ที่เที่ยว 3 วัน 2 คืน จัดทริปเที่ยวไหนดี ? รวมไอเดียที่เที่ยว เดินทางง่าย เหมาะกับทั้งสายธรรมชาติ สายชิล และสายเช็กอินสุด
ถ้ามีวันหยุดสั้น ๆ แค่ 3 วัน 2 คืน แต่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี ลองจัดทริปเดินทางไม่ยาก ได้ทั้งพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศ และเก็บประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เต็มอิ่ม ไม่ว่าจะสายธรรมชาติ อยากนอนโฮมสเตย์ริมน้ำ เที่ยวทะเล น้ำตก ภูเขา หรือจะตามหาโลเคชันคาเฟ่สุดคูล ถ่ายรูปเช็กอิน ก็มีที่ให้เลือกจัดทริปหลากหลาย ครบทุกฟีลเที่ยวแบบไม่ต้องลางานยาว ว่าแล้วก็เข้ามาเช็กลิสต์กันเลย
1. นครปฐม-ราชบุรี-สมุทรสงคราม : ทริปไหว้พระริมน้ำและสัมผัสวิถีชุมชน
เริ่มวันด้วยการเดินทางสู่นครปฐม จากนั้นตรงไปสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นไปเที่ยวชมตลาดน้ำดอนหวาย ที่มีอาหารอร่อย ๆ และของฝากมากมายให้เลือกซื้อ หรือจะเลือกไปเที่ยวชมวัดไร่ขิง ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการขอพรก็ได้ ในช่วงเย็นเดินทางเข้าสู่ราชบุรี เพื่อพักผ่อนในที่พักที่อยู่ใกล้ตัวเมือง
ภาพจาก : suttirat wiriyanon / Shutterstock.com
เช้าวันรุ่งขึ้นเดินทางเข้าสู่ราชบุรี เพื่อไหว้พระตามวัดสำคัญต่าง ๆ ที่มีความสวยงามและเป็นที่เคารพสักการะ จากนั้นเดินทางต่อไปยังสมุทรสงคราม ในช่วงบ่ายแก่ ๆ เพื่อเข้าพักในโฮมสเตย์ริมคลองอัมพวา ซึ่งเป็นที่พักที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยวิถีชีวิตของชาวบ้าน ตกเย็นไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและของอร่อยมากมาย หลังจากนั้นไปล่องเรือชมหิ่งห้อย ยามค่ำคืนซึ่งเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยวในอัมพวา แฮปปี้กันถ้วนหน้า
2. สมุทรสาคร : ทริปกินซีฟู้ดสด ๆ ตลาดทะเล และเดินชมชุมชนเก่า
เดินทางเข้าสู่สมุทรสาคร เมืองท่าที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ แนะนำเช็กอินที่พักในมหาชัย เพราะจะได้ไปเยือนตลาดทะเลมหาชัยกันต่อ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลสด ๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ให้เลือกชิมกันอย่างจุใจในบรรยากาศคึกคักของตลาดยามเย็น จากนั้นพักผ่อนในที่พักใกล้ทะเล เตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยในวันถัดไป
เช้าวันใหม่ไปเดินเล่นชมชุมชนเก่าท่าฉลอม ชุมชนริมทะเลที่ยังคงรักษาความคลาสสิกและวิถีชีวิตชาวประมงดั้งเดิม เดินถ่ายรูปตามตรอกซอกซอย สัมผัสบรรยากาศเก่าแก่ของบ้านเรือนและวัดวาอารามต่าง ๆ ก่อนจะไปลิ้มรสซีฟู้ดสด ๆ ในร้านอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของท่าฉลอมในช่วงกลางวัน จากนั้นใช้เวลาช่วงบ่ายเดินเล่นริมทะเลมหาชัย หรือแวะคาเฟ่ชิล ๆ ก่อนกลับที่พักเพื่อพักผ่อนในค่ำคืนนี้
ภาพจาก : Silapavet Konthikamee / Shutterstock.com
ภาพจาก : SChompoongam / Shutterstock.com
3. นครนายก : เที่ยวครบสูตร สูดอากาศบริสุทธิ์
เดินทางสู่จังหวัดนครนายก และเข้าที่พักในบริเวณใกล้เคียงอ่างเก็บน้ำวังบอน ในช่วงบ่ายแก่ ๆ จากนั้นไปที่อ่างเก็บน้ำเพื่อทำกิจกรรมเบาๆ เช่น พายเรือคายัก หรือเดินเล่นชมวิวริมอ่างเก็บน้ำที่เงียบสงบ ตกเย็นกลับที่พักเพื่อพักผ่อน หรือจะหาอาหารเย็นกินในร้านอาหารพื้นบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ
ภาพจาก : AfriramPOE / Shutterstock.com
เช้าวันรุ่งขึ้นไปเที่ยวน้ำตกวังตะไคร้ หรือน้ำตกนางรอง ที่ขึ้นชื่อของนครนายก เพื่อเล่นน้ำและสัมผัสความเย็นสบายของสายน้ำ จากนั้นในช่วงบ่ายไปชมความยิ่งใหญ่ของเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในโลก ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมความงามของธรรมชาติที่อยู่ภายในเขื่อนได้ พอตกเย็นกลับเข้าที่พักเพื่อพักผ่อน
4. เที่ยวทะเลใกล้กรุง บางแสน-ศรีราชา
ออกเดินทางตอนเช้าเพื่อมาถึงบางแสนในช่วงบ่ายแก่ ๆ จากนั้นไปเดินเล่นริมหาด หรือจะนั่งเก้าอี้ชายหาดสั่งอาหารทะเลสด ๆ มากินก็เป็นตัวเลือกที่ดี ช่วงเย็นขับรถขึ้น เขาสามมุข เพื่อไหว้ศาลเจ้าและชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติก พอตกค่ำ แวะถนนคนเดินบางแสนเพื่อหาของกินอร่อย ๆ หรือจะหาร้านนั่งชิล ๆ ริมทะเลก็ได้
ยามเช้า เดินทางสู่ศรีราชา ไปสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านที่ตลาดเก่าศรีราชา และลองหาของอร่อย ๆ กิน จากนั้นช่วงบ่ายเช็กอินพักผ่อนที่คาเฟ่ rooftop เก๋ ๆ สักแห่งในศรีราชา เพื่อจิบกาแฟพร้อมชมวิวทะเลแบบพาโนรามา ช่วงเย็นไปเดินเล่นที่แหลมแท่น เพื่อรับลมทะเลสบาย ๆ และชมวิวเกาะลอยที่สวยงาม ปิดท้ายมื้อค่ำด้วยการเลือกร้านอาหารทะเลสด ๆ ที่มีอยู่มากมายในศรีราชา
5. เพขรบุรี : ทริปพักผ่อนริมทะเลแบบชิล ๆ กับเสน่ห์ของความสงบ
มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบุรี เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม หลังจากเช็กอินที่พักในเมืองเพชรบุรี เราสามารถไปเยี่ยมชมพระราชวังบ้านปืนในช่วงเย็น ช่วงค่ำเหมาะสำหรับเดินเล่นตลาดกลางคืนหรือหาร้านอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ ก่อนพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันถัดไป
ภาพจาก : mai111 / Shutterstock.com
เช้าวันใหม่ออกเดินทางไปยังหาดเจ้าสำราญ หาดทรายทอดยาวเงียบสงบที่เหมาะกับการพักผ่อนและชมวิวทะเล จากนั้นขับต่อไปยังชะอำในโซนเงียบซึ่งมีบรรยากาศแตกต่างจากชะอำฝั่งหลัก ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสงบ กินอาหารทะเลสด ๆ และเดินเล่นริมหาดแบบไม่แออัดในช่วงเย็น พร้อมพักผ่อนในรีสอร์ตเล็ก ๆ ริมทะเล ให้เต็มที่กับความผ่อนคลายและเสียงคลื่นที่เป็นธรรมชาติก่อนเดินทางกลับ
6. ประจวบคีรีขันธ์ : ย้อนรอยประวัติศาสตร์และดำน้ำเกาะทะลุ
วันแรกเดินทางมาถึงอ่าวมะนาว และเข้าที่พักในบริเวณกองบิน 5 ซึ่งตั้งอยู่ภายในกองทัพอากาศ บ่ายนี้ไปเดินเล่นริมหาดอ่าวมะนาวซึ่งมีบรรยากาศเงียบสงบและสวยงาม จากนั้นเดินชมอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การรบ ณ อ่าวมะนาว เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่านักรบผู้กล้าหาญ ตกเย็นเลือกทานอาหารที่ร้านอาหารทะเลใกล้ ๆ หรือจะเลือกดินเนอร์ในที่พักก็ได้
เช้าวันรุ่งขึ้นเดินทางไปท่าเรือเพื่อต่อเรือไปเกาะทะลุ ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ทะเล ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สนุกกับการดำน้ำตื้นชมฝูงปลาและปะการังที่สวยงาม หลังจากนั้นไปพักผ่อนบนเกาะและกินอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ที่ทางเรือจัดเตรียมไว้ให้ ช่วงบ่ายเดินทางกลับฝั่ง จากนั้นขับรถเข้าสู่ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพักผ่อนและหาอาหารเย็นทานในตลาดโต้รุ่ง หรือจะเลือกกินอาหารทะเลสด ๆ ในร้านอาหารชื่อดังของเมืองก็ได้
7. ปราจีนบุรี : เขาใหญ่ฝั่งตะวันออก สัมผัสธรรมชาติสงบ
วันแรกเดินทางสู่ที่พักในอำเภอนาดี หรืออำเภอประจันตคาม ที่อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฝั่งปราจีนบุรี หากยังไม่เหนื่อยเกินไป สามารถแวะร้านคาเฟ่ริมธารน้ำตก เพื่อจิบกาแฟและฟังเสียงน้ำไหลเอื่อย ๆ ในช่วงเย็น หลังจากเช็กอินเรียบร้อยแล้ว ลองหาอาหารเย็นอร่อย ๆ ในร้านอาหารพื้นบ้าน หรือจะเลือกดินเนอร์ใต้แสงดาวที่รีสอร์ตก็ได้ ช่วงกลางคืน ที่นี่อากาศจะเย็นสบายและเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ภาพจาก : Gritsana P / Shutterstock.com
วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด แล้วออกเดินทางไปเส้นทางเดินป่าที่ไม่ไกลจากที่พัก เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีให้เลือกหลายระดับความยากง่าย หรืออาจจะไปที่น้ำตกเหวสุวัตเพื่อชมความงามของธรรมชาติ จากนั้นอาจจะคาเฟ่บรรยากาศดี ๆ อีกแห่งเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้ ช่วงเย็นลองมองหาร้านอาหารที่มีวิวสวย ๆ เพื่อปิดท้ายวันก่อนจะกลับมาพักผ่อนในคืนสุดท้าย
ภาพจาก : Pakenee Kittipinyowat / Shutterstock.com
8. เกาะกูด : ทริปหนีฝน สัมผัสทะเลใสและวิถีชีวิตเรียบง่าย
วันแรกเดินทางถึงเกาะกูด จากนั้นเข้าเช็กอินที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย สำหรับช่วงเย็นแนะนำให้ไปเดินเล่นที่ชายหาดใกล้ ๆ ที่พัก เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน หรือจะเลือกดินเนอร์ริมทะเลพร้อมฟังเสียงคลื่นซัดสาดเป็นเพื่อนก็โรแมนติกไปอีกแบบ หลังมื้อเย็น คุณสามารถใช้เวลาพักผ่อนได้เต็มที่ เพราะที่นี่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ตื่นเช้ามาเติมพลังด้วยอาหารเช้า แล้วไปผจญภัยเล็ก ๆ ด้วยการเดินทางไปชมน้ำตกคลองเจ้า ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และมีน้ำตลอดทั้งปี หลังจากนั้นตรงไปที่หมู่บ้านประมงอ่าวใหญ่ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านและเลือกซื้ออาหารทะเลสด ๆ จากชาวประมงโดยตรง ช่วงบ่ายกลับมาพักผ่อนที่ที่พักหรือเลือกกิจกรรมทางน้ำสนุก ๆ เช่น พายเรือคายัก หรือเล่นน้ำทะเลใส ๆ ได้ตามใจชอบ ตกเย็นเลือกมื้อค่ำที่ร้านอาหารทะเลสด ๆ แล้วกลับมานอนฟังเสียงคลื่น ปิดท้ายวันพักผ่อนอย่างสมบูรณ์
ภาพจาก : Stefano Ember / Shutterstock.com
9. นครศรีธรรมราช : โฮมสเตย์บ้านท่าศาลา สัมผัสวิถีประมงริมเล
มาถึงบ้านท่าศาลา แล้วแนะนำให้เช็กอินโฮมสเตย์ที่อยู่ริมทะเล หลังจากพักผ่อนแล้วออกไปทำกิจกรรมแรกด้วยการนั่งเรือชมป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ เรียนรู้เรื่องราวของระบบนิเวศป่าโกงกางและวิถีชีวิตสัตว์น้ำ จากนั้นตกเย็นกลับมาทานอาหารทะเลสด ๆ ที่ชาวบ้านทำขึ้นมาให้ และพักผ่อนรับลมทะเลเย็น ๆ
ตื่นเช้าไปสัมผัสประสบการณ์การทำประมงกับชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการไปร่วมออกเรือหาปลา หรือจะไปเรียนรู้วิธีทำกะปิและปลาเค็มก็ได้ ช่วงบ่ายพักผ่อนตามอัธยาศัยที่โฮมสเตย์ หรือจะออกไปเดินเล่นริมหาดเพื่อชมวิถีชีวิตชาวบ้านก็ได้ ตกเย็นมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินริมทะเลเป็นภาพสุดท้ายก่อนจะกลับมากินอาหารค่ำและพักผ่อนในคืนสุดท้าย
ทริปสั้น ๆ แค่ 3 วัน 2 คืน ก็เติมพลังให้ชีวิตได้แบบเต็มแม็กซ์ เก็บทุกความสุข ใส่กระเป๋ากลับมาพร้อมรอยยิ้ม วันหยุดหน้า...แพ็กกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวกันอีกเถอะ ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยว 3 วัน 2 คืน ที่เที่ยววันหยุด ท่องเที่ยวไทย อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เว็บไซต์ tat.or.th, เฟซบุ๊ก 1672 Travel buddy