ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ PAEstudio สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
จังหวัดกระบี่ ถือได้ว่าเป็นดินแดนแห่งขุนเขา หาดทราย ชายทะเล กลุ่มเกาะ น้ำตก และโถงถ้ำ ที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ซึ่งสามารถเดินทางไปเยือนได้ตลอดทั้งปี ทำให้กระบี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในวันพักผ่อนของนักท่องเที่ยวเสมอมา (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่) ซึ่งการไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นทัวร์ต่าง ๆ ทั้งแบบวันเดย์ทริปเต็มวันเช้า-เย็น และแบบค้างคืนให้เลือก อ๊ะ ๆ แต่ถ้าใครที่อยากไปตะลุยทะเลกระบี่สักครั้ง แต่ยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ว่าจะไปทัวร์ที่ไหนดี ก็ลองตามบันทึกการเดินทางที่มาพร้อมกับภาพถ่ายเล่าเรื่องเจ๋ง ๆ ของ คุณ PAEstudio สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งมีโอกาสไปเที่ยวกระบี่ พร้อมกับแนะนำรายละเอียดทัวร์ต่าง ๆ มาให้เราชมกันจ้า ลองดูก่อนตัดสินใจนะว่าอยากไปเที่ยวเกาะไหนดี

บ่อยครั้งที่เราจะได้พบคำถามในบอร์ดแห่งนี้ว่า ไปเที่ยวกระบี่ซื้อทัวร์เกาะไหนดี ? ทัวร์ 4 เกาะ กับทัวร์เกาะพีพี เลือกทัวร์ไหนดี ? ทัวร์เกาะพีพี กับทัวร์เกาะห้อง เลือกทัวร์ไหนดี ? ทัวร์เกาะห้อง กับทัวร์ 4 เกาะ เลือกทัวร์ไหนดี ? (จะพูดทำไมให้งงเนี่ย ^^) เป็นเช่นนี้มานานนม และยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะอะไร ? เพราะรสนิยมคนเราต่างกันครับ จึงมีความเห็นต่างออกมามากมาย นี่คือปัญหาโลกแตกที่เหมือนกับ ไก่ กับ ไข่ อะไรเกิดก่อนกัน
แต่เดี๋ยวก่อนนน !!!! ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป ถ้าคุณผู้ชมได้เลือกตามความชอบของตัวเอง ! วันนี้ผมเลยรวบรวมภาพบรรยากาศการท่องเที่ยวของทัวร์ทั้ง 3 โปรแกรม มาฝาก ไม่พอใจ ไม่คืนเงิน เพราะไม่มีจะคืน

สำหรับทัวร์ต่าง ๆ สามารถหาซื้อได้หลายช่องทาง ทั้งซื้อจากโรงแรมที่เราพัก ซื้อล่วงหน้าผ่านเว็บของบริษัททัวร์ หรือจะไปเดินเลือกซื้อที่อ่าวนาง ก่อนออกทัวร์วันหนึ่งก็ได้ครับ สำหรับราคาทัวร์ผมคงไม่นำมาลงไว้ เนื่องจากราคามีความผันผวนตามฤดูกาล, ลมฟ้าอากาศ และจำนวนนักท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง ทัวร์ 4 เกาะด้วยสปีดโบ๊ท
ผมติดต่อกับโรงแรม ราคา 1,200 บาท ติดต่อตรงทางโทรศัพท์กับบริษัททัวร์ 800 บาท พอตอนไปจ่ายเงิน (เช้าก่อนลงเรือ) 750 บาท งงกันไป
สำหรับจุดที่จะลงเรือจะมีใหญ่ ๆ 3 จุด คือ อ่าวนาง, หาดนพรัตน์ธารา และอ่าวไร่เลย์ครับ

ท่านไม่ต้องกังวลว่าจะไปยังจุดลงเรือด้วยวิธีไหน เพราะทัวร์ส่วนใหญ่จะมีรถรับ-ส่ง ตั้งแต่ตัวเมืองกระบี่, คลองม่วง หาดนพรัตน์ธารา, มาจนถึงอ่าวนาง ด้วยรถสองแถวใหญ่ สองแถวเล็ก หรือรถตู้ติดแอร์สบาย ๆ ผมโดนมาหมดแล้ว จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวกำหนดว่าเส้นไหนใช้รถอะไรไปรับ

สรุปหลักง่าย ๆ ของการซื้อทัวร์ในกระบี่ คือ






ฝากเพจท่องเที่ยวน้อยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ เพิ่งเปิดไม่นาน เหงามากมาย เข้าไปโพสต์รูป พูดคุย หรือสอบถามกันได้นะครับ www.facebook.com/travelerpoint
มาดูแผนที่การเดินทางกันก่อนครับ จากอ่าวนางจะเห็นว่า ทัวร์ 4 เกาะ ทะเลแหวก นั้นอยู่ใกล้สุด เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เพราะนั่งเรือแค่แป๊บเดียว และทัวร์ก็ตระเวนเที่ยวอยู่ใกล้ชายฝั่ง ส่วนวัยรุ่นแข็ง ๆ หน่อยก็ไปเกาะห้องหรือพีพีโล้ดครับ ซึ่งความใกล้-ไกลที่ต่างกันนี้ ก็จะเป็นตัวกำหนดราคาค่าทัวร์ด้วยเช่นกันครับ

เอาล่ะครับ มาเข้าโปรแกรมแรกกันเลย นั่นก็คือ ทัวร์ 4 เกาะ ทะเลแหวก

จุดที่ทัวร์จะพาไปเที่ยวก็ตามแผนที่นี้ครับ เริ่มจากไฮไลท์ นั่นคือ ทะเลแหวก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของเกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ รวมไปถึงเกาะปอดะ และหาดถ้ำพระนางเป็นการปิดท้ายครับ

ทีมงานดูแข็งแกร่งเป็นที่พึ่งพาในยามยากได้

เริ่มต้นออกเรือมา ตามโปรแกรมวันนี้เราจะไปดำน้ำที่เกาะไก่กันก่อน จากนั้นจึงไปทะเลแหวก และทานอาหารกลางวันกันที่นั่น แต่มีวิทยุรายงานเข้ามาว่าทะเลกำลังจะแหวกแล้ว กัปตันจึงสลับโปรแกรม มุ่งหน้าไปให้เราชมทะเลแหวกอย่างทันท่วงที
ใช่ครับ อีปร้ามันเบลอ เราจอดเรือกันที่เกาะทับ (ดูแผนที่ด้านบน) เมื่อมองไปทางซ้ายเราจะพบทะเลแหวก เดินไปกันเลยครับ

ทะเลกำลังแหวกเลยครับ น้ำลด สันดอนทรายโผล่ เชื่อมเกาะ 3 เกาะ เข้าหากัน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่งมาก เราจะจุดเทียนเดินแหวกน้ำไปที่เกาะไก่กันครับ

แนะนำให้ใส่รองเท้านะครับ อาจจะเดินยากสักนิด แต่ก็ช่วยปกป้องเท้าเราจากเปลือกหอยและเศษปะการัง ที่ถูกคลื่นทั้งสองฝั่งซัดมารวมกันอยู่บนสันทรายที่เราเดิน

ระหว่างทาง นักท่องเที่ยวก็จะแวะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน

มองย้อนกลับไปเราก็จะเห็นเกาะทับและเกาะไก่ ผู้คนเริ่มทยอยกันมา ในความเห็นของผมการมาเที่ยวทะเลแหวกแนะนำเป็นเรือสปีดโบ๊ทครับ เพราะสามารถทำเวลาให้เรามาแหวกได้อย่างทันท่วงที แม้ราคาจะสูงกว่า แต่มาเที่ยวทั้งทีก็ไม่อยากให้ผิดหวังกลับไป

ผมเดินเล่นถ่ายรูปอยู่ที่เกาะไก่สักพักก็เดินกลับมายังเกาะทับ เพราะทะเลเริ่มหุบแล้ว ขืนช้าเดี๋ยวจะเดือดร้อนต้องว่ายน้ำกลับ ช่วงที่ทะเลเริ่มหุบ เราจะเห็นคลื่นทั้งสองด้าน วิ่งเข้ามาปะทะกันตรงกลาง แปลกตาดีครับ ไม่เคยเห็น

ตอนนี้ทะเลหุบจนน้ำจะสูงถึงครึ่งแข้งแล้ว ก็ยังมีนักท่องเที่ยวทยอยกันมาอยู่ บางกลุ่มก็มาเรือเล็ก

บ้างก็มาด้วยเรือใหญ่

แต่อย่ามัวเวิ่นเว้อนะครับ เพราะทะเลแหวกกำลังจะอันตรธานหายไปแล้ว
ใครที่ไปเดินแหวกทะเลมาแล้ว กิจกรรมต่อไป ก็คือ การถ่ายรูป

โปรแกรมที่สองของวันนี้ คือ การไปดำน้ำที่หัวเกาะไก่ครับ นั่งเรือมาอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว มีฝนโรยปรายลงมาพอเปียก แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับการดำน้ำครับ

ผมจะไม่เจาะในรายละเอียดมากนะครับ โปรแกรมทั้ง 3 ทัวร์ ค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวรูปจะเป็นร้อย ทำไม่ไหว เอาเป็นทัศนียภาพและบรรยากาศของการท่องเที่ยวไว้ดูเป็นไกด์ครับ

หลังจากดำน้ำ เรือก็จะพาเรามาขึ้นฝั่งเกาะไก่ เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกัน ค่าอาหารรวมอยู่ในทัวร์แล้วนะครับ ไม่มีภาพอาหาร เป็นแบบข้าวราดกับ 3-4 อย่าง แล้วแต่เราเลือก หรือจะเอาทั้งหมดก็ได้ แต่มีคนตักให้เรานะครับ ตักได้ครั้งเดียว เค้าทำไว้พอดีคนครับ

มองจากร้านอาหารออกมาสันทรายที่เชื่อมเกาะทับกับเกาะหม้อยังอยู่ แต่เกาะไก่ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกเรียบร้อยแล้ว ใครมาแหวกผิดเวลา ก็จะเห็นภาพแบบนี้แหละครับ (ช่วงที่ผมไปต้นเดือนตุลาคม ทะเลจะแหวกประมาณ 9-11โมง)

ไปกันอย่างรวดเร็วครับ หลังจากที่ทานอาหาร และพักผ่อนตามอัธยาศัยบนเกาะไก่แล้ว เราก็จะมุ่งหน้าสู่โปรแกรมต่อไปของทัวร์ 4 เกาะ นั่นก็คือ เกาะปอดะ ครับ

กิจกรรมหลักบนเกาะปอดะ ก็คือ การถ่ายรูปคู่กับเกาะแท่งนี้แหละครับ

หรือจะนั่งอาบแดดชิล ๆ คิดถึงคนที่อยู่ห่างไกลก็ได้

ได้รับการอัพเดทข้อมูลจาก คุณ nahccc ว่า เกาะปอดะซึ่งเคยเป็นของเอกชน ถูกยึดกลับมาอยู่ในหน่วยอุทยานฯ แล้ว ผมไปเมื่อปี 2555 บรรยากาศของเกาะก็จะออกฮิป ๆ ปาร์ตี้ ๆ หน่อย ๆ แบบนี้ครับ ไม่ทราบว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร ?

ต้องยอมรับว่าน้ำที่เกาะเค้าใสจริง ๆ ลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ

เจ้าจ๋อเหล่านี้มีหน้าที่เป็นหน่วยรักษาการณ์ แม้จะมีที่ทิ้งขยะไว้ให้ แต่ความมักง่ายก็มิได้หมดไป ยังไงไปเที่ยวก็ช่วยกันรักษานะครับ

ต่อไปเป็นโปรแกรมสุดท้ายของทัวร์ 4 เกาะทะเลแหวกครับ เรือพาเราเข้าฝั่งไปยัง หาดถ้ำพระนาง

หาดถ้ำพระนาง นับเป็นหาดที่เหมาะกับการเล่นและพักผ่อนชิล ๆ รับลมทะเล ที่นี่จะมีรีสอร์ทอยู่เพียงแห่งเดียว นั่นคือ รายาวดี ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่หน้าโลว์นี่ราคาลดลงไปเยอะตามฤดูกาลครับ

แม้ทรายจะไม่ขาวละเอียดเหมือนบนเกาะ แต่น้ำใสน่าเล่นมาก ๆ สาวน้อยสาวใหญ่สนุกกันน่าดู

ถ้ำพระนางจะมีศาลพระนางอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ โดยชาวบ้านจะนิยมนำปลัดขิกมาแก้บนกัน นานวันเข้า ปลัดขิกก็มีจำนวนมากอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

ที่นี่ยังมีกิจกรรมเรียกเหงื่ออีกมากมาย ทั้งการปีนหน้าผา, พายเรือคายัก หรือเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก็จะสามารถทะลุไปยังอ่าวไร่เลย์ได้ครับ


ผ่านไปแล้วหนึ่งทัวร์ เดี๋ยวเราจะไปดูทัวร์เกาพีพีกันต่อเลยครับ

มาถึงทัวร์ยอดนิยมทัวร์ที่สอง นั่นก็คือ ทัวร์เกาะพีพี สำหรับโปรแกรมทัวร์เกาะพีพี จะต้องนั่งเรือนานประมาณ 45 นาที โดยเริ่มแวะที่เกาะไม้ไผ่เป็นจุดแรก และต่อด้วยอ่าวต่าง ๆ บนเกาะพีพีดอน และพีพีเล ตามแผนที่ครับ ทัวร์นี้จะมีไฮไลท์อยู่ที่ อ่าวมาหยา บนเกาะพีพีเล ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเดอะบีช

เรือออกแล้ว ตอนนี้เป็นเวลา 09.30 น. หนทางยังอีกยาวไกล อย่าลืมใส่เสื้อชูชีพด้วยนะครับ

จากฝังมาประมาณ 45 นาที เราก็จะถึงเป้าหมายแรกที่ เกาะไม้ไผ่ เกาะสวยงามซึ่งมีหาดทรายขาวเนียนละเอียด ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะพีพีครับ

เกาะไม้ไผ่ แบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ กิจกรรมจึงไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็จะเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันไปครับ



หินแพ มีลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำ ที่มีปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังกิ่ง ปะการังสมอง แต่เจ้าสลิดบั้งขาโหดเยอะมากที่ผิวน้ำ เราต้องดำลงไปลึก ๆ ถึงจะเจอกับปลานกแก้วและสายพันธุ์อื่น ๆ ถ้าเจ้าสลิดบั้งน้อยลง เราก็จะเห็นสายพันธุ์ปลาที่สวยงามและหลากหลายมากขึ้น ดังนั้น อย่าเอาอาหารไปให้มันนะครับ เพราะเจ้านี่มีเยอะ แต่ความสวยมันเทียบไม่ได้กับปลาชนิดอื่นเลย

จากหินแพเรือพาเรามุ่งหน้าไปยังเกาะพีพีเล โดยจุดแรกจะมาแวะชมถ้ำไวกิ้งกัน ถ้ำนี้มีบริษัทฯ เอกชนได้รับสัมปทานรังนก ภายในมีภาพเขียนสีโบราณบนผนังถ้ำ ที่เล่ากันว่าเขียนโดยชาวประมงที่มาพักหลบคลื่น แต่ผมไม่ได้เข้าไปนะครับ แค่ลอยเรือถ่ายรูปอยู่ด้านนอก โปรแกรมนี้จึงไม่มีอะไรมาก

โปรแกรมต่อมา เรือจะพาเราล่องเข้าไปในอ่าวปิเละ หรือทะเลใน ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาทางตอนเหนือของเกาะพีพีเล มีปากทางเข้าเล็ก ๆ เหมือนประตูกันคลื่นลม น้ำทะเลภายในจึงนิ่งและใสมาก ชอบที่นี่มาก ๆ ครับ ล่องเรือช้า ๆ เข้าไปรับบรรยากาศหนึ่งรอบแล้ววนออกมา เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่น่าประทับใจ




กะว่าจะไปนั่งทำหน้าหล่อแบบพ่อหนุ่มลีโอนาโด ดิคาปริโอ ^^ ก็มีอันต้องฝันสลาย ที่จะยืนยังไม่ค่อยมีเลยครับ คนเยอะมาก

ช่วงกลางอ่าว ความคับคั่งจะลดลง เพราะตรงนี้เป็นเขตที่กันไว้ให้เล่นน้ำ จึงไม่มีเรือมาขวางหูขวางตาครับ

แม้ผู้คนจะวุ่นวาย แต่ก็รู้สึกได้ถึงทัศนียภาพที่สวยงามของที่นี่ ที่สำคัญหาดทรายขาวนุ่มเท้ามาก ขอลงแช่น้ำใส ๆ เพื่อเข้าสู่นิพพานก่อนนะครับ



น้ำที่นี่ใสมาก ๆ ครับ ขนาดตรงนี้เป็นท่าเรือก็ยังใสแจ๋ว


ได้เวลานัดแล้วเดินทางกันต่อครับ จุดหมายต่อไป คือ อ่าวลิง

วันนี้เราไม่ได้เข้าฝั่งไปดูลิง เนื่องจากไม่มีที่ให้จอดเรือ เพราะชายฝั่งของอ่าวลิงเล็กมาก ๆ เรือของทัวร์เราและอีกหลาย ๆ ลำ ต้องลอยคอให้นักท่องเที่ยวได้ดำน้ำกันอยู่ด้านนอก จุดนี้ก็เป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง และที่นี่ก็เป็นโปรแกรมสุดท้ายของทัวร์เกาะพีพี เรากลับเข้าฝั่งในเวลาประมาณ 4 โมงเย็นครับ

ใครขี้เกียจดำน้ำแล้วก็ถ่ายรูปกันไป มุมยอดนิยม แจ็ค-โรส ไททานิค


การเดินทางไปหมู่เกาะห้อง เรือจะต้องแล่นขนานฝั่งไปทางภูเก็ต (แต่ไม่ถึงภูเก็ตนะ) โดยต้องผ่านท่าเรือแถวหาดทับแขก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะได้เจอกับเรือสินค้าขนาดใหญ่แบบใกล้ชิดขณะเดินทาง

ป.ล. จริง ๆ ฟ้าไม่ได้มืดมิดแบบนี้นะครับ ทำรูปแบบ HDR ให้ดูน่ากลัวเล่นครับ

โปรแกรมแรกเราแวะดำน้ำที่เกาะแดงกันก่อนครับ ชาวต่างชาติคู่นี้คว้าขนมปังลงไปด้วย ไอ้กระผมก็ไม่รู้จะพูดกับเค้ายังไง พูดภาษาไทยเป็นอยู่ภาษาเดียวครับ เน้นย้ำกันอีกรอบนะครับ อย่าให้อาหารปลา ปล่อยให้มันเติบโตตามวัฏจักรของธรรมชาติ เราถึงจะเห็นปลาชนิดอื่นที่มีความสวยงามกว่าเจ้าสลิดหินพวกนี้

จุดที่สองเรามาจอดกันที่เกาะผักเบี้ยครับ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่คล้ายกับทะเลแหวก เพราะมีส่วนที่เป็นสันดอนทราย เหมือนหาดสองฝั่งเชื่อมเข้าหากัน ใครจะเล่นน้ำหรือถ่ายรูปก็ตามอัธยาศัยครับ

สมควรแก่เวลา ไกด์จอนนี่ อันวา ก็พาเราตรงดิ่งไปยังเกาะเหลาลาดิง ชื่อเรียกยากจัง เค้าก็เลยเรียกกันว่า เกาะพาราไดซ์ครับ บนเกาะจะมีอ่าวเล็ก ๆ ให้เราพักผ่อน โดยเราจะทานอาหารกลางวันกันที่นี่ และมีห้องน้ำห้องท่าไว้ให้บริการด้วยครับ

อาหารคล้ายกับทัวร์สี่เกาะครับ ข้าวพร้อมกับ 3-4 อย่าง ให้เราเลือก ตักได้ครั้งเดียว หามุมนั่งทานกันตามสบายครับ

กะว่าจะนั่งทานมุมนี้ซะหน่อย ตาฝรั่งกลุ่มนี้ก็นั่งโชว์ร่องไม่ยอมขยับไปไหนเลย

หามุมอื่นก็ได้ เชอะ

ทานข้าวเสร็จก็ถ่ายรูปย่อยอาหารกันสักพัก ก่อนออกเดินทางต่อครับ

ต่อไปเรามุ่งหน้าไปยังลากูนหรือทะเลในของเกาะห้อง โดยจะต้องล่องเรือผ่านช่องผาเล็ก ๆ เข้าไปสู่เวิ้งทะเลด้านใน ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยขุนเขา ที่นี่เรือจะเข้าไปได้เฉพาะช่วงที่น้ำขึ้นเท่านั้นนะครับ ถ่ายย้อนกลับไปตรงทางเข้าครับ

ภายในเขียวมาก ๆ

จากนั้นเราเดินทางไปปิดท้ายทัวร์ที่ อ่าวปิเละ ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี แถวนี้มีแต่ชื่อเรียกยาก ๆ นะครับ

ชายหาดที่นี่กว้างใหญ่ โค้งเป็นอ่าว น้ำทะเลสีเขียวมรกต โดยมีเขาหินปูนตั้งขวางปากอ่าวไว้จนเหมือนเป็นห้องโถงครับ

ทิ้งท้ายด้วยภาพบรรยากาศชิล ๆ บนเกาะห้องนะครับ ทริปนี้กลับถึงอ่าวนางประมาณ 4 โมงเย็นครับ




สำหรับเวอร์ชั่นเต็ม ๆ ของทริปเกาะพีพีและเกาะห้อง ทั้งที่พักและการเดินทาง รับชมได้ที่ 2 กระทู้นี้นะครับ (ส่วนสี่เกาะยังไม่ได้ทำ)


และรีวิวเก่า ๆ เอาไว้อ่านกันคลายเครียด






