ชื่นชมไร่กะหล่ำปลี ตามหาสายหมอก ณ ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld

          หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยว "ภูทับเบิก" จังหวัดเพชรบูรณ์ หนึ่งกิจกรรมที่หลายคนไม่อยากพลาด นั่นคือ การชมไร่กะหล่ำปลีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ อีกทั้งด้วยความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร ภูทับเบิกจึงเป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆและทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์งดงามจับใจ อีกทั้งอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี จึงทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

          ดังนั้น วันนี้เราเลยหยิบเอาบันทึกการเดินทางผ่านมุมมองและภาพถ่ายสวย ๆ ของ คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่จะพาเข้าไปตะลุยภูทับเบิกในมุมที่น่าหลงใหลมาฝากกันค่ะ







          มีไม่กี่เหตุผลที่เราจะรู้สึกว่า "ความจริงเป็นความฝัน และความฝันเป็นความจริง" แต่ผมรู้ว่าต้องมีบางอย่างที่เชื่อมสองสิ่งนี้ไว้ด้วยกันแน่ ๆ เพื่อที่จะทำให้สองสิ่งนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด มันอาจจะเป็นอะไรสักอย่าง ผมอาจจะรู้จักหรือไม่รู้จัก แต่รู้ว่ามันจะต้องทำให้รู้สึกดี ๆ อย่างแน่นอน มันเลยเป็นที่มาของแรงบันดาลใจให้ผมทำอะไรสักอย่าง เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ที่ซ้อนอยู่ในความเป็นไปไม่ได้ มันเลยทำให้ผมเริ่มต้นเดินทางอีกครั้ง แต่เป็นการไปภูทับเบิก 2 ครั้งติดในรอบ 1 สัปดาห์ เพื่อตามหาอะไรบางอย่างที่บอกความเป็นไปได้ของความจริง และบางสิ่งที่เราเรียกว่าความฝัน

ภูทับเบิก

          ความเป็นไปได้แบบนั้นมันคืออะไรกัน ? มันจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเคยมาที่นี่ 8 ครั้ง ในรอบ 3 ปีหรือเปล่า ? และวันนี้ผมก็กำลังเดินทางมาที่นี่อีกครั้ง # ภูทับเบิก @ เพชรบูรณ์ รอบที่ 9-10 ::: มิถุนายน 2556

ภูทับเบิก

           ผมและเพื่อน ๆ มาถึงภูทับเบิกตอน 6 โมงเช้าพอดี ทั้งที่เมื่อวานตอน 6 โมงเย็น ผมเพิ่งขับรถออกจากที่บ้านแล้วนอนพักที่โรงแรมกลางเมืองเพชรบูรณ์ตอนห้าทุ่ม แล้วตอนตี 04.30 น. ผมก็เริ่มตื่นนอน ^^

ภูทับเบิก

          มันเป็น 6 โมงเช้า ที่เราทุกคนทำเวลากันได้ดี ไม่มีใครตื่นสาย ไม่มีใครที่ช้า ทุกคนพร้อม เพราะรู้ว่าพวกเราไม่ได้มาทุกวัน ไม่ได้มาทุกเดือน ไม่ได้มาทุกปี หรือบางทีอาจจะไม่ได้มาอีกเลยก็ได้ และนี่อาจจะเป็นความไปได้สูงสุดที่ทำให้เราคาดหวังกับบรรยากาศที่ดีที่สุดในเช้าวันนี้

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          แต่ทุกอย่างก็เป็นไปได้อีกครั้ง ที่ความผิดหวังจะกลับมาเริ่มต้นทำงาน !!!! ทั้งที่เป็นปลายเดือนมิถุนายนแต่ความชื้นของไอน้ำกลับทำงานได้แค่นี้เอง ทะเลหมอกที่ผมคาดหวังตอนนี้หายไปพร้อมกับความเป็นไปได้

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ภูทับเบิกจะว่าใกล้ก็ใกล้ จะว่าไกลก็ไกล เพราะมันตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ภาคเหนือตอนล่าง ระยะทางจากบ้านผมมาถึงนี่ราว ๆ 500 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถก็ประมาณ 6 ชั่วโมง ถ้าแวะนั้นแวะนี่ก็ปาไป 7 ชั่วโมง

ภูทับเบิก

          มาที่นี่ครั้งเดียวไม่เคยพอ !!!! ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 ของการขึ้นมาภูทับเบิกของผม แต่มันแปลกตรงที่ว่าผมจะขึ้นมาเที่ยวที่นี่ตั้งแต่เช้ามืด แล้วก็ลงไปหาที่พักที่เขาค้อในตอนบ่าย ๆ แต่ครั้งนี้มันจะเปลี่ยนไปเพราะนับต่อแต่นี้ไปอีก 28 ชั่วโมง ผมจะใช้ชีวิตกินนอนอยู่ที่นี่

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ถามว่าภูทับเบิกมีอะไรให้ผมขึ้นมาที่นี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเหมือนกับรักแรกพบ เจอกันครั้งแรกก็หลงรัก แล้วก็รู้สึกรักแบบนั้นมาตลอด ตั้งแต่เริ่มรู้จักคำว่าภูทับเบิกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากรีวิวของพี่คนหนึ่งในเว็บนี้แล้วผมก็ได้มาครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งวันนี้

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          มันเหมือนกับการเดินทางในเส้นทางเดิม ๆ ที่ปลายทางคือบ้าน หรือคนที่เรารัก ^^

ภูทับเบิก

          แม้บางทีเส้นทางกลับบ้านจะไกลไปหน่อย ต้องขับรถหลายชั่วโมง ไหนจะต้องขับรถขึ้นเขาสูงชัน และก็ไม่รู้ว่าสภาพอากาศด้านบนจะเป็นแบบไหน แต่มันก็เป็นบ้านของเรา และคงเป็นเพราะรัก เลยทำให้เราได้กลับมา

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          และไม่ว่าจุดชมวิวที่คุ้นเคย จะคุ้นตาคุ้นหน้าแค่ไหน ผมก็ยังรู้สึกดีเหมือนเดิมที่จะได้เห็นอีกครั้งจากจุดชมวิวบนภูทับเบิก ผมขับรถเลยขึ้นมาจากด่านตรวจที่จะไปภูหินร่องกล้า 300 เมตร แล้วเดินเข้าไปยังจุดชมวิวหนึ่ง คือ จุดชมวิวภูแผงม้า จากปากทางเดินเข้าไปอีก 300 เมตร

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

           มันเป็นจุดชมวิวที่ครั้งหนึ่งผมเคยมาแล้ว แต่ก็มองอะไรไม่เห็น เพราะละอองหมอกบังมิดเลย แต่ครั้งนี้จะว่าโชคดีก็โชคดีเพราะแดดจ้าเลย จะว่าโชคร้ายก็ได้ เพราะเช้านี้ไม่มีทะเลหมอก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมใช้เวลาที่ภูแผงม้าเกือบ 2 ชั่วโมง แล้วก็เดินกลับ ไปขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ ในใจก็บอกกับตัวเองว่าไม่ลงไปเขาค้อ ไม่ลงเขาค้อ ยังไงคืนนี้ต้องนอนที่ภูทับเบิกให้ได้

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมกลับมายังจุดชมวิวกลางที่ภูทับเบิกอีกครั้ง แวะทานข้าวกันที่ตรงนั้นใช้เวลาไปเรื่อย ๆ กับบรรยากาศที่เย็นสบาย และรอความเป็นไปได้ในวันนี้อีกครั้ง

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมวนหาที่พักสองรอบทั่วภูทับเบิก แต่ก็ไม่ได้ที่พักสักที่ มีที่พักให้เลือกเยอะมาก แบบเลือกไม่ถูกเลย แต่ก่อนที่มาแล้วไม่ได้นอนค้างคืนที่นี่เพราะมีแต่ให้กางเต็นท์ แต่พอมีบ้านพักเยอะก็เลือกไม่ถูก มันเยอะมาก สุดท้ายผมก็เลือกบ้านพักที่ภูสวรรค์ อยู่อีกด้านหนึ่งเวลามองจากจุดชมวิวสูงสุดแล้วมองเห็นไม้กางเขน เหตุผลที่ผมเลือกพักที่นี่เพราะอยากจะเห็นวิวเขาที่แตกต่างจากทุกครั้ง ^^

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ความเป็นจริงภูทับเบิกก็เป็นภูเขาบนที่สูงแบบเดิม ๆ กะหล่ำปลีก็เป็นกะหล่ำปลีแบบเดิม ๆ แต่เชื่อไหมมุมมองที่ผมเห็นแต่ละครั้งมันก็มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาให้รู้สึกแปลกตาอยู่เสมอ

ภูทับเบิก

          รายละเอียดที่ไม่เคยผ่านตา กับถนนแคบ ๆ ที่รถเข็นกะหล่ำพอขับเข้าไปได้มันคงเป็นมุมมองแคบ ๆ ที่สุดท้ายมันก็กว้างเพียงพอที่จะทำให้ใครสักคนได้มองเห็นมัน

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมคิดว่ามันเป็นมุมมองที่เป็นไปได้ เป็นไปได้ที่เราจะได้ทำอะไรในแบบที่เราทำได้ ทำอะไรในแบบที่เรามีความสุข และรู้สึกสนุกไปกับมัน

ภูทับเบิก

          ผมใช้เวลาทั้งวันไปกับบรรยากาศดี ๆ บนภูทับเบิก แม้จะผิดแผนที่บ่ายวันนี้ไร้เมฆฝนอีก และฝนก็ไม่ตกจริง ๆ ผมนึกถึงบรรยากาศและวิวที่เกิดขึ้นหลังจากฝนหยุดตกแล้วแดดออก หมอกสีขาวค่อย ๆ ปะทุรอบ ๆ ที่ผมยืนอยู่ 360 องศา มันจะเป็นความรู้สึกแบบไหน มันจะรู้สึกดีขนาดไหน แต่ตอนนี้ความเป็นได้เท่ากับศูนย์จุดศูนย์ศูนย์

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ค่ำนั้นเราฝากท้องกับร้านอาหารที่โรงเตี้ยมรีสอร์ท อาหารอร่อยใช้ได้เลย เสียอย่างเดียวรอนานไปหน่อย !!

ภูทับเบิก

          แล้วเช้าวันต่อมาก็ไวแบบโกหก ผมตื่นตั้งแต่ตีห้า แล้วออกไปที่ระเบียงแล้วก็รู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกบรรยากาศที่ไร้ทะเลหมอก และก็เป็นเช้าวันใหม่ที่ผมต้องกลับบ้านพร้อม ๆ กับความเป็นไปได้กำลังจะหมดไป

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          แต่ถ้ามองย้อนกลับไปเป็นทริปที่ดีมาก ๆ ผมได้ทำอะไรตั้งเยอะแยะ ได้ไปยืนอยู่บนจุดชมวิวที่สวย ๆ ได้เดินลุยป่า ได้ขับรถเล่นชมวิว ได้กินข้าวอร่อย ๆ และได้อยู่กับบรรยากาศที่ผมรู้สึกดีเสมอแต่ 28 ชั่วโมง นี่แป๊บเดียวจริง ๆ ได้เวลากลับบ้านแล้ว

ภูทับเบิก

          แต่ก็บอกไม่ถูกว่ามันยังไงดี รู้สึกติดค้างอะไรบางอย่าง ทำไมไม่มาอาทิตย์หน้า ทำไมต้องรีบมา ทำไมมันผิดแผนทั้ง ๆ ที่บรรยากาศในวันนี้ก็ดูสวย ดูอบอุ่นและทำให้รู้สึกดี  แต่มันก็ขาดอะไรบางอย่างไป ความเป็นไปได้ที่คำตอบของมันคือเป็นไปไม่ได้ มันคงเป็นความจริงของความฝันที่ผมหรือใครสักคนต้องรอต่อไป อาจจะเป็นปลายฝนต้นหนาวของปีนี้ หรืออาจจะไม่มีอีกเลยก็ได้

          >>>>>>>>>>> สวัสดีครับ <<<<<<<<<<<<<

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          หลังจากที่ผมกลับมาจากภูทับเบิก ผมก็ทำงานปกติในเช้าวันจันทร์ ผ่านอังคาร เข้าสู่วันพุธมาถึงวันพฤหัสฯ แล้ววันศุกร์มีข่าวว่าพายุฝนกำลังเข้าเวียดนาม คงเข้าลาวผ่านไทยในช่วงวันเสาร์-วันจันทร์

          ผมเองก็รู้สึกไม่น่ารีบไปภูทับเบิกสัปดาห์ที่แล้วเลย น่าจะขึ้นไปสัปดาห์นี้มากกว่า คงได้บรรยากาศแบบฉ่ำฝน และคงได้เห็นทะเลหมอกหลังฝนตกอย่างแน่นอน แค่ได้คิดก็รู้สึกพลาดไปแล้ว นึกถึงบรรยากาศของหน้าฝน กับฟ้าหลังฝน หรืออยู่ท่ามกลางสายหมอกบนของภูทับเบิกของทริปที่เคยผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเสียดาย ผิดแผน และค้างคาใจอย่างบอกไม่ถูก !!!!

ภูทับเบิก

          ผมเองก็รู้สึกไม่น่ารีบไปภูทับเบิกสัปดาห์ที่แล้วเลย น่าจะขึ้นไปสัปดาห์นี้มากกว่า คงได้บรรยากาศแบบฉ่ำฝน และคงได้เห็นทะเลหมอกหลังฝนตกอย่างแน่นอน แค่ได้คิดก็รู้สึกพลาดไปแล้ว นึกถึงบรรยากาศของหน้าฝน กับฟ้าหลังฝน หรืออยู่ท่ามกลางสายบนของภูทับเบิกของทริปที่เคยผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเสียดาย ผิดแผน และค้างคาใจอย่างบอกไม่ถูก !!!!

          และวันเสาร์ทั้งวันผมคิดอยู่แต่เรื่องนี้ ความรู้สึกสองจิตสองใจบอกผมว่าจะขึ้นภูทับเบิกอีกรอบไหม ? เพราะถ้าจะไปต้องไปคนเดียว ค้างคนเดียวเท่านั้น มันเป็นความหวั่นใจเล็ก ๆ น้อย เพราะตั้งแต่เที่ยวภูเขามาผมไม่เคยไปเที่ยวคนเดียวแบบค้างคืนเพียงลำพัง  มันหวั่น ๆ บอกไม่ถูก ไหนจะต้องขับรถไปกลับอีก 1,000 กิโลเมตร แต่ที่สำคัญที่สุด คือ อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปกับเพื่อนมา มันเป็นโจทย์ที่ยากที่จะต้องตัดสินใจในตอนนี้

          แผนที่คิดไว้คือไปเช้าวันอาทิตย์แล้วกลับวันจันทร์น่าจะดีที่สุด อย่างน้อยฝนก็เข้ามาพอดี แล้วก็น่าจะเงียบด้วย แต่คืนนั้นผมยังตัดสินใจไม่ได้ แต่เตรียมชาร์จแบตฯ มือถือ แบตเตอรี่กล้องถ่ายรูป และยัดเสื้อสองตัวใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

          แล้วเช้าวันอาทิตย์ก็มาถึง ผมเช็กพยากรณ์อากาศพายุมาแน่ โอกาสฝนตกราว ๆ 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ซะที สองจิตสองใจจะเอายังไง ไม่กล้าเล่าให้เพื่อนที่ร่วมทริปกันประจำฟัง รู้สึกมันต้องเป็นความลับยังไงไม่รู้ เพราะรู้สึกเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่า และดูเพี้ยน ๆ คงโดนต่อต้านแน่ เพราะสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งไปมา อีกประเด็นคือเป็นทริปกะทันหัน ยังไงก็ไม่มีใครไปแน่นอน จะลาพักร้อน ลากิจไม่ทันแน่นอน  ดังนั้น ถ้าจะตัดสินใจไปทริปนี้ต้องปิดเป็นความลับเท่านั้น บอกใครไม่ได้เด็ดขาด เกิดเผลอเล่าหรือขอคำปรึกษาคงไม่ได้ไป นี่ขนาดไม่ได้ปรึกษาก็รู้สึกสับสน !!!

          เช้านี้ผมจะทำไงดี ของแพ็กแล้ว แต่งตัวแล้ว แต่ยังมานั่งคิดสองจิตสองใจ ลังเลไปมา ปรึกษาใครก็ไม่ได้แล้วผมก็นึกไปถึงประโยคส่วนตัวที่ผมชอบพูดเสมอว่า ไม่อยากเสียดายเมื่อเวลาผ่านไป นึกถึงคำนั้น แต่ขาผมก็ยังออกจากบ้านไม่ได้ ผ่านมาครึ่งชั่วโมงว่าจะไปไม่ไป ยังไงดี ? ผมนึกในใจว่าผมเพี้ยนไหมนะ สุดท้ายผมก็คิดอะไรมาได้หนึ่งอย่าง มันคงดีไม่น้อยที่จะใช้ความเป็นไปได้มาตัดสินว่าจะไปหรือไม่ไป นั่นก็คือ การเสี่ยงทายเอาเหรียญบาทที่มีทั้งหมด 10 เหรียญ แล้วเสี่ยงทายว่าถ้าออกหัวเยอะกว่าก้อยคือไป

          ครั้งแรกตกใจมากเพราะออกก้อยถึง 8 หัวออกแค่ 2 นึกถึงอุบัติเหตุหรืออะไรที่ไม่ดี ลางบอกเหตุร้ายแน่ ๆ แล้วผมก็พูดมาเบา ๆ ว่าขอลองอีกรอบ ถ้ายังออกก้อยมากกว่าผมจะไม่ไปเด็ดขาด แต่ถ้าออกหัวจะตัดสินในครั้งสุดท้าย ในที่สุดก็ออกหัวมากกว่าก้อยใน 2 ครั้งถัดมา ผมถึงได้ก้าวขาออกจากบ้าน ขับรถมาภูทับเบิกแบบลุยเดียวคนเดียว ถือว่าเป็นการไปเที่ยวค้างคืนครั้งแรกของผม ที่ผมไปเที่ยวดอยลุยภูเขาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ^^

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมก็ขับรถออกจากบ้านในตอน 07.30 น. เชื่อไหมตอนที่ขับรถก็ยังรู้สึกแน่ใจหรือไปคนเดียว ถอยดีกว่าไหม ความคิดอยู่แบบนั้นตลอดจนขับรถผ่านสระบุรีตอนประมาณ 10 โมง อากาศแบบไม่มีแดดในแบบที่ผมชอบ มีเมฆฝนเต็มท้องฟ้า ผมรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก ว่าคิดถูกไหมนะ ถอยดีไหมยังกลับทันนะ ถือว่าขับรถเล่นมาวนที่สระบุรี 200 กิโลเมตร ในขณะที่ผมคิดจะกลับหรือไม่กลับ แต่ขาผมก็เหยียบคันเร่งให้รถเดินหน้าตลอด นึกในใจว่าให้เข้าเขตเพชรบูรณ์ก่อนน่าจะดี

          ถ้าเข้าเขตเพชรบูรณ์เมื่อไหร่ ความคิดที่จะถอยคงหายไปแน่ ๆ นึกถึงถ้าตอนนี้อยู่บ้านทำอะไรนะ จะรู้สึกเสียดายไหมที่ไม่ได้มา ทำไมผมถึงต้องคิดอะไรเยอะแบบนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมสับสนจริง ๆ แต่ลึก ๆ ในใจผมก็อยากจะมีทริปที่ไปคนเดียวดูบ้าง ขับรถเลยสระบุรีมาหน่อย รู้สึกหิวเลยแวะร้านอาหารทานเส้นเล็กต้มยำกิน มันแปลก ๆ ที่ต้องนั่งกินคนเดียวแล้วเห็นคนรอบข้างมากันแบบหมู่คณะ มากันแบบครอบครัว นั่งกินอะไรกันแบบเต็มโต๊ะเลย ผมก็บอกไม่ถูกว่ามันเป็นอารมณ์แบบไหน แต่สุดท้ายมันก็คือเหตุผลที่เป็นไปได้ที่ผมเลือกที่จะมาคนเดียว

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

           ระหว่างที่ขับรถไป เอ็มพีสามที่ผมบันทึกเพลงมานับสองร้อยเพลง อยู่ดี ๆ เพลงหนึ่งที่ผมไม่เคยได้ยินก็เริ่มต้นขึ้น

          ♪♪_ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ เหมือนดังในความฝัน_♪♪ (เพลงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้-ลุลา Feat. ซิน)

          ผมก็ไม่รู้ว่าใครเรียกร้อง แต่รู้สึกมันทำให้ผมมีพลังอย่างมาก และก็บอกตัวเองว่าตัดสินใจถูกแล้วให้เดินหน้าต่อไป ผมตัดสินใจกดโหมดรีพีทเพลงนี้ แล้วผมก็ฟังมันตั้งแต่สระบุรีไปจนถึงภูทับเบิก ผมรู้ว่าผมมาเพื่อตามหาอะไร บางอย่างที่ผมคาดหวังที่จะได้พบเจอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็พลาดไป

          บางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกไม่แน่ใจ รู้สึกหวั่น ๆ กลัวอะไรบางอย่างที่ผมไม่คุ้นเคยกับการลุยเดียวมาคนเดียวมันอาจจะรู้สึกเดินทางไกลไปไหม มันอาจจะรู้สึกเหงาไหม มันอาจจะรู้สึกจะเจอผีไหมสารพัด แล้วถ้าลุยเดียวมาขนาดนี้ผมไม่ได้เจอทะเลหมอกในแบบที่ผมหวังไว้ละ มันจะรู้สึกแย่แค่ไหน ???? พอเพลงนี้เข้ามา มันเหมือนกับเพื่อนหรือใครสักคนที่คอยไปกับผมเสมอ และมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น มันบอกกับผมว่าไปเถอะไปเจออะไรใหม่ ๆ มันอาจจะเป็นมุมมองในแบบที่ผมอยากเห็นและอยากพบเจอ อาจจะเป็นประสบการณ์ในแบบที่ผมต้องรู้สึกสนุก และรู้สึกดีทุกครั้งเมื่อได้นึกถึง ^^

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ต้องขอบคุณเพลงนี้ ประโยคนี้แบบนี้ เนื้อร้องแบบนี้    

          ♪♪_ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ เหมือนดังในความฝัน_♪♪

          มันเป็นพลังและช่วยส่งผมมาถึงภูทับเบิกในตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่ 7 วันที่แล้วผมก็มาที่นี่ วันที่ความเป็นไปได้ของความจริง คือ ความจริง แต่สำหรับวันนี้ความเป็นไปได้ตอนบ่าย 3 โมง ของความจริงมันกลายเป็นความฝัน และมันดีที่สุดที่ได้รู้ว่าผมชอบความฝันแบบไหน ? และมันดีแค่ไหนที่ได้เห็นมันอีกครั้ง

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ไม่อยากจะบอกเลยว่า กว่าผมจะถึงจุดชมวิวผมได้จอดรถตามข้างทาง 4-5 ครั้ง รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับว่าไม่เคยมายังไงยังงั้นมันสนุกและมีความสุขกับการได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสายหมอก ราวกลับว่ากำลังเห็นใครบางคนในกระจกเงา

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ใครที่อยู่ในกระจกเงา มันอาจจะเป็นเราที่เวลามองไปในนั้นเราเห็นตัวเราเอง แล้วก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกอย่างน้อยก็เป็นหน้าตาที่กำลังคุ้นเคย รู้สึกดีแม้จะไม่ได้ยิ้มแต่ก็รู้ว่ามีความสุข สายหมอกในเย็นวันนี้มันคือความสุขของผมเลย มันเป็นความสุขที่บอกอะไรตั้งหลายอย่าง หนึ่งเรื่องที่ผมจำได้  คือ การเสี่ยงทายโยนเหรียญในตอนเช้า เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเอง

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ถ้าเมื่อเช้าเหรียญออกก้อยมากกว่า ผมก็คงไม่ได้มา และไม่ว่าผมจะรู้สึกยังไงในตอนนั้น แต่สำหรับตอนนี้มันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่ครั้งหนึ่งความเป็นไปได้ก็เคยทำงาน และทำงานอยู่รอบตัวผมอีกครั้ง อาจจะสับสนไปนิด อาจจะดูเพี้ยนไปหน่อยแต่มันก็ได้ผลเสมอ

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          การได้มาเที่ยวคนเดียวมันก็ทำให้ช่วงเวลาดีที่สุดในแบบที่ผมอยากทำ และผมก็ทำมันอีกครั้ง นั่นก็คือ ขับรถชมวิวบนดอยภูทับเบิกไปเรื่อย ๆ มันสนุกกว่าการยืนอยู่บนจุดชมวิวเดิมตั้งเยอะ ผมขับวนไปวนมาเพื่อมองหาวิวและบรรยากาศที่แตกต่างที่ผมไม่คุ้นเคยและมันก็ทำให้ผมรู้จักที่นี่ครั้งแรก มันคือ ภูซากุระ มีลานกางเต็นท์ บ้านพักที่วิวสวยมาก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมชมวิวอยู่ในภูซากุระนานมาก เพราะที่นี่วิวสวยไม่แพ้ที่ไหนบนภูทับเบิก บรรยากาศรอบตัวที่มองตรงไหนก็มองเห็นวิวสวย ๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสี่โมงเย็นสายหมอกยังลอยไปลอยมา คงเพราะระดับความสูงของที่นี่สูงมาก 1,500-1,750 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          และการที่ผมยืนอยู่ในที่สูงแบบนี้ อากาศไม่ต้องพูดถึง เย็นจนรู้สึกหนาวขึ้นมาเลย ยิ่งมาคนเดียวยิ่งไปกันใหญ่ บรรยากาศของภูเขา กะหล่ำปลี และสายหมอกมันทำให้รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          และไม่ว่าผมจะขับรถไปตรงไหน ตลอดสองข้างทางบนภูทับเบิกผมได้เห็นวิวในแบบที่ผมอยากเห็นมาตลอด บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกโลกทั้งใบคือตัวตนของผม ยิ่งทำในสิ่งที่ผมอยากทำ มันเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุด บางทีมันอาจจะดูยาก ดูเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็เชื่อว่าในความเป็นไปไม่ได้ ก็มักซ้อนความเป็นไปได้อยู่เสมอ ที่จะทำให้เราได้พบได้เจออะไรบางอย่าง ในแบบที่เราอยากทำ และรู้สึกดีกับมัน

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ♪♪_ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ เหมือนดังในความฝัน_♪♪

ภูทับเบิก

          ♪♪_เธออาจได้เจอกับคนของเธอเข้าสักวัน คนที่ทำให้ใจไม่หนาวสั่น อย่างกับฉันที่ยังคอยบอกตัวเองอยู่ทุกวัน ว่าฉันจะได้เจอ_♪♪

ภูทับเบิก

          ♪♪_ลองเปิดตามองท้องฟ้าดูใหม่ ลืมและลบความกลัวที่เคยมีออกไป เธอนั้นจะเข้าใจความรักที่ดี ๆ มีอยู่จริง เธอเชื่อมั้ย_♪♪

ภูทับเบิก

          ♪♪_ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกรักเธอ เหมือนดังในความฝัน_♪♪

ภูทับเบิก

          ♪♪_เธออาจได้เจอกับคนของเธอเข้าสักวัน คนที่ทำให้ใจไม่หนาวสั่น อย่างกับฉันที่ยังคอยบอกตัวเองอยู่ทุกวัน ว่าฉันจะได้เจอ_♪♪

ภูทับเบิก

          แล้วสุดท้ายผมก็ได้เจอ เจอกับสิ่งที่ผมรัก มันคือเหตุผลที่ทำให้ผมขับรถมาตั้ง 500 กิโลเมตร และขับขึ้นมาเพียงคนเดียว ทั้ง ๆ ที่ 7 วันที่แล้วผมเพิ่งขึ้นมากับเพื่อน ๆ แต่เพราะผมไม่เจอทะเลหมอกมันเลยทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง ทะเลหมอกที่ผมอยากเห็นแบบไม่เคยเบื่อคือสิ่งที่ผมตามหา และบอกกับตัวเองทุกวันว่าผมจะได้เจอ ว่าจะต้องได้เจอ จะต้องได้เจอ

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ♪♪_ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ เหมือนดังในความฝัน_♪♪

          เสียงเพลงนี้ก้องอยู่ในหูของผมตลอด 2-4 ชั่วโมง ระหว่างขับรถจนถึงตอนนี้เลย แต่รู้สึกชักไม่ไหว รู้สึกชักเอียน ^^ ก็หมดหน้าที่เพลงนี้ แต่ยังไงก็ขอบคุณคนที่แต่งเพลงนี้ และร้องเพลงนี้ได้อย่างลึกซึ้งและกินใจมาก ^^

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ถ้าจะถามว่าอยากได้อะไรบนภูทับเบิกถึงได้ตัดสินใจแบบทันด่วนมาคนเดียวแบบนี้ ทั้งที่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งขึ้นมา ผมก็ตอบแบบตรง ๆ ว่าผมอยากเห็นทะเลหมอก เพราะทริปที่ผ่านมาผมหวังเต็มที่แต่ไม่ได้เห็นมันแล้วผมก็กลับไปบ้านด้วยความรู้สึกผิดหวังนิด ๆ ว่าไปก็ไม่นิดละ รู้สึกพอสมควรเลย

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

           แล้วผมก็ไม่กล้าบอกเพื่อนในกลุ่มที่มาด้วยกัน เพราะกลัวจะโดนด่าว่าผมเพี้ยนเข้าขั้น สุดท้ายผมก็เลือกที่จะไม่ปรึกษาใครหรือบอกใคร ให้มันเป็นความลับ เพราะถ้าปรึกษามีสิทธิ์ไม่ได้มา เพราะยังไงก็ถูกเบรกไว้แน่นอน เป็นการหนีเที่ยวแบบขนานแท้ ทริปแรกที่เป็น Home Alone โดดเดี่ยวลุยดอย

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          นึกถึงเมื่อเช้าที่ผ่านมายังอดคิดว่าไมได้ว่า ถ้ามันเกิดออกก้อยมากกว่าหัว ผมนะจะโกงความเป็นไปได้นั้นไหมนะ จะทำตามข้อตกลงที่ได้เสี่ยงทายไหม กลัวใจตัวเองอยู่ไม่น้อย ฮ่า ๆๆ

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          นี่ไงสิ่งที่ผมตามหา มันเหมือนกับเพลงนั้นที่เปิดกรอกหูผมมาตลอดทาง และมันก็ทำให้ผมอึ้งทึ่งในเวลาต่อมาสายหมอกแบบสวย ๆ ที่คิดว่าจะต้องรอลุ้นในตอนเช้า แต่สำหรับเย็นนี้มันเต็มที่สำหรับผมมากเลย

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ♪♪_ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ เหมือนดังในความฝัน_♪♪

          ♪♪_เธออาจได้เจอกับคนของเธอเข้าสักวัน คนที่ทำให้ใจไม่หนาวสั่น อย่างกับฉันที่ยังคอยบอกตัวเองอยู่ทุกวัน ว่าฉันจะได้เจอ_♪♪

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ไม่ว่าจะได้เจอกับคนที่เรารักหรือสิ่งที่เรารักมันคือสิ่งที่ดีที่สุด ผมอยากเห็นสีเขียวของอะไรก็ได้ที่อยู่บนพื้นดิน อยากเห็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่ อยากได้อากาศแบบเย็น ๆ อยากเห็นทะเลหมอกที่ทำให้ผมลืมไม่ลง อยากใช้เวลาแบบสบาย ๆ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องทำอะไร และอยากทำอะไรก็ทำในแบบที่ไม่มีแบบแผน ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีอะไรตายตัว

          ถ้าถามว่าตรงไหน คือ จุดชมวิว ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคือตรงไหน ลองไม่ยึดติดกับจุดชมวิวหลัก ๆ ในแบบที่ผมได้ทำในวันนี้ แล้วมุมมองการท่องเที่ยวจะสนุกมากยิ่งขึ้น ตรงไหนที่เรารู้สึกว่าสวยมันก็สวย ตรงไหนก็ทำให้รู้สึกดีก็ลุยไปเลย

ภูทับเบิก

          แล้วก็มาถึงไคลแมกซ์ของทริปนี้ สิ่งที่ผมคาดหวังที่จะได้พบเจอก็ได้มาเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่ต้องตัดสินใจตอนนี้ คือ ทำยังไงต่อ ตอนนี้ 6 โมงเย็นแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะค้างคืนแน่นอน แต่ความคิดมันก็ทำให้เรารู้สึกอะไรก็เป็นไปได้ จะขับรถกลับบ้านเลยไหม วันนี้เห็นบรรยากาศแบบที่อยากเห็นเรียบร้อยแล้ว  เต็มที่ อิ่มไหม คำตอบก็คืออิ่มมาก อร่อยมาก แต่จะให้นอนค้างคนเดียวในภูทับเบิกซึ่งไม่มีนักท่องเที่ยวเลยในคืนวันอาทิตย์ จะน่ากลัวไปไหม แอบกลัวผีอยู่ลึก ๆ สุดท้ายผมก็คิดว่าขับรถมาซะไกล 500 กิโลเมตร ค้างคืนดีกว่า อาจจะมีอะไรที่เป็นไปได้อีกตั้งเยอะสำหรับเช้าพรุ่งนี้

          ผมเลือกที่พักที่ใกล้แหล่งชุมชน ติดชาวบ้านเลย เน้นปลอดภัยไว้ก่อน เป็นบ้านพักที่นอนสบายมาก จำชื่อที่พักไม่ได้ อิอิ แต่ผมนอนไม่หลับเลย เพราะเสียงลมฝนที่ลอดมาทางประตูดังมาก เสียงแบบลมสีกัน บรรยากาศลมอู้ เสียงหวีดของลม ทำให้หลอนนิด ๆๆ เช็กอุณหภูมิตอน 2 ทุ่ม ทั้งลม ทั้งละอองหมอก ละอองฝนตีกันให้ยุ่งวัดได้ 14 องศา จะหนาวไปไหม แล้วผมก็เผลอหลับไปในคืนวันนั้น ZZZZZZZZZ

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมตื่นมาแต่ตีห้าครึ่งนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นมาก็รีบขับรถขึ้นไปบนจุดชมวิวทันที  แล้วมันเหมือนกับอะไรบางอย่างที่คอยบอกผม และก็ทำให้ผมได้ทำไรเพี้ยน ๆ เพื่อมาที่นี่ในวันที่พายุเข้าภาคอีสานตอนบน และภาคเหนือเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

          ♪♪_ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน เธออาจได้เจอกับคนที่เธอไม่คาดฝัน เค้าอาจมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วบอกรักเธอ เหมือนดังในความฝัน เธออาจได้เจอกับคนของเธอเข้าสักวัน คนที่ทำให้ใจไม่หนาวสั่น อย่างกับฉันที่ยังคอยบอกตัวเองอยู่ทุกวัน ว่าฉันจะได้เจอ_♪♪

ภูทับเบิก

          จากนั้นก็เดิน เดิน เดินลุยไปตามทะเลหมอก ทะเลหมอกอยู่ตรงไหน ผมก็เดินย้ำไปตรงนั้นผมมีความสุขมาก ในบรรยากาศของหน้าฝน ทะเลหมอกรอบตัวที่รอการเปลี่ยนแปลงตามแรงลมที่พัดแรงอากาศในเช้าวันนี้หนาวเข้ากระดูกเลย

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          แต่ในตอนที่เดินเล่นอยู่บนจุดชมวิว ผมอยากจะตะโกนให้ดังแบบกระหึ่มดอยแบบในหนังเลย แต่ก็ไม่กล้า แล้วสักพักก็มีความรู้สึกหนึ่งเข้ามา อยากให้ใครหลายคนที่มากับผมได้มาเห็นแบบนี้ เหมือนกับที่ผมเห็นจัง เสียดายจริง !!!!

