เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ p-orbital สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, piriyaphoto.com และ เฟซบุ๊ก Piriya Photography
วันนี้เราเอาใจคนอยากออกไปโลดแล่น เปิดโลกอันกว้างใหญ่ ด้วยการนำเอาบันทึกการเดินทางที่มาพร้อมกับภาพถ่ายสวย ๆ ของ คุณ p-orbital สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไปสัมผัสกับสถานที่งดงามของแหล่งท่องเที่ยวในโซนทะเลทรายทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา หรือ American Southwest Desert และหยิบเอามาถ่ายทอดให้เราได้ชมกัน รับรองว่าคุณจะไปพบเห็นกับศิลปะธรรมชาติอันน่าทึ่งสุด ๆ เอาล่ะ ! พร้อมแล้วก็ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า
สวัสดีครับ
กระทู้นี้ผมอยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในทะเลทรายทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา หรือ American Southwest Desert นะครับ หลัก ๆ แล้วจะกินเนื้อที่ครอบคลุมทั้งห้ารัฐ คือ Nevada, Arizona, Utah, New Mexico, และมีบางส่วนอยู่ใน California ครับ คนส่วนมากเวลามาเที่ยวทะเลทรายในอเมริกา จะเล็ง Grand Canyon เป็นอันดับแรก มันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อลังการมาก แต่ถ้าถามความเห็นผมแล้ว ผมชอบ Grand Canyon น้อยที่สุดครับ ดูแล้วประทับใจด้วยตา แต่ถ่ายรูปยากหน่อย มาครั้งเดียวพอแล้ว 555
ข้อควรระวังอย่างหนึ่งของการเที่ยวทะเลทราย ก็คือ ต้องหลีกเลี่ยงหน้าร้อนครับ หน้าร้อนของที่นี่ คือ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงสิงหาคม มันร้อนมาก ๆ ร้อนแดดแบบแผดเผา ร้อนเหมือนอยู่ในเตาอบ ต้องพกน้ำไปเยอะ ๆ ป้องกันร่างกาย dehydrate ครับ อย่าประมาททะเลทรายเลยทีเดียว ส่วนช่วงที่แนะนำ คือ เดือนกันยายนถึงตุลาคม หรือไม่ก็มีนาคมถึงเมษายนครับ อากาศกำลังสบาย หน้าหนาวก็เที่ยวได้ แม้ว่าจะหนาวระดับติดลบ แต่เดินง่ายกว่าไปหน้าร้อนแน่ ๆ ครับ
ในกระทู้นี้จะมี 14 สถานที่ ที่ผมอยากแนะนำ ไล่เรียงจากที่ที่ไปไม่ยาก ไล่ความยากในการเดินทางไปเรื่อย ๆ นะครับ บางท่านอาจจะเคยไปมาแล้ว แต่ผมมั่นใจว่าบาง Location ผมเป็นคนไทยคนแรก ๆ ที่ไปมา 555 สำหรับภาพแรก เดากันได้ไหมครับว่าภาพนี้ถ่ายจากที่ไหน มีเฉลยในภายท้ายสุดครับ (อีกหลายภาพเลย ฮา ๆๆ)
1. Antelope Canyonสถานที่แห่งนี้หลายคนคงคุ้นเคยดี มันอยู่ใกล้เมือง Page รัฐ Arizona ครับ มี Location สองแห่ง คือ Upper Antelope Canyon กับ Lower Antelope Canyon ทั้งสองแห่งนี้อยู่ในเขตของอินเดียนแดง ไม่ใช่ National Park ครับ คนอินเดียนแดงก็โขกค่าเข้าชมแพงมาก ๆ หน้าหนาวประมาณ $40 ต่อคน หน้าร้อนน่าจะพุ่งไปเกือบ ๆ $70 ครับ ที่ Upper Antelope จะแพงกว่า และคนเยอะกว่า ส่วน Lower Antelope จะเดินยากกว่า ต้องไต่บันไดลงไป ค่าเข้าถูกกว่า แถมยังมี Photographer Pass ในราคาที่ไม่แพงด้วยครับ (ครั้งก่อนผมไป จ่ายเพิ่มอีก $10 ต่อคน) และเดินเล่นภายในได้ถึงสองชั่วโมง ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดแล้วครับ
Lower Antelope Canyon ผมไปมาสองครั้ง ติดใจมาก มันให้เข้าได้นาน ฮา ๆๆ ต้องมาช่วงเช้านะครับ แสงจะสวย
ส่วน Upper Antelope Canyon ผมมีภาพเดียวครับ คนเยอะ ถ่ายยากมาก ชอบมีทัวร์จีนมาลง
2. Bryce Canyon National Parkสถานที่นี้ก็ดังมากเช่นกัน ผมชอบหน้าหนาวครับ มาที่นี่สามครั้งแล้ว ชอบหน้าหนาวมากกว่า จุดชมวิวที่แนะนำ คือ Sunset Point และ Bryce Point ถ่ายตอนเช้าทั้งคู่ครับ
3. Canyonlands National Park + Arches National Parkทั้งสองที่อยู่ใกล้กับเมือง Moab ในรัฐ Utah ครับ ถ้าตั้งต้นจากเวกัสจะไกลสักหน่อย ขับรถเกือบ ๆ เจ็ดชั่วโมงได้ครับ สามารถนอนที่ Moab แล้วทำ day trip ไปทั้งสองอุทยานฯ ได้ครับ ผมไม่ค่อยมีรูปดี ๆ จาก Canyonlands เท่าไหร่ ไปแล้วฟ้าเน่าตลอด ฮ่า ๆๆ ลักษณะคล้ายกับแกรนด์ แคนยอน แต่คอนเฟิร์มว่าสวยกว่าแน่นอนครับ
ภาพนี้ถ่ายจาก Green River overlook
และ Arches National Park ครับ ถ่าย Turret Arch ผ่าน North Window
4. Valley of Fire State Parkอยู่ห่างจากลาสเวกัสแค่ชั่วโมงเดียว ใกล้มาก ๆ ครับ ในนี้มีหินสวย ๆ เยอะมาก ถ่าย Pattern สนุกเลย จุดชมวิวทุกอันเดินทางไม่ยากครับ รถถึง หรือไม่ก็เดิน 15-20 นาทีครับ ในภาพด้านล่าง คือ Windstone Arch, Fire Wave, และ Pink Canyon ตามลำดับครับ หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ใน ebook ครับ
5. Horseshoe Bendเกือบลืมพูดถึงที่นี่ไป เดินทางง่ายมาก (หลายคนคงเคยมาแล้ว) อยู่ทางใต้ของเมือง Page ที่อยู่ในโพสต์แรกครับ ขับรถ 5 นาทีถึง เดินอีก 1 กิโลเมตร ชิล ๆ ครับ สวยทั้งแสงเช้าและแสงเย็น
6. Kayak in Colorado Riverเดินทางจาก Las Vegas ประมาณชั่วโมงหนึ่งเช่นกัน ไปทาง Hoover dam ครับ พายในแม่น้ำช่วงใต้เขื่อน พายจาก Willow Beach ทวนน้ำขึ้นไป ถ้ำนี้ต้องพายประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และถ่ายตอนบ่ายครับ แสงจะเข้าพอดี
7. The Narrowsเป็น Trail หนึ่งใน Zion National Park ครับ เดินสนุกมาก เพราะได้ลุยน้ำเย็น ๆ ไปตลอดทาง เดินประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไป-กลับก็ 6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำครับ แสงสวยตอนก่อนเที่ยง และหลังเที่ยงครับ เพราะพระอาทิตย์จะทำมุมเฉียง และเกิดแสงสะท้อนไปมาบนผนังถ้ำ ฝรั่งเรียกว่า Reflected Light ครับ
8. Bisti/de-na-zin wildernessBisti เป็น Wilderness ที่ไม่ค่อยดัง อยู่ใกล้กับเมือง Farmington รัฐ New Mexico แต่ทีนี่มีเสาหิน หรือ hoodoo เยอะมาก ๆ และสวย ๆ ทั้งนั้น ผมไปมาหนึ่งรอบ ยังได้ภาพไม่จุใจ ต้องกลับไปซ้ำครับ นอกจากนี้ ก็มีหินแปลก ๆ เหมือนไข่เอเลี่ยนด้วย (เขาว่างั้น)
9. Racetrack Playaอยู่ใน Death Valley National Park รัฐ California โด่งดังเพราะมีร่องรอยของหินเลื่อนได้ หรือ Moving Rock การเดินทางนั้นยากลำบากนิดนึง ต้องใช้รถ SUV หรือรถท้องสูง เพราะถนนลูกรัง หินเยอะครับ ถ่ายได้ทั้งแสงเช้าและเย็นเลย (แต่จะโดนภูเขาบัง)
แถม Zabriskie Point อยู่ในอุทยาน Death Valley เช่นกัน เดินทางง่ายมาก รถถึง ถ่ายแสงเช้าครับ
10. Kanarra Creekอยู่ในเมือง Kanarraville ทางด้านตะวันตกของ Zion National Park เดินไม่ยากเลยครับ ชั่วโมงเดียวเอง แต่ช่วงท้าย ๆ ต้องลุยน้ำกันหน่อย และถ้าปีนบันไดแรกผ่านไปได้ ก็จะมีอีกน้ำตกหนึ่งอยู่ด้านในสุดครับ
11. Subwayอยู่ใน Zion National Park ชื่อตามตัวแปลว่า รถไฟใต้ดิน เพราะลักษณะมันคล้ายกับอุโมงค์ครับ การไปที่นี่ต้องขอ Permit ซึ่งอนุญาตให้เดินเข้าได้วันละ 50 คน ช่วงปีหลัง ๆ คนไปกันเยอะมาก หน้าร้อนต้องจับ Lottery ว่าใครจะเป็นผู้โชคดีครับ แต่หลังเดือนตุลาคมคนจะน้อยลง จอง Permit ล่วงหน้าได้ผ่านเว็บไซต์ของอุทยานฯ
เส้นทางค่อนข้างไกล ไปกลับประมาณ 10 กว่า ๆ กิโลเมตรครับ เดินเลาะลำธารไปเรื่อย ๆ เริ่มต้นจาก Left Fork trailhead บน Kolob Canyon Road ครับ
12. Zebra Canyonอยู่ใกล้กับเมือง Escalante ทางตะวันออกจาก Bryce Canyon National Park ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ เดินไม่ไกลมาก ประมาณ 4 กิโลเมตร แต่ไม่มีป้ายบอกทาง ถ้าไม่มี GPS น่าจะหลงง่าย ๆ ครับ แต่เข้าไปแล้วคุ้มมาก ๆ ถ้าอยากได้ภาพแบบที่ผมถ่าย ต้องหาจังหวะแสงดี ๆ แสงสวยช่วงเช้านะครับ
13. White Pocketอยู่ทางตะวันออกของเมือง Kanab รัฐ Utah แต่จริง ๆ แล้ว White Pocket อยู่ในรัฐ Arizona ครับ ตรงชายแดนพอดี เทียบกันกับสถานที่ที่กล่าวมาแล้ว White Pocket เป็นที่ที่เดินทางไปยากที่สุดที่ผมไปมา เพราะต้องขับรถ 4WD ไปบนถนนทราย ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นทรายจริง ๆ ครับ ถ้าเป็นรถธรรมดาไม่รอดแน่นอน เพราะทรายมันยวบมาก ๆ
แต่ลักษณะของหินที่นี่มันไม่ธรรมดาเลยครับ ลวดลายเยอะมาก
รูปนี้ผมตั้งชื่อให้ว่า "สันหลังมังกร"
14. The Waveมาถึงเฉลยจากภาพแรกสุด นั่นคือ The Wave นั่นเองครับ อยู่ใน Coyote Buttes North
The Wave เอาจริง ๆ แล้วเดินทางไม่ยากเลยครับ เดินประมาณ 4.5 กิโลเมตร แต่ที่ยากเพราะที่นี่จำกัดคนเข้าเพียง 20 คนต่อวัน ใช้ระบบลอตเตอรี่ ใครดวงดีก็ได้เข้าครับ แบ่ง 20 Permit เป็นให้จอง Online 10 ที่ ซึ่งโอกาสได้ประมาณ 2-5% ครับ ส่วนอีก 10 ที่ให้เป็นแบบ Walk-In คือ ให้มาติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าหนึ่งวันเพื่อทำการจับสลาก ในช่วงหน้าร้อนก็จะมีคนเข้ามาจับฉลากประมาณ 100-150 คน โอกาสได้ก็ 1/10 ส่วนหน้าหนาวคนจะน้อยกว่า ตอนที่ผมไป ปลายเดือนธันวาคม มีคนมาจับฉลากแค่ 40 คนเองครับ ผมให้เพื่อนเป็นคนส่งฉลาก และก็โชคดีจริง ๆ ครับ
ถ้าใครมีโอกาสได้แวะไปแถว Kanab และมีเวลาว่าง ๆ ก็ลองไปเสี่ยงดวงดูนะครับ ครั้งหนึ่งในชีวิต รับรองว่าคุ้มค่าครับ
ป.ล. ติดตามเรื่องราวการเดินทางและการถ่ายภาพของผมได้ที่ เฟซบุ๊ก Piriya Photography และ piriyaphoto.com นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ
พี
แถมอีกภาพหนึ่ง มันเป็นมุมเล็ก ๆ ที่ผมชอบมากครับ อยู่ก่อนถึง Subway เป็นแค่รอยแตกของหินที่มีน้ำไหล แต่ classic สุด ๆ ครับ ถ้าไปช่วงหน้าใบไม้ร่วง (ต้นเดือนพฤศจิกายน) จะได้ใบไม้สีเหลืองมาประดับภาพด้วย
