ยังคงได้รับความนิยมเสมอสำหรับการเดินทางไปสัมผัสกับวัฒนธรรม บ้านเมือง และวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ ณ ประเทศญี่ปุ่น บันทึกการเดินทางนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ได้บอกเล่าความงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่ายและตัวอักษร จากรีวิวของ คุณสมาชิกหมายเลข 1508763 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้สะพายกล้องไปท่องเมืองต่าง ๆ แล้วนำประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาถ่ายทอดให้เราได้ชมกันค่ะ
สวัสดีค่ะ ヾ(>∀<☆ヾ) หลังจากส่องกระทู้รีวิวของคนอื่นในพันทิปมานาน ก็มีโอกาสจะมาตั้งกระทู้เองซะที เป็นการรีวิวพันทิปครั้งแรก และเป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกด้วยค่ะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะ
ก่อนออกเดินทาง
อย่างที่ทราบกันว่าเด็กที่เพิ่งจบ ม.6 ใหม่ ๆ จะปิดเทอมกันยาว (มาก) ถึงเกือบ 6 เดือน หลังจากนอนอืดดูซีรีส์จนหมดสต็อก อ่านการ์ตูนก็แล้ว ตะลอนกินก็แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะขยับแข้งขยับขาออกจากบ้านซะที จุดเริ่มต้นของทริปนี้ สั้น ๆ เลยคือคุณแม่เป็นคนชวนค่ะ อีกเหตุผลคือเป็นประเทศในฝันด้วย อยากไปตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นติ่งแอนิเมะอีก เลยตกลงอย่างไม่รีรอ 55555
________________
การเดินทางครั้งนี้ไปกับทัวร์ค่ะ เดินทางวันที่ 22-26 เมษายน 2558 เส้นทางคือ Gifu-Takayama-Nagano-Tokyo เราจะได้เห็นทั้งมุมของเมืองเล็ก ๆ ไปจนถึงบรรยากาศของเมืองหลวง เจ้าของกระทู้เองก็ได้หัดถ่ายรูปไปด้วย (เป็นมือใหม่ค่ะ แหะ ๆ) สำหรับกล้องที่พาไปเที่ยวในทริปนี้คือ Fujifilm X-E2 ค่ะ มี iPhone 6 แจมด้วยเล็กน้อย ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลยยยยยย!
________________
ติดตามภาพเพิ่มเติมและมาพูดคุยกันได้ที่นี่เลยค่ะ (・◡・)
www.facebook.com/bebeebies
IG : bebeebies
ออกเดินทาง
ไฟลท์บินตอนเที่ยงคืนค่ะ ใช้บริการของการบินไทย มีอาหารเสิร์ฟตลอดเลย อิ่มก่อนลงเครื่องอีก เป็น 4 ชั่วโมงกว่า ๆ ที่เจ้าของกระทู้นอนไม่หลับเลย ตื่นเต้น 555555 เลยนั่งดูหนังบนเครื่องไปเรื่อย ๆ...รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว
ถึงแล้วววววว...ญี่ปุ่น ! ลงจอดที่สนามบินชูบุค่ะ แดนอาทิตย์อุทัยนี้อากาศเย็นสบาย คนละขั้วกับไทยแลนด์แดน 40 องศา เลยค่ะ (´;ω;`)
ระหว่างนั่งรถไปสถานที่แรก ก็ถ่ายรูปข้างทางไปเรื่อย ๆ เสน่ห์ของญี่ปุ่นอยู่ตรงที่ “ความเป็นระเบียบที่ไม่แข็งกระด้าง”
- DAY 1 - "หมู่บ้านมรดกโลก"
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ โอบล้อมด้วยภูเขา กลิ่นอายความเก่าทำให้ดูอบอุ่น เดินชมวิถีชีวิตของที่นี่เพลิน ๆ อยากจะอยู่ทั้งวันเลย
หลังคาแบบกัสโซ่/ทรงพนมมือ
อาหารกลางวันค่ะ โฮบะมิโซะ เป็นอาหารท้องถิ่น หมูย่างบนใบโฮบะ มีซอสเต้าเจี้ยวราด ให้เยอะมากค่ะ ทานแทบไม่หมด 555
ทานเสร็จแล้วก็มีเวลาเต็มที่ในการเดินชมหมู่บ้าน ลั่นชัตเตอร์กันรัว ๆ เลย
แวะพักทานซอฟท์ครีมกันหน่อย สภาพไม่ค่อยซอฟท์เลยเนอะ แต่อร่อยมาก โคนละ 200 เยน
ภายในบ้านจะแบ่งเป็นหลายชั้นค่ะ ชั้นล่างใช้อยู่อาศัย ชั้นบนสุดใช้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม บางหลังกลายเป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์หรือร้านขายของที่ระลึกไปแล้ว
ที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ คือมาทันซากุระบานด้วย นึกว่าจะไม่ได้เห็นซะแล้ว
มุมมองจากจุดชมวิวข้างบน มาช่วงที่หิมะละลายพอดี สวยมากกกกกก เหมือนหมู่บ้านในนิทานเลย ^__^
"Little Kyoto" เมืองเล็ก ๆ ที่สงบและมีเสน่ห์ โดยเฉพาะย่านเมืองเก่า (ซันมาชิซูจิ: 三町筋) ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนสมัยเอโดะไว้ มีร้านของที่ระลึกเรียงรายเป็นแถว เจ้าของกระทู้ได้โปสการ์ดแฮนด์เมดมาหลายใบเลย ที่ขาดไม่ได้คือโรงกลั่นสาเกค่ะ เพราะสาเกเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่
ถ่ายจากสะพาน Nakabashi (คนเยอะมากจนถ่ายไม่เห็นสะพานแดงเลย ㅠㅠ)+สภาพตอนนั้นคือ...กล้องแบตฯ หมด หมดช่วงที่มีแต่บรรยากาศสวย ๆ ซะด้วย บางรูปเจ้าของกระทู้ใช้ไอโฟนถ่ายเก็บแทนค่ะ
จบแล้วค่ะวันแรก เดินกันจนขาลากเลยทีเดียว ที่พักคืนแรกคือ Hida Plaza Hotel ค่ะ ห้องใหญ่มากกกกกกก เป็นที่นอนแบบ Futon ด้วย อุ่น ๆ ดี หลังจากกลับเข้าที่พักแล้วก็มีข่าวดี เพราะที่โรงแรมมีออนเซ็น เย้ !
ออนเซ็น 1st time เข้าไปตอนแรกนี่ตะลึงเล็กน้อย คือเขินจ้า เดินกันตัวเปล่าขนาดนี้เลยเหรอ 5555555 สุดท้ายก็กระมิดกระเมี้ยนเอาผ้าปิดและวิ่งเข้าไปแช่จนได้ สบายตัวมาก ความปวดเมื่อยทั้งหลายมลายหายไปทันที
- DAY 2 -
เช้าวันที่สองเราจะเดินชิล ๆ จากโรงแรมไปตลาดเช้ามิยากาวะค่ะ...และแล้วสายตาก็บังเอิญไปเจอกลุ่มเด็กประถมที่กำลังไปที่เดียวกับเรา (บูรณาการนอกสถานที่ประมาณนั้น)
ระหว่างที่น้อง ๆ หมวกเหลืองกำลังเดิน เขาก็จะหันไปทักทาย “おはようございます!” ใส่ทุกคนที่เดินผ่าน แถมหันมายิ้ม ชูสองนิ้วให้กล้องอีก คาวาอี้~ (รูปเด็ก ๆ ขออนุญาตก่อนถ่ายแล้วนะคะ)
บรรยากาศตลาดเช้า มีอาหารและของที่ระลึกแบบแฮนด์เมดขายเต็มเลย
เมืองนี้เป็นฉากในเรื่อง Hyouka ด้วยค่ะ เพิ่งรู้ตัวตอนกลับมาแล้วว่าเดินผ่านหลายฉากมากแต่ไม่ได้ถ่ายมา 5555
แวบเข้าร้านเล็ก ๆ เลยได้ของติดไม้ติดมือมานิดหน่อย มีเพื่อนร่วมทางเพิ่มอีก 1 ราย เป็นกล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้ง (ฟังดูโหดร้ายจังเนอะ)
บรรยากาศจากโรงเรียนที่เดินผ่าน น้องอนุบาลกำลังทำกิจกรรมนอกห้องเรียนอย่างขะมักเขม้น
ระหว่างทางเดินกลับจะเห็นว่าหลาย ๆ บ้านปลูกดอกทิวลิป สีสวยจัง
หลังจากนี้เราจะไปขึ้น Japan Alps กัน
หลังจากเดินตลาดเช้าเสร็จ ก็นั่งรถยาว ๆ มุ่งไปที่เทือกเขาทาเทยามาหรือเจแปน แอลป์ บรรยากาศข้างทางขาวโพลนไปด้วยหิมะ หนาวสุดไส้ไขกระดูกไปเลยจ้า ! อากาศประมาณ -7 อย่าลืมเตรียมเสื้อโค้ทให้พร้อมด้วยนะคะ
ตอนขึ้นรถนี่โดนคุณแก๊งทัวร์จีนเบียดกระจาย ด้วยสปีดและสกิลของป้าแกทำให้แย่งที่นั่งไปอย่างรวดเร็ว
แต่ในที่สุดเราก็ขึ้นมาตรงนี้ได้ รอต่อรถไฮบริดจ์ขึ้นไปค่ะ
ระหว่างทางก็จะมีบรรยายจุดที่น่าสนใจ ในภาพคือน้ำตก Shomyo ค่ะ
ถึงข้างบนแล้วววววว ตรง Snow Wall คนเยอะมากค่ะ เลยเลี่ยงไปถ่ายรูปที่ Panorama Road ก่อน เห็นวิวและภูเขาหิมะสุดลูกหูลูกตาเลย
เสียดายที่เวลาน้อย (แถมคนเยอะมาก) เลยได้รูปกำแพงหิมะมานิดเดียว
กำแพงหิมะนี้สูงถึง 19 เมตร และใหญ่มากก ตามผนังกำแพงมีรอยจารึกเต็มไปหมดเลย หมายถึงคนไปเขียนเล่นนะคะ...ต้องถ่ายออกไปฝั่งตรงข้ามแทน
หลังจากไปที่กำแพงหิมะแล้วเราก็นั่งรถรางไฟฟ้าและกระเช้าลงมาที่เขื่อนคุโรเบะ
วิวจากบนกระเช้าโดนเบียดจนถ่ายอะไรไม่ได้เลย TT
นั่งรถรางไฟฟ้ากันอีกรอบ อุโมงค์นี้ยาวกว่าอุโมงค์แรก (แอบถ่าย time-lapse มาด้วย)
ถึงแล้วจ้า ! แอบฝันสลายนิด ๆ เพราะน้ำเป็นน้ำแข็งหมดเลย แต่ก็สวยไปอีกแบบ
วันที่สองหมดไปอย่างรวดเร็ว เย็นนี้คุณไกด์พาไปทานเนื้อย่างญี่ปุ่น ที่สนุกคือการสั่งแบบจิ้ม ๆ ที่จอ แล้วรอให้พนักงานมาเสิร์ฟค่ะ อาศัยดูรูปเอาเพราะอ่านไม่ออก 5555555
ตอนแรก ๆ คนในโต๊ะทานแต่หมูค่ะ แต่พอได้ลองเนื้อเท่านั้นล่ะ.. อร่อยลืมมมมมม หลัง ๆ จิ้มสั่งแต่เนื้อ ทานกันจนจุก
- DAY 3 -
เช้าวันที่สามเราจะเดินทางไปไร่วาซาบิกัน ระหว่างทางก็ถ่ายวิวเมืองไปเรื่อย ๆ ค่ะ น่ารักทุกระเบียบนิ้วจริง ๆ
ถึงแล้ว ไดโอะวาซาบิฟาร์ม ไปพิสูจน์ความจี๊ดกัน
ในภาพคือต้นวาซาบิค่ะ นางหน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง
มาดูโซนร้านค้ากันบ้าง
นี่คือแง่งวาซาบิสดค่ะ ต้องเอามาฝน ๆ
ส่วนร้านนี้เป็นขนมสอดไส้วาซาบิค่ะ
และที่ขาดไม่ได้สำหรับแฟนคลับของหวาน
แท่นแท๊นนน ! ซอฟท์ครีมวาซาบิค่ะ ไม่เผ็ด ไม่จี๊ด มีแต่กลิ่นเขียว ๆ (แปลกดี) อร่อย
หลังจากชิมวาซาบิเสร็จก็เดินทางไปต่อปราสาทมัตสึโมโต้ค่ะ อยู่ไม่ไกลกันมาก
คุณลุงคนนี้มาขอคุณแม่กับเพื่อนคุณแม่ถ่ายรูปค่ะ 55555
ผู้คนที่มาเยี่ยมชมปราสาทค่ะ
มีคุณลุงขายมันเผาอยู่ข้างหน้าปราสาทด้วยค่ะ เขียนเป็นภาษาไทยด้วยนะ เลยอุดหนุนแกซะหน่อย หวานเจี๊ยบเลย
ต่อไปเราจะไปช้อปปิ้งกันนนนนนนนน
หลังจากนั้นก็นั่งรถกันยาว ๆ อีกครั้ง ไปช้อปปิ้งต่อที่โกเทมบะเอาท์เล็ต
ระหว่างทางเห็นฟูจิซังด้วย เต็ม ๆ เลยยยยยยย
ระหว่างช้อปปิ้งก็ถ่ายวิวฟูจิซังไปเพลิน ๆ นี่คุณแม่ของเจ้าของกระทู้เองค่ะ 55555
เดินข้ามกลับมาฝั่ง East มีร้านเครปญี่ปุ่นอยู่แถวนั้นด้วย เลยขอลองซะหน่อย
เครปเย็น อร่อยมาก(*^ワ^*) หลังจากนั้นในทริปนี้กินเครปไปหลายรอบเลย ติดใจ
คืนนี้ที่พักคือโรงแรม Fujinobo Kaen เย็นนี้เราจะไปทานบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์กัน (ในโรงแรมนี่แหละ!)
ยักษ์จริง ! นั่งดูวิธีแกะไป ทดลองแกะไป สนุกแถมอร่อย อาหารที่นี่หลากหลายดีค่ะ
วันนี้ที่โรงแรมก็มีออนเซ็นค่ะ เลยขอไปแช่อีกรอบ หลัง ๆ นี่เริ่มเฉย ๆ กับการเดินตัวเปล่าแล้ว
ทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง !
- DAY 4 - “พิชิตแลนด์มาร์ก !"
วันที่สี่เราตื่นแต่เช้า เพราะเราจะไปขึ้นภูเขาไฟฟูจิกัน วิวฟูจิซังจากโรงแรม ตื่นเต้น ๆ
ลงมาทานข้าวแป๊บเดียว สายนิดหน่อยก็โดนเมฆบังไปหมดซะแล้ว
โชคดีที่วันนี้ออกเร็วค่ะ ตรงทางเข้าได้เปิดให้ขึ้นไปก่อน ประมาณ 08.30 น. แถมอากาศเป็นใจด้วย เลยได้ขึ้นไปถึงบริเวณชั้น 5 เลย
แต่...ข้างบนหมอกหนามากค่ะ มองไม่เห็นอะไรเลย ถ่ายลงมาข้างล่างไม่ได้ด้วย T___T
ไปไหว้ศาลเจ้ากัน โค้งสองครั้ง ปรบมือสองครั้ง แล้วอธิษฐาน (โทโมเอะจะโผล่มาไหมนะ~)
ไปหยอดตู้ Paper Fortune มาค่ะ ประมาณ 100-200 เยน ไม่ต้องห่วงค่ะ มีซับอังกฤษอยู่ข้างหลัง
เมลอนปังรูปภูเขาไฟฟูจิ โรยด้วยผงโกโก้ค่ะ น่ารักและอร่อยในราคา 260 เยน ถ้าซื้อเป็นกล่องก็ 3 ชิ้น 780 เยนค่ะ หยอดตู้แล้วพนักงานจะแพ็กมาให้ (สรุปนี่มารีวิวของกินในทริปด้วยใช่ไหม)
แล้วเจ้าของกระทู้ก็อดไม่ได้ที่จะส่งโปสการ์ด ส่งตรงจากบนภูเขาไฟฟูจิ ติดแสตมป์ให้พร้อม
ยอดฟูจิซังที่โดนหมอกกลืนกิน
พอลงจากฟูจิก็ตรงเข้าโตเกียวเลย เราจะไปช้อปกับชมแฟชั่นวัยรุ่นญี่ปุ่นกันที่ฮาราจุกุ !
นั่งรถกันเมื่อยมาก หลับแล้วหลับอีก ด้วยความหวังว่าอีกครึ่งวันจะได้ช้อปกันเต็มเหนี่ยว แต่...เกิดอุบัติเหตุที่ถนนข้างหน้าค่ะ ทำให้เวลาช้อปปิ้งหายไปชั่วโมงครึ่ง (-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩___-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩) ไม่เป็นไร เราจะช้อปกันด้วยความเร็วแสง !
มาถึงแล้วฮาราจุกุ ย่านวัยรุ่นที่แฟชั่นเก๋กู๊ดสมูทตี้สุด ๆ
มวลมหาประชาวัยรุ่น คนเยอะมากกกกกกก (มีหลุดโฟกัสเป็นระยะ ถ่ายไม่ทันจริง ๆ ค่ะ 5555)
เจ้าของกระทู้แอบแวบเข้าไปร้านนี้แป๊บหนึ่ง สแตนดี้ข้างหน้าร้านล่อตาล่อใจ
สาวมัธยมญี่ปุ่น
หลังจากตกตะลึงกับแฟชั่นฮาราจุกุไป ก็จะไปช้อปอย่างต่อเนื่องที่ชินจูกุเลยค่ะ วันช้อปจริง ๆ จุ๊บ ๆ นั่งรถไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงแล้ว
เหล่าคุณแม่ก็เรียกร้องจะไปซื้อกระเป๋า Issey Miyake กัน เจ้าของกระทู้ก็เลยปลีกตัวมาเดินเล่น ชมบรรยากาศความวุ่นวายของเมืองหลวงซะหน่อย ชอบตอนข้ามถนนจริง ๆ ไฟแดงปุ๊บเดินปั๊บ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่หยุด (เหมือนบ้านเรา)
เดินไปก็แวบเข้าร้าน Muji ไปซื้อเครื่องเขียนเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จแล้วก็เดินไปดูใน Bic Camera เช็กราคาเลนส์ซะหน่อย ร้านค้าเยอะมากค่ะ เยอะจนลายตา เดินไม่ถูก ถ้าไม่มีลายแทงของคุณไกด์เจ้าของกระทู้อาจหลงทางได้ 55555
แล้วเจ้าของกระทู้ก็เดินมาเจอดินแดนของโอตาคุค่ะ ร้าน Animate ค่ะ รีบพุ่งไปอย่างไว ทำให้กระเป๋าสตางค์แบนลงอย่างรวดเร็ว (มีน้องโฮะกับสเลนอยู่บนตึกด้วย)
จริง ๆ แล้วอีกเป้าหมายของเจ้าของกระทู้คือมาตามรอย Lost in Translation แต่ด้วยเวลาอันน้อยนิด ทำให้แค่เกือบจะหาเจอ เดินวนจนปวดขา ไว้รอบหน้าจะมาตามหาใหม่นะ T__T
คืนนี้พักที่โรงแรม APA Tokyo Bay Makuhari ค่ะ คนเยอะมาก ๆ หันไปก็มีแต่ทัวร์ไทยทัวร์จีนนี่ล่ะ 555555
ที่นี่มีออนเซ็น outdoor ด้วยค่ะ แช่กันฟิน ๆ ลมข้างนอกเย็นดี แช่เสร็จก็ซื้อเสบียงจาก Lawson ขึ้นไปตุนไว้เผื่อวันต่อไป
- DAY 5 – วันสุดท้ายแล้ว เร็วอย่างน่าใจหาย
ตอนเช้า ๆ ตรงข้ามโรงแรมมีอีเว้นท์ Nico Nico Chokaigi ค่ะ เด็ก ๆ ลงทุนมานอนโรงแรมนี้เพื่อไปต่อแถวเลย คนคอสเพลย์เต็มไปหมด
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเราก็จะออกเดินทางไปโอไดบะไดเวอร์ซิตี้ หรือห้างที่มีกันดั้มตั้งอยู่ข้างหน้านั่นเองงงงงงง
ถึงแล้วว Diver City เหมือนจะมีอีเว้นท์อะไรด้วย โอตาคุหนุ่ม ๆ พรึ่บ
กำลังจินตนาการว่าถ้าตัวเองเป็นแฟนกันดั้มแล้วมาดูจะฟินขนาดไหน มีกันดัมคาเฟ่อีก แต่ไม่ได้เข้าค่ะ เวลาน้อย y_y
หน้าห้างมีดอก Azalea ปลูกยาวเป็นแถบเลย
อันนี้ที่ร้าน Hello Kitty Japan ในห้างค่ะ เป็นซอฟท์ครีมวานิลลา + ชาเขียว แถมคิตตี้มาให้ด้วย อร่อยยยยยยยย หอมชาเขียวมาก ทานเสร็จเก็บถ้วยกับช้อนกลับไปได้ค่ะ เขาให้เป็นที่ระลึก
รถอันปังแมน ในลานจอดรถนี่มีรถแปลก ๆ เต็มไปหมดเลย
สุดท้ายแล้ว...ที่สนามบินนาริตะ
เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกที่ประทับใจมาก ตั้งแต่บ้านเมือง บรรยากาศ วัฒนธรรม ระเบียบ และผู้คน ตอนนี้ต้องบอกลาซะแล้ว เข้าใจคำว่าไม่อยากกลับเลย ㅠㅠ ถึงจะไปกับทัวร์แต่ว่าไม่น่าเบื่อเลยค่ะ โปรแกรมดีมาก ๆ เก็บทั้งนอกเมืองและในเมืองเลย เวลาในบางสถานที่อาจจะน้อยบ้าง แต่ไม่ถึงกับชะโงกทัวร์ ประทับใจมากค่ะ
さよなら! ไว้เจอกันอีกครั้งนะญี่ปุ่น จะต้องมาอีกให้ได้เลย
ขอจบการรีวิวตรงนี้นะคะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านจนจบ เจอกันอีกทีทริปหน้าค่ะ (✿◖◡◗)
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1508763 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม