เรียบเรียงและภาพประกอบโดยกระปุกดอทคอม
อากาศเป็นพิษ รถติดยามเช้า การใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ เพราะต้องแข่งกับเวลา... อาจทำให้ใครหลายๆ คน "อกแตก" ได้ (พูดซะเห็นภาพเลย) เอาล่ะ เพื่อหลีกหนีจากความจำเจกับการใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมๆเราขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดเจ๋ง บรรยากาศสุดแจ่มเหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนเป็นที่ซู้ดดดด... นั่นก็คือ "จังหวัดเลย" ที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเรานั่นเอง
จังหวัดเลยเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนท่ามกลางสายหมอกปกคลุมเหนือยอดภู อุดมไปด้วยพืชพรรณป่าไม้นานาชนิดที่รู้จักกันดี คือ ภูกระดึง ภูหลวง และภูเรือ ซึ่งมีอากาศที่เย็นสบายภูมิประเทศที่งดงาม ประเพณีวัฒนธรรมอันแตกต่างไปจากถิ่นอื่น ได้แก่การละเล่นผีตาโขนที่รอคอยนักเดินทางมาสัมผัสเมืองแห่งขุนเขาดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้พร้อมๆกัน (ว้าว... ของอย่างนี้ต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง ถึงจะรู้ว่ามันมหัศจรรย์แค่ไหน อิอิ) ทั้งนี้ จังหวัดเลย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 520 กิโลเมตร
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใน จังหวัดเลย นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น...
"พระธาตุศรีสองรัก"ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตรหรือห่างจากตัวจังหวัด 83กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203แล้วแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตรถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร
พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงลักษณะศิลปกรรมแบบล้านช้าง องค์พระธาตุสูง 19.19 เมตรฐานกว้างด้านละ 10.89 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสององค์ระฆังทรง "บัวเหลี่ยม" คล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวง (เวียงจันทน์)พระธาตุศรีโคตรบอง (แขวงคำม่วน) และอีกมากมายแถบลุ่มน้ำโขง
พระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์(หมายถึงเจดีย์สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระศาสนาโดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103เสร็จในปีพ.ศ.2106พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต(เวียงจันทน์) สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุศรีสองรัก คือ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชาไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดงขึ้นไปนมัสการเพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่มสวมหมวกและสวมรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ ไม่ควรนำเด็กต่ำกว่า 3ปีขึ้นไปนมัสการ
"ตลาดไม้ดอกไม้ประดับบ้านหนองบง"เป็นแหล่งจำหน่ายไม้ดอกเมืองหนาวและไม้ประดับตามฤดูกาลแหล่งใหญ่ที่สุดของภูเรือ (ใหญ่จริงๆ ค่ะ)นอกจากเป็นแหล่งขายส่งพันธุ์ไม้แล้วนักท่องเที่ยวสามารถชมและเลือกซื้อไปปลูกตกแต่งบ้านหรือเป็นของฝากได้ในช่วงฤดูฝนมีพันธุ์ไม้เด่น คือ ดอกกระเจียว ส่วนช่วงฤดูหนาวมีต้นคริสต์มาสทั้งสีแดง ขาว เหลือง กุหลาบ พิทูเนีย ฯลฯ การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 203 (เลย - ภูเรือ) ระยะทางห่างจากตัวเมืองประมาณ 47กิโลเมตร
"อุทยานแห่งชาติภูกระดึง"เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทยเพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึงบริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาแต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะปิดระหว่างเดือนมิถุนายน - กันยายน ทุกปีเพื่อให้สภาพธรรมชาติฟื้นตัวและปรับปรุงสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว
"สวนหินผางาม" หรือ "คุนหมิงเมืองเลย"อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18กิโลเมตร ภายในสวนหินผางามมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อนบางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกตบางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ (ตื่นเต้นสุดๆ)นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "คุนหมิงเมืองเลย"นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำชมสวนหินผางามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่านำชม 100 บาท สอบถามเพิ่มเติมที่อบต.หนองหิน โทร. 08-1462-1719
"น้ำตกเพียงดิน" หรือ "น้ำตกวิสุทธารา"อยู่เลยสวนหินไป 2 กิโลเมตร น้ำตกเพียงดินเป็นน้ำตกขนาดกลาง แต่มีหลายชั้นบางชั้นก็ต้องปีนป่าย บางชั้นก็มีน้ำใสไหลเป็นแอ่ง ลงเล่นน้ำได้ไม่อันตรายบรรยากาศโดยรอบร่มรื่น เหมาะสำหรับพักผ่อน นั่งรับประทานอาหาร
"ถ้ำโพธิสัตว์" หรือ "กุ้ยหลินเมืองเลย"ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านปวนพุ ตำบลปวนพุ การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับสวนหินห่างจากปากทางราว 9 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาเข้าไปตามทางลูกรัง 600 เมตรแล้วเลี้ยวซ้ายอีก 1.4 กิโลเมตร ก็จะถึงถ้ำ
ถ้ำแห่งนี้มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยเรียงรายอยู่ใต้ยอดเขาทั้งหมด 15 คูหาแต่ละคูหามีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น เขาวงกต ถ้ำลับแล สวรรค์ชั้นต่างๆเป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีหินย้อยรูปร่างสวยงามแปลกตาอีกมากมายการเข้าชมนั้นควรติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ อบต.ก่อน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและการเดินถ้ำวกวนมาก ใช้เวลาในการเดินชมอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
"พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน"ตั้งอยู่ในวัดโพนชัย ถนนแก้วอาสา ห่างจากอำเภอด่านซ้ายประมาณ 2 กิโลเมตรตัวพิพิธภัณฑ์เป็นบ้านเรือนไม้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองด่านซ้าย นิทรรศการผีตาโขนการสาธิตทำหน้ากากผีตาโขน และสินค้าของที่ระลึกผีตาโขนในรูปแบบต่างๆทั้งนี้ สามารถเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา09.00 - 17.00 น.
"วัดเนรมิตรวิปัสสนา"ตั้งอยู่สูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อยพระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลังและมีพระอุโบสถขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามตามศิลปะภาคกลางมีภาพจิตรกรรมที่สวยงามประดับอยู่โดยรอบมีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน และมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อพระมหาพันธ์สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดและได้มรณภาพแล้วบริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนและต้นไม้ร่มรื่นสวยงาม
"วัดศรีคุณเมือง"อยู่ที่ถนนชายโขง ซอย 7 สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2485วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้าง ดังจะเห็นได้จากโบสถ์ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา ศิลปวัตถุที่สำคัญมีหลายชิ้นเช่นพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้างพระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็ก พระกรรณค่อนข้างแหลมและยาวสันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 24 - 25
นอกจากนี้ในวัดยังมีธรรมาสน์แกะสลักไม้ลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรฝาผนังอยู่เต็มหน้าบันภาพทั้งหมดเป็นภาพนิทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม
"แก่งคุดคู้"เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดีทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่งเวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ คือ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้งมองเห็นเกาะแก่งชัดเจน มีโค้งสันทรายริมแม่น้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสสายน้ำโขงและธรรมชาติสองฝั่งอย่างใกล้ชิดท่าเรือบริเวณลานจอดรถมีบริการเช่าเรือยนต์ล่องแม่น้ำโขงโดยใช้เวลาไป –กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังมีร้านขายอาหารเช่นไก่ย่าง ส้มตำ ลาบ โดยเฉพาะพล่า กุ้งเต้นต้มยำปลาจากลำน้ำโขงเป็นอาหารแนะนำในราคาไม่แพงการเดินทางจากตัวอำเภอเชียงคานนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสายรอบเมืองไปแก่งคุดคู้ได้ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร
"วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน" อยู่ที่บ้านผาแบ่น ตำบลบุฮม การเดินทาง ใช้เส้นทางสายเชียงคาน - ปากชม ระยะทาง6 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านผาแบ่นมีทางแยกเข้าบ้านอุมุง 3 กิโลเมตรจะถึงทางขึ้นเขาเป็นทางลูกรังระยะทาง 1 กิโลเมตรพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นรอยพระพุทธบาทยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กว้าง 65เซนติเมตร ประดิษฐานบนหินลับมีดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อพ.ศ. 2478รอยพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในแถบนี้มาก
สมัยก่อนครั้งที่การเดินทางมานมัสการยังลำบากเชื่อกันว่าคนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงจะเดินทางมากราบไหว้ได้คนที่วาสนาไม่ถึงจะต้องมีเหตุให้มาไม่ได้ทั้งที่ตั้งใจไว้อย่างเต็มที่ก็ตาม บางคนก็หลงทาง ทุกปีในวันขึ้น15 ค่ำเดือน 3 ทางวัดจะจัดงานสมโภชประจำปีถือเป็นงานสำคัญของชาวบ้านในแถบนี้
"สะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย – ลาว"นักท่องเที่ยวสามารถข้ามสะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว ไปเที่ยว สปป.ลาวได้ที่ด่านพรมแดนบ้านนากระเช็ง ด่านศุลกากรท่าลี่โดยคนไทยที่ข้ามไปเที่ยวเฉพาะร้านค้าชายแดนของลาวที่อยู่บริเวณสะพานไม่ต้องทำใบผ่านแดน
กรณีที่ต้องการทำบัตรผ่านแดนสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ 3 วัน 2 คืน ใช้เอกสารหลักฐานคือบัตรประจำตัวประชาชน กรณีใช้พาสปอร์ต อยู่ได้ 30 วันกรณีนำรถยนต์เข้าและการทำธุรกิจใช้เอกสารและดำเนินการเหมือนด่านพรมแดนทั่วไปและควรสอบถามการนำสิ่งของที่ถือว่าผิดกฎหมายไปนอกพรมแดนด้วยด่านพรมแดนบ้านนากระเช็งเปิดเวลา 8.00 - 18.00 น.
"วัดท่าแขก"เป็นวัดเก่าแก่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากอำเภอเชียงคาน 2 กิโลเมตรก่อนถึงหมู่บ้านน้อยและแก่งคุดคู้ ปัจจุบันเป็นวัดธรรมยุติภายในโบสถ์มีพระพุทธรูป 3 องค์สกัดจากหินทรายทั้งก้อนเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ มีอายุประมาณ 300 กว่าปี
"พระธาตุสัจจะ"ตั้งอยู่บริเวณวัดลาดปู่ บ้านท่าลี่ ตำบลท่าลี่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 201แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2115 สายท่าลี่ - อาฮีห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าลี่ประมาณ 2 กิโลเมตร องค์ประกอบของพระธาตุสัจจะประกอบด้วยดอกบัวบานมีกลีบ 3 ชั้น สูงประมาณ 1 เมตรตั้งอยู่รอบองค์พระธาตุสัจจะ องค์พระธาตุสูง 33 เมตรมีสัญลักษณ์คล้ายคลึงกับพระธาตุพนม มีเศวตฉัตร 7 ชั้นประดิษฐานไว้บนยอดสุดของพระธาตุสัจจะ
อย่างไรก็ตาม ที่ จังหวัดเลยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเพียบรอให้คุณไปสัมผัสอ้อมกอดของธรรมชาติอย่างแท้จริงด้วยตัวคุณเอง... คิดจะเที่ยวให้สนุก คิดจะพักผ่อนอย่างมีความสุข กับธรรมชาติอันแสนหวาน คิดถึง... จังหวัดเลย นะคะ
การเดินทาง
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน)ผ่านตัวเมืองสระบุรี ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่าเข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือถึงตัวเมืองเลยใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 - 8 ชั่วโมง หรือ จากสระบุรีใช้ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ถึงจังหวัดขอนแก่นแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพแล้วใช้เส้นทางหมายเลข 201 เข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอภูกระดึงอำเภอวังสะพุง ถึงตัวเมืองเลยได้เช่นเดียวกัน
รถไฟ
จังหวัดเลยไม่มีสถานีรถไฟนักท่องเที่ยวต้องเดินทางไปลงที่สถานีอุดรธานีและต่อรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดเลยได้ สอบถามตารางรถไฟได้ที่หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690, 0-2233-7010,0-2223-7020 หรือ สถานีอุดรธานี โทร.0-4222-2061
รถโดยสารประจำทาง
บริษัท ขนส่ง จำกัดมีรถโดยสารประจำทางวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ - เลย ทุกวันทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีขนส่ง หมอชิต 2 โทร.0-2936-2852 - 66
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ
และสนับสนุนการเดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวโดย...