เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ดร.ธรณ์ เผย อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่ว วอนทางจังหวัดระยอง อย่าเพิ่งเร่งฟื้นฟู หวั่นเกิดผลกระทบ
วันนี้ (5 มีนาคม 2557) ที่คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาตร์ทางทะเลและรองคณบดีคณะประมง พร้อมทีมนักวิจัยเฉพาะด้าน ร่วมแถลงข่าวผลการสำรวจและเฝ้าติดตามระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ที่บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ภายหลังจากเกิดเหตุน้ำมันรั่วผ่านไปเป็นเวลา 6 เดือน
โดย ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวว่า ปริมาณปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน ที่สะสมในตะกอนทรายที่อ่าวพร้าวมีปริมาณลดลงตามลำดับ ปะการังมีการฟื้นตัวจากการฟอกขาวซึ่งอาจต้องใช้เวลา 5-7 ปี จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามศึกษาอย่างใกล้ชิด เพราะในอนาคตอาจเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ที่ต้องเผชิญกับภาวะน้ำทะเลที่อุณหภูมิสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนอีกระลอกด้วย ส่วนการตรวจปริมาณไฮโดรคาร์บอนทั้งในตะกอนทรายนั้น พบว่ายังเข้าสู่ภาวะปกติไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวต่อว่า ในขณะนี้สามารถลงเล่นน้ำและจับสัตว์น้ำจากอ่าวพร้าวมารับประทานได้โดยไม่เกิดอันตราย เพราะในเวลานี้ยังไม่พบว่ามีการสะสมของสารไฮโดรคาร์บอนในสัตว์น้ำ จนถึงขั้นห้ามนำไปรับประทาน แต่ในอนาคตอาจจะมีการสะสมของสารเคมีพวกนี้ได้ จึงต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งอยากขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทาง จ.ระยอง อย่าเพิ่งเข้าไปฟื้นฟู เพราะหากมีการฟื้นฟูเวลานี้การฟื้นฟูจะทำได้ไม่เต็มที่ และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าแนวทางในการฟื้นฟูนั้นถูกต้อง เปรียบได้กับคนไข้ที่ยังไม่หายดีแต่ไปทำกายภาพบำบัด อาจจะส่งผลไม่ดีกับร่างกายได้ ทั้งนี้การฟื้นฟูอ่าวพร้าวนั้น ต้องขอให้มีการเก็บข้อมูลศึกษาความเหมาะสมผ่านไปก่อน เพราะอาจจะเข้าไปฟื้นฟูไม่ถูกที่ งบประมาณจะสูญเปล่า ซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ปี อย่างไรก็ตาม หากต้องการจะฟื้นฟูจริง ๆ ให้ไปฟื้นฟูพื้นที่หาดอื่น ๆ ในเกาะเสม็ดก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก