x close

เปิดวาร์ปที่เที่ยวจอร์เจีย ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่ายาวนาน 365 วัน

          รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจีย ประเทศที่มีบรรยากาศสวยงาม โดดเด่นด้วยเทือกเขาคอเคซัสสูงใหญ่กับความอลังการของธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมบ้านเรือนเก่าแก่ที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายของยุโรปและโซเวียตไว้ได้อย่างลงตัว น่าสนใจด้วยเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ยาวนานได้ถึง 365 วัน
          จอร์เจีย (Georgia) เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่อยากจะนำเสนอให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้ลองไปสัมผัสกัน เพราะมีบรรยากาศสวยงาม โดดเด่นทั้งที่เที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรม มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายแบบให้เลือกสรร อีกทั้งยังเที่ยวง่าย ไม่ต้องขอวีซ่า มีพาสปอร์ตเพียงใบเดียวบวกกับเงินก็สามารถไปเที่ยวได้แล้ว ถ้ามีงบประมาณมากหน่อยก็สามารถอยู่เที่ยวได้ยาว ๆ นานถึง 365 วัน เลยทีเดียว จอร์เจียจะงดงามและน่าเที่ยวขนาดไหน บรรยากาศจะสวยงามราวกับสวรรค์มากน้อยเพียงใด ไปดู ที่เที่ยวจอร์เจีย เหล่านี้กัน
ที่เที่ยวจอร์เจีย

ทำความรู้จักจอร์เจีย

  • จอร์เจีย มีชื่อเรียกทางการว่า สาธารณรัฐจอร์เจีย ตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย ทางตะวันออกของทะเลดำในคอเคซัสตอนใต้ ในอดีตเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต มีอาณาเขตทางเหนือจรดประเทศรัสเซีย ทางใต้จรดประเทศตุรกี ประเทศอาร์มีเนีย และประเทศอาเซอร์ไบจาน
     
  • เมืองหลวงชื่อ "กรุงทบิลิซี" (Tbilisi) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,500 ปี
     
  • ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ 75% นับถือศาสนาอิสลาม 11% อื่น ๆ 14%
     
  • จอร์เจียเป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า โดยสามารถพำนักอยู่ได้ 365 วัน
     
  • สภาพอากาศของจอร์เจียมีความหลากหลายพอสมควร มีการแบ่งภูมิอากาศเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ ทางฝั่งตะวันตกและทางฝั่งตะวันออกของประเทศ โดยมี Greater Caucacus Mountains, Lesser Caucacus Mountains และทะเลดำเป็นตัวแปรหลักของสภาพอากาศ โดยฝั่งทางตะวันตกอากาศจะอบอุ่นมากกว่าทางด้านตะวันออกเพราะอยู่ติดกับทะเลดำ

    - ฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ราว ๆ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-24 องศาเซลเซียส
    - ฤดูร้อนจะอยู่ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 16-31 องศาเซลเซียส
    - ฤดูใบไม้ร่วงอยู่ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 4-20 องศาเซลเซียส
    - ฤดูหนาวอยู่ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -3 ถึง 8 องศาเซลเซียส

ที่เที่ยวจอร์เจีย

  • อาหารจอร์เจีย คนที่นี่ส่วนใหญ่กินแป้งและผักผลไม้ท้องถิ่น โดยเฉพาะถั่วและองุ่น เพราะจอร์เจียมีแหล่งปลูกองุ่นเพื่อการทำไวน์กว้างขวางมาก อาหารที่ควรลิ้มลองก็คือ Khachapuri เป็นขนมปังอบโอ่งรูปร่างคล้ายเรือเนื้อนุ่มกำลังดี ยัดไส้ข้างในด้วยเนยแข็ง มีชีสและไข่อยู่ตรงกลาง เมนูต่อมาคือ Khinkali รูปร่างหน้าตาคล้ายกับเสี่ยวหลงเปา สอดไส้เนื้อต่าง ๆ ที่ผสมกับหัวหอม พริก พริกไทย เกลือ และยี่หร่า บางสูตรก็จะใส่ผักชีหรือพาสลีย์

    ส่วนเมนูของหวานในตำนานก็คือ Churchkhela รูปร่างหน้าตาของมันอาจทำให้นักท่องเที่ยวคิดว่ามันคือของคาว เพราะมีลักษณะคล้ายกับไส้กรอก แต่จริง ๆ แล้วมันคือถั่วอบแห้งต่าง ๆ ที่เคลือบด้วยน้ำองุ่นหรือน้ำผลไม้ที่เคี่ยวจนเหนียว เอาไว้กินกับชาหรือกาแฟในช่วงหน้าหนาว
     

  • ค่าเงินของจอร์เจีย 1 ลารีจอร์เจีย = 13.48 บาท (ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2566) ค่าครองชีพไม่แพงมากนัก อย่างอาหารในแมคโดนัลด์จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 13 ลารีจอร์เจีย

สถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจีย

1. ทบิลิซี (Tbilisi)

          เมืองหลวงที่งดงามของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Mtkvari สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 มีเสน่ห์ด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ซึ่งผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมของยุคกลาง, สถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิก, สถาปัตยกรรมโบซาร์, สถาปัตยกรรมสตาลิน และสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภายในเมืองมีตึกและอาคารสวย ๆ ให้เดินเที่ยวถ่ายรูปแทบจะทุกมุมตึก บรรยากาศไม่แตกต่างจากเมืองสำคัญในยุโรปเลยทีเดียว
ที่เที่ยวจอร์เจีย

          สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น Tsminda Sameba Cathedral, Mother of Georgia (Kartlis Deda), Peace Bridge, Rike Park, Clock Tower, Narikala Fortress, Kashveti Church, Jvaris Mama Church, Ceremonial Palace of Georgia, Liberty Square (Tavisuplebis Moedani) และ Tbilisi sea เป็นต้น
ที่เที่ยวจอร์เจีย

ภาพจาก Ilya Zuskovich / Shutterstock.com

2. Mtskheta

          เมืองหลวงเก่าแก่ของจอร์เจีย ห่างจากเมืองทบิลิซีราว ๆ 20 กิโลเมตรเท่านั้น ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล มีลักษณะเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ในหุบเขาริมแม่น้ำ Mtkvari รายล้อมไปด้วยไร่องุ่นเพื่อการทำไวน์พื้นที่กว้างขวาง และงดงามไปด้วยอาคารบ้านเรือนและโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุคกลาง โดยเฉพาะโบสถ์ที่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมถึง 3 แห่ง ได้แก่ Svetitskhoveli Cathedral, Samtavro Church and Monastery และ Mtskhetis Jvari นอกจากนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Shio-Mgvime monastery, Chateau Mukhrani Wine Tour, Bebris Tsikhe Fortress และ Gujari Restaurant Museum เป็นต้น
ที่เที่ยวจอร์เจีย

3. ทะเลสาบทบิลิซี (Tbilisi Sea)

          ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองทบิลิซี เป็นทะเลสาบเทียมขนาดใหญ่ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1953 มีพื้นที่กว้างขวาง ความยาวประมาณ 8.75 กิโลเมตร กว้างประมาณ 2.85 กิโลเมตร รายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแนวภูเขาและป่าไม้สีเขียว บรรยากาศสบาย ๆ เป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหน้าร้อน เพราะจะมีกิจกรรมกลางแจ้งทางน้ำให้ร่วมสนุกมากมาย มีพื้นที่ให้นั่งเล่นปิกนิก ออกกำลังกาย ถ่ายรูปสวย ๆ ได้ไม่ซ้ำมุม
ที่เที่ยวจอร์เจีย

4. หมู่บ้านจูทา (Juta)

          หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาในเทือกเขาคอเคซัส ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจอร์เจีย มีระดับความสูงอยู่ที่ราว ๆ 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาอันยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งมีเพียงทุ่งหญ้าสีเขียวปกคลุมไปทั้งเทือกเขาในฤดูร้อน ด้านหลังเป็นยอดเขารูปร่างสวยแปลกตามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีแม่น้ำไหลผ่านถึง 2 สาย คือ Jutistskali River และ Chaukhistskali River บรรยากาศราวกับสวรรค์น้อย ๆ เลยทีเดียว
ที่เที่ยวจอร์เจีย

          ในช่วงหน้าร้อนนักท่องเที่ยวมากมายจะพากันมาเดินป่าสัมผัสธรรมชาติ บ้างก็นอนเต็นท์ บ้างก็พักเกสต์เฮาต์กระท่อมหลังเล็ก ๆ กลางหุบเขากับวิวสวยหลักพันล้านที่อยู่รายล้อมรอบตัว
ที่เที่ยวจอร์เจีย

5. Ushguli

          หมู่บ้านมรดกโลกในเทือกเขาคอเคซัส ตั้งอยู่ในเขต Svaneti โดยหมู่บ้านจะตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา Shkhara สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,100 เมตร ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่สูงที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก มีวิวทิวทัศน์สวยตระการตา บ้านเรือนเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 มีทั้งหมดราว ๆ 70 ครัวเรือน ชาวบ้านยังใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายและรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996
ที่เที่ยวจอร์เจีย

6. Gergeti Trinity Church

          โบสถ์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจอร์เจีย ตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่า 2,170 เมตร ภายใต้ยอดเขา Kazbegi อันเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัส ใกล้กับหมู่บ้าน Gergeti ในเมือง Stepantsminda (หรือเมือง Kazbegi) เขตมซเคตา-มเตียเนตี (Mtskheta-Mtianeti) ทางตอนเหนือของเมืองทบิลิซี โดยตัวโบสถ์นั้นสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 เป็นคริสตจักรที่ผสมผสานแบบออร์ทอดอกซ์ และ Apostolic Church ซึ่งความงดงามของที่นี่คือ ตัวโบสถ์ที่ตั้งอยู่เหนือสุดของภูเขา โดยมีด้านหลังเป็นแนวยอดเขา Kazbegi อันยิ่งใหญ่ ทำให้โบสถ์ที่ดูใหญ่โตโอ่อ่าเล็กลงไปถนัดตา การขึ้นไปเที่ยวชมโบสถ์จะต้องนั่งรถโฟล์วีลขึ้นไป หรือเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ใช้เวลาราว ๆ 1-2 ชั่วโมง

ที่เที่ยวจอร์เจีย

7. Uplistsikhe

          เมืองโบราณที่งดงามอีกแห่งของจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำ Mtkvari ในเขตชีดาคาร์ตลี (Shida Kartli) มีลักษณะเป็นหมู่บ้านแบบยุคหิน สร้างมาตั้งแต่ช่วงต้นของยุคหินเหล็ก มีอายุมากกว่า 3,000 ปี โดยบ้านของที่นี่จะสร้างในภูเขา โดยขุดเจาะภูเขาหินให้กลายเป็นที่พักอาศัยและสถานที่สำคัญของชุมชน เช่น โบสถ์ รายล้อมด้วยวิวของเทือกเขาและแม่น้ำสวย หาชมได้ยากในยุคปัจจุบัน
ที่เที่ยวจอร์เจีย

8. Vardzia

          อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวโบราณอันน่าทึ่งของจอร์เจีย มีลักษณะเป็นอารามถ้ำหินที่อยู่ริมหน้าผาของภูเขา Erusheti ใกล้กับแม่น้ำ Kura ในเมือง Aspindza เขตซัมซเค-จาวาเคตี (Samtskhe-Javakheti) สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ความน่าอัศจรรย์ของที่นี่จะคล้าย ๆ กับ Uplistsikhe ก็คือ มีการขุดเจาะภูเขาให้สามารถอยู่อาศัยด้านในได้ มีทั้งหมด 19 ชั้น แบ่งเป็นห้องเล็กห้องน้อยมากกว่า 400 ห้อง โดยมี Church of the Dormition เป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญ ซึ่งภายในโบสถ์แห่งนี้ก็ยังมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ซ่อนตัวอยู่ด้วย
ที่เที่ยวจอร์เจีย

9. Borjomi

          เมืองตากอากาศเล็ก ๆ ริมแม่น้ำ Mtkvari ในเขตซัมซเค-จาวาเคตี (Samtskhe-Javakheti) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำแร่มากที่สุดของจอร์เจีย เพราะมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ดีที่สุด เมื่อบวกกับธรรมชาติที่งดงามและอุดมสมบูรณ์จึงทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีโรงแรมหลากหลายสไตล์เปิดให้บริการบ่อน้ำพุร้อน อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

          นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้ไปเที่ยวชมมากมาย เช่น Firuza Blue Palace, Mineral Water Park, Borjomi Museum Of Local Lore, Gogia’s Castle, Peter’s Castle, Romanovs’ Palace, Borjomi-Kharagauli National Park, Timotesubani Monastery-The Cathedral Of Holy Virgin, The Green Monastery, Kvabiskhevi Church Of The Assumption, Plateau Wheel, Plato Ropeway และ Fairy Land เป็นต้น
ที่เที่ยวจอร์เจีย

ภาพจาก eFesenko / Shutterstock.com

10. Batumi

          เมืองสุดศิวิไลซ์ ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจอร์เจีย ตั้งอยู่ในเขตสาธารณรัฐปกครองตนเองอัดจารา (Adjara) เป็นเมืองริมชายฝั่งทะเลดำบริเวณเชิงเขาคอเคซัส มีการเจริญเติบโตอย่างไม่หยุดหย่อน ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่ไว้ได้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวจะเดินสัมผัสกับบรรยากาศของเมืองประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็จะเห็นความอลังการของอาคารสูงเสียดฟ้าและสถาปัตยกรรมแบบสัญลักษณ์อันสวยงามแปลกตา มีหาดทรายสวยงามกว้างใหญ่ พร้อมทั้งที่เที่ยวเอนเตอร์เทนเมนต์มากมาย ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ Ali & Nino Statue หรือรูปปั้นแห่งความรัก เป็นผลงานประติมากรรมรูปชาย-หญิงขนาดใหญ่ริมชายฝั่งทะเล ซึ่งออกแบบให้เป็นโครงสร้างเหล็กซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สามารถเคลื่อนซ้อนชนกันได้ โดยจะเคลื่อนเข้าหากันทุกวันในเวลา 1 ทุ่มตรง
ที่เที่ยวจอร์เจีย

          สถานที่ท่องเที่ยว Batumi ที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น Batumi Beache, Kvariati, Batumi Boulevard, Batumi Botanical Garden, Statue of Medea, Chacha Tower, Ferris wheel, Alphabet Tower, Dolphinarium, Piazza Batumi, Makhuntseti Waterfall, Argo Entertainment Center And Batumi Cable Car, Gonio-Apsaros Fortress, Skhalta Monastery, Museum of Adjara, Dancing Fountains, Batumi Lunapark และ Aqua Park Batumi เป็นต้น
ที่เที่ยวจอร์เจีย

ภาพจาก Tonu Alina / Shutterstock.com

11. Ski Resort

          ด้วยความที่ภูมิประเทศของจอร์เจียนั้นตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาคอเคซัสพอดิบพอดี จึงทำให้ที่นี่มีสกีรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง กระจายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็ต้องยกให้เมือง Stepantsminda ซึ่งอยู่บริเวณเชิงเขาคอเคซัสที่มีความสูงมากกว่า 2,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะบริเวณ Gudauri Ski Resort ที่มีลานเล่นสกีกว้างใหญ่ และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน รองลงมาก็จะเป็น Bakuriani ในเมือง Borjomi มีความสูงราว ๆ 1,700 เมตร จากระดับน้ำทะเล วิวสวยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่น้อยหน้าไปกว่า Gudauri ส่วนสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Mestia,  Adjara, Betania และ Svaneti เป็นต้น

ที่เที่ยวจอร์เจีย

          นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมือง ๆ และหลายสถานที่ท่องเที่ยวของจอร์เจียที่มีความสวยงามราวกับสวรรค์ และยังน่าสนใจไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมให้เราไปเยือนไม่รู้เบื่อ รับรองว่าถ้าได้ลองมาเที่ยวที่นี่สักครั้ง จะแทบไม่อยากกลับบ้านกันเลยทีเดียว :)

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดวาร์ปที่เที่ยวจอร์เจีย ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่ายาวนาน 365 วัน อัปเดตล่าสุด 3 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:11:17 135,158 อ่าน
TOP