10 ประเทศน่าย้ายไปอยู่ เช็กเลยว่าที่ไหนฮอตฮิต

          รวมประเทศน่าย้ายไปอยู่ จะย้ายถิ่น ย้ายสัญชาติ หรือย้ายที่ทำงาน หนึ่งในประเด็นที่ใครหลายคนให้ความสนใจ ลองดูสิว่ามีประเทศไหนน่าไปบ้าง
          ช่วงนี้ดูเหมือนว่าเรื่องย้ายประเทศจะเป็นเรื่องใกล้ตัว จากที่ก่อนหน้าอาจไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ก็ต้องเกิดอาการเอ๊ะ ! แล้วอยากศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม เลียบ ๆ เคียง ๆ ลองดู 10 อันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2021 โดย U.S. News and World Report ลองดูสิว่ามีประเทศไหนติดอันดับ เผื่อว่าวันไหนฟ้าเปิด โอกาสเป็นใจ อยากวาดประสบการณ์ชีวิตบทใหม่ให้ตัวเอง จะได้ดูไว้เป็นไกด์ไลน์

1. แคนาดา

          ประเทศที่อุดมด้วยธรรมชาติสมบูรณ์ และอากาศเย็นสบาย ด้วยเพราะประเทศมีพื้นที่กว้างใหญ่ จึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ผจญภัยหลากหลาย ไล่เรียงตั้งแต่ Rocky Mountains ทอดยาวไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) แวะ Banff Avenue เมืองเล็ก ๆ แต่มีของที่ระลึกให้เลือกชมมาก Louise Louise ทะเลสาบที่งดงามราวกับหลงเข้าไปดินแดนแห่งเทพนิยาย หรือใครอยากอิ่มเอมกับบรรยากาศของเมืองและผู้คน แนะนำแวนคูเวอร์ (Vancouver) หรือจะเป็นเมืองท่าเก่าแก่อย่างวิกตอเรีย (Victoria) ก็เต็มอิ่มถูกใจไม่แพ้กัน
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติแคนาดา

         การขอวีซ่าถาวร แบ่งแยกผู้ที่ต้องการพำนักอาศัยในแคนาดาเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น

          1. นักลงทุน ต้องมีการนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารในประเทศแคนาดาขั้นต่ำคนละ 4 แสนดอลลาร์แคนาดา ระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และไม่ได้รับดอกเบี้ยใด ๆ เป็นการตอบแทนทั้งสิ้น

          2. นักธุรกิจ ต้องมีการเปิดธุรกิจในแคนาดาขั้นต่ำเป็นเวลา 1 ปี มีพนักงานชาวแคนาดาอยู่ในธุรกิจอย่างต่ำ 1 คน

          3. กลุ่มวิชาชีพ กลุ่มที่ประเทศแคนาดาต้องการทุกปีอยู่แล้ว คือ แพทย์, พยาบาล, วิศวกร ขณะที่กลุ่มวิชาชีพอื่น ๆ เช่น นักกฎหมาย, นักการเงิน, นักบัญชี และด้านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

          4. กลุ่มผู้ลี้ภัย คนกลุ่มนี้ต้องมาจากประเทศที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง

          5. กลุ่มแรงงานต่างชาติชั่วคราว กลุ่มคนที่เข้าไปทำงานใช้แรงงาน เป็นคนต่างชาติและทำได้แค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

          กรณีกลุ่มผู้เข้าเมืองของแคนาดา กลุ่ม 1-4 เมื่อทำ PR Canada เรียบร้อยและอาศัยอยู่ในประเทศเกิน 3 ปี จะมีสิทธิ์ในการขอ Citizen หรือการขอเป็นพลเมืองแคนาดา ขณะที่กลุ่มผู้อพยพกลุ่มที่ 5 ต้องเคยทำงานในประเทศนี้ครบ 2 ปี แล้วค่อยดำเนินเรื่องในการขอทำ PR ให้ครบ 1 ปี เมื่อผ่านแล้วจึงมีสิทธิ์ขอเป็นพลเมืองของประเทศนี้ได้

          ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ laws.justice.gc.ca

2. ญี่ปุ่น

          หนึ่งในประเทศที่โดดเด่นทั้งทางด้านนวัตกรรม สถานที่ท่องเที่ยว และศิลปวัฒนธรรม จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ โดยปกติแล้วการเดินทางมาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว มาทำงาน หรืออะไรก็ตามแต่ ค่อนข้างใช้งบประมาณสูง ด้วยเพราะเป็นประเทศมีที่มีค่าครองชีพค่อนข้างสูง แต่ถึงอย่างนั้นญี่ปุ่นก็ยังเป็นประเทศยอดฮิต นั่นอาจเป็นเพราะเราสามารถสัมผัสได้ถึงการดูแลประชากรและการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวปลาบปลื้มและกลับมาเที่ยวซ้ำแล้วซ้ำอีก
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติญี่ปุ่น

         เงื่อนไขการพำนักอาศัย

         
- ต้องมีที่อยู่ในญี่ปุ่นติดต่อกัน 5 ปีขึ้นไป
         - เป็นนักศึกษา 2 ปี ทำงานมา 3 ปี รวมแล้ว 5 ปี หรือเป็นนักศึกษา 5 ปี ทำงานมา 2 ปี รวมแล้ว 7 ปี
         - คนที่อยู่ญี่ปุ่น 10 ปีขึ้นไป แค่มีประสบการณ์ทำงาน 1 ขึ้นไป

         เงื่อนไขการสมรส 

         คนต่างชาติที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่นจะได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขเรื่องการอยู่อาศัยเล็กน้อย นั่นคือ ชาวต่างชาติที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่น ต้องมีที่อยู่ในญี่ปุ่นต่อเนื่อง 3 ปีขึ้นไป และปัจจุบันยังคงมีที่อยู่ในญี่ปุ่น แต่งงานมาแล้ว 3 ปี และต้องมีที่อยู่ในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง 1 ปีขึ้นไป

         เงื่อนไขเกี่ยวกับพฤติกรรม

         
- มีการจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง ไม่เคยถูกดำเนินคดี สำหรับพนักงานบริษัทคือสภาพการจ่ายภาษีผู้อยู่อาศัย เรื่องภาษีนั้นจำเป็นต้องพิสูจน์เรื่องการจ่ายภาษีของคู่สมรสด้วย ถึงตัวเองจะจ่ายถูกต้อง แต่ถ้าคู่สมรสค้างการจ่ายภาษีก็ไม่ได้ 

         - ผู้บริหารบริษัทหรือเจ้าของกิจการบุคคลธรรมดาจำเป็นต้องจ่ายภาษีบุคคลธรรมดาและภาษีของบริษัทอย่างถูกต้องด้วย

         - ผู้ที่มีใบขับขี่จะมีการตรวจสอบประวัติการทำความผิดตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับการทำผิดกฎจราจร ประวัติการทำความผิดที่นานกว่า 5 ปี โดยพื้นฐานแล้วจะไม่เกี่ยวข้อง ถ้าไม่เกิน 5 ครั้ง ภายใน 5 ปี ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเกิน 6 ครั้ง ในบางกรณีก็จะทำให้ขอโอนสัญชาติได้ยากขึ้น

         - ไม่มีประวัติอาชญากรรมต่าง ๆ 

         - มีการจ่ายเงินประกันบำนาญเข้ากองทุนเงินสวัสดิการบำนาญผ่านบริษัทอย่างน้อยเป็นเวลา 1 ปี 

         - มีอาชีพการงานและรายได้มั่นคง 

         - ต้องอ่าน-เขียนภาษาญี่ปุ่นได้ ไม่ใช่แค่พูดได้ หรือถ้าสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นได้ประมาณระดับ 3

         ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ th.emb-japan.go.jp และ th.emb-japan.go.jp

3. เยอรมนี

          ประเทศอันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภาคพื้นทวีปยุโรป ทั้งยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความงดงามแห่งสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติชวนหลงใหล มากมายด้วยสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เช่น เบอร์ลิน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอดีต, ฮัมบูร์ก เมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ, มิวนิก เมืองหลวงแห่งเบียร์เยอรมัน และแฟรงก์เฟิร์ต ศูนย์กลางการเงินธนาคารของโลก เป็นต้น ซึ่งแต่ละเมืองต่างล้วนมีเสน่ห์น่าค้นหาแตกต่างกันไป ของอย่างนี้อยู่ที่ไลฟ์สไตล์คุณชอบแบบไหนก็จัดไปอย่าให้เสีย
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติเยอรมัน

         - มีวีซ่าถาวร (unbefristetes Aufenthaltsrecht) หรือมีวีซ่าประเภท Blaue Karte ในวันที่จะขอสัญชาติ

         - สอบ Einbürgerungstest ผ่าน

         - อยู่เยอรมนีติดต่อกันเกิน 8 ปี (หรือระยะเวลาอาจจะสั้นลงเหลือ 6-7 ปี ถ้าเรียนจบคอร์ส Integrationskurs)

         - สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐ เช่น เงินตกงาน Hartz IV

         - มีความรู้ภาษาเยอรมันเพียงพอ

         - ไม่ต้องโทษ หรือมีความผิดทางกฎหมาย

         - ยอมรับหลักกฎหมายพื้นฐานแบบประชาธิปไตยเสรีของประเทศเยอรมัน

         - สามารถสละสัญชาติเดิมได้ แต่ข้อนี้ไทยได้รับการยกเว้น ไม่ต้องสละสัญชาติไทย

         ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ bangkok.diplo.de

4. สวิตเซอร์แลนด์

          ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามทางภูมิทัศน์ ภูเขา และทุ่งหญ้า หลายคนยกให้เป็นประเทศในฝัน ที่สักครั้งต้องขอมาสัมผัส แต่ถึงอย่างนั้นสวิตเซอร์แลนด์ก็เป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูง ส่งผลให้ราคาสินค้าเกือบทุกอย่างค่อนข้างแพง หากสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ตามเมืองสำคัญ เช่น ซูริก (Zurich), เบิร์น (Bern), ลูเซิร์น (Lucerne), อินเตอร์ลาเคน (Interlaken), เจนีวา (Geneva), เซอร์แมท (Zermatt), บาเซิล (Basel) และมองเทรอ (Montreux) เป็นต้น แต่ละเมืองล้วนมีเอกลัษณ์และสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์

         1. การขอแบบธรรมดาทั่วไป ของชาวต่างชาติที่ย้ายเข้ามาอยู่หรือทำงานในสวิตเซอร์แลนด์ 

         2. การขอแบบหนุน ได้แก่ คู่สมรสชาวต่างชาติของคนสวิสทั้งหลาย คนต่างชาติในรุ่นที่ 3 (รุ่นหลานของชาวต่างชาติ) 

                  - เป็นภรรยา/สามี ของชาวสวิส
                  - จดทะเบียนสมรสอยู่กินฉันสามี-ภรรยากับชาวสวิสอย่างน้อย 3 ปี
                  - พำนักอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ครบ 5 ปี

                  - คนที่ย้ายมาจากที่ใดที่หนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์ ต้องอยู่ในเมืองที่ทำเรื่องขอสัญชาติอย่างน้อย 1 ปี แต่ถ้าอาศัยอยู่ที่อื่นจะขอสัญชาติ จะมีสิทธิ์ยื่นเรื่องได้ต้องอยู่ด้วยกันมาอย่างน้อย 6 ปี

                  - มีการปรับตัวเข้ากับสังคมสวิส ได้แก่ การสื่อสารในชีวิตประจำวันด้วยภาษาตามถิ่นที่อยู่ได้ (การพูดในระดับ B1 และการเขียนระดับ A2), ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบ ไม่เคยต้องอาญาคดีใด ๆ ไม่มีหนี้ ไม่หนีภาษี, มีส่วนร่วมในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา (งานหรือการฝึกอบรม) และไม่มีภัยคุกคามต่อความมั่นคงภายในหรือภายนอกของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น 

         ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ thaiembassy.ch

5. ออสเตรเลีย

          หนึ่งในประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางทั้งการท่องเที่ยวและการอยู่อาศัยยอดฮิตของคนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 เมืองใหญ่อย่างเมลเบิร์นและซิดนีย์ นอกจากภูมิประเทศที่สวยงามแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนติดใจ นั่นคือ ผู้คนที่เป็นมิตร วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ในประเทศออสเตรเลียจึงมีคุณภาพชีวิต และการดูแลสุขภาพที่ดี รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับประชาชน ผ่านระบบทั้งภาครัฐและเอกชน และกลายเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกเลือกเดินทางมาเยือนที่นี่
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติออสเตรเลีย

         จะต้องพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลียมาแล้วอย่างน้อย 4 ปี ไม่ว่าจะถือวีซ่าอะไรก็ตาม ยกเว้นวีซ่า Bridging E และจะต้องถือ PR มาแล้วอย่างน้อย 12 เดือน ในระยะเวลา 4 ปีนี้จะต้องมีการเดินทางออกนอกประเทศออสเตรเลียไปไม่เกิน 12 เดือน และไม่เกิน 90 วัน ในรอบ 12 เดือนล่าสุดก่อนสมัครขอสัญชาติ เพื่อทำการสอบเป็นพลเมืองออสเตรเลีย โดยจะต้องอ่าน “Australia Citizenship Our Common Bond” ก่อนมาสอบ

         สามารถดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ immi.homeaffairs.gov.au

6. สหรัฐอเมริกา

          ดินแดนที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนสักครั้ง ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้ประเทศนี้เต็มไปด้วยความน่าสนใจของทั้งสถานที่ท่องเที่ยว วิถีชีวิตของผู้คนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ลอสแอลเจลิส ลาสเวกัส ชิคาโก ฮาวาย และอีกมากมาย แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยมา แนะนำว่าให้ลองไปเที่ยวแถบแคลิฟอร์เนียก่อนเป็นออร์เดิร์ฟ เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะ อากาศไม่หนาวจัดหรือร้อนจัดจนเกินไป และสามารถเที่ยวได้หลายเมืองในทริปทริปเดียว
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติสหรัฐอเมริกา

         - เป็นผู้ถือสิทธิในการย้ายถิ่นฐานถาวรอย่างน้อย 5 ปี แต่ถ้าผู้ยื่นขอสิทธิได้สมรสและยังอยู่กินกับคู่สมรสที่เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ข้อกำหนดเวลาจะลดลงเหลือ 3 ปี

         - ผู้ยื่นขอสิทธิการเป็นพลเมืองสหรัฐฯ จะต้องพำนักอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐฯ อย่างน้อย 30 เดือน ภายในระยะเวลา 60 เดือน ก่อนหน้าการยื่นคำร้อง สำหรับผู้ที่มีคู่สมรสเป็นพลเมืองสหรัฐฯ สามารถยื่นคำร้องได้เมื่ออาศัยอยู่ในประเทศอย่างน้อย 18 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน สำหรับผู้ที่รับใช้ในราชการทหารของสหรัฐฯ หรือทำงานให้กับองค์กรรัฐและถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศจะได้รับการยกเว้น

         - ผู้ยื่นขอสิทธิการเป็นพลเมืองสหรัฐฯ จะต้องดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องตามศีลธรรมในระยะ 5 ปี (3 ปีสำหรับผู้สมรสกับพลเมืองสหรัฐฯ )

         - ผู้ยื่นขอสิทธิการเป็นพลเมืองสหรัฐฯ จะต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์

         - ผู้ยื่นขอสิทธิการเป็นพลเมืองสหรัฐฯ จะต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษในระดับที่อ่านออกเขียนได้ ข้อกำหนดนี้จะยกเว้นสำหรับผู้พิการทางสมองและผู้มีคุณสมบัติดังนี้

                  - ผู้มีอายุห้าสิบปี และได้รับสิทธิการย้ายถิ่นฐานถาวรมาแล้ว 20 ปี

                  - ผู้มีอายุ 50 ปี และได้รับสิทธิการย้ายถิ่นฐานถาวรมาแล้ว 50 ปี

         - ผู้ยื่นขอสิทธิการเป็นพลเมืองสหรัฐฯ จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การปกครองของสหรัฐหลัก ๆ และหลักการและกลไกของรัฐบาลสหรัฐฯ

         - ผู้ยื่นขอสิทธิการเป็นพลเมืองสหรัฐฯ จะต้องแสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐฯ นั้น ได้ประพฤติตนถูกต้องตามหลักรัฐธรรมนูญและความสงบสุขของประเทศ

         ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ th.usembassy.gov

7. นิวซีแลนด์

          ประเทศที่มีเสถียรภาพความมั่นคงทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ติดอันดับต้น ๆ ของโลกเสมอ เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดทั้งนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของฟันเฟืองการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Auckland และ Wellington เรียกได้ว่าเป็นแหล่งลงทุนอสังหาฯ ที่ดีที่สุดในนิวซีแลนด์ ตลอดจนการรักษาสิ่งแวดล้อมและภูมิประเทศของที่นี่ก็มีความโดดเด่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาเที่ยว มาเรียน ลงทุน หรือแม้กระทั่งหางานทำ บอกเลยว่าน่าสนใจไม่น้อย
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาตินิวซีแลนด์

         สำหรับการขออนุมัติวีซ่า PR (Permanent Residence) แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ 

         - การขอโดยใช้ประสบการณ์และความสามารถ (Skill Migrant) 
         

         ต้องเก็บคะแนนประสบการณ์ให้ได้ 160 คะแนน โดยคะแนนเหล่านั้นจะมาจากคุณสมบัติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอายุ ประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา ความสัมพันธ์กับคนนิวซีแลนด์ และอื่น ๆ 

         - การขอผ่านการลงทุน (Business Investment Category) 
         
         ต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 500,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และต้องมีแผนการลงทุนในระยะ 3 ปี จึงจะสามารถขอวีซ่า PR ได้ สำหรับการลงทุนในนิวซีแลนด์ จำเป็นต้องใช้ที่ปรึกษาทางกฎหมายและที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจร่วมด้วย 

         โดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มต้นจากการเดินทางไปเรียนต่อ เพื่อที่จะได้ทำงานหลังเรียนจบ และเก็บคะแนนประสบการณ์ให้ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ หรือบางคนอาจทำงานโดยไม่ได้เรียนจบในนิวซีแลนด์ ก็สามารถเก็บคะแนนประสบการณ์ได้ แต่ก็ต้องเป็นสายอาชีพที่อยู่ในความต้องการของนิวซีแลนด์ ก็ได้เช่นกัน 

         ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ immigration.govt.nz

8. อังกฤษ

          สมญานามแห่งดินแดนผู้ดี แต่ละปีมีคนไทยเป็นจำนวนไม่น้อยที่เดินทางไปเที่ยวชมความงามของปราสาท พระราชวังเก่าแก่ บ้างก็ไปช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นระดับโลก และลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ ตลอดจนยังเป็นจุดหมายทางการศึกษาขั้นสูงในฝันของใครหลายคน โดยแต่ละเมืองของประเทศอังกฤษ ก็มีความดีเด่นให้ได้ไปเที่ยวแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นลอนดอน เคมบริดจ์ ลิเวอร์พูล และบาธ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไทยมักไปเยือนอยู่เสมอ
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติอังกฤษ

         - อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป

         - จะต้องทำวีซ่าถาวรให้ได้ก่อน หรือลงทะเบียน EU Settled Status อย่างน้อย 3 ปี

         เงื่อนไขในการขอสัญชาติแบบทั่วไป

         1. ใช้วีซ่าถาวร (ILR) ได้หลังจากที่คุณอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 5 ปี ในการสมัครขอสัญชาติด้วย ILR คุณต้องอยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 12 เดือน หลังจากได้รับวีซ่ามาแล้ว

         2. มีสถานะ Permanent residence หากคุณหรือสมาชิกในครอบครัวมาจาก EU, EEA หรือสวิตเซอร์แลนด์คุณจะได้รับสถานะการพำนักถาวรโดยอัตโนมัติหลังจากที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 5 ปี

         เงื่อนไขในการขอสัญชาติแบบติดตามคู่ครอง

         ต้องมีคู่สมรสหรือคู่ครองเป็นพลเมืองชาวอังกฤษ ซึ่งต้องอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยจะต้องอยู่ในเงื่อนไขดังต่อไปนี้

         1. ลงทะเบียนในระบบ EU Settlement Scheme

         2. มีเอกสารถิ่นที่อยู่ถาวร เพื่อยืนยันว่าคุณอยู่อาศัยในประเทศจริง

         3. เป็นผู้ถือวีซ่าแบบถาวร (indefinite leave to remain) โดยจะขอได้ก็ต่อเมื่อมีวีซ่าติดตามคู่สมรส โดยอยู่ในสหราชอาณาจักรครบ 2 ปี และบินออกนอกประเทศไม่เกิน 90 วัน ถึงจะสามารถขอวีซ่า ILR ได้

         ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ gov.uk

9. สวีเดน

          เมื่อพูดถึงสวีเดน หลายคนอาจจะพาลนึกถึง “อิเกีย” ร้านขายเครื่องเรือนและของใช้ภายในบ้าน ซึ่งมีสาขามากมายทั่วโลก แต่นั่นไม่ใช่ความภูมิใจอย่างเดียวเท่านั้น เพราะสวีเดนเป็นประเทศที่เต็มไปความคิดสร้างสรรค์ เสียงดนตรี และเมืองแห่งการเฉลิมฉลองเพื่อการผ่อนคลายในทุกเทศกาล ตลอดจนเรื่องสิ่งแวดล้อม สวีเดนก็ยังมีความพยายามในการยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงยังขึ้นชื่อเรื่องการหวงแหนทรัพยากรป่าไม้อีกด้วย เรียกได้ว่าครบสูตรประเทศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทั้งชีวิตประชากรและทรัพยากรธรรมชาติอย่างแท้จริง
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติสวีเดน

         - มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารยืนยันตัวบุคคล

         - มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป

         - ต้องถือวีซ่าอยู่อาศัยถาวร (put)

         - ปฏิบัติตามกำหนดของการขอสัญชาติตามเกณฑ์แต่ละชนิด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ migrationsverket.se

         - มีความประพฤติที่ดีในขณะอยู่สวีเดน

         โดยสามารถเข้าไปทำแบบทดสอบว่าคุณมีคุณสมบัติพอที่จะยื่นขอสัญชาติได้หรือไม่ ในเว็บไซต์ migrationsverket.se

10. เนเธอร์แลนด์

          ประเทศที่มีประชากรหนาแน่นมากแห่งหนึ่งของยุโรป หลายคนนึกถึงภาพของสวนดอกไม้ ทุ่งกังหันลม สถาปัตยกรรม และที่เที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ เช่น สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof), ทุ่งกังหัน Kinderdijk, จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square), หมู่บ้านกังหันลมโบราณ (Zaanse Schans), พิพิธภัณฑ์แวน โก๊ะ (Van Gogh Museum), ทะเลวาดเดน (The Wadden Sea) และถนนช้อปปิ้งกาลเวอร์ สตราท (Kalver Straat) เป็นต้น และโดยเฉพาะคอเบียร์ต้องถูกใจมากแน่ ๆ เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตเบียร์ส่งออกรายใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่ง ถ้าหากว่ามีโอกาสขอเชียร์ว่าให้ลอง
ประเทศน่าย้ายไปอยู่

การขอสัญชาติเนเธอร์แลนด์

         สำหรับการขอสัญชาติเนเธอร์แลนด์ควรใช้วิธี Naturalisatie ซึ่งมีข้อปฏิบัติ ดังนี้ 

         - ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป

         - อาศัยอยู่ในฮอลแลนด์อย่างติดต่อกันครบ 5 ปี

         - หากขอวีซ่าเพื่อมาอยู่กับแฟนหรือสามี คุณสามารถจะทำเรื่องขอสัญชาติได้ตั้งแต่เมื่อคุณอยู่ในฮอลแลนด์ครบ 3 ปี (โดยอยู่กับคนเดิมตลอด 3 ปี) หากว่าคุณจดทะเบียนในประเทศไทย การนับจะเริ่มจากวันที่คุณเข้ามาเหยียบเนเธอร์แลนด์ด้วยวีซ่า MVV อยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันเป็น samenwonen (การอยู่ด้วยกันตามกฎหมายโดยไม่ได้แต่งงาน) ก็นับเวลาจากวันเริ่มต้น 3 ปี เช่นเดียวกัน

         - มี verblijfvergunning (ถิ่นที่อยู่ถาวร) ถูกกฎหมาย และต่อบัตรไม่เคยขาดตอน

         - สอบ inburgeringsexamen ที่ทาง inburgering จัดให้สอบ ผ่านทุกกระบวน หรือมี Diploma (คือสอบผ่านทั้ง 4 ทักษะ) จาก staatexamen NT2 (โปรแกรม I หรือ II ก็ได้) หรือมีใบ Diploma จาก vmbo, mbo, havo, hbo, wo หรือจบการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมเป็นต้นไปจากสถาบันการศึกษาในเนเธอร์แลนด์

         - ไม่เคยถูกจับ ปรับ หรือมีคดีติดตัว

         - เต็มใจจะสละสัญชาติเดิมที่เป็นอยู่มาเป็นประชากรดัตช์

         ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ hague.thaiembassy.org

          เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างอันดับของ 10 ประเทศที่ดีที่สุด จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ usnews.com
ที่พร้อมด้วยคุณภาพชีวิต สังคม และเศรษฐกิจ อย่างน้อยก็เอาไว้เป็นไกด์ไลน์ เผื่อใครอยากคิดลองหาประสบการณ์ชีวิตที่ต่างออกไป ประเทศเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย ^ ^
 


หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
usnews.com, worldhappiness.report

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 ประเทศน่าย้ายไปอยู่ เช็กเลยว่าที่ไหนฮอตฮิต อัปเดตล่าสุด 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15:20:59 80,975 อ่าน
TOP
x close