ภูผักหวาน ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว การขึ้นไปเช็กอินบนจุดชมวิวสวย ๆ ดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมสุดฮอตที่พลาดไม่ได้ แน่นอนว่าชื่อ "ภูผักหวาน" หลายคนน่าจะยังไม่รู้จัก แต่บางคนอาจจะเคยได้ขึ้นไปกันบ้างแล้ว ใครที่ยังไม่เคยไปแล้วลังเลคิดอยู่ว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี วันนี้เราเลยว่าจะขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปสำรวจภูผักหวานแห่งนี้ด้วยกัน ไม่แน่ว่าเมื่ออ่านจบแล้วอาจจะทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นมาก็ได้นะ
ภูผักหวาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านห้วยเดื่อ ตำบลน้ำทูน อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต.อาฮี ที่นี่ถือได้ว่ายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนยังไม่ค่อยรู้จัก เหตุที่ชื่อว่าภูผักหวาน เพราะว่าบริเวณภูเขาลูกนี้มีต้นผักหวานขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านมักนิยมเก็บเอาไปทำเป็นอาหาร ทำให้ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้คิดตั้งชื่อนี้ขึ้นมา
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมายังจุดชมวิวภูผักหวาน เริ่มต้นจากอำเภอท่าลี่ไปยัง อบต.อาฮี เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร หลังจากนั้นไปตามถนนท่าลี่-ด่านซ้าย จนถึงบ้านแก่งม่วง อีกประมาณ 15 กิโลเมตรก่อนจะถึงด่านตรวจ จะมีป้ายบอกทางเลี้ยวซ้าย เข้าหมู่บ้านห้วยเดื่อ จากนั้นให้ตามเส้นทางถนนคอนกรีตไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนจะถึงทางแยกวัดโพนทอง แล้วให้เลี้ยวเข้าไปในวัด
หลังจากนั้นเราจะใช้เส้นทางขึ้นเขาบริเวณข้างวัดโพนทอง ซึ่งขอเตือนไว้นิดหนึ่งว่าถ้านักท่องเที่ยวคนไหนที่ขับรถไปเที่ยวเอง รถที่นำมาควรเป็นรถกระบะ ด้วยเพราะเส้นทางค่อนข้างขรุขระ และยิ่งถ้าช่วงไหนฝนตก เส้นทางค่อนข้างมีความลื่น หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องรถอีแต๊กของชาวบ้าน โดยสองข้างทางระหว่างขึ้นไปยังจุดชมวิว จะผ่านพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน หน้าผาประวัติศาสตร์ ซึ่งมีภาพเขียนเกี่ยวกับประวัติพระพุทธศาสนาให้ได้ชมเพลิน ๆ อีกด้วย
ภาพจาก www.เที่ยวเลย.com
จากนั้นไม่นานก็จะถึงจุดชมวิว ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือผืนป่าธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่หน้าหนาวเท่านั้นที่จะได้ยลโฉมทะเลหมอก หากแต่ในช่วงหน้าฝนที่ภูผักหวานก็มีทะเลหมอกสวย ๆ เช่นเดียวกัน และถ้าวันไหนที่ท้องฟ้าเปิดเป็นใจอากาศแจ่มใส นักท่องเที่ยวจะมองเห็น "หมู่บ้านวังเป่ง" "ภูผาแง่ม" "ด่านพรมแดนไทย-ลาวบ้านนากระเซ็ง" หรือถ้าวันนั้นอากาศเป็นใจสุด ๆ ไม่แน่นะว่าคุณอาจจะมองเห็น สปป.ลาว ได้อีกด้วย หรือถ้าไม่มีทะเลหมอก แค่ได้มานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินที่นี่ก็นับว่าคุ้ม และทำให้คุณประทับใจได้แล้วหน้าหนาวที่ใกล้จะถึงนี้หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ภูผักหวานน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยเพราะนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยพลุกพล่าน แน่นอนว่านั่นจะทำให้คุณมีช่วงเวลาดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัวได้อย่างเต็มที่ เอาแบบให้ฟินกันไปข้างหนึ่งเลย นักท่องเที่ยวคนไหนที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลอาฮี โทร. 042 073 036 หรือ เว็บไซต์ tambonahi.go.th
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
tambonahi.go.th
เฟซบุ๊ก เที่ยวเลย เที่ยวจังหวัดเลย
www.เที่ยวเลย.com