ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอิตาลียอดนิยม เพลิดเพลินกับการชมวิวทะเลสาบสวย ๆ และกิจกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย
เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในอิตาลีสวย ๆ ขึ้นมาสักที่ หนึ่งในนั้นต้องมี ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ติดโผมาด้วยแน่ ๆ เพราะเป็นทะเลสาบอันโด่งดัง ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์และวิวภูเขาอันงดงาม รวมถึงบ้านพักอาศัยริมทะเลสาบอันเก่าแก่ หากแต่ทะเลสาบโคโม่ยังมีเสน่ห์ให้ชวนหลงใหลมากกว่านั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้น เผื่อเก็บไว้เป็นโปรแกรมเที่ยวยุโรปทริปหน้ากัน
ทะเลสาบโคโม่ Lake Como
ทะเลสาบโคโม่ Lake Como อยู่ที่ไหน
ทะเลสาบโคโม่ ตั้งอยู่ในจังหวัดโคโม่ ในแคว้นลอมบาร์เดีย เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ใกล้กับชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลี และยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลีอีกด้วย
ประวัติทะเลสาบโคโม่
หากย้อนกลับไปสมัยอดีตนั้น ทะเลสาบโคโม่เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงต่าง ๆ มาตั้งแต่สมัยโรมัน ซึ่งเราจะสังเกตเห็นว่ารอบ ๆ ทะเลสาบโคโม่ในปัจจุบันยังคงปรากฏวิลล่าและพระราชวังมากมาย สถาปัตยกรรมของตัวตึกของอาคารเหล่านี้ บวกกับสายลมและแสงแดด ก็ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกมากขึ้น และเมื่อมองในมุมสูงหรือแผนที่จะพบว่าลักษณะของทะเลสาบจะเป็นรูปตัว Y คว่ำ จนที่นี่ต้องทำแม็กเน็ตเป็นรูปอักษร Y ไว้ขายให้นักท่องเที่ยวซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก
ทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบที่ชวนให้ตกหลุมรัก
เพราะเสน่ห์ความสวยงามของทะเลสาบโคโม่แบบนี้นี่เอง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว รวมถึงบรรดาคู่รักที่มาเก็บเกี่ยวโมเมนต์ความรู้สึกนี้ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับดาราคู่รัก หมากคิม ที่เหินฟ้าไปวิวาห์หวานกันที่ Villa Bonomi ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่อยู่ฝั่ง Lecco ของทะเลสาบโคโม่ เผยให้เห็นภาพของชายหาดทะเลสาบและวิวภูเขาที่สวยงาม บอกเลยว่าโรแมนติกคะแนนเต็มร้อย
กิจกรรมท่องเที่ยวที่ทะเลสาบโคโม่
ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบแล้ว เห็นทีว่ากิจกรรมท่องเที่ยวที่ทะเลสาบโคโม่น่าจะหนีไม่พ้นเกี่ยวกับกิจกรรมทางน้ำ อย่างการล่องเรือชมเมือง นั่งเรือใบ เรือยอชต์ และเรือคายัก (ซึ่งราคาก็แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของเรือ) โดยส่วนใหญ่นิยมเส้นทางล่องเรือ 3 เส้นทาง คือ เส้นทางเมืองโคโม่-เมืองโคลิโค่, เส้นทางเมืองโคโม่-เมืองเบลลาจิโอ-เมืองเวเรนา-เมืองเมนากจิโอ และเส้นทางเมืองเลกโก-เมืองเบลลาจิโอ
ซึ่งแต่ละเส้นทางล่องเรือ นักท่องเที่ยวก็จะได้สัมผัสเสน่ห์ของบ้านเมืองและความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนธรรมชาติสวย ๆ และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ ให้ได้ลองทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปีนเขาหรือเล่นสกี เรียกได้ว่าเหมาะกับสายท่องเที่ยวทุกรูปแบบ
ที่เที่ยวทะเลสาบโคโม่
หลายคนอาจจะคิดว่ามาเที่ยวทะเลสาบโคโม่ อาจไม่มีกิจกรรมหรือที่เที่ยวให้เช็กอินมากมาย โดยหลัก ๆ ประกอบด้วย เมนากจิโอ (ท่าเรือหลักวิวสวย), เวเรนา (เกาะสวยที่มีมุมถ่ายรูปเยอะ), เบลลาจิโอ (เกาะที่มีความหรูหรา) และ โคโม่ ซิตี้ (ย่านช้อปปิ้งสุดฮิต) โดยในทริป 1 วัน สามารถเที่ยวเก็บได้ทั้ง 3 เกาะ เพราะแต่ละเกาะอยู่ไม่ไกลกันมาก อาจจะนั่งเรือข้ามฝั่ง 10-15 นาที เริ่มต้นจากเมนากจิโอ ไปเวเรนา ต่อด้วยเบลลาจิโอ วนกลับมาที่เมนากจิโอ เป็นอันจบทริปชิล ๆ
แต่จริง ๆ แล้วรอบ ๆ ทะเลสาบโคโม่ ยังมีหมู่บ้านเล็ก ๆ น่ารักซ่อนตัวอีกมากมาย ไม่ได้มีเพียงแค่หมู่บ้านที่โด่งดังอยู่ในโพยนักท่องเที่ยวเท่านั้น ลองไปซอกแซกกันดู เผลอ ๆ อาจจะเจอกับจุดเช็กอินที่ถูกใจก็เป็นได้
เที่ยวทะเลสาบโคโม่ช่วงไหนดี
ถ้าจะให้แนะนำช่วงของการมาเที่ยวทะเลสาบโคโม่ ควรเป็นช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศกำลังอบอุ่น สบาย ๆ แต่ไม่ว่าจะมาช่วงเวลาไหน ทะเลสาบโคโม่ก็มีเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าได้รับความนิยมมากที่สุดก็ต้องเป็นช่วงซัมเมอร์ เรียกได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวเลยทีเดียว
ที่พักทะเลสาบโคโม่
ที่พักทะเลสาบโคโม่ ด้วยเพราะรถไฟผ่านเฉพาะเมืองเวเรนา และโคโม่ แนะนำว่าควรพักที่เวเรนามากกว่า เพราะรถไฟที่ผ่านเมืองนี้จะวิ่งตรงเข้าไปสถานี Milano Centrale ขณะที่รถไฟจากเมืองโคโม่ จะเข้ามิลานอีกสถานีหนึ่ง ซึ่งจะต้องนั่งเมโทรไป Milano Centrale อีกต่อหนึ่ง ทำให้ยุ่งยากกว่าเดิม ประกอบกับ เวเรนา เป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ดังนั้นจะเลือกพักมุมไหนของเมืองก็ทำได้อย่างสะดวก และไม่ได้ไกลสถานีรถไฟมากนัก
การเดินทางไปทะเลสาบโคโม่
การเดินทางไปทะเลสาบโคโม่ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปจากมิลาน ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เห็นจะเป็นการนั่งรถไฟจากสถานี Milano Centrale ไปลงที่สถานี Como San Giovanni ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคโม่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่การเดินทางไปแต่ละเมืองรอบ ๆ ทะเลสาบโคโม่ แนะนำให้นั่งเรือบริการข้ามฟากจะมีความสะดวกและรวดเร็วมากกว่า หรือถ้ามีเวลาก็สามารถนั่งรถเมล์ โดยที่ Como San Giovanni จะมีป้ายรถ สายรถเมล์ และเวลา บอกไว้ชัดเจน เรียกว่าเที่ยวได้ไม่ยาก แค่ต้องบริหารเวลาดี ๆ เท่านั้นเอง
ใครที่มาเที่ยวอิตาลี แล้วอยากแวะมาเที่ยวที่ทะเลสาบโคโม่ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ๆ สมกับเป็น Dream Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกจริง ๆ ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
แนะนำ ที่เที่ยวอิตาลี ที่เที่ยวต่างประเทศ อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Intagram villabonomi, Intagram Kimberley Anne Woltemas และ lakecomotourism.it