ที่เที่ยวนิวยอร์ก
1. Central Park
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองบนเกาะแมนฮัตตัน มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า รวมมีเนื้อที่ราว ๆ 843 เอเคอร์ ซึ่งถูกรายล้อมด้วยตึกสูงระฟ้าและอพาร์ตเมนต์หรูหรา ภายในเซ็นทรัลปาร์กได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ พร้อมทั้งของตกแต่งประดับสวนสวย ๆ มากมาย มีทั้งสระน้ำ สะพาน จุดชมวิว เนินเขา ลานกิจกรรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ พร้อมกับมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เพียบ สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายแบบ ทั้งนี้ในแต่ละฤดูกาลที่นี่ก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ถ้าไปเที่ยวชมหน้าหนาว ก็จะมีลานไอซ์สเกตรองรับด้วย
2. อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty)
แลนด์มาร์กสำคัญของนิวยอร์ก ตั้งอยู่บนเกาะลิเบอร์ตี อ่าวนิวยอร์ก เป็นของขวัญที่ชาวฝรั่งเศสมอบให้แก่ชาวอเมริกัน เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติครบ 100 ปี มีลักษณะเป็นประติมากรรมรูปเทพีห่มเสื้อคลุม มือขวาชูคบเพลิง มือซ้ายถือแผ่นจารึกคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา มีตัวอักษรเขียนไว้ว่า JULY IV MDCCLXXVI (4 กรกฎาคม 2319) ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งมีโซ่ขาด หมายถึง การเป็นอิสระ สวมมงกุฎ 7 แฉก หมายถึง ทะเลทั้ง 7 หรือทวีปทั้ง 7 ทำขึ้นจากโลหะสำริด ซึ่งแต่เดิมนั้นจะมีสีทองแดง แต่พอโดนแดด ลม ฝน ทำให้เกิดสนิมเกาะ กลายเป็นสีเขียวอมฟ้าดั่งภาพในปัจจุบัน หากนับจากส่วนล่างจนถึงยอดคบเพลิงเทพีเสรีภาพจะสูงมากถึง 93.3 เมตร เฉพาะตัวเทพีนั้นสูง 46.4 เมตร หนึ่งในทีมออกแบบ ก็คือ กุสตาฟ ไอเฟล ผู้ออกแบบหอไอเฟล และด้วยความที่มีขนาดใหญ่มากนี่เอง จึงต้องแยกชิ้นส่วนลงเรือมาจากปารีสสู่นิวยอร์ก
ปัจจุบันอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชม โดยสามารถขึ้นไปได้จนถึงบริเวณ มงกุฎเลยทีเดียว แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ เพราะมีการจำกัดผู้เข้าชมในแต่ละวัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ nps.gov
3. สะพานบรูคลิน (Brooklyn Bridge)
สะพานแขวนขนาดใหญ่ที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำอีสต์ เพื่อเชื่อมต่อระหว่างเกาะแมนฮัตตัน และเขตบรูคลิน เปิดใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1883 เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการจราจร สิ่งที่ทำให้สะพานแห่งนี้โดดเด่น ก็คือ สถาปัตยกรรม ที่มีการสร้างแบบสไตล์นีโอโกธิค มีความยาวทั้งหมดประมาณ 1,833.7 เมตร โดยได้มีการสร้างทางเดินไว้ให้นักท่องเที่ยวอยู่ด้านบนของเลนถนน จึงสามารถเดินชมวิวกันได้อย่างปลอดภัย การถ่ายภาพบนสะพานบรูคลินจึงเป็นหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดของการมาเยือนนิวยอร์ก
4. ไทม์สแควร์ (Time Square)
จุดเช็กอินสุดฮอตของนิวยอร์ก ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนบรอดเวย์ และถนนเซเวนท์ อเวนิว ปัจจุบันเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร้านค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร และร้านกาแฟระดับโลกมากมาย บรรยากาศคึกคักมากที่สุดในนิวยอร์ก เพราะมีทุกสิ่งครบครันที่นี่ ไม่ว่าจะมากิน ดื่ม สังสรรค์ ปาร์ตี้ ชมละครเวที ก็มีอยู่ในย่านนี้ทั้งหมด โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่ทั้งย่านจะเต็มไปด้วยแสงสี มีจอภาพแอลอีดีขนาดใหญ่อยู่บนแทบจะทุกอาคาร มีแต่สีสันของความสนุก จนใคร ๆ ต่างกล่าวขานกันว่าจุดนี้เป็นจุดที่ไม่เคยหลับใหล
5. ฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenue)
นอกจากจะเป็นถนนเส้นหลักแล้ว ก็ยังเป็นถนนช้อปปิ้งชื่อดังที่ขาช้อปไม่ควรพลาด เพราะทั้งสองฟากฝั่งถนนเส้นนี้ ตั้งแต่บริเวณ Washington Square Park ไปจนถึงแยก Pulitzer Fountain จะเป็นที่ตั้งของช็อปสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย และมักจะมีโปรโมชั่นลดกระหน่ำหั่นราคาให้ขาช้อปได้เลือกซื้อสินค้ากันอย่างสนุกสนานตลอดทั้งปี และบนถนนเส้นนี้ยังมีสถานที่สำคัญต่าง ๆ ตั้งอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Trump Tower, St. Patrick's Cathedral, New York Public Library, Empire State Building, Madison Square Park, Flatiron Building, Bryant Park, Rockefeller Center เป็นต้น
6. The High Line
สวนสาธารณะลอยฟ้าสุดเจ๋งของนิวยอร์ก ที่ปรับปรุงมาจากเส้นทางรถไฟเก่าเวสต์ไซด์ไลน์ (West Side Line) ในเขตแมนฮัตตัน มีความยาวประมาณ 2.33 กิโลเมตร โดยจะเริ่มตั้งแต่บริเวณจุดตัดของถนน Washington St. และถนน Gansevoort St ไปจนถึงถนน W 34th St ซึ่งด้านบนสวนลอยฟ้านี้ก็ถูกออกแบบอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยแปลงสนามหญ้าสีเขียว พร้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งดอกไม้นานาชนิดสีสันสดใส เติมพื้นที่สีเขียวให้กับนิวยอร์กได้อย่างดีทีเดียว
7. หอสมุดประชาชนนิวยอร์ก (The New York Public Library)
ห้องสมุดสาธารณะที่เปิดมายาวนานมากกว่า 100 ปี มีหนังสือรวมกว่า 53 ล้านเล่ม ซึ่งถือว่าเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 2 ของอเมริกา ความน่าสนใจของหอสมุดแห่งนี้อีกอย่างก็คือ สถาปัตยกรรมของอาคารหลักที่ตั้งอยู่บนถนนฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenue) โดยมีห้องที่มีชื่อเสียง ก็คือ ห้องอ่านหนังสือหลักโรส (Rose Main Reading Room : Room 315) มีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีตู้หนังสือตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบสวยงามอยู่ทั้งสองด้านของห้อง มีหน้าต่างบานโค้งและโคมไฟระย้า ตรงกลางจะเป็นโต๊ะไม้ไว้สำหรับอ่านหนังสือ งดงามและเงียบสงบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ nypl.org
8. St. Patrick's Cathedral
โบสถ์โรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของนิวยอร์ก ตั้งอยู่บนถนนฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenue) เยื้อง ๆ กับ Rockefeller Center มีสถาปัตยกรรมแบบ Decorated Neo-Gothic สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 งดงามทั้งภายนอกและภายใน ด้านนอกจะเห็นยอดวิหารทรงแหลมโดดเด่น สูงถึง 330 ฟุต มีการตกแต่งบานหน้าต่างอย่างสวยงามด้วยกระจกสีและงานปูนปั้นที่มีลวดลายละเอียดและวิจิตรบรรจง ควรได้เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ saintpatrickscathedral.org
9. Washington Square Park
วนสาธารณะที่มีสัญลักษณ์โดดเด่นอย่างหนึ่งของนิวยอร์กตั้งอยู่ นั่นก็คือ The Washington Square Arch เป็นซุ้มประตูสไตล์โรมัน ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี การเป็นประธานาธิบดีคนแรกของ จอร์จ วอชิงตัน นอกจากนี้ภายในสวนแห่งนี้ยังมีลานน้ำพุ สนามหญ้า สวนดอกไม้สวย ๆ ต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ เป็นจุดนัดพบและนั่งพักผ่อนยามว่างระหว่างวันที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของนิวยอร์ก
10. ตึกแฟลตไอออน (Flatiron Building)
อาคารสัญลักษณ์สำคัญบนถนนฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenue) อยู่ระหว่างจุดตัดที่ถนน E 23rd St และถนน Broadway มีลักษณะเป็นอาคารทรงสามเหลี่ยม เพราะพื้นที่ตั้งของอาคารนั้นจะเป็นเกาะกลางรูปสามเหลี่ยม โดยมีถนน E 22nd St ปิดอยู่ทางด้านหลัง สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1902 ถือว่าเป็นอาคารเก่าแก่อีกแห่งของนิวยอร์ก และเป็นจุดถ่ายภาพสุดฮิตของเมือง ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนที่นี่ก็ต้องมาแวะถ่ายภาพคู่กับตึกแฟลตไอออน
11. เกาะเอลลิส (Ellis Island)
เกาะเล็ก ๆ แนวราบกลางอ่าวนิวยอร์ก ใกล้กับเจอร์ซีย์ซิตี เป็นเกาะที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ด้วยดั้งเดิมเป็นสถานที่สถานีตรวจคนเข้าเมืองในช่วงปี ค.ศ. 1892-1954 ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของสถานีตรวจคนเข้าเมืองเก่าแก่แห่งนี้ พร้อมทั้งยังเป็นจุดชมวิวเมืองสุดศิวิไลซ์อย่างนิวยอร์กและเจอร์ซีย์ซิตีด้วย
12. ตึกเอ็มไพร์สเตต (Empire State Building)
ตึกที่สูงที่สุดในนครนิวยอร์ก และสูงเป็นอันดับที่ 43 ของโลก ด้วยความสูง 381 เมตร ตั้งอยู่บนถนนฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenue) และถนน West 34 St. มีสัญลักษณ์สำคัญ คือ เสาสัญญาณแหลมที่อยู่ด้านบนสุด มีทั้งหมด 102 ชั้น สร้างแบบ Art Deco ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานต่าง ๆ ร้านค้า ร้านอาหาร รวมทั้งมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปเที่ยวชมนิวยอร์กมุมสูงด้วย
13. พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน (The Metropolitan Museum of Art)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา ตั้งอยู่บนถนนฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenue) ฝั่งเซ็นทรัลปาร์ก ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 เป็นสถานที่แสดงงานศิลปะหลากหลายแขนง รวบรวมมาทั้งงานจิตรกรรม ศิลปะอเมริกัน ศิลปะสมัยใหม่ ศิลปะจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงวัตถุโบราณจากสถานที่ต่าง ๆ เช่น อียิปต์, เอเชีย และยุโรป รวมทั้งมีผลงานถาวรจัดแสดงอยู่มากกว่า 2 ล้านชิ้น แบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 19 แผนก นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการหมุนเวียนจัดตลอดทั้งปี และมีห้องสมุด The Robert Goldwater Library ตั้งอยู่ด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ metmuseum.org
14. One World Trade Center & 9/11 Memorial & Museum
อาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บนถนน West St เป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่หลังจากที่ตึกวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เดิม ซึ่งมีลักษณะเป็นตึกแฝดนั้นได้ถูกทำลายลงในเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 (9/11)โดยอาคารใหม่นี้ได้เปิดใช้เป็นครั้งแรกในเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ตามโครงสร้างอาคารมาตรฐานจะมีอยู่ถึง 104 ชั้น แต่เป็นชั้นที่ใช้งานเพียง 94 ชั้น และมีจุดชมวิวไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวเมืองนิวยอร์กมุมสูงอยู่ที่ชั้น 100, 101 และ 102
นอกจากนี้ที่ด้านข้างของอาคารวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ใหม่ ก็ยังมี 9/11 Memorial & Museum อยู่ด้วย โดยได้เปิดให้ชมฐานของโครงสร้างตึกวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เดิมทั้ง 2 อาคาร และเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้มาไว้อาลัยให้กับผู้สูญเสียในเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544
15. Rockefeller Center
คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ใจกลางนครนิวยอร์ก ตั้งอยู่บนฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenue) เป็นกลุ่มอาคารในเครือ Rockefeller ซึ่งมีทั้งหมด 19 อาคารพาณิชย์ ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 22 เอเคอร์ โดยแต่ละอาคารก็เป็นที่ตั้งของสำนักงานต่าง ๆ สถานีโทรทัศน์ รวมทั้งห้างร้าน ร้านอาหาร และร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกมากมาย มีจุดชมวิวอยู่ที่อาคารสูงบนถนน 50th Street โดยใช้ชื่อว่า Top of The Rock นอกจากนี้บริเวณลานกว้างใจกลางอาคารต่าง ๆ เหล่านี้ ยังถูกใช้เป็นลานไอซ์สเกตในฤดูหนาว มีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ให้มาถ่ายรูปสวย ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ rockefellercenter.com
16. Grand Central Terminal
สถานีรถไฟกลางของนิวยอร์ก ตั้งอยู่บนถนน E 42nd St เป็นสถานีปลายทางทางตอนใต้ของสายฮาร์เล็ม, ฮัดสัน และนิวฮาเวน ซึ่งให้บริการทางตอนเหนือของเขตมหานครนิวยอร์ก และยังเชื่อมต่อกับระบบของรถไฟฟ้าใต้ดินในนิวยอร์กด้วย ความโดดเด่นของที่นี่จะอยู่ที่สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบโบซาร์หรือวิจิตรศิลป์ พร้อมทั้งยังผสมผสานกับศิลปะอีกหลากหลายแบบ ทำให้อาคารแห่งนี้งดงามเหนือกาลเวลา
17. ย่านวอลสตรีท (Wall Street)
ย่านที่น่าสนใจอีกแห่งของนิวยอร์ก เป็นจุดศูนย์รวมสถาบันการเงิน ตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทกฎหมายยักษ์ใหญ่ ในย่านนี้จึงเต็มไปด้วยนักลงทุน นักการเงิน และนักกฎหมาย ใครอยากเห็นไลฟ์สไตล์การทำงานของผู้คนในนิวยอร์กจึงไม่ควรพลาดที่จะมาเยี่ยมเยือนย่านนี้ สัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของวอลสตรีท ก็คือ รูปปั้นกระทิง อันหมายถึง ความรุ่งเรือง มั่งคั่ง เศรษฐกิจที่ดี นักท่องเที่ยวก็นิยมที่จะมาถ่ายภาพคู่กับรูปปั้นนี้ด้วย
18. Chelsea Market
ตลาดสดและศูนย์อาหารที่มีชื่อเสียงของนิวยอร์ก ตั้งอยู่บนถนน 9th Ave ด้านในมีร้านค้าหลากหลายแบบ ทั้งร้านขายอาหารสด อาหารสำเร็จรูป ร้านอาหารปรุงสุก รวมไปถึงร้านค้าขายสินค้าต่าง ๆ ทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องแต่งกาย และร้านหนังสือ เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะได้ลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ หลากหลายเมนูในราคาย่อมเยา
19. พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Museum of Modern Art : MoMA)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่น่าสนใจอีกแห่งของนิวยอร์ก ตั้งอยู่บนถนน W 53rd St ย่านมิดทาวน์ เขตแมนฮัตตัน ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1929 เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปะสมัยใหม่และศิลปะร่วมสมัย ซึ่งมีผลงานทั้งหมดมากกว่า 200,000 ผลงาน ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกก็ว่าได้ และผลงานเหล่านั้นก็มีทั้งแบบถาวร และนิทรรศการหมุนเวียน ล้วนจัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ แม้แต่คนที่ไม่ชอบศิลปะ ก็ยังต้องชอบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ moma.org
20. The Vessel
ประติมากรรมสัญลักษณ์ตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ตั้งโดดเด่นอยู่บนถนน Hudson Blvd ออกแบบโดย Thomas Heatherwick and Heatherwick Studio มีลักษณะเป็นประติมากรรมรูปร่างคล้ายกับรังผึ้ง ซึ่งออกแบบให้เป็นโครงสร้างเหล็ก ทำเป็นขั้นบันไดต่อซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้น ๆ เทียบเท่ากับตึก 15-16 ชั้น สูงถึง 46 เมตร รวมมีขั้นบันไดมากกว่า 2,500 ขั้น เมื่อเดินขึ้นไปยังชั้นบนก็จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมือง รวมทั้งแม่น้ำฮัดสัน ดูรายละเอียดการเข้าชมได้ที่ hudsonyardsnewyork.com
21. Washington Street
จุดถ่ายรูปกับสะพาน Manhattan Bridge สุดเท่ ที่ได้รับความนิยมจากอินสตาแกรม อินฟลูเอนเซอร์ ตั้งอยู่ใกล้กับ Main Street Park ในเขตบรูคลิน เป็นมุมที่จะทำให้ได้ภาพของช่องซอกตึกที่มีสะพาน Manhattan Bridge อยู่ด้านหลัง หากมาถ่ายช่วงเช้า ก็จะได้ท้องฟ้าสีสดใส ส่วนถ้ามาถ่ายกลางคืน ก็จะเห็นไฟระยิบระยับบนสะพาน สวยงามแปลกใหม่ เซลฟี่ได้หลากหลายมุม
22. ละครบรอดเวย์ (Broadway theatre distric)
ละครเพลงได้เข้ามาในอเมริกาช่วงราวต้นศตวรรษที่ 20 โดยรับอิทธิพลมาจากทางฝั่งยุโรป ช่วงแรก ๆ จะผสมผสานระหว่างโอเปร่าและการแสดง และพอผ่านไปสักระยะ มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดง ผสมผสานเพลงป๊อป เปลี่ยนฉาก เนื้อหาหลากหลาย จนทำให้กลายเป็นละครเพลงแบบอเมริกันโดยแท้ และได้รับความนิยมจากชาวอเมริกัน เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ต้องทำในช่วงหยุดสุดสัปดาห์กันไปเลยล่ะ ซึ่งกระแสของการชมละครเวทีก็ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
โดยจุดที่เป็นดั่งแลนด์มาร์กของละครเวทีในนิวยอร์กจะอยู่ที่ถนนบอร์ดเวย์ ใกล้กับไทม์สแควส์ ด้วยบริเวณนี้มีโรงละครดัง ๆ ตั้งอยู่หลายแห่ง มีละครเพลงที่น่าสนใจหลายเรื่องให้ได้ชม เช่น Aladdin, Chicago, Frozen, The Lion King, A Soldier's play, Ain't Too Proud, The Phantom of the Opera, Wicked เป็นต้น
23. ย่าน SoHo
ย่านช้อปปิ้งที่น่าเดินเที่ยวอีกแห่งของนิวยอร์ก เป็นย่านที่มีร้านค้าสไตล์บูทีคของดีไซเนอร์มากฝีมือตั้งอยู่มากมาย และยังมีร้านค้าแฟรนไชน์ แกลลอรี่ชั้นนำ รวมไปถึงร้านค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลก โดยร้านค้าเหล่านี้จะตกแต่งสไตล์วินเทจ ให้ความรู้สึกที่เก่าแก่มีคุณค่า หรูหราแบบเรียบง่าย ถนนก็ปูด้วยหิน บรรยากาศสบาย ๆ ไม่วุ่นวายเร่งรีบ มีร้านอาหารอร่อย ๆ คาเฟ่ชิค ๆ ให้แวะพักกินข้าว จิบกาแฟถ่ายรูปเบา ๆ
24. The Oculus
อาคารศูนย์การค้าและศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญของนิวยอร์ก ตั้งอยู่ใกล้กับ World Trade Center ออกแบบโดย Santiago Calatrava มีลักษณะเป็นอาคารรูปคล้ายปีกนก สีขาวสว่างสดใส เพื่อสื่อถึงอิสรภาพจากการที่บริเวณนี้เคยเกิดโศกนาฏกรรม 11 กันยายน 2544 โดยโครงสร้างนั้นเป็นโครงเหล็กสีขาวซ้อนกันอย่างสวยงาม มีช่องว่างให้แสงสว่างลงสู่ภายในอาคาร เพดานสูงโปร่ง งดงามทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งด้านในก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ให้ได้เดินเล่นเพลิน ๆ กันด้วย
25. Coney Island
ย่านชานเมืองที่มีบรรยากาศสบาย ๆ ชิล ๆ โดดเด่นด้านชายหาด ท้องทะเล และสวนสนุก โดยในวันหยุดชาวนิวยอร์กจะพากันมาเที่ยวพักผ่อน เดินเล่นรับลมริมทะเล นอนอาบแดด จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ เบา ๆ พร้อมกับสนุกสนานไปกับเครื่องเล่นสุดคลาสสิกของสวนสนุก อิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์สตรีตฟู้ด ถ่ายรูปเพลิน ๆ ได้ไม่ซ้ำมุม
26. บาร์เคลย์เซ็นเตอร์ (Barclays Center)
สนามกีฬาชื่อดังของนิวยอร์ก มีลักษณะเป็นสนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสนามหลักของทีมบาสเกตบอล Brooklyn Nets และยังใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาประเภทอื่น ๆ ด้วย เช่น ฮอกกี้ และมวยสากล ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมาจัดอยู่ตลอดทั้งปี สามารถดูรายละเอียดการแข่งขันและการแสดงต่าง ๆ ได้ที่ barclayscenter.com
27. ไชน่าทาวน์ (Chinatown) และลิตเติลอิตาลี (Little Italy)
สำหรับใครที่อยากกินอาหารเมนูเอเชีย ก็ต้องไปค้นหาอาหารอร่อย ๆ กันในย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งมีร้านอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกชิมลิ้มลองมากมาย โดยเฉพาะอาหารแนวสตรีตฟู้ด ที่ตั้งเรียงรายขายกันริมถนนยามค่ำคืน เดินเลือกกิน เลือกชิมกันจนจุใจ หรือจะซื้อพวกของแห้ง และวัตถุดิบทำอาหารก็มีให้ซื้อในราคาย่อมเยา เหมือนเดินตลาดในเอเชีย
ส่วนถ้าอยากนั่งจิบกาแฟ กินอาหารอิตาเลียน เดินไปนิดเดียวก็จะถึงย่านลิตเติล อิตาลี ซึ่งมีร้านอาหารชิล ๆ ให้แวะพักนั่งเล่นเพลิน ๆ พร้อมกับมุมถ่ายรูปแบบยุโรปน้อย ๆ เหมาะกับสายเซลฟี่
28. พิพิธภัณฑ์โซโลมอน อาร์. กุกเกนไฮม์ (Solomon R. Guggenheim Museum)
พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของนิวยอร์ก ตั้งอยู่บนถนนฟิฟท์ อเวนิว ช่วงที่ตัดกับถนน E 88th St นอกจากจะโดดเด่นในด้านการจัดแสดงผลงานศิลปะแล้ว ก็ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยแฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ (Frank Lloyd Wright) สถาปนิกชื่อดังของโลกในศตวรรษที่ 20 เป็นอาคารสีขาว รูปทรงคล้ายกับวงแหวนที่ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เป็นทรงกระบอก ด้านในจัดแสดงผลงานศิลปะอิมเพรสชันนิสม์ ศิลปะอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง ศิลปะสมัยใหม่ยุคแรก และศิลปะร่วมสมัย ซึ่งจะมีผลงานที่น่าสนใจมาจัดแสดงตลอดทั้งปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ guggenheim.org
29. ตึกไครสเลอร์ (Chrysler Building)
ตึกสูงใจกลางมหานครนิวยอร์ก ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของเกาะแมนฮัตตัน บริเวณจุดตัดของถนน 42 Avenue และถนนเลกซิงตัน (Lexington Avenue) มีความสูงมากถึง 318.9 เมตร โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอาคารที่สร้างแบบอาร์ตเดโค (Art Deco) ด้านบนเป็นยอดแหลมสวยงามแปลกตา ซึ่งยามค่ำคืนจะเปิดไฟสว่างไสว มองเห็นอย่างชัดเจนทั่วทั้งนิวยอร์ก
30. New York Helicopter Tour
ประสบการณ์ที่น่าสนใจที่ไม่อยากให้พลาดในนิวยอร์ก ก็คือ การนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวมุมสูงของมหานครนิวยอร์ก ซึ่งจะมีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง จะชมเฉพาะในเกาะแมนฮัตตันก็ได้ หรือจะไปชมทางฝั่งแม่น้ำแมนฮัตตัน เกาะลิเบอร์ตี้ ไปทางฝั่งแกรนด์ไอซ์แลนด์ แม่น้ำไนแองการา ใช้เวลาราว ๆ ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น สามารถเก็บภาพความประทับใจได้ซ้ำใคร
อันที่จริงนิวยอร์กยังมีอีกหลายสถานที่หลายมุมน่าเที่ยวให้ได้ไปเที่ยวชม ถ้าหากว่ามีโอกาสไปแล้ว แนะนำให้วางแผนท่องเที่ยวก่อนเดินทางสักนิด ลองจับวางสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ไว้ไปเที่ยวในวันเดียวกัน ก็จะสามารถเที่ยวนิวยอร์กได้ครบ มีเวลาไม่มากก็เก็บที่เที่ยวเด่น ๆ ได้หลายแห่งเลยล่ะ หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวนิวยอร์กได้บ้างไม่มากก็น้อยนะ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวสหรัฐอเมริกา ที่เที่ยวต่างประเทศ อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- 15 ที่เที่ยวอเมริกา ปักหมุดแลนด์มาร์กเด่น ๆ ไปแล้วต้องเช็กอิน
- วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา รวมขั้นตอนและเอกสารต่าง ๆ ทำเองได้ไม่ยากอย่างที่คิด
- 10 เรื่องน่ารู้เยลโลว์สโตน พื้นที่สวยอัศจรรย์ ซ่อนอันตรายใต้พิภพ
- 14 ที่เที่ยวซานฟรานซิสโก เมืองในฝันที่ขึ้นชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
- รวมที่เที่ยวต่างประเทศ ที่เที่ยวญี่ปุ่น ที่เที่ยวเกาหลี และอื่น ๆ