เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Kanuman R สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก Travel around the world/ 2เท้าชาวท่องโลก และ 2feetgo.com
ถ้าใครที่ได้ยินชื่อ จังหวัดน่าน หลายคนก็คงนึกถึงดินแดนห่างไกล ที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูงที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ที่ผสมผสานกับวิถีวัฒนธรรมของผู้คนชาวไทยลื้อ ทำให้เสน่ห์ของเมืองน่านเต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น วันนี้เราเลยไปหยิบเอาบันทึกการเดินทางผ่านภาพถ่ายสวย ๆ ของ คุณ Kanuman R สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ถ่ายทอดความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัดน่าน ผ่านภาพความประทับใจมาให้ได้ชมกัน
ในฐานะที่เป็นคนที่เที่ยวต่างประเทศบ่อย ผู้คนมักเฝ้าถามผมตลอดเวลาว่าในเมืองไทยทำไมไม่มีสถานที่ถ่ายรูปที่สวยงามเหมือนทริปต่างประเทศบ้าง ถ่ายรูปเท่าไหร่ก็คงไม่ได้ภาพเหมือนอยู่ต่างประเทศ ที่ทั้งฟ้าใสและมีภูมิทัศน์แปลกตา
ผมมักตอบกลับไปว่าเมืองไทยมีที่เที่ยวสวย ๆ แปลก ๆ มากมาย ที่เราสามารถถ่ายรูปได้อย่างสนุกสนาน แม้ว่าผู้ฟังจะไม่ค่อยเชื่อคำตอบนี้ก็ตาม ดังนั้น ผมจึงอยากนำเสนอเมืองไทยในมุมมองหนึ่งที่แสนจะงดงามและหลากหลาย กับเมืองที่มีภูมิทัศน์หลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เมืองนั้นคือ น่าน
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ (พื้นที่รับผิดชอบ : แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) ที่อำนวยความสะดวกนะครับ ติดต่อได้ที่ 2 ถนนบ้านใหม่ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ 054 521 118 เปิดทุกวัน (ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.)
ติดตามรูปภาพทริปอื่น ๆ ของผมได้ที่ เฟซบุ๊ก Travel around the world/ 2เท้าชาวท่องโลก และตาม IG บนรูปเลยครับ และติดตามบล็อกได้ที่ 2feetgo.com ครับ
น่าน จังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือของไทย จังหวัดที่เงียบสงบมากที่สุดแห่งหนึ่ง จังหวัดที่ร่ำรวยวัฒนธรรมมากที่สุด และหนึ่งในเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วไทยและทั่วโลก
เส้นทางจากท่องเที่ยวของผมเริ่มจาก กรุงเทพฯ-ขับขึ้นไปที่ดอยเสมอดาว ดอยเสมอดาว-เสาดินนาน้อย-ขุนสถาน ก่อนจะเข้าตัวเมืองน่าน และวกขึ้นไปที่ภูลังกา พะเยา เป็นของแถม ก่อนจะขับรถกลับกรุงเทพฯ ระยะเวลารวมแล้วประมาณ 5-7 วัน กำลังสบายและชิล
ดอยเสมอดาว : ที่พัก กางเต็นท์อุทยานฯ ราคา 350 บาท
วิธีไป : จากกรุงเทพฯ ผ่านนครสวรรค์ พิษณุโลก ถึงแพร่ จากแพร่ตามถนนยันตรกิจโกศล ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ไปถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1026 จากอำเภอเวียงสาไปอำเภอนาน้อย ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตามถนนสายนาน้อย-ปางไฮ ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1083 ไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงเสาดิน และถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ดอยนี้เหมือนกับชื่อ คือ เสมอดาว ดาวมากมายเหมือนกับจะจับต้องได้ทีเดียว
ณ ลานกางเต็นท์ นี่คงเป็นสถานที่นอนที่ไม่ได้หรูหรา แต่นอนแล้วมีความสุขที่สุดที่หนึ่งในโลก
และโรแมนติกมากสุดที่สุดที่หนึ่งในโลก
