เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก jimthompsonfarm.com และ เฟซบุ๊ก Jim Thompson FarmTour
จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เปิดฟาร์มให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมสัมผัสความความงามตามธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และวัฒนธรรมหมู่บ้านอีสาน ในงาน "เทศกาลจิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์" ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ถึงวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 17.00 น. ณ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
โดยในปี พ.ศ. 2531 จากอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา อันเลื่องชื่อในเรื่องผ้าไหมไปเพียง 25 กิโลเมตร จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ได้ถือกำเนิดขึ้นบนพื้นที่กว่า 600 ไร่ บนเชิงเขาพญาปราบ ตำบลตะขบ โดยเริ่มจากเป็นแหล่งผลิต ไข่ไหมจำหน่ายให้สมาชิกเกษตรกรเพื่อรับซื้อรังสดในการผลิตเส้นไหมและเป็นพื้นที่ปลูกหม่อนอันเป็นอาหารหลักของหนอนไหม และเมื่อย่างเข้าปี พ.ศ. 2544 จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จึงได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรปีละครั้งในเดือนธันวาคม ให้บุคคลทั่วไปที่หลงใหลในธรรมชาติได้ชื่นชมบรรยากาศอันงดงาม และเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการเกษตร พร้อมเรียนรู้วงจรชีวิตของหนอนไหม ชมแปลงพืชผักและดอกไม้สีสวยสดนานาชนิด รวมถึงเลือกซื้อไม้ดอกไม้ประดับ และผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารพิษ ซึ่งปลูกด้วยความเอาใจใส่จากเหล่าเกษตรกรของ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม
และในปี พ.ศ. 2550 จิม ทอมป์สัน ได้ริเริ่มนำบ้านอีสาน อันเป็นสถาปัตยกรรมไทยอีสานที่เป็นเอกลักษณ์มารวบรวมไว้บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่ง "หมู่บ้านอีสาน" แห่งนี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของภาคอีสาน โดยมีการจำลองวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีการละเล่น อาหารการกิน และการประกอบอาชีพของชาวบ้านในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวอีสานอันเรียบง่าย และพอเพียง ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 จิม ทอมป์สัน ฟาร์มได้ริเริ่มโครงการ "Art on Farm" ขึ้นเพื่อเป็นโครงการนำร่องในการเชื้อเชิญศิลปินมาทำผลงานศิลปะในบริบทของการเกษตรเชิงนิเวศน์ และงานสถาปัตยกรรมอีสาน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นสะพานเชื่อมโยงศิลปะ ชีวิต และธรรมชาติเข้าด้วยกัน
ปัจจุบัน จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ยังคงเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นประจำทุกปีในเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนมกราคม ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม ซึ่งสร้างความสุขและ ประสบการณ์อันแปลกใหม่ให้ทั้งผู้เข้าชม และเกษตรกรของ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม
ในส่วนของโปรแกรมการท่องเที่ยว มีดังนี้...
ทุ่งปอเทืองและแปลงผักปลอดสารพิษ
จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ขอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ณ อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ด้วยทุ่งดอกดาวเรืองและแปลงผักปลอดสารพิษนานาพันธุ์ พร้อมชมความงามของทุ่งปอเทืองเหลืองอร่ามตา ในบริเวณเดียวกันท่านสามารถเลือกซื้อฟักทองหลากหลายชนิด พร้อมรับประทานอาหารและเครื่องดื่มตามอัธยาศัยก่อนขึ้นรถเพื่อชมความงามของจุดต่าง ๆ ต่อไป
ทุ่งทานตะวันและลานฟักทอง
สัมผัสความงามแห่งธรรมชาติในอ้อมกอดอ่างเก็บน้ำลำสำลาย ซึ่งทอดตัวอยู่ทางทิศตะวันตกของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม และร่วมเก็บภาพความทรงจำกับทัศนียภาพอันสวยงาม ณ ทุ่งทานตะวัน และทุ่งคอสมอส ที่บานสะพรั่งต้อนรับผู้เข้าชม ตื่นตาตื่นใจกับ ฟักทองหลากหลายสายพันธุ์นับหมื่นผล รวมทั้งฟักทองยักษ์สีสันสดใสรูปทรงแปลกตา แปลงกะหล่ำปลียักษ์ชูช่อรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยว พร้อมพักผ่อนในซุ้มเครื่องจักสานยักษ์ อาทิ กระติบข้าว ข้อง สุ่ม และแงบ จากจุดนี้ผู้เข้าชมสามารถนั่งรถนำเที่ยวหรือเลือกที่จะเดินชื่นชมธรรมชาติและบรรยากาศอันงดงามผ่านทุ่งทานตะวัน ทุ่งคอสมอส หรืออุโมงค์น้ำเต้าเพื่อไปยังจุดท่องเที่ยวต่อไป
หมู่บ้านอีสาน
ชื่นชมสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นอีสานที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ทั้งในส่วนของหมู่บ้านอีสานและหมู่บ้านโคราช สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี การแสดงและการละเล่นต่าง ๆ มากมายของชาวอีสาน อิ่มอร่อยกับอาหารอีสานหลากหลายรสชาติ เรียนรู้วงจรชีวิตหนอนไหมที่ถักทอเส้นใยธรรมชาติ พร้อมชมทุ่งนาข้าวอินทรีย์และกระบวนการผลิตข้าวแบบพื้นบ้าน พร้อมเลือกซื้อข้าวอินทรีย์พื้นบ้านจากทุ่งข้าวของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม และถ่ายรูปคู่กับครอบครัวบุญหลาย ควายไทยแสนรู้ที่ยืนรอต้อนรับทุกท่านที่กระท่อมปลายนา นอกจากนี้ ยังอิ่มเอมใจไปกับผลงานศิลปะจากศิลปินมากฝีมือในโครงการ Art on Farm ที่จัดแสดงไปทั่วบริเวณ ก่อนแวะชมสิมน้ำ และนิทรรศการหมอลำที่หาชมได้ยากในหอไตรกลางน้ำ
หมู่บ้านจิม
ร่วมย้อนรอยความเป็นมาของการผลิตผ้าไหมจิม ทอมป์สัน พร้อมเยี่ยมชมกระบวนการทอผ้า และพิมพ์ผ้าของจิม ทอมป์สัน และทดลองปฏิบัติจริงกับทุกขั้นตอนของการทอผ้า ก่อนเดินทางไปช้อปปิ้งยังจุดสุดท้าย
ตลาดจิม ทอมป์สัน
หลังจากอิ่มเอมใจกับศิลปวัฒนธรรมอีสานแล้ว ผู้เข้าชมจะเข้าสู่จุดสุดท้ายของการท่องเที่ยว ชมการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์และเก็บภาพความสวยงามท่ามกลางทุ่งไม้ดอกหลากสีสัน ปิดท้ายความสนุกสนาน ณ ตลาด จิม ทอมป์สัน เพื่อเลือกซื้อผัก ผลไม้ และดอกไม้ ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของจิม ทอมป์สัน การสาธิตการพิมพ์ผ้า และทดลองพิมพ์ผ้าด้วยตัวเองเพื่อนำกลับบ้านเป็นที่ระลึก ก่อนอำลา จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ด้วยความสนุกสนานและความประทับใจไม่รู้ลืม
ทั้งนี้ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียงปีละครั้งเท่านั้น ราคาบัตร : วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 120 บาท, เด็ก 80 บาท ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 140 บาท และเด็ก 100 บาท หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2216 7368 และ 08 5660 7336 หรือ www.jimthompsonfarm.com และ เฟซบุ๊ก Jim Thompson FarmTour
ขอขอบคุณข้อมูลจาก