จะมีสักกี่คนที่มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวรอบโลก ไปเปิดประสบการณ์ที่ชีวิตประจำวันหรือหนังสือท่องเที่ยวเล่มไหนไม่เคยมอบให้คุณได้ และแม้ว่าหลายคนจะมีความฝันอยากเที่ยวรอบโลกมาก่อน ก็คงยังไม่สบโอกาสสักทีใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูประสบการณ์ท่องเที่ยวรอบโลกของ เคลย์ตัน บี คอร์แนล จากเว็บไซต์ Huffington Post ที่เขาได้นำมาแชร์ไว้ก่อนดีกว่า แว่ว ๆ มาว่าพ่อหนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกาคนนี้ ลงทุนลาออกจากงาน แล้วตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก ทำตามความฝันกว่า 10 ปีของตัวเองจนสำเร็จอย่างสวยงาม แถมยังนำ 20 ประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาจากการเดินทางทั่วโลก ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีมาฝากเรากันด้วยจ้า
ภาพจาก Las-Ramblas/shutterstock
1. คนส่วนใหญ่เป็นมิตรและน่ารัก
จากที่มีโอกาสได้เดินทางไปรอบโลก ทำให้รู้ว่าเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ทั่วโลกเป็นมิตรกว่าที่เขาคิดไว้เยอะพอสมควร และพูดได้เลยว่าประชาชนทุกประเทศมีความยินดีที่จะต้อนรับแขกต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงพร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เช่น หลงทาง หรือสื่อสารกับคนท้องถิ่นไม่เข้าใจ และสิ่งสำคัญที่เขาได้เรียนรู้ ก็คือ ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปประเทศไหน การเรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ขอบคุณ” เป็นภาษาท้องถิ่น จะเปลี่ยนท่าทีของประชาชนในที่แห่งนั้น และมันเป็นประโยชน์กับคุณมาก ๆ เลยด้วยนะ
2. หลายที่มีความปลอดภัยกว่าซานฟรานซิสโก
หลายคนอาจคิดว่าการเดินทางไปเที่ยวรอบโลกดูเสี่ยงอันตรายกว่าการที่คุณใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของตัวเอง และเมืองที่มีความคุ้นเคย แต่สำหรับคอร์แนลกลับรู้สึกปลอดภัยที่จะนอนพักตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เขาได้เดินทางไปถึง มากกว่าจะเดินเล่นในสวนสาธารณะที่ซานฟรานซิสโกบ้านเกิดของตัวเองซะอีก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าทุกประเทศก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่รัดกุมพอสมควร และสัญชาตญาณของนักท่องเที่ยวทุกคนก็มักจะระแวดระวังความปลอดภัยในชีวิตดีอยู่แล้ว อีกทั้งตลอดระยะเวลา 365 วัน ที่เขาได้เดินทางไปทั่วโลก เหตุการณ์ที่เรียกว่าโชคร้ายมากที่สุดของเขาก็แค่เพียงโดนขโมยไอโฟนที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งก็เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงถึงกับชีวิต หรือทำให้บาดเจ็บแม้เพียงปลายนิ้วเลยด้วย
3. ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างชนชาติ
คนส่วนมากที่เขาพบเจอไม่มีสักคนที่จะแสดงอาการต่อต้าน หรือสนใจว่าเขามาจากประเทศมหาอำนาจ ที่กำลังมีเหตุการณ์ขัดแย้งทางทหารกับชาติอื่น ซึ่งจุดนี้ต้องบอกว่าเขาค่อนข้างประทับใจ และสบายใจที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วโลกมากเลยทีเดียว
4. ใช้งบท่องเที่ยวแค่ประมาณ 40,000 บาทต่อเดือน
มีคนจำนวนไม่น้อยที่แปลกใจว่าเขาทำยังไงถึงได้เที่ยวไม่เลิกสักที และหลายคนก็คาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าเขาคงเงินหนาน่าดู แต่จริง ๆ เขามีงบท่องเที่ยวแค่ประมาณ 40,000 ต่อเดือนเท่านั้น และเงินจำนวน 40,000 บาท นี้ก็ทำให้เขาใช้ชีวิตในต่างประเทศอย่างสบาย ๆ แถมยังพาเขาไปเที่ยวได้อีกตั้ง 24 ประเทศเลยล่ะ เริ่มจากฮอนดูรัส, เอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา, นิการากัว, คอสตาริกา, ปานามา, โคลอมเบีย, เปรู, เอกวาดอร์, ชิลี, เกาะอีสเตอร์ (ชิลี), อาร์เจนตินา, อุรุกวัย, ซานตาครูซ (แคลิฟอร์เนีย), นอร์ธ ชอร์ โอวา, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนี, สาธารณรัฐเช็ก, โปแลนด์, ฮังการี, ออสเตรีย, เซอร์เบีย, บัลแกเรีย และตุรกี เห็นไหมล่ะว่ามันไม่ได้แพงอย่างที่คิด แต่ถ้าคุณเที่ยวแบบประหยัด ๆ แบบไม่ดื่มเหล้า เบียร์ และแอลกอฮอล์แบบเขา ก็น่าจะเหลือเงินอีกพอสมด้วยเลยจ้า
5. เที่ยวรอบโลกแบบประหยัดทำได้ไม่ยาก
อย่างที่บอกว่าทริปเที่ยวรอบโลกในครั้งนี้ใช้เงินไม่มากอย่างที่ใคร ๆ คิด แต่อย่างไรก็ดี เขาก็มีการเตรียมตัวเก็บเงิน และวางแผนเที่ยวรอบโลกมากว่า 5 ปีแล้ว ดังนั้น เขาจึงเก็บหอมรอมริบเงินให้ได้มากที่สุด โดยก่อนการเดินทางเขาตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะต้องใช้เงินราว ๆ 2,000 บาทต่อวัน แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เขาก็ใช้เงินเที่ยวเพียงวันละ 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งก็พิสูจน์ให้คุณเห็นแล้วว่าการเที่ยวรอบโลกแบบประหยัด ๆ คุณก็ทำได้ไม่ยาก
6. ยิ่งช้ายิ่งคุ้ม
สำหรับทริปท่องเที่ยวรอบโลกในครั้งนี้ คอร์แนลเตรียมตัววางแผนและหาข้อมูลของประเทศต่าง ๆ เช่น การเดินทาง และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอย่างถี่ถ้วน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องบอกว่าใช้เวลาค้นคว้าอยู่นานเหมือนกัน แต่เขาก็รู้สึกว่าคุ้มที่เสียเวลาไปกับการหาข้อมูลในครั้งนี้ เพราะมันช่วยให้เขาหาที่พักสุดคุ้ม รู้จังหวะการเดินทางที่เหมาะสม แถมยังได้ตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษอีกด้วยนะ ประหยัดเงินเที่ยวได้อีกหลายตังเลยล่ะ อ้อ ! คอร์แนลยังบอกอีกด้วยว่า คุณควรปล่อยเวลาให้เดินไปช้า ๆ ท่องเที่ยวให้ละเอียด เพราะมันจะช่วยให้คุณเหนื่อยน้อยลง และมีความสุขมากขึ้นอีกเยอะ
7. การเดินทางในบางประเทศไม่ง่ายนัก
สำหรับซานฟรานซิสโก หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาในการเดินทางมากนัก แต่กับบางประเทศที่เขาได้ไป ก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าการเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะบางที่ไม่มีรถโดยสาร ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยและรวดเร็ว และคุณอาจต้องพายเรือ ปั่นจักรยาน โบกรถ หรือแม้แต่เดินเท้าเพื่อเดินทางไปยังอีกที่หนึ่ง แต่อย่างน้อยทริปนี้ก็เปิดโลกกว้างให้เขาได้รู้ว่า ประชาชนในประเทศที่ยากจนและด้อยพัฒนา พวกเขาเดินทางและใช้ชีวิตกันอย่างไร
8. การแบกเป้หนักเกิน 9 กิโลกรัม คือหายนะย่อย ๆ
คอร์แนลเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ทำให้เขาแทบร้องไห้ไม่ใช่ตอนที่ต้องทนนอนในที่ที่แสนลำบาก หรือต้องเดินเข้าป่าหลาย ๆ วัน แต่เป็นการทนแบกเป้หนักเกิน 9 กิโลกรัม ต่างหากที่เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงสำหรับการเดินทางของเขา โดยเฉพาะคนที่ต้องการปีนเขาแล้วเป้หนักเกิน 9 กิโลกรัม จะเป็นตัวถ่วงชั้นดีของคุณเลยทีเดียว ฉะนั้น จึงขอเตือนว่าให้พกของเท่าที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น กล้อง แล็ปท็อปอย่าลืม และของที่คิดว่าอาจจะต้องใช้ให้ตัดทิ้งไปได้เลย หยิบแต่ของที่ต้องใช้เข้ากระเป๋าเท่านั้นพอ
9. เที่ยวรอบโลกไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่เป็นงานหิน !
เป็นเพราะว่าทริปนี้เขาตั้งเวลาไว้แค่ 1 ปีเท่านั้น การท่องโลกกว้างของเขาในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อย และดึงพลังจากเขาไปมากพอสมควร ซึ่งก็คงไม่มีใครเข้าใจจนกว่าจะได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง และนั่นก็ทำให้เขาต้องยอมกลับบ้านไปพักผ่อน หลังจากที่เดินทางท่องเที่ยวไปแค่ 6 เดือน แต่อย่างน้อยประสบการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า การท่องเที่ยวรอบโลกไม่ใช่เรื่องชิล ๆ อย่างที่คิด และควรต้องให้เวลากับมันมากกว่านี้ถึงจะคุ้ม
10. นักเดินทางแตกต่างจากนักท่องเที่ยว
มีความหมายที่แตกต่างกันระหว่างคำว่า “นักท่องเที่ยว” กับ “นักเดินทาง” นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ เก็บภาพสวย ๆ เที่ยวชมสถานที่ และซื้อของฝากกลับบ้านไป แต่นักเดินทางจะเดินทางไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น เรียนรู้ภาษาท้องถิ่นที่เขาได้ไปเยือน และใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับคนในท้องถิ่นนั้น ๆ ส่วนตัวคอร์แนลเองก็บอกว่าตัวเองเป็นทั้งนักท่องเที่ยว และนักเดินทาง แต่อาจจะค่อนมาทางนักเดินทางมากกว่านักท่องเที่ยวอยู่สักหน่อย
11. อย่ากลัวที่จะเดินทางคนเดียว
การเดินทางคนเดียวดูน่ากลัวสำหรับบางคน แต่สำหรับคอร์แนลต้องบอกว่าเขาค่อนข้างพอใจที่จะท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพียงลำพัง ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณจะรู้สึกมีอิสระในทุกที่ อยากไปไหนก็ไป อยากพักตรงไหนก็หยุด แถมการบินเดี่ยวยังเปิดโอกาสให้คุณได้พบเพื่อนใหม่อีกมากมายอย่างที่คุณคาดไม่ถึง สรุปแล้วรวม ๆ ถือว่าการเดินทางคนเดียวนี่โอเคเลยจ้า
12. เวลา 3 คืนต่อที่ ดีที่สุด
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ควรจะเป็น 2-3 คืนต่อแห่ง เพราะช่วงเวลานี้จะพอดีให้คุณได้มีโอกาสเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม และพักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อนออกเดินทางต่อไปอีกด้วย แต่สำหรับบางสถานที่ก็อาจจะย่นระยะเวลาให้เหลือแค่ 1 วัน 1 คืนได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของตัวคุณเอง
13. อย่าคาดหวังมากเกินไป
จากประสบการณ์ที่ท่องเที่ยวมาทั่วโลกแล้ว เขาคิดว่าเราไม่ควรคาดหวังหรือตั้งเป้าอะไรไว้มากนัก เพราะความคาดหวังและภาพที่ฝันเอาไว้จะทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของคุณลงไปกว่าครึ่ง เนื่องจากบางสถานที่ที่คิดไว้ว่าจะต้องสวยน่าอัศจรรย์มาก ๆ ก็กลับสวยงามพอให้ประทับใจได้เบา ๆ แต่บางที่ที่ไม่เคยคิดว่าจะมีอะไรพิเศษ ก็กลับกลายเป็นว่าสวยงามดั่งเมืองสวรรค์เลยทีเดียว
14. การท่องเที่ยวไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ว่าคอร์แนลจะเดินทางไปเที่ยวรอบโลกแล้ว แต่เขาก็ยังคิดอยู่เสมอว่าการเดินทางของเขายังไม่ถึงจุดสิ้นสุด และตราบใดที่เขายังมีกำลัง มีความพร้อม เขาก็ยังคงอยากเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ อีกเรื่อย ๆ จนกว่าเรี่ยวแรงจะหายไป เพราะโลกกลม ๆ ของเราใบนี้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ ที่เรายังไม่มีโอกาสได้ค้นพบอีกเยอะเลยล่ะค่ะ
15. ในที่สุดเราจะรู้ว่าตัวเองต้องการทำอะไร
ช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจลาออกเพื่อท่องเที่ยวรอบโลก ในใจตอนนั้นเขาคิดแค่ว่าอยากเดินตามฝัน และอยากเที่ยวทุกที่ที่อยากไป และเขาก็พบว่าการลาออกจากงานในครั้งนี้ของไม่สูญเปล่าซะทีเดียว เพราะกลับมาพร้อมกับความอิ่มเอมใจ และประสบการณ์ที่การนั่งทำงานในออฟฟิศไม่มีวันมอบให้เขาได้แน่ ๆ แต่กับบางคนอาจจะรู้สึกไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ที่เขาตัดสินใจเลือกทางนี้ แต่เชื่อเถอะว่าสักวันหนึ่งคุณจะรู้สึกว่าตัวเองต้องการอะไรจริง ๆ และอยากจะลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเองเหมือนเขานี่ล่ะ
16. การท่องโลกกว้าง เปลี่ยนมุมมองชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เป้าหมายในชีวิตของคนส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องเงินทอง หน้าที่การงาน ซึ่งจัดว่าเป็นความสุขขั้นพื้นฐานในชีวิต แต่สำหรับเขาแล้ว หลังจากได้ออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก ก็ทำให้เขาคิดว่าความสุขที่แท้จริงและยั่งยืนที่สุด น่าจะเป็นการรู้จักชีวิตในทุกแง่มุม การปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกับคนในทุกสังคม และการมีความสุขอย่างพอเพียงกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไร้ซึ่งการขวนขวาย หรือดิ้นรนเพื่อให้ได้เงินมาครอบครองเยอะ ๆ เพราะสำหรับเขาแล้ว ชีวิตเราควรมีเงินไว้สำหรับดูแลตัวเองในยามแก่เฒ่า มีเงินเพื่อเตรียมการไว้สำหรับคนรุ่นหลัง และมีเงินพอจะดูแลคนที่เรารัก แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
17. เสียงรอบข้างไม่ต่างอะไรจากเสียงนกเสียงกา
ทันทีที่คอร์แนลบอกใคร ๆ ว่าเขาจะลาออกจากงานเพื่อเดินทางรอบโลก ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายหลายกระแส แต่เสียงเหล่านั้นก็ไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรกับเขาได้ เพราะเขาคิดอยู่เสมอว่า เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และความต้องการก็เป็นเรื่องที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลด้วย ดังนั้น หากคุณมีความมุ่งมั่นที่จะเดินทางรอบโลกมากพอ ก็ขอให้เชื่อมั่นและศรัทธาในการเดินทางครั้งนี้มาก ๆ
18. คุณไม่สามารถเรียนและท่องเที่ยวในเวลาเดียวกันได้
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกเป็นงานหินอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งก็แน่นอนว่าคุณไม่สามารถเรียนไปด้วยและท่องเที่ยวไปด้วยพร้อม ๆ กันได้ เพราะการศึกษาจำเป็นต้องใช้สมาธิ และความตั้งใจในระดับที่สูง แต่การเดินทางท่องเที่ยวแบบที่เรียกว่าคุ้มค่า ต้องใช้เวลาละเลียดความสุข และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ แต่หากว่าคุณอยากเรียนรู้วัฒนธรรม และความแตกต่างระหว่างชาวท้องถิ่นของแต่ละประเทศ แบบนี้ก็พอถูไถไปได้นะ
19. เมื่อรู้สึกหงุดหงิดหัวเสีย ให้มุ่งหน้ากลับบ้าน
ทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างกัน โดยเฉพาะในตอนที่เขาต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ทำนองนี้กระตุ้นให้เขาปรี๊ดแตกได้สุด ๆ ไปเลย แต่หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไป เขาจะกลับมารู้สึกผิดและเสียใจที่แสดงอารมณ์แบบนั้นกับคนท้องถิ่น ที่พยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา ดังนั้น เขาจึงได้บทเรียนว่าหากเมื่อไหร่ที่คุณหมดอารมณ์จะทำความเข้าใจกับความต่างชาติ ต่างภาษา เมื่อนั้นให้คุณมุ่งหน้ากลับบ้านเกิดเมืองนอนไปซะ เพราะนั่นเท่ากับว่าคุณไม่เหมาะจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่ไร้ความคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตของคุณอีกแล้ว
20. ท่องเที่ยวรอบโลก 1 ปี สอนอะไรคุณมากกว่าที่คิด
ไม่ว่าชีวิตก่อนออกเดินทางของคุณจะเป็นแบบไหน ทัศนคติที่มีต่อโลกและตัวเองเป็นอย่างไร หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเที่ยวรอบโลกแล้ว ความคิดและมุมมองในชีวิตของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และโชคดีที่มันจะเปลี่ยนไปในทางบวก เพราะคุณจะมีโอกาสได้เรียนรู้ชีวิตจริง ๆ ได้มากขึ้น ได้เห็นวิถีชีวิตของคนต่างระดับ และอาจจะเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในชีวิตอีกมากมายเกินที่คุณจะคิดไว้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณจะได้จากการท่องเที่ยวรอบโลกเหมือนอย่างนักเดินทางชาวอเมริกาคนนี้ ก็อาจไม่ตรงตามนี้เป๊ะ ๆ เพราะต่างคนก็ต่างสไตล์ ต่างมุมมอง เป้าหมาย และต่างวิธีคิดด้วย แต่อย่างไรก็ดี ถ้ามีโอกาสได้ท่องเที่ยวรอบโลกแบบนี้ ยังไงก็ต้องถือว่าเป็นกำไรชีวิตที่คุ้มที่สุดเลยว่าไหม