สวีเดน...อีกหนึ่งประเทศในแถบสแกนดิเนเวียที่ซึ่งประชากรมีคุณภาพชีวิตดี อีกทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และบรรยากาศยังสงบเหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งหากใครยังแคลงใจอยู่ละก็ เรามีเหตุผลดี ๆ ที่ทำให้สวีเดนเป็นประเทศน่าอยู่มาบอกเล่ากัน
1. ธรรมเนียมปฏิบัติที่เรียกว่า Fika : หรือ coffee break คือ การพักดื่มกาแฟระหว่างวัน ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงานหรือกับครอบครัว ซึ่งปัจจุบันนี้นอกจากกาแฟแล้ว ยังมีชา นม น้ำผลไม้ และขนมหวานเล็กน้อย ระหว่างการสนทนาสั้น ๆ ด้วย ถือเป็นธรรมเนียมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์และช่วยผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้ด้วย
2. ว่ายน้ำใจกลางกรุงสตอกโฮล์ม : นึกไม่ออกเลยว่าการว่ายน้ำเล่นในเมืองใหญ่จะเป็นเช่นไร ลองจินตนาการดูว่าใครกันจะมาว่ายน้ำในแม่น้ำไทม์กลางลอนดอน หรือแม่น้ำแซนใจกลางปารีส แต่ที่สตอกโฮล์มถือเป็นภาพธรรมดา หากคุณจะมาว่ายน้ำผ่อนคลายกัน
3. แสงแดดเจิดจ้าในฤดูร้อน : ช่วงซัมเมอร์ของสวีเดนนั้นเรียกว่ามีแสงแดดเจิดจ้าตลอดเกือบทั้งวัน ว่ากันว่าจะมีแสงสว่างถึง 20 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
5. ป่าไม้ที่สวยงาม : ผู้คนในสวีเดนรวมทั้งนักท่องเที่ยวหลงใหลในการพักแรมในป่า เพราะสวีเดนมีป่าไม้ที่สมบูรณ์และงดงามมากมาย
6. ผ้าห่มในบาร์/คาเฟ่ : ที่นั่งด้านนอกของร้านอาหาร ผับ และบาร์ในสวีเดน จะมีผ้าห่มพาดไว้ที่เก้าอี้ ซึ่งในกรณีที่อากาศเย็นหรือน้ำค้างลง แน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องใช้มัน และนี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เห็นว่าคนสวีเดนใส่ใจกันและกันจริง ๆ
7. รถไฟใต้ดิน : รัฐบาลสวีเดนส่งเสริมเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว จึงช่วยซัพพอร์ตเรื่องค่าตั๋วรถไฟใต้ดินให้มีราคาถูก เพื่อเอื้อต่อการเดินทางของประชาชน ว่าแล้วก็อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้างเนอะ
8. ศิลปะที่สถานีรถไฟใต้ดิน : นอกจากราคาจะถูกแล้ว ภายในของทุกสถานีรถไฟใต้ดินในสตอกโฮล์มยังถูกตกแต่งไปด้วยศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นหรือภาพเขียน ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศแสนอึดอัดกลายเป็นบรรยากาศสุดชิลขึ้นมาทันที
9. ศิลปินชื่อดัง : สวีเดนเป็นประเทศที่มีดนตรีและศิลปินอันโด่งดังเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งศิลปินชื่อดัง ได้แก่ Knife, Robyn, Ace of Base และ ABBA
10. เจ้าหญิงเอสแตล : เพราะความน่ารักของเจ้าหญิงเอสแตล (Princess Estelle) ดัชเชสแห่งเอิสเตอร์เยิตลันด์ (Duchess of Ostergotland) ที่ทรงเป็นเสมือนดวงใจของชาวสวีเดนทุกคน
11. Pippi Longstocking นวนิยายชื่อดังของสวีเดน : Pippi Longstocking เป็นนวนิยายชื่อดังของสวีเดน ประพันธ์โดย Astrid Lindgren ซึ่งตั้งชื่อเรื่องตามชื่อลูกของเธอ เรื่องราวเกี่ยวกับความน่ารักของเด็กน้อยที่ทำให้บรรดาผู้ใหญ่ทึ่งในทัศนคติบางอย่างของเธอ จึงเป็นเสมือนนวนิยายอมตะที่จรรโลงใจผู้อ่านทุกยุคสมัย
12. กวางเรนเดียร์ : อีกหนึ่งสีสันของประเทศสวีเดน ก็คือ กวางเรนเดียร์ สัตว์คู่ใจซานตาครอส ซึ่งถือเป็นกวางในตำนานที่เด็ก ๆ อยากจะเจอตัวเป็น ๆ สักครั้ง
13. สวนดอกไม้บริเวณบ้าน : เกือบจะทุกบ้านเลยที่มีต้นไม้และสวนดอกไม้อยู่ในรั้วบ้าน ส่งเสริมให้สวีเดนเป็นเมืองสีเขียวโดยปริยาย ซึ่งก็เป็นที่น่าอิจฉาที่ไม่ต้องเดินทางไปไกล แต่ก็ได้ชมความสวยงามของหมู่มวลดอกไม้ในรั้วบ้านตัวเอง
14. Lingonberry : ผลไม้ขนาดเล็กในตระกูลเบอร์รีที่ชาวสวีเดนนิยมรับประทานกับอาหารแทบจะทุกประเภทเลย ซึ่งผล Lingonberry จะช่วยให้อาหารมีรสชาติเพิ่มมากขึ้น
15. ช่างไม้ฝีมือประณีต : ในสวีเดนมีช่างไม้ฝีมือประณีตจำนวนมาก จึงมีการแกะสลักไม้เป็นลวดลายสวยงาม ซึ่งต้องบอกว่าเป็นภาพหายากที่จะเห็นต่างชาติมาแกะสลักไม้เฉกเช่นคนไทย
16. ย่านดาวน์ทาวน์ของกรุงสตอกโฮล์ม : ไม่ว่าจะช่วงเวลาใด ย่านดาวน์ทาวน์ของกรุงสตอกโฮล์มยังคงมีเสน่ห์และสวยงามเสมอ
17. ศิลปะจากชาวไวกิ้ง : ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีภาษาเป็นของตนเอง ชาวไวกิ้งจะใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ สลักไว้ตามหิน ซึ่งพบว่าในปัจจุบันมันกลายเป็นโบราณวัตถุและศิลปะที่มีความงดงามที่คนรุ่นหลังยังคงให้ความสนใจอยู่เสมอ
18. สวนสาธารณะ : ในสวีเดนมีสวนสาธารณะมากมายหลายแห่ง ที่ทำให้ผู้คนมีกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัวหรือในหมู่เพื่อน ไม่ว่าจะเป็นปิกนิก, ออกกำลังกาย, เล่นกีฬา เหล่านี้เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี
19. ป่าสน : ประเทศสวีเดนอุดมไปด้วยแหล่งธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าสน ที่นอกจากรัฐบาลจะมีบทบาทอย่างมากในการดูแลป่าไม้แล้ว ประชาชนยังช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ทำให้สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศสีเขียว
20. รถเครนยีราฟ : แน่นอนว่าในเขตก่อสร้างไม่มีใครอยากจะเข้าไปเนื่องจากเป็นพื้นที่อันตรายและไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างริมทะเลบอลติก รถเครนถูกเพนต์ด้วยลายยีราฟ นับเป็นภาพน่ารัก ๆ ที่หาไม่ได้ในพื้นที่ก่อสร้างอื่น ๆ
21. ตลาดนัดตอนกลางวัน : ในยามค่ำคืนของสวีเดนมีไนต์คลับจำนวนมากที่สร้างความบันเทิงให้แก่นักท่องเที่ยว ในยามกลางวันก็เช่นกัน พวกมันกลายเป็นตลาดนัดที่มีสินค้ามากมายดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนไปช้อปปิ้ง
22. หมู่เกาะสตอกโฮล์ม : หมู่เกาะสตอกโฮล์มเป็นหมู่เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในทะเลบอลติก โดยมีเกาะรวมกันกว่า 30,000 เกาะ และแต่ละเกาะยังมีเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแตกต่างกันไป ถือเป็นความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวของสวีเดน
23. อาหารสวีเดน : ประเทศสวีเดนมีอาหารให้คุณลิ้มลองมากมาย แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เลยคือ ลูกชิ้น ซึ่งลูกชิ้นที่เราคุ้นเคยกันมักจะมีแป้งผสมอยู่ แต่ลูกชิ้นในสวีเดนจะมีแต่เนื้อสัตว์ล้วน ๆ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ แถมยังมีรสชาติอร่อยด้วย
ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่จะทำให้คุณหลงรักประเทศสวีเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณได้ไปสัมผัสกับดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เช่นนี้แล้ว คุณจะรู้ว่าทำไมใคร ๆ ก็อยากไปสวีเดน :)
- 7 สถานที่น่าเที่ยวในสวีเดน ที่คุณไม่ควรพลาด
ขอบคุณข้อมูลจาก
businessinsider.com, sweden.se
1. ธรรมเนียมปฏิบัติที่เรียกว่า Fika : หรือ coffee break คือ การพักดื่มกาแฟระหว่างวัน ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงานหรือกับครอบครัว ซึ่งปัจจุบันนี้นอกจากกาแฟแล้ว ยังมีชา นม น้ำผลไม้ และขนมหวานเล็กน้อย ระหว่างการสนทนาสั้น ๆ ด้วย ถือเป็นธรรมเนียมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์และช่วยผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้ด้วย
2. ว่ายน้ำใจกลางกรุงสตอกโฮล์ม : นึกไม่ออกเลยว่าการว่ายน้ำเล่นในเมืองใหญ่จะเป็นเช่นไร ลองจินตนาการดูว่าใครกันจะมาว่ายน้ำในแม่น้ำไทม์กลางลอนดอน หรือแม่น้ำแซนใจกลางปารีส แต่ที่สตอกโฮล์มถือเป็นภาพธรรมดา หากคุณจะมาว่ายน้ำผ่อนคลายกัน
3. แสงแดดเจิดจ้าในฤดูร้อน : ช่วงซัมเมอร์ของสวีเดนนั้นเรียกว่ามีแสงแดดเจิดจ้าตลอดเกือบทั้งวัน ว่ากันว่าจะมีแสงสว่างถึง 20 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
หมู่บ้านสโมเกน (Smogen) หมู่บ้านชาวประมงสีสันสดใส
4. เทศกาล Midsommar : อีกหนึ่งสีสันในฤดูร้อนของสวีเดน คือ เทศกาล Midsommar ที่ทุกคนพร้อมใจกันใส่มงกุฎดอกไม้แล้วเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน5. ป่าไม้ที่สวยงาม : ผู้คนในสวีเดนรวมทั้งนักท่องเที่ยวหลงใหลในการพักแรมในป่า เพราะสวีเดนมีป่าไม้ที่สมบูรณ์และงดงามมากมาย
6. ผ้าห่มในบาร์/คาเฟ่ : ที่นั่งด้านนอกของร้านอาหาร ผับ และบาร์ในสวีเดน จะมีผ้าห่มพาดไว้ที่เก้าอี้ ซึ่งในกรณีที่อากาศเย็นหรือน้ำค้างลง แน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องใช้มัน และนี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เห็นว่าคนสวีเดนใส่ใจกันและกันจริง ๆ
7. รถไฟใต้ดิน : รัฐบาลสวีเดนส่งเสริมเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว จึงช่วยซัพพอร์ตเรื่องค่าตั๋วรถไฟใต้ดินให้มีราคาถูก เพื่อเอื้อต่อการเดินทางของประชาชน ว่าแล้วก็อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้างเนอะ
8. ศิลปะที่สถานีรถไฟใต้ดิน : นอกจากราคาจะถูกแล้ว ภายในของทุกสถานีรถไฟใต้ดินในสตอกโฮล์มยังถูกตกแต่งไปด้วยศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นหรือภาพเขียน ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศแสนอึดอัดกลายเป็นบรรยากาศสุดชิลขึ้นมาทันที
9. ศิลปินชื่อดัง : สวีเดนเป็นประเทศที่มีดนตรีและศิลปินอันโด่งดังเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งศิลปินชื่อดัง ได้แก่ Knife, Robyn, Ace of Base และ ABBA
10. เจ้าหญิงเอสแตล : เพราะความน่ารักของเจ้าหญิงเอสแตล (Princess Estelle) ดัชเชสแห่งเอิสเตอร์เยิตลันด์ (Duchess of Ostergotland) ที่ทรงเป็นเสมือนดวงใจของชาวสวีเดนทุกคน
11. Pippi Longstocking นวนิยายชื่อดังของสวีเดน : Pippi Longstocking เป็นนวนิยายชื่อดังของสวีเดน ประพันธ์โดย Astrid Lindgren ซึ่งตั้งชื่อเรื่องตามชื่อลูกของเธอ เรื่องราวเกี่ยวกับความน่ารักของเด็กน้อยที่ทำให้บรรดาผู้ใหญ่ทึ่งในทัศนคติบางอย่างของเธอ จึงเป็นเสมือนนวนิยายอมตะที่จรรโลงใจผู้อ่านทุกยุคสมัย
12. กวางเรนเดียร์ : อีกหนึ่งสีสันของประเทศสวีเดน ก็คือ กวางเรนเดียร์ สัตว์คู่ใจซานตาครอส ซึ่งถือเป็นกวางในตำนานที่เด็ก ๆ อยากจะเจอตัวเป็น ๆ สักครั้ง
13. สวนดอกไม้บริเวณบ้าน : เกือบจะทุกบ้านเลยที่มีต้นไม้และสวนดอกไม้อยู่ในรั้วบ้าน ส่งเสริมให้สวีเดนเป็นเมืองสีเขียวโดยปริยาย ซึ่งก็เป็นที่น่าอิจฉาที่ไม่ต้องเดินทางไปไกล แต่ก็ได้ชมความสวยงามของหมู่มวลดอกไม้ในรั้วบ้านตัวเอง
14. Lingonberry : ผลไม้ขนาดเล็กในตระกูลเบอร์รีที่ชาวสวีเดนนิยมรับประทานกับอาหารแทบจะทุกประเภทเลย ซึ่งผล Lingonberry จะช่วยให้อาหารมีรสชาติเพิ่มมากขึ้น
15. ช่างไม้ฝีมือประณีต : ในสวีเดนมีช่างไม้ฝีมือประณีตจำนวนมาก จึงมีการแกะสลักไม้เป็นลวดลายสวยงาม ซึ่งต้องบอกว่าเป็นภาพหายากที่จะเห็นต่างชาติมาแกะสลักไม้เฉกเช่นคนไทย
16. ย่านดาวน์ทาวน์ของกรุงสตอกโฮล์ม : ไม่ว่าจะช่วงเวลาใด ย่านดาวน์ทาวน์ของกรุงสตอกโฮล์มยังคงมีเสน่ห์และสวยงามเสมอ
17. ศิลปะจากชาวไวกิ้ง : ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีภาษาเป็นของตนเอง ชาวไวกิ้งจะใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ สลักไว้ตามหิน ซึ่งพบว่าในปัจจุบันมันกลายเป็นโบราณวัตถุและศิลปะที่มีความงดงามที่คนรุ่นหลังยังคงให้ความสนใจอยู่เสมอ
18. สวนสาธารณะ : ในสวีเดนมีสวนสาธารณะมากมายหลายแห่ง ที่ทำให้ผู้คนมีกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัวหรือในหมู่เพื่อน ไม่ว่าจะเป็นปิกนิก, ออกกำลังกาย, เล่นกีฬา เหล่านี้เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี
19. ป่าสน : ประเทศสวีเดนอุดมไปด้วยแหล่งธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าสน ที่นอกจากรัฐบาลจะมีบทบาทอย่างมากในการดูแลป่าไม้แล้ว ประชาชนยังช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ทำให้สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศสีเขียว
20. รถเครนยีราฟ : แน่นอนว่าในเขตก่อสร้างไม่มีใครอยากจะเข้าไปเนื่องจากเป็นพื้นที่อันตรายและไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างริมทะเลบอลติก รถเครนถูกเพนต์ด้วยลายยีราฟ นับเป็นภาพน่ารัก ๆ ที่หาไม่ได้ในพื้นที่ก่อสร้างอื่น ๆ
21. ตลาดนัดตอนกลางวัน : ในยามค่ำคืนของสวีเดนมีไนต์คลับจำนวนมากที่สร้างความบันเทิงให้แก่นักท่องเที่ยว ในยามกลางวันก็เช่นกัน พวกมันกลายเป็นตลาดนัดที่มีสินค้ามากมายดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนไปช้อปปิ้ง
22. หมู่เกาะสตอกโฮล์ม : หมู่เกาะสตอกโฮล์มเป็นหมู่เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในทะเลบอลติก โดยมีเกาะรวมกันกว่า 30,000 เกาะ และแต่ละเกาะยังมีเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแตกต่างกันไป ถือเป็นความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวของสวีเดน
23. อาหารสวีเดน : ประเทศสวีเดนมีอาหารให้คุณลิ้มลองมากมาย แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เลยคือ ลูกชิ้น ซึ่งลูกชิ้นที่เราคุ้นเคยกันมักจะมีแป้งผสมอยู่ แต่ลูกชิ้นในสวีเดนจะมีแต่เนื้อสัตว์ล้วน ๆ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ แถมยังมีรสชาติอร่อยด้วย
ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่จะทำให้คุณหลงรักประเทศสวีเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณได้ไปสัมผัสกับดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เช่นนี้แล้ว คุณจะรู้ว่าทำไมใคร ๆ ก็อยากไปสวีเดน :)
- 7 สถานที่น่าเที่ยวในสวีเดน ที่คุณไม่ควรพลาด
ขอบคุณข้อมูลจาก
businessinsider.com, sweden.se