เวลาที่ดีไม่ได้มีทุกเดือน หรืออาจจะไม่ได้มีทุกปี แล้วบางทีอาจจะไม่มีอีกเลยก็ได้ ไม่มีใครรู้!!!! แต่ผมรู้...ผมรู้...และผมรู้ดีว่าผมจะคิดถึงมันไม่ว่าตอนนี้หรือตอนนั้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับอีกหนึ่งรอยยิ้ม อาจจะเป็นรอยยิ้มของผมหรือของใครก็ได้ที่บังเอิญผ่านเข้ามาในรีวิวนี้
ขอบคุณสำหรับความคิดถึงที่ยังคงทำงานเสมอ แล้วเจอกับความคิดถึงครั้งต่อไป...สวัสดีครับ
การเดินทาง
จากศาลากลางจังหวัดเชียงรายผ่านสะพานแม่ฟ้าหลวงไปตามถนนสายเชียงราย – บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ถนนระยะทาง 18 กิโลเมตร ถึงบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนดิน ก็จะถึงสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยบ่อ ระยะทาง 17 กิโลเมตร
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยบ่อ โทรศัพท์ 0 5370 1417
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ส่วนโครงการพระราชดำริและความมั่นคง และ cots.go.th