รวมที่เที่ยวเดือนสิงหาคม 2567 เที่ยวธรรมชาติสวย ๆ ในประเทศไทย หรือกิจกรรมดี ๆ ไม่ต้องหวั่นใจกับสายฝนที่โปรยปราย
สิงหาคม เที่ยวไหนดี ? ย่างเข้าเดือนแปด มีทั้งแดด มีทั้งฝน ซึ่งการท่องเที่ยวหน้าฝนเป็นอีกหนึ่งฤดูที่สวยงามและน่าประทับใจไม่แพ้ฤดูอื่น ๆ เลย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพราะจะได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นขุนเขา น้ำตก เมฆหมอก ทุ่งดอกไม้ ไร่ผัก ต่างก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ หากใครที่ยังคิดไม่ตกว่าจะไปไหนดี เรามี ที่เที่ยวเดือนสิงหาคม สวย ๆ มาแนะนำกัน ตามไปดูได้เลย
ที่เที่ยวเดือนสิงหาคม 2567
1. งานสีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ ครั้งที่ 16 สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กรุงเทพฯ
กระทรวงเกษตรแห่งสหกรณ์ เชิญเที่ยวชม งานสีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 9-14 สิงหาคม 2567 ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567 ผ่านการจัดนิทรรศการเผยแพร่โครงการพระราชดำริตามพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา และต่อยอด” ให้ประชาชนรับทราบและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กิจกรรมภายในงาน สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ ประจำปี 2567 โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาจัดนิทรรศการที่มีชีวิต ได้แก่
-
กล้วยไม้นารี สีสันพรรณไม้ตระการตา สืบสาน รักษา เพื่อปวงประชาในแผ่นดิน จัดโดยกรมวิชาการเกษตร
-
สรรพพรรณธัญญา หลากหลายคุณค่า พันธุ์ข้าวไทย จัดโดยกรมการข้าว
-
ภูฟ้า พระเมตตาจากฟ้าเพื่อปวงประชา สร้างคนอยู่ร่วมป่า สร้างป่ายังชีพ จัดโดยกรมชลประทาน
-
ปลาไทยในกาพย์เห่เรือ บทชมปลา จัดโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
-
สืบสาน รักษา ต่อยอด “ไก่นามพระราชทาน” จัดโดยกรมปศุสัตว์ เป็นต้น
ซึ่งแต่ละนิทรรศการจัดภายใต้แนวคิด “สืบสาน รักษา ต่อยอด ผ่านสีสันพรรณไม้ตระการตา เพื่อปวงประชาอุดมสมบูรณ์” นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมสาธิตและฝึกอาชีพที่น่าสนใจ ได้แก่ การแปรรูปเนื้อปลาไทยผ่านเมนูช่อม่วงปลากราย การแปรรูปเนื้อไก่ฟ้าเป็นเมนูแฮมเบอร์เกอร์และชิกเก้นบอล รวมไปถึงสาธิตการสาวไหม อีกทั้งมีการจำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อสนับสนุนเกษตรกรบนพื้นที่สูง อาทิ กาแฟ อะโวคาโด เสาวรส และจัดจำหน่ายไข่ไก่ราคาประหยัดภายในงานอีกด้วย
2. วัดศรีกะอาง จังหวัดนครนายก
ไหว้พระวัดสวยใกล้กรุงเทพฯ กับวัดศรีกะอาง ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลององค์ใหญ่ สร้างด้วยอิฐถือปูน มีขนาดหน้าตักกว้าง 18 เมตร สูงกว่า 30 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงกว่า 150 เมตร บริเวณด้านหน้าขององค์พระยังมีความพิเศษอีกอย่างคือ กระถางธูปที่ทำจากสเตนเลสขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาดกว้าง 60 เซนติเมตร ยาวเกือบ 5 เมตร อีกด้วย
ภาพจาก : YuenSiuTien / Shutterstock.com
นอกจากนี้ในบริเวณวัดยังมีอุโบสถที่สร้างอยู่บนยอดเขา เป็นศิลปะที่มีความผสมผสานระหว่างไทยและจีน โดยขอบประตูและหน้าต่างของอุโบสถจะตกแต่งด้วยชามสมัยโบราณที่ชาวบ้านนำมาถวายวัดเมื่อครั้งอดีต และภายในพระอุโบสถจะประดิษฐานพระพุทธรูปปางพิชิตมาร ซึ่งมีพระนามของสมเด็จพระสังฆราชจารึกไว้ด้วย
3. สถานีผาเสด็จ จังหวัดสระบุรี
สถานีผาเสด็จ หรือ ผาเสด็จ ตั้งอยู่ในตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อยู่ระหว่างสถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย กับสถานีรถไฟมวกเหล็ก เป็นสถานีย่อยขนาดเล็กสำหรับจอดรับ-ส่งผู้โดยสารกับรถไฟชานเมือง แต่ถ้าเป็นรถไฟด่วนและด่วนพิเศษจะไม่จอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีนี้ ถือได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทางด้านคมนาคมทางบก โดยเฉพาะกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพราะเป็นทางผ่านของเส้นทางรถไฟสายพระมหานคร-นครราชสีมา ที่ใช้เดินทางเข้าสู่ภาคอีสาน และเป็นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย ก่อสร้างโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ภาพจาก : Tossapon Nakjarung / Shutterstock.com
สถานีรถไฟผาเสด็จอยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพ ระยะทาง 138 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นสถานีรถไฟชั้น 3 และได้มีการบูรณะปรับปรุงภูมิทัศน์รอบบริเวณสถานีให้มีความสวยงามน่าชม เพื่อให้เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี และภายใน ผาเสด็จ จะมีไฮไลต์อยู่ 2 แห่ง คือ ศาลหลวงพ่อผาเสด็จ ที่เราสามารถเข้าไปกราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ และ ศิลาหินก้อนใหญ่ ที่อยู่ริมทางรถไฟ เป็นสถานที่ที่ในหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้ที่หน้าผา เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่แห่งนี้อีกด้วย
4. วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
ตั้งอยู่ในตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นภูเขาขนาดไม่ใหญ่นัก สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 172 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 9,500 ไร่ โดยที่มาของชื่อเขาแหลมสิงห์ มาจากลักษณะของหินด้านหน้าภูเขาที่ยื่นไปในทะเล มีหน้าตาคล้ายกับสิงโตที่ยืนรักษาการอยู่อย่างสง่างาม ชาวประมงและชาวบ้านท้องถิ่นจึงเชื่อว่าผาหินแห่งนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาพื้นที่ในบริเวณนี้
ภาพจาก : kwanchai / Shutterstock.com
ภายในวนอุทยานเขาแหลมสิงห์ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชายหาด เกาะ และภูเขา มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำ ทั้งเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ เล่นน้ำทะเล และชมพระอาทิตย์ตกดิน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip สามารถเดินทางไปเช้า-เย็นกลับได้ ซึ่งไฮไลต์สำคัญคือ ป้อมไพรีพินาศ เป็นสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 บริเวณใกล้ ๆ กันมีพระเจดีย์องค์หนึ่งที่ชาวจันทบุรีสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2447 เพื่อเป็นอนุสรณ์หลังจากที่ทหารฝรั่งเศสถอนกำลังออกจากแหลมสิงห์และจันทบุรีนั่นเอง
5. วัดถ้ำเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว
วัดถ้ำเขาฉกรรจ์ ตั้งอยู่บนเขาฉกรรจ์ ซึ่งเป็นเขาหินปูนขนาดใหญ่ 3 ลูกตั้งเรียงติดกัน เป็นภูเขาหินปูนดึกดำบรรพ์ อายุราว 2,000-4,000 ปี โดยมีเขาฉกรรจ์เป็นลูกใหญ่ที่สุดและอยู่ตรงกลาง มีภูเขามิ่งอยู่ด้านซ้าย และเขาผาอยู่ด้านซ้ายและขวา เขาฉกรรจ์มีถ้ำที่สำคัญและเป็นถ้ำที่นักท่องเที่ยวสนใจเข้าชมมากที่สุดคือ ถ้ำเขาทะลุ มีลักษณะเป็นช่องเขาสองด้านที่ทะลุหากัน ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูป ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ด้านหน้ามีบันไดปูนเชื่อมต่อกับบันไดไม้ให้เดินขึ้นไปชมถ้ำได้สบาย
เมื่อขึ้นไปถึงส่วนบนของถ้ำสามารถมองเห็นความกว้างใหญ่ภายในถ้ำลงมายังด้านล่างของวัด ถ้าต้องการชมค้างคาวควรมาช่วงเวลา 18.00 น. จะมีฝูงค้างคาวนับล้านตัวบินออกจากถ้ำเป็นสายยาว และอีกด้านหนึ่งจะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอเขาฉกรรจ์ได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ด้านล่างเป็นที่ตั้งของ วัดถ้ำเขาฉกรรจ์ และสวนรุกขชาติเขาฉกรรจ์ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้ มีฝูงลิงวอกนับพันตัวอาศัยอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารลิงได้
6. อุทยานแห่งชาติภูผายล จังหวัดสกลนคร
อุทยานแห่งชาติภูผายล หรือ อุทยานแห่งชาติห้วยหวด มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอโคกศรีสุพรรณ อำเภอเต่างอย ของจังหวัดสกลนคร รวมไปถึงอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม และอำเภอดงหลวง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีความสวยงามและความหลากหลายทางธรรมชาติน่ายลไม่แพ้ที่ใด โดยอุทยานแห่งนี้เป็น 1 ใน 5 ของโครงการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม 2530 ที่ได้มีการประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2531 ซึ่งที่นี่นับเป็นอุทยานแห่งชาติของไทยลำดับที่ 57
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูผายล ได้แก่
-
ภูผายล ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม โดยบริเวณหน้าผามีรูปแกะสลักภาพต่าง ๆ ที่มีอายุประมาณ 3,000 ปี
-
ผาพญาเต่างอย มีลักษณะเป็นหินทรายรูปร่างคล้ายเต่างอยกำลังจะลงน้ำหันหน้าลงสู่ลำน้ำพุง เชื่อกันว่าบริเวณใดที่มีเต่างอยแสดงว่าเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นตำนานที่เรียกชื่อบ้านเต่างอย
-
อ่างเก็บน้ำห้วยหวด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 500 เมตร เกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนชลประทานตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร บริเวณพลับพลาฝั่งขวาของอ่างเก็บน้ำมีก้อนหินรูปร่างแปลกตา และยังสามารถมองเห็นน้ำตก 2 สาย ซึ่งไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยหวด
-
น้ำตกคำน้ำสร้าง เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของอุทยาน ถ้ายืนบนสันเขื่อนมองลงไปทางทิศใต้จะสามารถมองเห็นน้ำตกได้ น้ำตกมีความสูง 25 เมตร ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1.8 กิโลเมตร
-
น้ำตกแก่งโพธิ์ เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง กว้างประมาณ 14 เมตร สูง 10 เมตร บริเวณสายน้ำใต้น้ำตกเป็นแก่งกว้างสามารถกางเต็นท์พักแรมที่ลานขนาดใหญ่ใกล้น้ำตก แล้วเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
-
น้ำตกรากไทรย้อย สูงประมาณ 5 เมตร
-
น้ำตกผาผึ้ง สูงประมาณ 10 เมตร สามารถเดินชมได้ทั้งด้านบนและด้านล่างของน้ำตก ซึ่งมีพืชพรรณและดอกไม้ป่านานาชนิดขึ้นอยู่มากมายตามฤดูกาล
-
ลานดุสิตา เป็นลานหินซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง ราวปลายฤดูฝนจะมีดอกไม้เล็ก ๆ นานาพรรณขึ้นอยู่ละลานตา ซึ่งทางอุทยานได้จัดทำทางเดินเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของธรรมชาติ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทรศัพท์ 0-4270-7214, 08-3835-9096
7. วัดป่าภูก้อน จังหวัดอุดรธานี
อีกหนึ่งวัดสวยที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้และขุนเขาในภาคอีสาน กับ วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาที่วัดป่าแห่งนี้คือ พระวิหารที่มีความสวยงามสะดุดตา เป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ ภายในวิหารจะถูกตกแต่งไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้า
ภาพจาก : Panwasin seemala / Shutterstock.com
นอกจากนี้ภายในวัดป่าภูก้อนจะมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา มีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ความยาวถึง 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน ซึ่งเป็นหินขาวอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานมากที่สุด รวมถึงมี พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ อยู่ถัดมาบริเวณด้านล่าง เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและรูปปั้นหินอ่อนของเหล่าเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทย โดยเราจะต้องเดินทางขึ้นบันไดยาวเพื่อเข้ามายังเจดีย์ไปสักการบูชาด้วย
8. ถ้ำหลวงแม่สาบ จังหวัดเชียงใหม่
ถ้ำหลวงแม่สาบ หรือ ถ้ำสายรุ้ง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนขาน อำเภอสะเมิง เป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ที่น้อยคนจะรู้จัก แม้จะตั้งอยู่ตรงนี้มานานกว่า 400 ล้านกว่าปี แต่ก็เพิ่งถูกค้นพบและเปิดให้ท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง มีลักษณะเป็นถ้ำในภูเขาหินปูนที่อยู่สูงจากพื้นราบหน้าถ้ำประมาณ 2 เมตร เป็นถ้ำที่มี 2 ระดับ คือ ถ้ำด้านบนเป็นโถงถ้ำกว้าง มีหน้าต่างถ้ำขนาดใหญ่ด้านบน มีหลืบถ้ำเข้าไปลึกราว 10 เมตรแล้วตัน ส่วนถ้ำด้านล่าง ปากถ้ำกว้างราว 2 เมตร ภายในมีหินงอก-หินย้อยและบัลลังก์หินที่สวยงาม และชั้นบนจะมีปล่องโพรงคล้ายปล่องภูเขาไฟ
นอกจากนี้ภายในถ้ำโดยทั่ว ๆ ไปยังพบกุมภลักษณ์กลับหัวจำนวนมาก (ลักษณะคล้ายโดมหรือหลุมซ้อนทับและต่อเนื่องกันไป) ทั้งในส่วนของผนังและบนเพดานถ้ำ ด้านในมีให้ชมถึง 4 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำเพชร ด้านในเป็นประกายแวววาว ถ้ำมรกต ลักษณะเป็นสีเขียว และมุมถ่ายรูปจุดเช็กอินที่พลาดไม่ได้คือ ถ้ำพระอุโบสถ ด้านในจะมีพระพุทธรูปให้สักการะ ไฮไลต์ของถ้ำแห่งนี้คือ ถ้ำสายรุ้ง ที่ภายในผนังถ้ำเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติเป็นลวดลายสีสวย เป็นปฏิกิริยาทางเคมีของแร่ธาตุต่าง ๆ ภายในถ้ำผ่านกาลเวลานานแสนนาน จนกลายมาเป็นสีสันที่แต่งแต้มผนังถ้ำอย่างงดงามนั่นเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติขุนขาน Khun Khan National Park โทรศัพท์ 0-5200-0410
9. สกายวอล์กวัดพระธาตุดอยเวา จังหวัดเชียงราย
ที่เที่ยวเชียงรายที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นสกายวอล์กเหนือสุดในสยามบนวัดพระธาตุดอยเวา โครงสร้างเป็นทรงโค้ง ทางเดินมีความยาวประมาณ 150 เมตร นอกจากจะตั้งอยู่เหนือสุดในสยามแล้ว ยังนับว่าเป็นสกายวอล์กที่มีทางเดินยาวที่สุดในประเทศไทย สามารถชมวิวทิวทัศน์ทั้งฝั่งอำเภอแม่สาย และจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
ภาพจาก : Visun Khankasem / Shutterstock.com
10. โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
ที่เที่ยวเชิงเกษตร ตั้งอยู่ในสนามบินสุโขทัย นักท่องเที่ยวสามารถลงเครื่องจากสนามบินและโทร. เรียกรถรางหรือรถอีแต๋นจากโครงการเกษตรอินทรีย์มารับไปยังฟาร์มได้เลย ที่นี่มีแนวคิดที่จะพลิกฟื้นผืนดินบางส่วนรอบสนามบินสุโขทัยให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว ซึ่งเริ่มต้นจากการปลูกข้าวแบบไม่ใช้สารเคมีในแปลงนา ก่อนจะขยายอาณาเขตให้กว้างขวางขึ้นอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเป็นโครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย เป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสนับสนุนให้ระบบเกษตรอินทรีย์แพร่หลายยิ่งขึ้นในประเทศไทยอีกด้วย
ภาพจาก : MoreGallery / Shutterstock.com
น
อกจากจะเป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจและมีกิจกรรมให้ลองลงมือปฏิบัติจริงแล้ว ที่โครงการแห่งนี้ยังมี ตลาดกลางนา เป็นพื้นที่สำหรับขายผลิตภัณฑ์ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผัก ผลิตภัณฑ์แปรรูป และอื่น ๆ อีกหลากหลาย ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก โครงการเกษตรอินทรีย์และครัวสุโข สนามบินสุโขทัย Organic Agriculture Project โทรศัพท์ 0-5564-7290
11. วนอุทยานเขาตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
