ภาพจาก เฟซบุ๊ก Siam Discovery
กลับมาแล้ว สยามดิสคัฟเวอรี่ (Siam Discovery) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 28 พฤษภาคม 2559 พร้อมกับคอนเซ็ปต์การค้าปลีกรูปแบบไฮบริดรีเทลแห่งแรกของประเทศไทย สอดแทรกความสนุกสนานในทุกการช้อปปิ้ง มาร่วมค้นหาตัวตนของคุณที่นี่กัน !
สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ซึ่งในวันนี้ (26 พฤษภาคม 2559) ก็ได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมก่อนใคร บอกเลยค่ะว่าการกลับมาครั้งนี้ของสยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยมยิ่งใหญ่จริง ๆ ทั้งการออกแบบภายในและภายนอกที่มีลูกเล่นโดดเด่น ซึ่งร่วมออกแบบกับคุณเนนโดะ (นายซากิ ซาโตะ) ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นระดับแนวหน้าของโลก โดยสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานตลอดการเดินช้อปปิ้ง เป็นอาณาจักรที่จะช่วยค้นหาตัวตนของผู้มาเยือน มีพื้นที่สำหรับผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่หยุดนิ่งอยู่แต่ในกรอบ ยกขบวนแบรนด์ต่าง ๆ มากกว่า 5,000 แบรนด์ทั่วโลกมาไว้ที่นี่ ว่าแล้วก็อย่ารอช้าค่ะ ไปร่วมสำรวจสยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยมพร้อม ๆ กับเราเลยค่ะ ตามเราขึ้นไปทีละชั้นกันเลย ลุย !
สำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ มีเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง จากหลากหลายแบรนด์ให้กับคุณผู้หญิง อาทิ Issey Miyake, Groove&Groovy, SETTE, Leica, NARS, Merimekko ฯลฯ
ความพิเศษของชั้นนี้คือ คุณสามารถที่จะให้ดีไซเนอร์มืออาชีพมาช่วยแต่งตัวให้ในลุคต่าง ๆ ตามสไตล์ของตัวเอง หรือจะแปลงโฉมให้กลายเป็นอีกคนที่สวยเก๋ก็ยังได้ แต่ต้องมีการจองคิวและระบุธีมล่วงหน้านะคะ เพราะดีไซเนอร์จะได้จัดเตรียมชุดสวย ๆ ไว้ให้ :)
2. ชั้น M-His Lab
ต่อไปนี้คุณผู้ชายที่มาช้อปปิ้งกับสาว ๆ ก็จะไม่ต้องนั่งรอนาน ๆ อีกต่อไป เพราะที่นี่ได้จัดพื้นที่โดยเฉพาะสำหรับสุภาพบุรุษไว้ให้แล้ว
ในชั้นนี้ก็จะเต็มไปด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ฯลฯ ของผู้ชายหลากหลายแบรนด์ ยกขบวนกันมาจนแทบเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว อาทิ PUR-SUIT, Hackett, Rimowa, Barberford Noir, Clinique, Dermatologica, Veda Salon, Adler Galerie เป็นต้น
ความพิเศษของชั้นนี้ที่จะพลาดไม่ได้ก็คือ โซน Social Discovery ที่นำเสนองานศิลปะผ่านเทคโนโลยีและโซเซียลมีเดีย โดยเริ่มแรกให้เราลงทะเบียนเข้าชมด้วยแอคเคาท์อินสตาแกรม แล้วหลังจากนั้นก็จะประมวลภาพถ่าย ความทรงจำต่าง ๆ ในอินสตาแกรมออกมาให้เราชมกัน
3. ชั้น 1- Street Lab
สำหรับคนที่หลงใหลในแฟชั่นแนวสตรีท ชั้นนี้มีมาเพื่อคุณเลยค่ะ เพราะรวบรวมสินค้าแนวสตรีทมาไว้ให้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Converse, Vans, CAZH, Madmatter, Lacoste, Livi\'s, Fred Perry, Von Dutch, Toms, Kojima Denim, Onitsuka Tiger ฯลฯ ซึ่งในชั้นนี้ก็จะมีสินค้ากีฬาทั้ง Nike, Adidas, Asics, The North Face, Smart Travel เป็นต้น
ส่วนมุมที่ห้ามพลาดก็คือ Storytelling Area 1 Design Select "Run for Another Life\'\' ให้คุณลูกค้าได้ทดลองวิ่งบนลู่วิ่ง เพื่อค้นหารองเท้าที่เหมาะกับเท้าและสไตล์การวิ่งของแต่ละคน โดยการวิ่งทุก 500 เมตร เท่ากับการบริจาค 10 บาท เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้สวนลุมพินี กิจกรรมดี ๆ ที่อยากให้ทุกคนมาร่วมสนุกกัน :)
4. ชั้น 2-Digital Lab
ทันทีที่เดินขึ้นมาถึงชั้นนี้ รู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าเลยค่ะ เพราะร้าน LOFT ที่อยู่คู่กับสยามดิสคัฟเวอรี่มานานเป็น 10 ปี เขาได้กลับมาแล้ว และกลับมาอย่างยิ่งใหญ่เสียด้วย ใครที่ชอบสินค้าสไตล์ญี่ปุ่น งานนี้ห้ามพลาดค่ะ
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สวยงามราวกับดินแดนในฝันเลย
2. ชั้น M-His Lab
ต่อไปนี้คุณผู้ชายที่มาช้อปปิ้งกับสาว ๆ ก็จะไม่ต้องนั่งรอนาน ๆ อีกต่อไป เพราะที่นี่ได้จัดพื้นที่โดยเฉพาะสำหรับสุภาพบุรุษไว้ให้แล้ว
ความพิเศษของชั้นนี้ที่จะพลาดไม่ได้ก็คือ โซน Social Discovery ที่นำเสนองานศิลปะผ่านเทคโนโลยีและโซเซียลมีเดีย โดยเริ่มแรกให้เราลงทะเบียนเข้าชมด้วยแอคเคาท์อินสตาแกรม แล้วหลังจากนั้นก็จะประมวลภาพถ่าย ความทรงจำต่าง ๆ ในอินสตาแกรมออกมาให้เราชมกัน
3. ชั้น 1- Street Lab
สำหรับคนที่หลงใหลในแฟชั่นแนวสตรีท ชั้นนี้มีมาเพื่อคุณเลยค่ะ เพราะรวบรวมสินค้าแนวสตรีทมาไว้ให้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Converse, Vans, CAZH, Madmatter, Lacoste, Livi\'s, Fred Perry, Von Dutch, Toms, Kojima Denim, Onitsuka Tiger ฯลฯ ซึ่งในชั้นนี้ก็จะมีสินค้ากีฬาทั้ง Nike, Adidas, Asics, The North Face, Smart Travel เป็นต้น
4. ชั้น 2-Digital Lab
ทันทีที่เดินขึ้นมาถึงชั้นนี้ รู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าเลยค่ะ เพราะร้าน LOFT ที่อยู่คู่กับสยามดิสคัฟเวอรี่มานานเป็น 10 ปี เขาได้กลับมาแล้ว และกลับมาอย่างยิ่งใหญ่เสียด้วย ใครที่ชอบสินค้าสไตล์ญี่ปุ่น งานนี้ห้ามพลาดค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีมุมให้พรินท์รูปได้ทันทีจากบริการของฟูจิฟิล์มอีกด้วย บอกเลยถูกใจคนชอบเซลฟี่แน่นอน
เดินมาอีกนิดก็จะเจอกับโซน Digital Lab x RUBBERS ซึ่งเป็นโซนสำหรับคนที่รักการขี่มอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ พร้อมทั้งยังสามารถขี่มอเตอร์ไซค์ Simulator ไปได้ทุกซอกทุกมุมของสยามดิสคัฟเวอรี่อีกด้วย
นอกจากนี้ร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกอย่าง สตาร์บัคส์คอฟฟี่ ยังมาสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ไม่เหมือนกับสาขาไหนในประเทศไทย ด้วยการตกแต่งร้านที่แปลกแตกต่าง โดยการนำกากกาแฟมารีไซเคิลเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน
5. ชั้น-3 Creative Lab
หากคุณชอบงานออกแบบและการตกแต่งบ้าน รีบพุ่งตัวมาที่ชั้นนี้เลยค่ะ เพราะบนชั้นนี้ได้รวบรวมสินค้าของตกแต่งบ้านหลากหลายแบรนด์จากทั่วโลกมาไว้ที่นี่
ร้าน O.D.S. เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของชั้นนี้ค่ะ ซึ่งรวบรวมสินค้าตกแต่งบ้านชื่อดังมากกว่า 160 แบรนด์ จากทั่วโลก เดินชมกันแบบเพลิน ๆ ไปเลย
ขยับจากร้าน O.D.S. ก็จะเจอกับคาเฟ่สุดชิค ร้าน Cafe Now by Propaganda ซึ่งแบรนด์ Propaganda ได้ร่วมมือกับเชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ เนรมิตทั้งอาหารและกาแฟสุดอร่อยมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าอย่างน่าประทับใจ
ส่วนอีกฟากของชั้นนี้จะเป็นโซนของร้าน Habitat ร้านเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และของใช้ในบ้าน ที่มีดีไซน์สวยเก๋
6. ชั้น-Play Lab
ใครที่ชอบจักรยาน ตามเรามาเลยค่ะ เพราะชั้นนี้จะตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบจักรยานโดยเฉพาะ ซึ่งมี Tokyo Bike เป็นเจ้าพ่ออยู่ในชั้นนี้ค่ะ
สิ่งที่น่าสนใจของชั้นนี้จะอยู่ที่ Discover Hubba ซึ่งเป็น Co-working Space มอบพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนไอเดียและความฝันในการเริ่มทำธุรกิจของเหล่า Start Up คนมีฝันทั้งหลายไปค้นหาแรงบันดาลใจกันได้ที่นี่เลย
7. ชั้น 5-6 ไฮไลท์สำคัญสุด ๆ คือ Virgin Active ฟิตเนสคลับระดับโลก ที่จะยกทุกสิ่งอย่างในโลกของการออกกำลังกายมาไว้ที่นี่ที่เดียว บนพื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร อยากเสียเหงื่อแล้วร่างกายแข็งแรงก็มาออกกำลังกันค่ะ
ภาพจาก virginactive.co.th