x close

นั่งรถม้า ขี่ช้าง ชมเมืองลำปาง

ลำปาง

ลำปาง

ลำปาง

ลำปาง

ลำปาง


ลำปาง (ททท.)

          "ถ่านหินลือชา รถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ลือโลก"

         ลำปาง เดิมชื่อเขลางค์นคร เป็นเมืองหลวงคู่แฝดกับอาณาจักรหริภุญไชยซึ่งเจ้าเมืองทั้งสองเป็นโอรสแฝดของพระนางจามเทวีนับเป็นอีกจังหวัดในภาคเหนือที่เป็นแหล่งอารยธรรมล้านนาไทยที่น่าสนใจทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณมีวัดวาอารามและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น มีรถม้าที่ไม่เหมือนใครมีอาหารการกินแสนอร่อย มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายทำให้ ลำปาง กลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตนเอง เช่นมีเครื่องปั้นดินเผาที่ทำจากดินขาวขึ้นชื่อกับถ้วยชามตราไก่ที่เห็นกันจนคุ้นชิน

         แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยังคงความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด ทั้ง ถ้ำ น้ำตกมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และบ่อน้ำร้อนสิ่งเหล่านี้ทำให้จังหวัดลำปางกลายเป็นจุดหมายที่นักเดินทางทั้งหลายต้องแวะเที่ยวชม มิใช่เป็นแค่เมืองผ่านอีกต่อไป

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

          ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลำปางด้านตะวันตกเฉียงใต้หลักเมืองทำด้วยไม้สัก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้วโดยหลักที่หนึ่งสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2400 หลักที่สอง พ.ศ. 2416และหลักที่สาม พ.ศ. 2429 ต่อมาในปี พ.ศ. 2440เมื่อสร้างศาลากลางจังหวัดขึ้น ได้นำหลักเมืองมาไว้ที่บริเวณหน้าศาลากลางและได้มีการสร้างมณฑปครอบหลักเมืองทั้งสามในปี พ.ศ. 2511 เปิดทุกวันเวลา06.00 - 17.00 น.

พระธาตุลำปางหลวง

วัดพระธาตุลำปางหลวง

          ตั้งอยู่ที่ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี  ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทยงดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายได้แก่ พระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลูด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้วส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนาภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำมีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่าง ๆลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อพระธาตุหริภุญไชย และพระบรมธาตุจอมทองภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวาพระศอด้านหน้าและด้านหลังที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระธาตุมีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่

          วิหารหลวงวิหารขนาดใหญ่ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2019 โดยเจ้าหมื่นคำเป๊กภายในมีซุ้มปราสาททองเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทองด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจบนแผงไม้คอสองมีภาพจิตรกรรมเก่าแก่งดงามเรื่องทศชาติและพรหมจักรวิหารพระพุทธ ไม่ ปรากฏว่าสร้างเมื่อใด และใครเป็นผู้สร้างแต่ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปีเดิมเป็นวิหารเปิดโล่งหน้าบันเป็นลายดอกไม้ติดกระจกสีภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่เต็มอาคารก่ออิฐถือปูน ศิลปะเชียงแสน และยังปรากฏเงาพระธาตุภายในวิหารอีกด้วย

          เมื่อหันหน้าเข้าหา วิหารหลวง ด้านขวามือ คือ วิหารน้ำแต้ม หรือวิหารภาพเขียนสี(แต้ม แปลว่า ภาพเขียน) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2044เป็นวิหารเปิดโล่งที่เก่าแก่ที่สุดอีกหลังหนึ่งทางภาคเหนือคงรูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม ภายในไม่มีฝ้าเพดานกำแพงด้านพระประธานเขียนภาพลายทองบนพื้นรักแดงมีภาพจิตรกรรมศิลปะล้านนาบนแผงไม้คอสองที่กล่าวกันว่าเก่าแก่ที่สุดและหลงเหลือเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21 ลงมาแต่ปัจจุบันภาพเขียนลบเลือนไปมาก และประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 1.25 เมตร สูง 1.25 เมตร

          ซุ้มพระบาท สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์สร้างเมื่อ พ.ศ. 1992 ภายในมองเห็นแสงหักเหปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับแต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น กุฏิพระแก้ว เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างเมื่อใด แต่ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 400ปี มาแล้ว วิหารพระเจ้าศิลา เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าศิลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงละโว้เมื่อ พ.ศ. 1275 พระบิดาของพระนางจามเทวีมอบให้ประดิษฐานไว้ ณ ที่นี้พิพิธภัณฑ์ รวบรวมศิลปวัตถุจากที่ต่าง ๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น สังเค็ดธรรมาสน์ คานหาบ ตู้พระไตรปิฎก เป็นต้น

          นอกจากนี้ วัดพระธาตุลำปางหลวงยังเป็นที่ประดิษฐาน "พระแก้วดอนเต้า"(พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนาสลักด้วยหยกสีเขียวมีงานนมัสการพระแก้วดอนเต้าในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี ทั้งนี้วัดพระธาตุลำปางหลวงเปิดทุกวัน เวลา 07.30-17.00 น.

สถานีรถไฟนครลำปาง

          ตั้งอยู่อำเภอเมือง สถานีแห่งนี้เปิดรับขบวนรถไฟโดยสารครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่6 เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459 ซึ่งตรงกับวันปีใหม่ไทยในยุคนั้นสมัยนั้นมีเจ้ากรมรถไฟเป็นวิศวกรชาวเยอรมัน เมื่อแรกเริ่มมีรถไฟสายเหนือสถานีรถไฟนครลำปางคือจุดสิ้นสุดของเส้นทาง สถานีนี้ตั้งอยู่สุดถนนสุเรนทร์บริเวณสี่แยกบ้านสบตุ๋ยอันเป็นจุดเชื่อมต่อกับถนนสามสายแรกในภาคเหนือของประเทศไทย

          ต่อมาพื้นที่นาบริเวณชานเมืองได้เปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่เมืองอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับความเจริญที่เพิ่มทวีมากขึ้นมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟด้วยการขุดเจาะอุโมงค์ขุนตาลผ่านภูเขาและไปถึงนครเชียงใหม่ใน พ.ศ. 2464นครลำปางจึงเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าจากกรุงเทพฯไปยังภาคเหนือและลำเลียงสินค้าที่จำเป็นจากภาคเหนือมายังกรุงเทพฯส่งผ่านให้ย่านการค้าสบตุ๋ยแห่งนี้มีความเจริญอย่างมากอาคารโบราณเหล่านี้ยังคงหลงเหลือเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมที่คงรายละเอียดของความสวยงามไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลำปางโดยแท้

เขื่อนกิ่วลม

          อยู่ในเขตอำเภอเมือง และอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทแต่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน บริเวณเหนือเขื่อนเป็นอ่างเก็บน้ำเหมาะแก่การล่องเรือหรือแพเพราะมีทัศนียภาพสวยงาม การล่องแพใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวันมีสถานที่น่าสนใจ เช่น แหลมชาวเขื่อน ผาเกี๋ยง ผางาม ทะเลสาบสบพุหมู่บ้านชาวประมง บ้านสา ฯลฯ ติดต่อบริการล่องแพได้ที่บริเวณเขื่อนหน่วยงานราชการสามารถทำหนังสือขออนุญาตเข้าพักบ้านพักรับรองของกรมชลประทานซึ่งต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน โทรศัพท์ 0 5422 3772บริเวณสโมสรมีสนามกอล์ฟ 18 หลุม เปิดบริการแก่บุคคลภายนอก โทรศัพท์ 0 54255195 www.rid.go.th
 
          สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปหากต้องการพักค้างคืนสามารถทำได้สองลักษณะ คือล่องแพไปพักที่แพชาวเขื่อน-กิ่วลมรีสอร์ทซึ่งมีที่พักเป็นบังกะโลตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ โทรศัพท์ 0 5422 3772,0 5433 4393 (หลัง 18.00 น.) และ ล่องแพและค้างคืนบนแพวังแก้วซึ่งเป็นแพติดเครื่องยนต์ หรือค้างคืนที่เกาะวังแก้วรีสอร์ท ติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 0 5422 3733, 0 5432 5645, 08 9854 1293

ลำปาง

วัดศรีชุม

          ถนนศรีชุม-แม่วะ ตำบลศรีชุม อำเภอเมืองเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวัดพม่าที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 31วัด สร้างใน พ.ศ. 2433 โดยคหบดีพม่าชื่อ อูโยซึ่งติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานป่าไม้ในประเทศไทยเมื่อตนเองมีฐานะดีขึ้นจึงต้องการทำบุญโดยสร้างวัดศรีชุมขึ้นในตำบลสวนดอกจุดเด่นของวัดนี้เดิมอยู่ที่ "พระวิหาร"ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้มีศิลปะการตกแต่งแบบล้านนาและพม่าหลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามมากแต่เป็นที่น่าเสียดายว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้พระวิหารทั้งหลังเมื่อตอนเช้าตรู่วันที่ 16 มกราคม 2535คงเหลือเพียงไม้แกะสลักตรงซุ้มประตูทางขึ้นวิหารเท่านั้นเป็นลวดลายพรรณพฤกษาฉลุโปร่งปัจจุบันวัดได้รับการบูรณะขึ้นใหม่และยังมีชิ้นส่วนเครื่องประดับอาคารที่ถูกไฟไหม้ไปจัดแสดงไว้ด้านหลังวิหารวัดศรีชุมได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2524
    
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

          อยู่ในอำเภอเมืองปานเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมสูงและเป็นแหล่งที่ดำเนินงานตามแนวพระราชดำรัสในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติมาประยุกต์การดำเนินงานอย่างสอดคล้องเป็นประโยชน์ โดย อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนมีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่มและอำเภอเมืองลำปางมีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ592 ตารางกิโลเมตร ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 28กรกฎาคม 2531 เป็นแนวแบ่งเขตระหว่างลำปางและเชียงใหม่ฤดูที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและมีอากาศเย็นสบายคือเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์

          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่ บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ จำนวน 9บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 ไร่ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปและมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณ น้ำพุร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ย73 องศาเซลเซียส เป็นที่นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อยส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า

          น้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปีมีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ มี 6 ชั้นอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตรมีทางเดินไปสะดวกและสามารถเดินทางจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตกได้น้ำตกแม่มอญ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงจากชะง่อนผาสูงลงสู่หุบเหวเบื้องล่างน้ำจะตกลงมาเป็นชั้น ๆ สวยงาม ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร น้ำตกแม่ขุนอยู่ใกล้กับน้ำตกแม่มอญ มีลักษณะเป็นน้ำตกสายยาว สูงประมาณ 100 เมตรไหลลงมาบรรจบกับน้ำตกแม่มอญต้องเดินทางจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตรนักท่องเที่ยวควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทาง ถ้ำผางามห่างจากที่ว่าการอำเภอวังเหนือ 8 กิโลเมตร อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯที่แจ้ซ้อน 3 (ผางาม) หน่วยนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 60 กิโลเมตรมีถ้ำที่สามารถเข้าไปศึกษาและท่องเที่ยวได้ เช่น ถ้ำฟ้างาม ถ้ำน้ำ ถ้ำหม้อเป็นต้น

          ชมดอกเสี้ยวบาน ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกเสี้ยวจะบานเต็มผืนป่านักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมดอกเสี้ยวบานได้ตามเส้นทางแจ้ซ้อน-บ้านป่าเหมี่ยง เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร แอ่งน้ำอุ่น อยู่ติดกับบ่อน้ำพุร้อนเป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของน้ำพุร้อนและน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อนทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่อาบ

          ห้องอาบน้ำแร่ มีทั้งห้องอาบแช่ สำหรับ 3-4 คนห้องรวมแบบตักอาบและบ่อสำหรับแช่อาบกลางแจ้งน้ำแร่ที่ใช้ต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิน้ำแร่ประมาณ 39-42องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถใช้แช่อาบได้ ประโยชน์ของการอาบน้ำแร่คือช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคันและยังช่วยบรรเทาอาการของโรคกระดูกแต่น้ำแร่จากที่นี่ไม่สามารถใช้ดื่มได้เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดสูงกว่ามาตรฐาน

          บ้านพักในอุทยานฯ มี 11 หลัง พักได้หลังละ 6-20 คนห้องน้ำสะอาดและมีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อมมีสถานที่กางเต็นท์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ บริการ เช่น ไฟฟ้าเตาประกอบอาหาร ค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาท อุทยานฯมีร้านอาหารสวัสดิการบริการ รายละเอียดติดต่อ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร.05438 0000, 08 9851 3355 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760-2www.dnp.go.th
 
ลำปาง

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และ สวนป่าทุ่งเกวียน

          ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ตำบลเวียงตาลอยู่ในความดูแลของอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้(ออป.) แต่เดิม ออป. เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกโดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่าและเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงานศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วยและที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย

          ศูนย์อนุรักษ์ฯ อยู่ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ใน พ.ศ. 2512ออป.ได้จัดสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ ที่บ้านปางหละ อำเภองาวแต่เนื่องจากมีนโยบายปิดป่าทำให้ช้างว่างงานศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกเปลี่ยนมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วยต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 ออป. ได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นและจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ได้แก่…

          การแสดงช้างซึ่ง มี 2 รอบในวันธรรมดา เวลา 10.00 น. และ 11.00 น.สำหรับวันเสาร์, อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เพิ่มรอบ 13.30 น.มีการอาบน้ำช้างก่อนเวลาแสดง คือ 09.45 น. สำหรับวันธรรมดา และเวลา 13.15น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาทเด็ก 40 บาท ส่วนช้างแท็กซี่ หรือขี่ช้างชมธรรมชาติ ขี่ช้างท่องไพรมีทุกวัน เวลา 08.00-15.30 น.นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้หลายเส้นทาง สอบถามรายละเอียดโทรศัพท์ 0 5424 7871, 0 5424 7979, 0 5422 8108
 
          ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards)ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ. 2541 ปัจจุบันศูนย์ฯมีโครงการโรงเรียนฝึกควาญช้างเพื่อฝึกควาญหรือผู้ที่ประสงค์จะเป็นควาญให้สามารถดูแลช้างได้อย่างถูกต้องมีชาวต่างชาติให้ความสนใจมาสมัครเป็นนักเรียนหลายคน และมีกิจกรรมโฮมสเตย์ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติเรียนรู้วิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างช้างกับคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด มีการจัดแพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน ราคา8,000 บาท 2 วัน 1 คืน ราคา 5,500 บาท โดยรวมค่าอาหาร (ประกอบอาหารเองได้)บ้านพักโฮมสเตย์มีทั้งหมด 3 หลัง และผู้ประสงค์บริจาคเงินช่วยเหลือช้างไทยติดต่อได้ที่สถาบันคชบาลแห่งชาติโทรศัพท์ 0 5424 7876 www.thailandelephant.org
 
          นอกจากเรื่องท่องเที่ยวแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พลังงานที่ใช้ภายในศูนย์ฯเป็นพลังงานทดแทนในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯมีก๊าซชีวภาพจากมูลช้างใช้ในการหุงต้ม และกระแสไฟฟ้าผลิตจากเซลล์แสงอาทิตย์
 
สวนป่าทุ่งเกวียน

          เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวลำปาง มีป่าสนเมืองหนาวและพันธุ์ไม้นานาชนิดทั้งไม้ดอกไม้ใบที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งไม้จำพวกตะบองเพชร ปาล์มตลอดจนพืชสมุนไพรต่าง ๆ นักท่องเที่ยวสามารถแคมปิงที่นี่ได้ช่วงที่สวยที่สุดเหมาะแก่การพักแรมคือเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบัวตองกำลังบานเนื่องจากจังหวัดลำปางมีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะจึงมีอากาศที่ร้อนกว่าแม่ฮ่องสอน ดอกบัวตองที่ลำปางจึงบานเร็วกว่าที่ดอยแม่อูคอประมาณ 15 วันประมาณเดือนตุลาคมมีการจัดกิจกรรมทุ่งเกวียนเมาเท่นไบค์ สอบถามรายละเอียดโทรศัพท์ 08 1885 3697
 
          ภายในบริเวณสวนป่าทุ่งเกวียนยังมี สวนสัตว์เปิดนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด เช่น เก้ง กวาง เนื้อทรายนกยูง เป็นต้นและทางสวนป่าทุ่งเกวียนยังมีพันธุ์ไม้ที่หายากไว้จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวด้วย ส่วนการเดินทาง ห่างจากตัวเมืองลำปาง 24 กิโลเมตร ริมทางหลวงหมายเลข11 สายลำปาง-ลำพูน บริเวณกิโลเมตรที่ 28-29 หากโดยสารรถประจำทางขึ้นรถที่จะไปเชียงใหม่จากสถานีขนส่งลำปาง มาลงหน้าศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
   
ลำปาง

สะพานรัษฎาภิเศก

          สะพานรัษฎาภิเศกหรือ สะพานขาว ตั้งอยู่ที่ถนนรัษฎา อำเภอเมืองเจ้าผู้ครองนครเป็นผู้ที่ตั้งชื่อจากพิธีเฉลิมฉลองรัษฎาภิเษกสมัยรัชกาลที่5สะพานรัษฎาเป็นสะพานร่วมสมัยกับยุคอารยธรรมรถไฟมีอายุผ่านสงครามโลกครั้งที่1 และ 2 มาแล้วและรอดพ้นจากการโจมตีทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรมาได้ด้วยการทาสีพรางตาและด้วยการอ้างว่าสะพานแห่งนี้ไม่มีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของนางลูซีสคาร์ลิง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวิชานารีซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกองทัพสัมพันธมิตรในขณะนั้น
 
          สะพานรัษฎาภิเศกเดิมเป็นสะพานไม้เสริมเหล็กชำรุดผุพังจึงมีการก่อสร้างใหม่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2460เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความคงทนมากกว่าสะพานรุ่นเดียวกันที่ไม่เหลืออยู่แล้วในปัจจุบันที่บริเวณสะพานมีเครื่องหมายไก่ขาวและครุฑหลวงประดับไว้ตรงหัวสะพาน
   
ลำปาง

วัดเจดีย์ซาวหลัง

          ตั้งอยู่ในตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง  ห่างจากตัวเมือง 1.5 กิโลเมตรตามถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม คำว่า "ซาว" แปลว่า ยี่สิบ คำว่า "หลัง" แปลว่าองค์ ฉะนั้น วัดเจดีย์ซาวหลัง จึงแปลได้ว่า วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญไชยที่องค์พระเจดีย์ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปี

          จุดเด่นของวัด คือ องค์พระธาตุเจดีย์ซาว ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่าเชื่อกันว่าหากใครนับได้ครบ 20 องค์ถือว่าเป็นคนมีบุญข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิศิลปะเชียงแสน ชาวบ้านเรียกว่า "พระพุทธรูปทันใจ"พระอุโบสถหลังใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยพุทธลักษณะงดงามเป็นพระประธาน บานประตูทั้งสามเป็นของโบราณเขียนลวดลายรดน้ำละเอียดสวยงามเสาซุ้มประตูหน้าต่างประดับลวดลายกระจกสีเป็นลักษณะศิลปะสมัยใหม่และที่ศาลาการเปรียญเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ด้านหลังพระอุโบสถเป็นพิพิธภัณฑ์สถานเขลางค์นคร แสดงโบราณวัตถุที่ชาวบ้านนำมาถวาย เมื่อ พ.ศ.2526 ชาวบ้านได้ขุดพบพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์หนัก 100 บาทสองสลึงมามอบให้แก่ทางวัดซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ชื่อว่า "พระแสนแซ่ทองคำ"เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะสมัยล้านนา อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้วครึ่ง สูง 15 นิ้วเป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุแห่งชาติ
   
ลำปาง

วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม

          ตั้งอยู่บนถนนสุชาดา ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่และสวยงามมีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) ตั้งแต่ พ.ศ. 1979 เป็นเวลานานถึง 32 ปีเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดพระแก้วดอนเต้า มีตำนานกล่าวว่าพระมหาเถระแห่งวัดนี้ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (ภาษาเหนือเรียกว่า หมากเต้า)และนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปต่อมาจึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน

          ปูชนียสถานที่สำคัญในวัดพระแก้วดอนเต้า ได้แก่ องค์พระบรมธาตุดอนเต้าพระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ที่มีอายุเก่าแก่พอๆ กับวัดนี้นอกจากนี้ยังมี วิหารหลวงที่ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยวิหารพระเจ้าทองทิพย์ สร้างโดยพระนางจามเทวี อายุกว่า 1,000 ปีประดิษฐานพระเจ้าทองทิพย์ศิลปะสมัยเชียงแสน มณฑป หรือ พญาธาตุศิลปะแบบพม่าวิหารลายคำสุชาดาราม ฝีมือช่างเชียงแสนภายในมีจิตรกรรมฝาผนังลวดลายทองงดงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเชียงแสนและยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งล้านนา อันเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัตถุแบบล้านนาเช่น สัตภัณฑ์ เครื่องถ้วยกระเบื้อง พระพุทธรูป เป็นต้น
 
         อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางไม่กี่แห่งที่เราหยิบมานำเสนอจริง ๆ แล้ว ลำปางยังมีแหล่งท่องเที่ยวดี ๆ เจ๋ง ๆ อีกเพียบ!

การเดินทาง

          จังหวัดลำปางตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 599 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสารมารถเดินทางสู่จังหวัดลำปางได้อย่างสะดวกในหลายวิธี ได้แก่้...

          โดยรถไฟ :การรถไฟแห่งประเทศไทยมีรถไฟหลายขบวนเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงสู่จังหวัดลำปาง ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยโทร.1690 หรือ www.railway.co.th

          โดยรถยนต์ : จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 32ผ่านสิงห์บุรี ชัยนาท เข้านครสวรรค์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1อีกครั้ง ผ่านกำแพงเพชร ตาก ตรงเข้าสู่จังหวัดลำปาง รวมระยะทางทั้งสิ้น599 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง ส่วนการท่องเที่ยวในเขตจังหวัดลำปางบางช่วงต้องให้ความระมัดระวังและเคารพกฎจารจรอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะเส้นทางตามเทือกแนวเข้าที่คดเคี้ยวและลาดชัน

          โดยรถประจำทาง: มีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ลำปาง ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ(หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490www.transport.co.th วิริยะทัวร์ โทร. 0 2936 2827 นิววิริยะทัวร์โทรศัพท์ 0 2936 2205-7 สมบัติทัวร์ โทรศัพท์ 0 2936 2495-9 ทันจิตต์ทัวร์โทรศัพท์ 0 2936 3210-3 ปัจจุบัน บริษัท ขนส่ง จำกัดได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูทดอทคอม www.thairoute.com

          ส่วนการเดินทางภายในลำปางสะดวกสบายไม่พลุกพล่าน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะต่าง ๆได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น รถม้ายานพาหนะโบราณที่จัดไว้รองรับนักท่องเที่ยว มีคิวจอดประจำอยู่หลายแห่ง คือบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า บนถนนบุญวาทย์บริเวณหน้าโรงแรมลำปางเวียงทอง และหน้าโรงแรมทิพย์ช้างราคาค่าบริการอยู่ที่ 150-200 บาท ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเหมาไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ในตัวเมือง หรือ รถสองแถวสีน้ำเงินเป็นรถสองแถวที่ให้บริการวิ่งตัวเมืองลำปาง จุดจอดรถ เช่น สถานีขนส่งสถานีรถไฟ สามารถขึ้นเรียกใช้บริการได้ตลอด ราคาบริการ 10-15 บาทหรือคิดเป็นอัตราเหมาไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นั่งรถม้า ขี่ช้าง ชมเมืองลำปาง อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15:58:45 3,635 อ่าน
TOP