วนอุทยานเขาตาม่องล่าย อยู่ในพื้นที่ของตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ลักษณะเป็นเทือกเขาติดกับอ่าวประจวบ ทอดตัวเป็นแนวยาวออกไป และมีโขดหินกระจัดกระจายสลับซับซ้อน ส่วนบริเวณชายฝั่งก็จะมีทัศนียภาพที่สวยงาม ไฮไลต์ของวนอุทยานเขาตาม่องล่าย คือ จุดชมวิวบนเทือกเขาตาม่องล่าย เป็นจุดที่สามารถมองเห็นอ่าวประจวบและตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ได้กว้างสุดลูกหูลูกตา รวมถึงมีส่วนของหน้าผาและโขดหินที่ยื่นล้ำเข้าไปในอ่าวประจวบอีกด้วย
ภาพจาก : kampol Jongmeesuk / Shutterstock.com
ที่นี่เหมาะทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับและแบบค้างคืน เพราะมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้ให้บริการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้บรรยากาศเงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพักผ่อน มีอาหารทะเลสด สะอาด ปลอดสารพิษ ในราคาคุ้มค่า ที่ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนตาม่องล่ายจับขึ้นจากทะเลทุกวันด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วนอุทยานเขาตาม่องล่าย khao ta mong lai จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 08-9916-5699
12. น้ำพุร้อนแม่กาษา จังหวัดตาก
น้ำพุร้อนแม่กาษา ที่เที่ยวตากที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ ตั้งอยู่ในตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นน้ำพุขนาดเล็กที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและไร่นาของชาวบ้าน ผุดขึ้นมาจากดิน มีความร้อนประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ธารน้ำร้อนที่พุ่งออกมาผสมกับน้ำจากผิวดินที่เป็นน้ำเย็นเกิดเป็นธารน้ำอุ่น มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ และไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมา บริเวณโดยรอบบ่อน้ำพุร้อนมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีน้ำพุร้อนสำหรับต้มไข่ มีบ่อน้ำแร่ให้แช่เท้า และมีห้องอาบน้ำแร่ ซึ่งจะไม่มีกลิ่นฉุนจากก๊าซกำมะถันเลย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนชื่อดังในอำเภอแม่สอดที่ไม่ควรพลาด
13. พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด จังหวัดกาญจนบุรี
ถ้าพูดถึงที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด หรือ ศูนย์เรียนรู้ช่องเขาขาด อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเชลยศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือ สงครามมหาเอเชียบูรพา ที่ญี่ปุ่นยกกองทัพเข้ามาประเทศไทย และเกณฑ์เชลยศึกจากสงครามมาสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะ (Death Railway) เพื่อส่งกองกำลังทหารของญี่ปุ่นเพื่อเข้าประเทศเมียนมานั่นเอง
ภาพจาก : kwanchai / Shutterstock.com
พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ภายในอาคาร เป็นพื้นที่จัดแสดงภาพและข้อมูลประวัติศาสตร์ เช่น ห้องฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 เส้นทางรถไฟสายมรณะ (Death Railway) และเรื่องราวของเชลยศึก และในส่วนที่ 2 ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่เลยคือ เส้นทางเดินธรรมชาติไปยังช่องเขาขาด ที่ตัดเจาะภูเขาหินให้เป็นช่องทางสำหรับสร้างทางรถไฟ เส้นทางเดินธรรมชาติระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร และต้องเดินลงบันไดกว่า 138 ขั้น ใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาที นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Hellfire Pass Interpretive Centre โทรศัพท์ 0-3491-9 605
14. น้ำตกสายรุ้งละอองดาว จังหวัดระนอง
น้ำตกสวยกลางป่าลึกเป็นส่วนหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยในภาคใต้ สภาพป่าเป็นป่าดิบชื้น อีกทั้งยังมีพืชพรรณหายาก เช่น เห็ดแชมเปญ สีสันสดใส และเห็ดชนิดอื่น ๆ อีกด้วย น้ำตกแห่งนี้ถือเป็นจุดมุ่งหมายของเหล่านักเดินป่าที่อยากจะเข้ามาชื่นชมความงามตามธรรมชาติ และสัมผัสละอองน้ำที่เปรียบเสมือนดังชื่อของน้ำตก เพราะตั้งอยู่ในป่าลึก ระยะทางไป-กลับรวมแล้วประมาณ 16 กิโลเมตร ต้องเดินผ่านลำธาร น้ำตก ขึ้นเขา ลงเขา บางครั้งต้องเดินลุยน้ำลึกถึงเอวเลยทีเดียว
ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล เส้นทางตะลุยน้ำตกสายรุ้งละอองดาว จึงเป็นแบบค้างคืนเท่านั้น สายลุยคนไหนที่อยากจะไปพิชิตน้ำตกสวยที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก ไปสัมผัสความงดงามและความยิ่งใหญ่ของสายน้ำที่เขาว่ากันว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในภาคใต้ ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ก่อนออกเดินทางทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา โทรศัพท์ 0-7787-4210
15. หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา จังหวัดสงขลา
อีกหนึ่งที่เที่ยวในเดือนสิงหาคม ที่เหมาะสำหรับการพาสมาชิกในครอบครัวไปเที่ยวกัน นั่นคือ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า หอดูดาว สงขลา ไปเปิดโลกดาราศาสตร์ ณ หอดูดาวที่ยืนหนึ่งเรื่องความทันสมัยและความงดงามสุดอลังการ โดยหอดูดาวแห่งนี้ถือเป็นหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของประเทศไทย อยู่ในตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา นับเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์ที่สำคัญของภาคใต้เลยก็ว่าได้ สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนวิชาการดาราศาสตร์แก่ชุมชน งานวิจัยสำหรับนักเรียน นักศึกษา สถาบันการศึกษาในภาคใต้ และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์มุสลิมอย่างครบวงจรอีกด้วย
ภาพจาก : pracha hariraksapita / Shutterstock.com
นอกจากนี้ที่นี่ยังตั้งอยู่บนเขาที่สามารถมองเห็นวิวรอบตัวเมืองสงขลาและทะเลทั้งสองด้านได้อีกด้วย ทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่าหอดูดาวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา โทรศัพท์ 09-5145-0411
สิงหาคม เป็นอีกหนึ่งเดือนที่หลายคนนิยมออกไปเที่ยวเป็นครอบครัว เพราะมีช่วงวันหยุดยาวอย่างวันแม่แห่งชาติ สำหรับใครที่วางแผนท่องเที่ยวอยู่แต่ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ลองดูที่เที่ยวเดือนสิงหาคมที่เรานำมาฝากกันเป็นไอเดียในการเดินทางได้ รับรองว่าได้พักผ่อนหย่อนใจกับคนที่รักและชาร์จพลังอย่างเต็มที่ก่อนกลับมาทำงานอย่างแน่นอน
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวหน้าฝน สถานที่ท่องเที่ยว อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก :
เฟซบุ๊ก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานนครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว), เฟซบุ๊ก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระบุรี, สำนักอุทยานแห่งชาติ, สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานอุดรธานี-TatUdon, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติขุนขาน Khun Khan National Park, เฟซบุ๊ก Sky Walk เหนือสุดในสยาม วัดพระธาตุดอยเวา, เฟซบุ๊ก โครงการเกษตรอินทรีย์และครัวสุโข สนามบินสุโขทัย Organic Agriculture Project, เฟซบุ๊ก วนอุทยานเขาตาม่องล่าย khao ta mong lai จ.ประจวบคีรีขันธ์, เฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนตำบล แม่กาษา, เฟซบุ๊ก Hellfire Pass Interpretive Centre, เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา, เฟซบุ๊ก หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา