ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักและชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวสัมผัสธรรมชาติ อย่างการเดินป่า กางเต็นท์ แคมปิ้ง เที่ยวน้ำตก ปั่นจักรยาน บวกกับการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ทำให้ในช่วงระยะหลังมานี้ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้าได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย แล้วการเดินทางเป็นยังไง ไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง กินอยู่หลับนอนอย่างไร วันนี้เราจะบอกแนวทางการท่องเที่ยวที่เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้ากัน รับรองว่าคุณจะได้เที่ยวอย่างสนุกแบบหมดเปลือกเลยทีเดียว
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จุดหมายปลายทางการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ภายในมีสถานที่เที่ยวสวย ๆ สามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าจะให้เราแนะนำลองมาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน จัดได้ว่ากำลังดี แต่จะเก็บกระเป๋าเดินทางออกไปดุ่ม ๆ เลยก็ดูใช่ที่ ของอย่างนี้มันต้องมีแผนการเดินทางกันเสียหน่อย เริ่มตั้งแต่เดินทางกันเลย
การเดินทางสู่เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
นอกจากรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ปัจจุบันการเดินทางสู่จังหวัดสระบุรีสามารถเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้หลากหลายวิธี เช่น
- รถไฟ : การนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปยังสระบุรีมีด้วยกันหลายขบวน โดยหลัก ๆ แล้วมีรถไฟอยู่ด้วยกัน 2 สาย คือสายอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) และสายชานเมือง โดยรถไฟขบวนแรกที่ออกเวลา 05.20 น. และขบวนสุดท้ายที่ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.25 น.
ทั้งนี้สามารถตรวจสอบประเภทที่นั่ง เวลา รวมถึงราคาได้ที่ railway.co.th หรือสอบถามสถานีรถไฟสระบุรี โทร. 036 211 091, 02 621 8701 โดยนักท่องเที่ยวจะต้องลงที่สถานีชุมทางแก่งคอย หลังจากนั้นแนะนำว่าให้คุณเหมารถต่อไปยังศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้าได้เลย
- รถโดยสาร : การนั่งรถโดยสารจากกรุงเทพฯ ไปยังสระบุรีก็สามารถทำได้โดยสะดวก และมีรถให้บริการเพียงพอ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถโดยสารได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2), สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (รังสิต) หรือกรมขนส่งทางบก ซึ่งจุดจอดรถที่ใกล้กับศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้ามากที่สุด คือสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสระบุรี สามารถตรวจสอบเที่ยวรถและราคาเพิ่มเติมได้ที่ busticket.in.th หรือ โทร. 1490 หลังจากลงที่สถานีขนส่งแล้ว แนะนำว่าให้เหมารถจะเป็นกระบะหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้
แต่สำหรับทริปการเดินทาง 2 วัน 1 คืน ของการมาเที่ยวเจ็ดคด วิธีที่สะดวกที่สุดเห็นจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว โดยจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าตรงมายังสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกขวาไปทางจังหวัดนครราชสีมา (ถนนมิตรภาพ) ประมาณ 20 กิโลเมตร กลับรถหน้าเทศบาลทับกวาง อีก 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อเดินทางมุ่งหน้ามายังศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
ดูพิกัดแผนที่เพิ่มเติม google.co.th/maps
แต่ถ้านักท่องเที่ยวเลือกที่จะเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ หลังจากที่ส่งที่สถานีขนส่งหรือสถานีรถไฟแล้ว อาจจำเป็นที่จะต้องอาศัยการเหมารถกระบะหรือมอเตอร์ไซค์ เพื่อเดินทางไปยังศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้าต่อไป (ซึ่งราคาจะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับฝีปากของคุณล้วน ๆ)
นอนกางเต็นท์หรือจะนอนบ้านพัก เลือกได้ตามใจชอบ
ทริป 2 วัน 1 คืน สำหรับการมานอนค้างที่เจ็ดคด หลายคนอาจคิดว่าเป็นเวลาที่น้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้คุณได้ด่ำดื่มกับธรรมชาติที่มีอยู่โดยรอบได้เหลือเฟือ ในส่วนของเรื่องที่หลับที่นอน ทางศูนย์มีบ้านพักเอาไว้บริการ มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ
- บ้านพัดลม พักได้ไม่เกิน 6 คน/หลัง (จำนวน 6 หลัง)
- บ้านเดี่ยวแอร์ พักได้ไม่เกิน 5 คน/หลัง (จำนวน 9 หลัง)
- บ้าน 4 ยูนิต พักได้ห้องละไม่เกิน 3 คน (จำนวน 24 ห้อง)
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่าง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกว่าลำบากจนเกินไป บ้านพักแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวเจ็ดคดแบบก๊วนเพื่อน เอาไว้ร่วมแชร์ค่ากินค่านอนด้วยกัน
สำหรับใครที่มาเที่ยวคนเดียวหรือหนีบเพื่อนรู้ใจมาด้วยแค่คนสองคน เราแนะนำให้คุณลองนอนเต็นท์ดูสักครั้ง รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติรอบตัวอย่างถึงที่สุด โดยลานกางเต็นท์จะอยู่ตรงบริเวณ "อ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน"
โดยนักท่องเที่ยวคนไหนที่มีจุดประสงค์ต้องการนอนเต็นท์ จำเป็นจะต้องลงทะเบียนขออนุญาตที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้เรียบร้อยเสียก่อน ทั้งนี้เพื่อความเป็นระเบียบและเอื้อต่อการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว มีศาลาให้นั่งพักผ่อน พื้นที่สำหรับทำอาหาร พร้อมทั้งรางอิฐสำหรับก่อเตา อ่างล้างจาน รวมถึงห้องน้ำ ห้องอาบน้ำที่มีให้บริการอย่างเพียงพอ
บอกแล้วไงว่านอนเต็นท์ที่นี่สะดวกสบายไม่แพ้นอนที่บ้านเลยทีเดียว แอบกระซิบนิดหนึ่ง…การมาเที่ยวที่ศูนย์แห่งนี้ไม่มีเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกใจล้วน ๆ ว่าอยากช่วยค่าบำรุงสถานที่เท่าไร สอบรายละเอียดทั้งในส่วนของที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้ที่ โทร. 089 237 8659, 085 968 3520 และ 080 019 2762
อยากลุยต้องฟังทางนี้
วันแรกของการเดินทาง ก่อนเดินทางเข้าพักที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า เรามีอะไรมาแนะนำ เพราะวันแรกของการเที่ยว คุณย่อมมีแรงเหลือเฟือ เราแนะนำให้คุณออกแรงผจญภัยกันที่ "น้ำตกโกรกอีดก" เอาจริง ๆ แล้วเส้นทางการเดินทางของน้ำตกเส้นนี้ จัดได้ว่าไม่ค่อยลำบากเสียเท่าไร (ถ้าใจยังวัยรุ่นสักอย่าง ยังไงก็ไปถึง) ที่สำคัญสามารถเที่ยวแบบจบเสร็จได้ในวันเดียว
โดยจุดเริ่มต้นการเดินทางอยู่ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ ขญ.18 (เจ็ดคด) ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า ๆ เท่านั้นเอง
การเข้าไปเที่ยวที่หน่วยพิทักษ์ ขญ.18 จำเป็นที่จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทาง (หน่วยพิทักษ์ ขญ.18 โทร. 085 968 3520, 089 237 8659) ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย เพราะเส้นทางเดินมีทั้งแบบชัดเจนและไม่ชัดเจน ต้องใช้ทักษะการทรงตัวในการข้ามหิน ข้ามลำธาร ยิ่งถ้านักท่องเที่ยวคนไหนไม่เคยเดินป่า อาจมีหลงทางกันได้ เพราะระหว่างทางจะมีเส้นทางเก็บของป่าของชาวบ้านแตกออกไปอีกด้วย เดินไม่ดูตาม้าตาเรือคราวนี้ออกไปโผล่ที่ไหน กลับบ้านไม่ถูก ไม่รู้ด้วยนะ
โดยเส้นทางในช่วงแรกของการเดินจะเป็นเส้นทางเดินที่ค่อนข้างสบาย ทางเดินมีให้เห็นชัดเจน แต่หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ เลือนราง ยิ่งถ้าใครมาเที่ยวน้ำตกโกรกอีดกในช่วงหน้าฝน คุณอาจจะได้เจอกับ "เห็ดแชมแปญ" ซึ่งเป็นเห็ดที่เหล่าบรรดานักเดินป่าและตากล้องทั้งหลายต่างเสาะหา
สายธารน้ำของน้ำตกโกรกอีดกที่ไหลลงมากระทบหิน ท่ามกลางธรรมชาติและผืนป่าที่สมบูรณ์ของเจ็ดคด ดูสวยงามแปลกตา และชุ่มฉ่ำ ทั้งหมดนี้เป็นบรรยากาศการเดินป่าในช่วงหน้าฝนที่เจอที่ไหนไม่ได้ง่าย ๆ
ลงพื้นที่สำรวจความสวยงามของเจ็ดคด
หลังจากที่ผจญภัยอย่างหนัก คราวนี้ก็ถึงเวลาของการพักผ่อน อย่างที่บอกไปแล้วว่าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า พร้อมให้บริการบ้านพักและเต็นท์อย่างเสร็จสรรพ ได้นอนพักเอาแรงสักคืน ตื่นขึ้นมาวันใหม่คุณจะลองสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่ศูนย์แบบชิล ๆ ก็ยังได้ เพราะที่นี่จัดได้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ไล่เรียงกันตั้งแต่น้ำตกต่าง ๆ แถมเส้นทางเดินไปยังน้ำตกแต่ละที่ก็เดินได้แบบชิล ๆ สบาย ๆ มีร่มไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา
หรือใครถนัดนั่งมองวิวธรรมชาติแบบสวย ๆ ที่ศูนย์ก็มี "จุดชมวิวมอเครือ" ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 1.8 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะได้รับชมความสวยงามทางทัศนียภาพในมุมกว้าง วิวที่ปรากฏตรงหน้าจะทำให้คุณลืมความเหนื่อยกับการเสียแรงเดินมาอย่างแน่นอน
ปิดท้าย…ถ้าร่างของใครยังฟิต เราแนะนำให้คุณลองเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ หรือจะเช่าปั่นจักรยานก็ยังได้ แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าเนื่องจากพื้นที่เจ็ดคดเป็นภูเขาที่ค่อนข้างมีความลาดชันพอสมควร แม้แต่การขี่จักรยานรอบศูนย์นักท่องเที่ยวเองก็ควรใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะรถจักรยานที่ผู้ขี่เองยังไม่มีความคุ้นเคยมากนัก ดังนั้นการตรวจสอบเช็กสภาพจักรยานจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
กิจกรรมกางเต็นท์ เดินป่า และปั่นจักรยาน จึงถือเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ไม่ว่าใครเดินทางมาเที่ยวที่นี่ต้องลองทำสักหนึ่งอย่าง แต่ใครที่รู้สึกเหนื่อยจากการเดินทาง คุณอาจใช้ช่วงเวลาชิล ๆ ดื่มด่ำธรรมชาติรอบบริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำ เท่านั้นก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้มแล้ว ลองใครได้นอนค้างที่ศูนย์สักคืน ตื่นเช้าขึ้นมาคุณจะรู้สึกสดชื่น มีแรงไว้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ยังไงล่ะ
ที่จริงแล้วการมาเที่ยวที่เจ็ดคดสามารถมาเที่ยวได้แทบทุกฤดู แต่ถ้าจะให้ดีต้องมาในช่วงหน้าฝน เพราะเราจะเห็นความเขียวขจีของผืนป่าและขุนเขา และความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอย่างที่ไม่ได้เห็นกันได้บ่อยนัก อาจมีบ้างที่เส้นทางขรุขระ เดินลำบากอยู่เสียหน่อย แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราจะได้รับและเรียนรู้จากธรรมชาติแล้ว กลับยิ่งใหญ่ในความรู้สึกมากมาย วันเสาร์-อาทิตย์ถ้าใครว่าง และไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เราขอเป็นคนหนึ่งที่แนะนำให้คุณได้ลองมาเที่ยวที่เจ็ดคดกันดู แล้วคุณจะหลงรักธรรมชาติที่นี่จนถอนตัวไม่ขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
, , railway.co.th, busticket.in.th, saraburi.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก ธวัชชัย แสนอุ่น, เฟซบุ๊ก Tanasan Hinon, เฟซบุ๊ก เด็กใต้ใจเต็ม รักยัยแก้มป่อง