รวมมิตร...อิตาลี ท่องเที่ยวเต็มอิ่มทุกเมืองสำคัญ


อิตาลี

          อิตาลี ประเทศที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันว่าสักวันต้องไปสัมผัสให้ได้ ด้วยประเทศแห่งนี้เป็นอารยธรรมโบราณที่งดงาม มีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามเกินกว่าจะบรรยาย รวมทั้งวัฒนธรรมประเพณีและผู้คนที่น่ารัก จึงทำให้คนทั่วโลกหลงรักประเทศนี้ได้ไม่ยากนัก คุณออร์-ฟิ-อุส_orpheus สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้โอกาสไปเยือนประเทศอิตาลีถึง 11 วัน 10 คืน จึงได้สัมผัสกับประเทศแห่งนี้อย่างเต็มอิ่ม โดยความงดงามของเมืองต่าง ๆ ที่สำคัญของอิตาลีได้ถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองการถ่ายภาพของเขา ออกมาเป็นภาพถ่ายที่สวยงามบาดใจอย่างที่สุด ซึ่งถ้าหากใครได้เห็นภาพชุดนี้ก็คงจะมอบดวงใจให้กับอิตาลีไปเลยอย่างแน่นอน อิตาลีจะทำคุณหัวใจละลายได้มากแค่ไหน ไปติดตามเรื่องราวนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ



          สวัสดีครับ ไม่ได้มารีวิวนานเลย ล่าสุดก็ทริปปารีส-เบลเยียมตั้งแต่ปีที่แล้ว pantip.com/topic/32530636 ทริปอิตาลีนี้ผมเดินทางช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาครับ ใช้เวลา 11 วัน 10 คืน (นอนที่อิตาลี 8 คืน นอนโรงแรมฟรีที่โดฮา 1 คืน และขากลับนอนบนเครื่อง 1 คืน) มาเริ่มกันเลยละกันครับ

อิตาลี

          Day 1 (BKK-SGN-DOH)

          หลังจากปีที่แล้วติดใจไปเที่ยวปารีสและเบลเยียมแบบประหยัด ด้วยการจองแบบ Multicity ด้วยวิธีบินแบบอ้อม ๆ คราวนี้ก็ยังคงจองแบบเดิม แต่เปลี่ยนมาเป็นสายการบินหมายเลข 1 ของโลกอย่าง Qatar Airways กันบ้าง โดยต้องไปเริ่มบินกันที่โฮจิมินห์ครับ เนื่องจากขาไปมีการเปลี่ยนแปลงเวลาไฟลท์จาก Doha-Milan ครับ โดนเลื่อนไป 9 ชั่วโมง ผมเลยอีเมลไปคุยกับสำนักงานของ Qatar ที่โฮจิมินห์ ซึ่งตอบมาเร็วมาก (ถ้าติดต่อเมืองไทยเค้าจะไม่ช่วยนะครับ เค้าให้เราติดต่อเองกับต้นทางครับ) เลยได้รับข้อเสนอเป็นที่พักและรถรับ-ส่งสนามบิน รวมทั้งฟรีวีซ่าที่โดฮา และขอเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมโดยเปลี่ยนจากตอนแรกต้องลงที่มิลานเป็นขอเปลี่ยนรูทไปลงที่โรมเลย จะได้ประหยัดเวลาและค่าเดินทางไปในตัว ข้อดีที่ได้ STPC (Stop Over Paid by Carrier) ที่ได้นอนพักที่โดฮาก็ทำให้เราไม่รู้สึกอ่อนเพลียเลย แล้วก็ประหยัดค่ารถไฟครับ เพราะผมจองโปรฯ ไปและกลับที่มิลานครับ ถือว่าคุ้มที่โดนเปลี่ยนเวลา ถ้ามีครั้งหน้าก็ขอโดนอีก ฮ่า ๆๆๆ

          ขั้นตอนการ STPC ก็ไม่ยากครับ เอาเอกสารกับ Passport ไปยื่นที่เคาน์เตอร์ จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกอยู่ ยื่นเสร็จก็ไปนั่งรอสักพักเจ้าหน้าที่จะให้เอกสารที่จำเป็นมา เราก็เอาเอกสารนี้ไปยื่นเพื่อขอวีซ่ากับ ตม. เสร็จแล้วก็ออกมา จะมีรถรับเราไปส่งที่โรงแรมครับ ตอน Check in ที่โรงแรมก็จะมีการแจ้งเวลารถที่จะรับเรากลับสนามบินอีกที ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ

          Day 2 (DOH-ROME)

          เช้าวันต่อมาเราออกจากโดฮาแต่เช้าครับ มาถึงโรมช่วงบ่ายแก่ ๆ เข้าเมืองที่สถานี Rome Termini ผมพักใกล้ ๆ สถานีเลย เดินไปประมาณ 700 เมตร พักกับ Airbnb เป็นห้องพักกึ่ง ๆ Hostel ราคาสูงนิดหนึ่งเพราะใกล้สถานี ห้องเล็กมาก ๆ ผมเดินทาง 5 คน แทบไม่มีที่ให้เดินเลย (ตอนจอง จองมา 6 คน ด้วยซ้ำ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งยกเลิก ถ้ามา 6 คน สงสัยที่ไม่พอแน่ ๆ) ยังงงว่าให้จอง 6 คน ได้ยังไง แต่ดูในเว็บเห็นวิวสวยดีเลยลองจองมา สรุปที่พักที่โรมนี่ไม่ค่อยประทับใจเลยครับ ผ่านแค่วิวที่หน้าต่าง แถมมีปัญหากับเจ้าของด้วยเล็กน้อย แต่ก็ช่างมันครับ เก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวดีกว่า

          ออกจากที่พักตรง Piazza Santa Maria Maggiore เดินเที่ยวไปจนถึงริมแม่น้ำไทเบอร์ครับ

อิตาลี

อิตาลี

          จากนั้นก็ค่อย ๆ เดินเที่ยวย้อนกลับมาผ่านโคลอสเซียม แต่วันนี้คนเยอะมากครับ เพราะยังอยู่ในเทศกาลอีสเตอร์ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมาก วันแรกในอิตาลีเราแค่ออกมาสำรวจเส้นทางรอบ ๆ ก่อนครับ เรายังมีเวลาที่นี่อีกหลายวัน ^__^

          Day 3 (ROME)

          เช้าวันนี้ยังมึน ๆ กับเวลาบวกกับเจออากาศหนาวเลยทำให้ขี้เกียจ ลุกจากที่นอนเลยไปหยิบกล้องมาถ่ายวิวที่ริมหน้าต่างตอนช่วงเช้า ที่พักของผมอยู่หน้า Piazza Santa Maria Maggiore ครับ ภาพนี้คือวิวที่หน้าต่างห้องพักที่ผมพูดถึงครับ

อิตาลี

          อากาศค่อนข้างหนาวครับ ช่วงที่ไปถึงใหม่ ๆ ประมาณ 8-10 องศา ถ่ายเสร็จแล้วนอนยาวกว่าจะออกจากที่พักก็สิบโมงกว่าแล้ว ที่พักที่โรมดีอยู่อย่างหนึ่งคือเค้าให้คูปองอาหารเช้ามา เอาไปแลกกาแฟกับพวกครัวซองต์ที่ร้านที่อยู่ตึกถัดไปได้ฟรี ทำให้ประหยัดมื้อเช้าไปได้นิดหน่อย แต่ก็กลับขึ้นมาต้มมาม่ากินต่อที่โฮสเทลอยู่ดี 555 สำหรับที่อิตาลีนั้นจะไม่มีร้านกาแฟยอดนิยมอย่าง Starbucks นะครับ แต่จะมีพวกแบรนด์พื้นเมืองอย่าง illy, Segafredo, Lavazza ราคาสบาย ๆ กินได้ทั้งวัน ราคา 1-3 ยูโร เท่านั้นเอง ถูกมาก ๆ ครับ

          ออกจากที่พักเราไปเริ่มกันที่ Roman Forum กันก่อนเพราะคิวไม่เยอะ และตั๋วเดียวกันนี้เราใช้เข้าโคลอสเซียมได้ด้วย เพราะคิวซื้อตั๋วที่โคลอสเซียมจะยาวกว่ามากครับ ใช้เวลาก่อนเที่ยงเดินเล่นทั้งสองที่นี้ก่อนครับ

          Roman Forum

อิตาลี

อิตาลี

          ภายใน Colosseum

อิตาลี

          ส่วนช่วงบ่ายเราเดินยาวผ่าน Spanish Steps ซึ่งนักท่องเที่ยวออกมานั่งอาบแดดกันจนแทบไม่เห็นบันไดเลย กว่าจะผ่านออกมาได้นึกว่ามางานไหลพัทยา ฮ่า ๆๆๆๆ

อิตาลี

          จากนั้นก็เดินต่อไปจนถึง Piazza Del Popolo ลัดเลาะผ่านไป Pantheon ที่อยู่ไม่ไกลกับ Piazza Navona สามารถเดินถึงกันได้ครับ

          Piazza Del Popolo

อิตาลี

          Pantheon

อิตาลี

          Piazza Navona

อิตาลี

          แถวนี้จะมีร้านกาแฟชื่อ Sant\'Eustachio Il Caffè ร้านกาแฟร้านดังของโรมเลย เมนูเด็ดของที่นี่คือกาแฟเอสเพรสโซ่ปั่นราดด้วยวิปครีมเรียกว่า Cafe Granita ครับ ใครผ่านไปแถวนั้นไปโดนกันได้ ผมเองซื้อกาแฟแคปซูลของที่นี่กลับมาลองที่เมืองไทยด้วย เด็ดมากกกกกก เสียดายที่ซื้อกลับมาน้อยไปหน่อยครับ

อิตาลี

          มาทริปอิตาลีนี้ทำการบ้านเรื่องอาหารการกินมาเยอะมากครับ ทั้งร้านอาหาร ร้านเจลาโต้ (ไอศกรีมแบบอิตาลี) มีแพลน A, B, C เกือบทุกวัน โดยดูจากเว็บ Tripadvisor เป็นเว็บที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือครับ สำหรับเว็บนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาให้คะแนนรีวิวด้วยตัวเองครับ มีทั้งที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ

อิตาลี

          ก่อนจะปิดท้ายไปรอถ่ายทไวไลท์แถว ๆ Sant Angelo Castle เพื่อถ่ายภาพนครวาติกันในมุมที่จะมีพระอาทิตย์ตกทางด้านหลัง สำหรับช่วงต้นฤดูร้อนแบบนี้พระอาทิตย์ตกราว ๆ 2 ทุ่ม และมืดสนิทประมาณ 3 ทุ่ม ถือว่ากำลังดี ไม่เหนื่อยมากนักสำหรับการถ่ายภาพครับ ถ้าช่วงกรกฎาคม-สิงหาคมทางโซนยุโรปพระอาทิตย์จะตกใกล้ ๆ 4-5 ทุ่ม กว่าจะถ่ายภาพเสร็จกลับที่พักนี่ก็เที่ยงคืน ตีหนึ่ง จะเหนื่อยสุด ๆ ครับ

          Day 4 (ROME)

          เช้าวันนี้เช็กเวลาพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว ตั้งใจไปถ่ายภาพ Colosseum หลังจากพลาดมาหลายวัน ตื่นมาก็ใกล้ ๆ 6 โมง ล้างหน้าเสร็จรีบสับขาทั้งชุดนอนฝ่าอากาศหนาว ๆ จากที่พักใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ก็ถึง Colosseum ครับได้ถ่ายภาพ Colosseum แบบคนโล่ง ๆ สมใจ

อิตาลี

          ถ่ายเสร็จก็กลับไปนอนยาว ๆ ตื่นมาอีกทีก็ใกล้ ๆ เที่ยง ผมไม่เน้นเข้า Museum ขอแค่เดินชมจากข้างนอกสบาย ๆ วันนี้เราจะไปเที่ยวอีกฝั่งของแม่น้ำไทเบอร์และโซนวาติกัน เริ่มจากไปหาข้าวกลางวันกินโซน Trastevere เป็นโซนที่น่ารักมุมหนึ่งของโรมครับ แล้วก็เดินยาว ๆ ไปจนถึงวาติกันเลย เข้าไปเดินเล่นในโรงพยาบาลใกล้ ๆ วาติกันด้วย เพราะเพื่อนหาห้องน้ำไม่ได้ ฮ่า ๆๆ เดินถ่ายภาพอยู่หน้า St.Peters ไล่ไปจนถึง Castel Sant\' Angelo ครับ

          Trastevere

อิตาลี

          Vatican

อิตาลี

          Castel Sant\' Angelo

อิตาลี

          วนเวียนอยู่แถว ๆ นี้จนเย็นเพื่อรอถ่ายภาพวาติกันอีกมุมที่ต่างจากเมื่อวานครับ วันนี้กลับที่พักเร็วหน่อยเพราะพรุ่งนี้เช้าเราจะนั่งรถไฟจาก Rome ไป La Spezia หรือหมู่บ้านชาวประมง Cinque Terre นั่นเองครับ

อิตาลี

          Day 5 (La Spezia-Cinque Terre)

          วันนี้ผมนั่งรถไฟออกจากโรมตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อไปเมือง La Spezia เป็นคล้าย ๆ หัวเมืองเพื่อจะเข้าไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมง Cinque Terre ครับ วันนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว ประมาณ 25 องศา ต่างจากวันที่อยู่โรมมาก ๆ ช่วงนั้นประมาณ 6 องศา

          บนรถไฟมีเรื่องให้ระทึกนิดหน่อย เพราะผมซื้อตั๋วจากเว็บ Trenitalia เค้าจะส่ง e-ticket มาทางอีเมลพร้อม code ลับ ซึ่งต้องใช้ code นี้ verify กับเจ้าหน้าที่ แต่ด้วยความคุ้นเคยไม่ได้อ่านรายละเอียด นึกว่าใช้แค่ e-ticket เลยไม่ได้จด code มาครับ แถมคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องครับ เพราะเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่สุดท้ายก็สื่อสารกันจนเข้าใจ เลยเอามือถือเพื่อนที่ซื้อซิมมาเข้าไปเช็ก code ในอีเมล ใครซื้อตั๋วออนไลน์ก็ระวังเรื่องนี้กันด้วยนะครับ


          มาถึง La Spezia แต่เช้าประมาณ 9 โมงครับ ผมพักที่ Affittacamere Casa Dane\' เป็นโรงแรมที่อยู่บนสถานี La Spezia เลย ที่พักเล็ก ๆ น่ารักและเดินทางสะดวกมาก ๆ หลังจากเก็บของแล้วก็ซื้อตั๋ววันเพื่อเข้าไปเที่ยวในหมู่บ้าน Cinque Terre ตั๋ววันนี้สามารถใช้ขึ้นรถไฟระหว่างหมู่บ้านได้ไม่จำกัดครับก็สะดวกดี

          เราเริ่มจาก Riomaggiore > Monterosso > Vernazza > Manarola

          สำหรับคนมีเวลาน้อยแนะนำให้ไปแค่ไฮไลท์คือ

          - Riomaggiore
          - Vernazza
          - Manarola

          ส่วนเมือง Monterosso จะเป็นชายหาดยาว ๆ ทั่ว ๆ ไปครับ จะเป็นนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดด ไม่มีอะไรให้ดูสักเท่าไร ผมก็แวะไปซื้อคารามารีกินครับ ลืมบอกไปที่อิตาลีแถว ๆ ชายหาดแบบนี้พวกของทะเลชุบแป้งทอดฮิตมากครับ โดยเฉพาะปลาหมึกชุบแป้งทอดหรือคารามารี แนะนำว่าให้ไปลองโดนกันได้ครับ

          Riomaggiore

อิตาลี

          Vernazza

อิตาลี

อิตาลี

          ปิดท้ายของที่นี่โดยถ่ายทไวไลท์ที่ Manarola ครับ

อิตาลี

อิตาลี

          Day 6 (Pisa-Florence)

          วันนี้ยังคงต้องออกแต่เช้าเหมือนเดิมครับ โดยเราจะไปกันที่ Florence แต่จะแวะเที่ยวที่ Pisa ก่อนครับ จาก La Spezia ผมนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Pisa Centrale ฝากกระเป๋า หาข้าวเช้ากินในสถานีนี้เลย จากนั้นก็เดินไปหอเอนครับ เมืองนี้เป็นเมืองไม่ใหญ่มาก จากสถานีไปหอเอนไม่ไกลครับ เดินสบาย ๆ ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ

          เมือง Pisa

อิตาลี

          หอเอน

อิตาลี

          ถ่ายภาพกับหอเอนเสร็จก็กลับมาสถานีรับกระเป๋าและนั่งรถไฟไปยัง Florence ครับ Florence เป็นเมืองที่น่ารักมากครับ ขนาดไม่ใหญ่ เดินเที่ยวได้สบาย ๆ ที่พักผมอยู่ข้าง ๆ ตลาด Mercato Centrale เลย ใครมา Florence ขอบอกว่า "ต้องมา" เลยครับ ชั้นล่างจะเป็นตลาดสดทั่ว ๆ ไป แต่ที่ชั้นบนจะมีร้านอาหารเยอะมากครับ ราคาก็ไม่แพงจนเกินไป ขายกันตั้งแต่สาย ๆ เที่ยง ๆ ไปจนถึงดึก ๆ เลยครับ มีทั้งอาหาร ขนม กาแฟ เบียร์ มีทุกอย่างครับ อร่อยมาก ๆ ด้วย จริง ๆ วันนี้ตั้งใจจะขึ้นหอระฆังของ Duomo แต่มาถึงเย็นแล้วครับ เลยกะว่าจะไปขึ้นพรุ่งนี้เช้าดีกว่าครับ แต่สุดท้ายขี้เกียจเดินเลยไม่ได้ขึ้นครับ 555

          Duomo Florence

อิตาลี

          เย็นของวันนั้นผมก็เลยขึ้นไปถ่ายภาพวิวของเมือง Florence แทนที่บนยอดเขา Piazzale Michelangelo ครับ ทางไม่ไกลมากครับ ขึ้นเนินเขาพอเหงื่อซึม ๆ ก็ถึงแล้วครับ วิวและบรรยากาศดีใช้ได้เลย ช่วงหน้าร้อนจะมีโชว์การแสดงต่าง ๆ ด้วยครับ เป็นอันจบวันที่ 6 ที่อิตาลี วันนี้เริ่มมีอาการเหนื่อยสะสมจากการตื่นเช้ามาหลายวันครับ

อิตาลี

อิตาลี

          Day7 (Florence-Siena)

          วันนี้แพลนไว้หลวม ๆ ครับ เพราะเพื่อน ๆ ก็เริ่มอ่อนเพลียที่ต้องตื่นเช้าต่อเนื่องกันมาหลายวัน แพลนคร่าว ๆ คือวันนี้จะนั่งรถไฟไป Siena ครับ ตื่นตอนไหนก็ไปตอนนั้น ส่วนผมเช้าวันนี้ยังคงต้องทำภารกิจตื่นมาถ่ายภาพตอนเช้าเหมือนเดิม ไหน ๆ ก็มาแล้วไม่อยากเสียโอกาสครับ ที่พักทำเลค่อนข้างดี เดินมา Duomo Florence ได้เลย 10 นาที สบาย ๆ ครับ ถ่ายภาพเสร็จก็กลับไปนอนต่อ

          Duomo Florence

อิตาลี

          Piazza della Signoria

อิตาลี

          กว่าจะรู้สึกตัวอีกที 10 โมงกว่าแล้ว เลยรีบไปซื้อตั๋วรถไฟ ได้รอบรถไป Siena ตอน 10.30 น. ใช้เวลานั่งรถไฟจาก Florence ไป Siena ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งครับ Siena ก็เป็นอีกเมืองที่สวยมาก ๆ ครับ เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา

อิตาลี

          ตึกอาคารในเมืองนี้เก่าแก่และสวยงามมาก ๆ ครับ

อิตาลี

          Piazza Del Campo

อิตาลี

          Duomo Siena

อิตาลี

อิตาลี

          ใช้เวลาอยู่ที่ Siena ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก็นั่งรถไฟกลับครับ พอมาถึง Florence ผมก็แยกกับเพื่อนไปถ่ายภาพตรงสะพาน Ponte Vecchio ทิ้งทวนกับเมืองนี้ซะหน่อยครับ สรุปมาถึง Florence แต่ก็ไม่ได้ไปต่อคิวดูรูปปั้นเดวิดนะครับ เสียดายตังค์แถมขี้เกียจต่อคิวนาน ๆ อีก มาดูของปลอมตรงจัตุรัสใจกลางเมืองก็พอแล้วครับ ฮ่า ๆๆๆๆ

          Ponte Vecchio

อิตาลี

อิตาลี

          Day 8 (Venice)

          จาก Florence เรานั่งรถไฟต่อมาที่ Venice ครับ เมืองในฝันของใครหลาย ๆ คน ใช้เวลานั่งรถไฟมาไม่นานครับ จาก Florence ก็ประมาณ 2-3 ชั่วโมง มาถึง Venice เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็สวยแปลกตาดีครับ ทุกอย่างเดินทางด้วยเรือ มีคลองเส้นหลัก ๆ ไว้ใช้เดินทาง แต่ผมเดินครับ เห็นค่าเรือแล้วยอมเดินดีกว่า 555

อิตาลี

          ผมพักข้าง ๆ สถานี Venezia S. Lucia เลยครับ เดินออกมาทางขวาของสถานีไม่ไกล แค่ 700-800 เมตรเท่านั้น ใกล้ ๆ กับท่ารถของ Venice ยิ่งเราเข้าไปใจกลางเมือง ที่พักก็ยิ่งแพงขึ้นเรื่อย ๆ ครับ หลาย ๆ คนแนะนำให้พักนอกเมืองด้วยซ้ำ ค่าอาหารเครื่องดื่มที่นี่ก็แพงกว่าเมืองอื่นอย่างเห็นได้ชัดครับ

อิตาลี

          เอาของไปเก็บแล้วก็ได้เวลาเดินชมเมือง บางคนกลัวหลงครับ ผมว่าเดินเที่ยวใน Venice ไม่น่ากลัวเท่าไร เพราะเดินไปตามตรอกซอกซอยจะมีป้ายบอกจุดสำคัญเป็นระยะ ๆ แค่เรารู้ว่าเราจะไปจุดไหนจับทิศให้ถูกก็เดินได้สบาย ๆ แล้วครับ หรืออาจจะใช้พวก Offline Map ก็ไม่ยากครับ ใช้เวลาเดินจนไปสุดเกาะอีกฟากแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง

          Bridge of Sighs

อิตาลี

อิตาลี

          ทานข้าวกลางวันเสร็จไม่รู้จะทำอะไรครับ เพราะอากาศร้อนมาก ๆ ก็เลยกลับมานอนกลางวันที่ห้องพัก เรามาถึงจุดที่ไปเที่ยว Venice แล้วเอาเวลามานอนกลางวันได้ยังไงกันนะ 555 อาจจะเพราะเหนื่อยด้วยครับ ตื่นมาช่วงเย็น ๆ ผมกลับมาถ่ายภาพที่สะพาน Ponte Accademia อีกครั้ง ถ่ายภาพเสร็จก็เดินเล่นช่วงกลางคืนก่อนจะกลับเข้าที่พักเป็นอันจบ 1 วันใน Venice แบบสั้น ๆ ครับผม

อิตาลี

          เพิ่มภาพ Venice อีกหน่อยครับ ^___^

อิตาลี

อิตาลี

อิตาลี

อิตาลี

อิตาลี

          Day 9 (Varenna-Bellagio-Milan)

          ผมออกจากเวนิสรอบเช้าสุดเหมือนเดิมครับ รอบประมาณ 06.30 น. แอบแวะถ่ายภาพหน้าสถานีที่ Venice ก่อน 1 ใบ มาถึงสถานี Milan Centrale ประมาณ 9 โมงเช้า ไปฝากกระเป๋าในสถานี ค่าฝากกระเป๋าราคาแพงใช้ได้เลยครับ ก่อนจะหากาแฟและอาหารเช้ารองท้องก่อนครับ

          หน้าสถานีที่ Venice ครับ

อิตาลี

          เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟต่อไปยังเมือง Varenna ซึ่งอยู่เกือบจะสุดชายแดนที่ติดต่อไปยังสวิตเซอร์แลนด์ครับ นั่งรถไฟโลคอลหวานเย็น ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงสถานี Varenna-Esino ครับ เป็นสถานีเล็ก ๆ ไม่มีที่ขายตั๋วนะครับ ใครมาถึงแนะนำให้ซื้อขากลับมาเลย หรือจะมีตึกเล็ก ๆ ขายตั๋วอยู่ก่อนถึงท่าเรือครับ เมืองนี้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Lake Como บรรยากาศดีครับ แต่มันก็เล็กจริง ๆ ถ้ามีเวลาจะไปต่อเมืองอื่น ๆ ในแถบนี้ก็ได้ แต่ผมแค่นั่งเรือข้ามฝั่งไปอีกเมืองคือ Bellagio แค่นั้นครับ เดินเล่นชมเมืองสักครู่ก็กลับเข้าเมืองมิลานครับ

          Varenna

อิตาลี

          Bellagio

อิตาลี

          วันนี้ผมพักในใจกลางเมืองมิลานเลย อยู่ติดถนนเส้นช้อปปิ้งข้างหน้า Duomo ซึ่งจองมาจาก airbnb ครับ เป็นอพาร์ทเม้นท์ห้องใหญ่ราคาไม่แพงครับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปช้อปปิ้งครับ ส่วนผมก็แยกไปซื้อกาแฟ Nespresso ตรงห้างข้าง ๆ Duomo ครับ ปิดท้ายวันด้วยไปถ่ายรูปที่หน้าปราสาท Sforza ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน World Expo ปี 2016 ครับ แต่ตอนที่ผมไปงานยังไม่เริ่มก็เลยถ่ายภาพอยู่แค่ด้านนอกครับ

          Expo Gate

อิตาลี

          Sforza Castle

อิตาลี

          Day 10 (Milan)

          วันสุดท้ายของการเดินทาง

          เช้าวันนี้ผมออกไปถ่ายภาพ Duomo Milan ในตอนเช้าครับ อยากได้ภาพ Duomo แบบไร้คน ส่วนเพื่อน ๆ หลังจากที่เมื่อวานแยกย้ายกันช้อปปิ้งในช่วงค่ำแล้วยังไม่สะใจ เพราะร้านค้าที่นี่ปิดเร็ว ก็เลยตั้งใจไปรอซื้อของใหม่อีกรอบก่อนจะไปขึ้นเครื่องกลับในตอนบ่ายครับ เรียกว่าเดินไปรอร้านเปิดกันเลยทีเดียว เสื้อผ้าแบรนด์ยุโรปที่นี่ราคาไม่แพงครับ รวมถึงพวกแว่นตาต่าง ๆ ร้านแว่นนี่เยอะมาก ๆ ครับ เมืองมิลานก็ดูสะอาดและเป็นระเบียบกว่าที่โรมมากครับ

          ช้อปปิ้งเก็บของกันเสร็จก็ได้เวลาเดินทางกลับเมืองไทยแล้วครับ เป็นทริปที่เหนื่อย (เพราะเดินทางเยอะ) ทุกวัน แต่ก็ได้ประสบการณ์มากมายครับ ทั้งมีปัญหาเรื่องที่พัก ตั๋วรถไฟ เจอคนเมาเข้ามากวนตอนถ่ายรูปตอนตี 5 เยอะแยะมากมายครับ 555


          ขากลับตอนเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา มีโชคดีอีกอย่างหนึ่งคือผมได้อัพเกรดที่นั่งเป็น Business Class ด้วยครับ ปกติอยู่เมืองไทยการบินไทยผมยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นเลยครับ นั่งแต่ Low cost มาตลอด เรียกว่าปิดทริปด้วยความหรูหราประทับใจสุด ๆ ไปเลยครับ

อิตาลี

          ขอบคุณที่ติดตามกันจนจบนะครับ สามารถพูดคุยหรือสอบถามเรื่องทริปได้ที่นี่ครับ เฟซบุ๊ก TheOrpheusJourney

          ขอให้สนุกกับการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ สวัสดีครับ ^___^

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณออร์-ฟิ-อุส_orpheus สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก TheOrpheusJourney

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รวมมิตร...อิตาลี ท่องเที่ยวเต็มอิ่มทุกเมืองสำคัญ อัปเดตล่าสุด 9 ตุลาคม 2558 เวลา 15:19:53 16,229 อ่าน
TOP
x close