ลมหนาวเริ่มพัดมาให้ได้ชื่นใจกันแล้วค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวหน้าหนาวสุดโรแมนติกเพื่อไปสวีทกับหวานใจ ก็ต้องมาชมกันทางนี้เลยค่ะ เพราะเรามี 14 สถานที่สุดโรแมนติกในเมืองไทยต้อนรับหน้าหนาวที่กำลังจะมาเยือนนี้นำมาเสนอ ซึ่งแต่ละสถานที่นั้นนอกจากจะหนาวเหน็บได้ใจแล้ว ทัศนียภาพรอบข้างก็ยังงดงามมาก ๆ อีกด้วย เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่รู้ว่า "หนาวนี้ไปเที่ยวไหนดี" ก็ตามเราไปเก็บข้อมูลกันเลย
1. อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ปาย อำเภอเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีธรรมชาติที่งดงาม พร้อมลำธารใหญ่น้อยไหลรอบ ๆ เมือง เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมแห่งเมืองเหนือ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนท้องถิ่น พร้อมทั้งเที่ยวชมบ้านไม้อันเก่าแก่ นาข้าวสีเหลืองทอง ชมธรรมชาติที่งดงาม อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ สะพานประวัติศาสตร์ (ท่าปาย), น้ำตกหมอแปง, อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง, วัดพระธาตุแม่เย็น ฯลฯ และเสน่ห์เหล่านี้นี่เองเมื่อผนวกกับลมหนาวที่พัดพาเข้ามาในเมืองปาย ทำให้สถานที่แห่งนี้มีบรรยากาศสุดโรแมนติกอย่างที่คุณจะต้องประทับใจไม่มีวันลืม
2. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ม่อนแจ่ม แจ่มสมชื่อ ด้วยตั้งอยู่บนยอดดอยสูงในโครงการหลวงหนองหอย ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพเบื้องล่าง พร้อมทั้งภูเขาเบื้องหน้าได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เสน่ห์ของม่อนแจ่มก็คือความเงียบสงบ พร้อมทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ที่นี่จะมีการจัดสวนดอกไม้ไว้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาวที่จะมีดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่ง และทะเลหมอกสุดอลังการให้ได้ชื่นชม ทำให้ความโรแมนติกกระจายอยู่ทั่วทั้งม่อนแจ่ม สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงม่อนแจ่ม คือการนั่งรับประทานอาหารพื้นเมืองในศาลาไม้ริมผา และการเที่ยวชมแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาวของโครงการหลวง พร้อมทั้งอุดหนุนสินค้าของที่ระลึกจากชาวเขา
3. เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ภาพจาก Klaybaworn/shutterstock.com
ห่างจากกรุงเทพฯ ไปไม่ไกล เราก็สามารถได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็น พร้อมทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีความสวยงามและอากาศบริสุทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย บริเวณโดยรอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทิวทัศน์ของภูเขาสีเขียวให้ได้ชื่นชม อีกทั้งไร่องุ่นอีกหลายแห่งที่สร้างบรรยากาศให้เขาใหญ่คล้ายกับเมืองในชนบทของประเทศอิตาลี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณโดยรอบเขาใหญ่มีความหลากหลาย เที่ยวได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาทิ ไร่องุ่นกรานมอนเต้, ทองสมบูรณ์คลับ, ไร่องุ่น พีบี วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ไวน์เนอรี่, สวนกุหลาบกลางพนา, ปาลิโอ, เดอะช็อกโกแลตแฟคทอรี่, พรีโม เพียซซ่า, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นต้น
4. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
อีกหนึ่งสถานที่สุดโรแมนติกที่อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็คือ "วังน้ำเขียว" ซึ่งมีทัศนียภาพของหุบเขาที่งดงามเช่นกัน นอกจากวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว บริเวณโดยรอบของวังน้ำเขียวจะมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน มีทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่ไพศาลให้ได้ชื่นชม ยิ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ยิ่งมีบรรยากาศที่สวยงาม ถนนที่วนไปโดยรอบของอ่างเก็บน้ำทำให้มองเห็นทะเลสาบอันกว้างไกล ที่มีภูเขาอยู่เบื้องหลัง สายหมอกลอยคลอเคลียอยู่เหนือน้ำอย่างเบาบาง ที่นี่จึงได้สมญานามว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย
5. เกาะช้าง จังหวัดตราด
จากกรุงเทพฯ ขับรถเพียงแค่ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก็จะได้สัมผัสกับท้องทะเลที่มีความงดงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย เกาะช้างมีพื้นที่มากกว่า 429 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเมืองไทยรองจากเกาะภูเก็ต ที่นี่จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด เกาะช้างไม่ได้เป็นเพียงเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลเท่านั้น แต่ทะเลในแถบนี้ยังสวยงาม ใสสะอาด หาดทรายเนียนละเอียด เกาะที่เป็นบริวารยังมีหาดทรายขาวนุ่ม น้ำเป็นสีฟ้าใส มีแนวปะการังที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวเกาะช้างจะเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกลงสู่ทะเลที่งดงามอีกแห่งของเมืองไทยเลยทีเดียว พระอาทิตย์จะกลมโตมีสีแดงสด ทอแสงสีทองทาบทาลงทั่วผืนทะเล การดินเนอร์ริมชายหาดบนเกาะช้างในยามหน้าหนาวจึงเป็นสิ่งที่หลายคู่รักในโลกปรารถนาที่จะได้สัมผัส
6. อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ไม่ว่าผ่านมากี่ปีเชียงใหม่ก็ยังคงมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลไม่เสื่อมคลาย ยังคงมีวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบคนล้านนาให้ได้ชื่นชม สถาปัตยกรรมบ้านเรือนเก่าแก่ วัดวาอารามที่มีศิลปะล้านนา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนเชียงใหม่ต่างต้องหลงรักที่นี่ เมื่อลมหนาวเริ่มพัดเข้าสู่เมืองเชียงใหม่ ก็จะมีวัฒนธรรมประเพณีที่ชวนหลงใหลมากมาย โดยเฉพาะประเพณียี่เป็งและขึ้นปีใหม่ ที่จะมีการนำโคมลอยมากมายหลายพันดวงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นภาพที่สวยงามจับตา และสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติก สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาแอ่วเมืองเชียงใหม่ คือการรับประทานอาหารพื้นเมือง ไปเที่ยวชมวัดต่าง ๆ และการเดินเล่นบนถนนคนเดิน ยิ่งถ้าอากาศหนาว จะยิ่งทำให้ที่นี่มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
7. ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ยามที่ลมหนาวเริ่มพัดพาเข้ามาสู่ยอดดอยแม่อูคอ ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้นบัวตองนับหมื่นนับแสนต้นก็จะเริ่มผลิดอกออกมาให้ได้ยลโฉม สีเหลืองสดใสของดอกบัวตองจะครอบคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา มองไปได้ไกลสุดลูกหูลุกตา ถนนที่ลัดเลาะเส้นทางนี้สองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยทัศนียภาพที่งดงามของทุ่งดอกบัวตอง บริเวณจุดชมวิวจะสามารถมองเห็นทุ่งดอกบัวตองนี้ได้ทั่วทั้งหุบเขาแบบ 360 องศา จะเห็นถนนที่ลัดเลาะอยู่บริเวณหุบเขา มีสายลมเย็น ๆ พัดมาเบา ๆ สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก โดยดอกบัวตองจะเริ่มบานตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนจนถึงประมาณกลางเดือนธันวาคมของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาแม่ฮ่องสอน โทร. 053 612 982-3
8. จังหวัดภูเก็ต
จังหวัดภูเก็ต ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตในการแต่งงานริมทะเล หรือการมาฮันนีมูนของคู่รักจากทั่วโลกไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยที่นี่มีท้องทะเลที่งดงาม เป็นไข่มุกแห่งอันดามันที่ใครก็อยากมาสัมผัส ซึ่งการได้นั่งมองพระอาทิตย์ดวงกลมโตสีแดงตกลงสู่ทะเลที่แหลมพรหมเทพ จะทำให้คุณไม่มีวันลืมภูเก็ตได้เลย หรือแม้กระทั่งการออกไปว่ายในท้องทะเลสีเขียวมรกต เพื่อชมปะการังหลากสีสัน ก็ล้วนสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น นอกจากนี้ภูเก็ตยังมีวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงามของคนท้องถิ่น พร้อมทั้งบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ชิโนโปรตุกีสให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาภูเก็ต อาทิ แหลมพรหมเทพ, หาดกมลา, หาดในหาน, หาดป่าตอง, ตึกโบราณสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส, เกาะไม้ท่อน, อุทยานแห่งชาติสิมิลัน, เกาะตาชัย เป็นต้น
9. เกาะกูด จังหวัดตราด
สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบ และโอบล้อมไปด้วยท้องทะเลที่สวยงาม ต้องไม่พลาดการไปใช้วันหยุดยาวในช่วงหน้าหนาวกันที่เกาะกูด ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในเขตจังหวัดตราด ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างมาก จึงทำให้ที่นี่ยังมีความเงียบสงบ ท้องทะเลยังคงใสสะอาด มีหาดทรายขาวละเอียดเนียนนุ่ม อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่นี่จะยิ่งมีบรรยากาศที่สวยงาม เมื่อมาถึงเกาะกูดต้องไม่พลาดการไปดำน้ำในเกาะข้างเคียง เพราะมีปะการังและสัตว์ทะเลมากมายหลากหลายชนิด รวมทั้งการขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวชมรอบ ๆ เกาะ และการไปเยือนน้ำตกคลองเจ้า ซึ่งล้วนแต่จะทำให้คุณมีความทรงจำที่น่าประทับใจแบกกลับบ้านแบบเต็มกระเป๋า
10. จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จังหวัดนครราชสีมา
จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ 555 หมู่ 1 ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นเพียงแหล่งผลิตไข่ไหม เพื่อจำหน่ายให้สมาชิกเกษตรกรที่มารับซื้อรังสดในการผลิตเส้นไหม และเป็นพื้นที่ปลูกหม่อนอันเป็นอาหารหลักของหนอนไหมเท่านั้น โดยเพิ่งเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมเมื่อปี พ.ศ. 2544 ภายในฟาร์มแห่งนี้ไม่ได้เป็นเหมือนฟาร์มทั่วไป แต่ได้นำศิลปะเข้ามาแต่งแต้ม สร้างสีสันให้เกิดประติมากรรมที่สวยงามในแปลงปลูกพืชผักและดอกไม้ ซึ่งในแต่ละปีฟาร์มแห่งนี้จะเปิดให้เข้าเที่ยวชมเฉพาะในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกภายในฟาร์ม พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมของชาวอีสาน และได้เลือกซื้อของฝากที่ระลึกคุณภาพดีจากฟาร์มติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
ทั้งนี้ในปีนี้ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เปิดฟาร์มให้เราได้ไปสัมผัสความงามระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 8 มกราคม 2560 เวลา 9.00-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ jimthompsonfarm.com หรือ เฟซบุ๊ก Jim Thompson Farm
11. สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ จังหวัดเชียงใหม่
ใครที่รักป่าเขาต้องไปสัมผัสกับการนอนเต็นท์บนยอดดอยสันป่าเกี๊ยะกันดูสักครั้ง เพราะที่นี่จะทำให้คุณได้รับชมความอลังการของดอยเชียงดาวได้แบบชัดเจน พร้อมทั้งทะเลหมอกที่จะมาทักทายแทบทุกเช้า แถมยังมีลมหนาวที่หนาวแบบเย็นจี๊ดถึงใจกันเลยทีเดียว ยิ่งถ้าได้มีโอกาสขึ้นไปช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งเต็มดอย ก็จะได้สัมผัสกับความโรแมนติกของดอยสันป่าเกี๊ยะอย่างสมบูรณ์แบบ ยามค่ำคืนที่นี่ยังเป็นสถานที่ชมดาวแบบเต็มท้องฟ้าที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 5322 2014, 0 5394 4052
12. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง หรือดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,400 เมตร มีสภาพเป็นหุบเขา โดยรอบเป็นภูเขาสูงใหญ่ ที่นี่จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ภายในสถานีเต็มไปด้วยพืชพรรณเมืองหนาวมากมาย มีการจัดสวนดอกไม้อย่างสวยงาม มีแปลงปลูกพืชผัก ผลไม้เมืองหนาว และดอกไม้เมืองหนาวให้เที่ยวชม อาทิ แปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี แปลงปลูกท้อ บ๊วย พลัม แปลงปลูกบอนไซ เป็นต้น ถ้ามาในช่วงเดือนมกราคมอาจจะได้ยลโฉมเจ้าดอกนางพญาเสือโคร่งกันอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอ่างขาง โทร. 053 969 489
13. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ภาพของอ่างเก็บน้ำที่ล้อมรอบด้วยป่าสนและขุนเขา มีไอหมอกลอยละล่องเหนือน้ำในยามเช้า เป็นภาพที่เราคุ้นเคยกันดีกับปางอุ๋ง แต่การแค่ได้มองภาพถ่ายอาจจะไม่ฟินเท่ากับการได้ไปสัมผัสที่นี่ด้วยตัวเอง ปางอุ๋ง หรือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ตั้งอยู่ที่ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โอบล้อมด้วยขุนเขา มีทิวสนสองใบ-สามใบขึ้นเรียงรายเต็มทั่วทั้งริมอ่างเก็บน้ำ การได้นอนกางเต็นท์บนลานสน เพื่อการตื่นมาทักทายกับสายหมอกและพระอาทิตย์ที่ทอแสงสีทองลงสู่ผืนน้ำ กลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาว บรรยากาศโดยรอบมีความโรแมนติกถึงขีดสุด ใครไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง บอกเลยว่าคุณจะพลาดมาก
14. แพริมแม่น้ำแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี
ภาพจาก SIHASAKPRACHUM/shutterstock.com
หากต้องการที่จะพักผ่อนไปพร้อมกับธรรมชาติที่เงียบสงบอย่างแท้จริง เราขอนำเสนอการพักผ่อนในแพริมแม่น้ำแควใหญ่ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี คุณจะได้ตื่นมาพร้อมกับสายน้ำเย็น ๆ เสียงนกร้องรอบข้าง เบื้องหน้าเป็นภูเขาสีเขียวขจี อากาศสดใสและสูดอากาศบริสุทธิ์ได้แบบเต็มปอด ได้นั่งนอนพักผ่อน จิบชา กาแฟ บริเวณแพหน้าห้องพัก รับประทานอาหารเช้าไปพร้อมกับการอ่านหนังสือเล่มโปรดที่พกมาด้วย หรือจะนอนฟังเพลงพักผ่อนก็ได้เช่นกัน ยิ่งมีลมหนาวพัดมาเอื่อย ๆ ที่นี่จะมีความโรแมนติกอย่างถึงที่สุด ใครกำลังมองหาสถานที่พาคนรักไปสวีท ต้องไม่พลาดกิจกรรมเช่นนี้เด็ดขาด
หวังว่าสถานที่เหล่านี้จะเป็นตัวเลือกดี ๆ ที่จะทำให้คุณได้เก็บประสบการณ์ในหน้าหนาวที่ดีอีกหนึ่งปีกันนะคะ และอย่าลืมแบ่งปันประสบการณ์สุดหวานของคุณมาให้เราได้รับชมกันบ้างนะ ^_<
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, jimthompsonfarm.com, เฟซบุ๊ก Jim Thompson Farm