นอกจากยามค่ำคืนที่งดงามกลางหมู่ดาวแล้ว ช่วงเช้าที่นี่มีทะเลหมอกที่งามไม่แพ้ที่ไหน ๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะยามต้องแสงจากตะวัน
ไม่น่าแปลกใจที่เห็นผู้คนมากมายตื่นมารับแสงตะวัน แม้เมื่อคืนจะเพลิดเพลินกับแสงดาวจนดึกดื่นก็ตาม
และความงามนั้นรวมไปถึงยามอาทิตย์ตกดินด้วยเช่นกัน
ถ้าใฝ่หาธรรมชาติ ถ้าชอบความสงบ ดอยเสมอดาวในช่วงวันทำงานให้คุณได้เกินที่ต้องการ
จากดอยเสมอดาวลงมาไม่ไกล สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนเมืองไทยเท่าไหร่ นั่นคือ เสาดินนาน้อย
เสารูปร่างหน้าตาแปลกตานี้ ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนเมืองไทย โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่อยู่ท่ามกลางหมู่ดาว ทำให้พาลนึกไปถึงเมืองแถบสหรัฐอเมริกาอย่างแอริโซนา
แม้หนทางไปจะลำบากและมืดมิดสักนิด ขอแนะนำให้ไปกันเป็นหมู่คณะจะดูปลอดภัยมากกว่า
เดินชมในบริเวณได้อย่างอิ่มใจ แต่อย่าไปเหยียบหรือปีนเสาดินนะครับ อนุรักษ์เอาไว้ให้อยู่กันนาน ๆ ครับ
จากเสาดินนาน้อยแล่นไปตามไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 สายอำเภอเวียงสา-อำเภอนาน้อย และจากอำเภอนาน้อยเลี้ยวไปถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร ทางคดเคี้ยว ทางที่ดีขับเวลากลางวันครับ
ที่นี่เหมือนเปลี่ยนไปคนละโลก จากภูมิทัศน์ต่างดาวอ้างว้าง กลายเป็นความลานตาสีชมพูของนางพญาเสือโคร่ง
ช่วงเวลาที่บานประมาณปลายธันวาคมไปจนถึงกลาง ๆ มกราคม ควรตรวจสอบการบานก่อนมานะครับ และที่อุทยานฯ ก็มีที่พักด้วยครับ จะให้ดีควรนอนพักสักคืนจะดีมากเลยครับ
ช่วงเวลานี้เก็บสีสันให้เต็มที่ เพราะเวลาแห่งสีชมพูมีไม่นานมากนัก
แต่ผมชอบให้มันเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลนะครับ มันดูได้รอคอยและมีคุณค่า
จากดงสีชมพูขับรถกลับมาที่ทางหลัก และพุ่งขึ้นเหนือไปประมาณ 60 กิโลเมตร เราจะถึงตัวเมืองน่าน เมืองเก่าที่น่ารักมากที่สุดเมืองหนึ่งของไทย
น่านเต็มไปด้วยวัดน้อยใหญ่มากมาย ที่ขึ้นชื่อและเห็นภาพบ่อยมาก ก็คือ วัดพระธาตุเขาน้อย นั่นเอง
วัดในตัวเมืองมีหลายสิบวัด และล้วนแล้วแต่สวยงามทั้งสิ้น เดินแล้วพาลนึกถึงหลวงพระบางอยู่เหมือนกัน
เดินชมวัดทั้งวันได้ไม่มีเบื่อ ถ้าไปในหน้าหนาวจะลองเปลี่ยนบรรยากาศปั่นจักรยานแทนการใช้รถก็ได้อรรถรสไม่น้อย
นอกจากวัดที่มากมายแล้ว ตัวเมืองน่านยังมีร้านน่ารักเก๋ ๆ ให้เลือกนั่งชิลได้อีกมากมายหลายร้านทีเดียว
ออกจากตัวเมืองน่านเราตรงไปยังเป้าหมายท้ายสุด คือ ภูลังกา ที่อยู่ติดกับจังหวัดน่านนั่นเอง
ที่ภูลังกา ผมนอนที่ ภูลังการีสอร์ท คืนละ 700 บาท คุ้มค่าราคามากถ้าเทียบกับวิวที่ได้รับมา
เป็นการปิดทริปที่สมบูรณ์แบบมาก เพราะปิดด้วยความอลังการอย่างที่สุด
แสงที่ส่องลงมาเหมือนกับเป็นการประทานพรให้กับการเดินทางครั้งนี้
หวังว่ารูปชุดนี้จะเป็นการยืนยันได้ว่าเมืองไทยนั้นงดงามเพียงใด
ขอบคุณที่ติดตามครับ หวังว่าจะสามารถจุดประกายการท่องเที่ยวให้กับทุกคนได้
รีวิวนี้ขออุทิศให้กับ ดีบุก ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก ผมทำรีวิวนี้หลังจากกลับจากทริปได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง เป็นรีวิวที่รีบและตั้งใจถ่ายทำมากที่สุด เพราะนี่เป็นงานสุดท้ายที่ ดีบุก ฝากฝังเอาไว้ก่อนจะจากไป ผมทำหน้าที่ของผมแล้วนะครับ สบายใจได้ครับ
แนะนำที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรม เพียบ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