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          แอบคิดว่ามันยากเหมือนกันนะที่จะขึ้นมาอีกครั้ง แล้วได้เห็นบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ มาอีกครั้งจะได้เห็นในแบบนี้ไหม เพราะมันคือเสน่ห์ของธรรมชาติที่อยู่นอกเหนือการคาดเดา และเป็นที่มาของแรงบันดาลใจบางอย่างให้ผมอยากรู้ อยากเห็นมันคงต้องลองผิดลองถูก เหมือนกับการเสี่ยงทายออกหัวออกก้อยในเช้าวันนั้น

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ทั้ง ๆ ที่ผมเข้าใจหลักการนี้ แต่ยังไงก็หนีความรู้สึกถึงการคาดหวังไม่ได้ทุกครั้ง บรรยากาศที่อยู่เหนือการคาดเดา แต่กลับอยู่ภายใต้ของแรงบันดาลใจที่ทำให้เราทำอะไรได้ทุกอย่าง มันเป็นทะเลหมอกและบรรยากาศในแบบฉบับตัวตนของผม ต่อให้ผมจะลอยไม่ได้แบบมันก็ตาม หมอกสีขาวที่ผสมความชื้นของฤดูฝน สีที่ไร้แสง แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกและเรื่องเล่าของวันเก่า ๆ ตั้งมากมาย

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมเดินกลับมาที่จุดชมวิวบ้านพักที่หนึ่งที่วิวสวยมาก ๆ วิวที่นี่สวยทุกช่วงเวลา แต่ละเวลาก็สวยแตกต่างกันไปตัวแปรของผมมันคือทะเลหมอกสีขาวนั่นเอง ^^ มันอยู่เหนือการคาดเดาที่คงอยากให้เราได้เฝ้าติดตามมัน

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

           ต่อให้ได้มาอีกสิบครั้งผมก็ยังจะคงทำแบบนี้ ยังคงทำในแบบที่ผมอยากทำแค่ 1 องศา ของมุมมองภาพที่เปลี่ยนไป มันคืออารมณ์ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผมรู้ว่ามันเพิ่มขึ้น

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          และต่อให้มันไม่ได้เพิ่มขึ้นในแบบที่เราคาดหวัง แต่ผมเชื่อว่ามันจะยังคงทำให้เรารู้สึกถึงอะไรบางอย่างอย่างน้อยก็ไม่ได้เปลี่ยนไป และอย่างน้อยก็ไม่ได้ทำให้ลดลง !!!

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          ผมใช้เวลาที่เหลือขับรถเล่นในภูทับเบิกวนไปวนมาสามรอบ ระยะทางวนรอบหนึ่งก็ประมาณ 6-7 กิโลเมตร ได้ทำในแบบที่ผมอยากทำ ได้มองเห็นบรรยากาศในมุมที่หลากหลายในเวลาที่มีอย่างจำกัด มันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า และมากไปด้วยความแตกต่างที่ผมเคยทำมา

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          มันดีที่ได้รู้ว่าที่มาที่ไปของการเดินทางในครั้งนี้คืออะไร ได้เข้าใจว่าความเป็นไปได้มันให้อะไรเราได้แค่ไหน ได้รู้ว่าบรรยากาศดี ๆ แบบนี้เราได้เห็นเอง ได้เก็บความทรงจำแบบนี้กลับมาเอง เมื่อไหร่ อย่างไร และรู้สึกแบบไหน หรือแค่ไหน

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก

          แต่ถ้าจะถามว่ามาภูทับเบิก 10 ครั้งในรอบ 3 ปี แล้วปีนี้จะขึ้นไปอีกไหม คำตอบคือไปอีกแน่นอนครับ ผมรักที่นี่ มันเป็นสถานที่ที่สร้างความทรงจำดี ๆ มาตลอด 3 ปี ที่บางทีมีค่ามากกว่าวิวสวย ๆ ที่ตาเราได้มองเห็น เวลาเดินไวในแบบที่ทำให้ผมรู้สึกใจหายและไม่อยากกลับบ้าน 19 ชั่วโมง ที่อยู่ที่นี่มันเหมือนความฝัน และผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ไอ้ความเป็นไปได้แบบนี้มันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันเริ่มมาจากตรงไหนที่ความเป็นไปได้ค่อย ๆ ทำงานแล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่แน่นอน มีความกลัว และความลังเลซ้อนกันไปซ้อนกันมา

          แล้วในที่สุดผมก็ได้รู้ว่า “ความเป็นไปได้” ซ้อนคำว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ อยู่ในคำนั้นเสมอ มันคงเหมือนกับทะเลหมอกที่ผมได้เห็นตลอดวัน ตลอด 24 ชั่วโมงก็ว่าได้ อาจดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ แต่จริง ๆ มันก็เป็นไปได้ บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเป็นความฝันในโลกของความเป็นจริงที่สัมผัสได้  มองเห็นได้ และรู้สึกได้

ภูทับเบิก

          แต่ถ้าพูดกันตรง ๆ ในชีวิตของเรา  มีความฝันไม่กี่อย่างที่เป็นความจริง มีหลายอย่างที่ยังคงเป็นความฝันต่อไป แต่ผมเชื่อว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกชอบ รู้สึกรัก รู้สึกดี แล้วมันก็ทำให้ความฝันและความเป็นจริงอยู่ไม่ไกลกัน เพราะบางทีก็รู้สึกมันอยู่ใกล้กัน บางครั้งมันก็อยู่ที่เดียวกัน บางทีมันก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น และรู้สึกดีไปกับทุก ๆ ครั้ง

          ความฝันที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวเราดีขึ้น ในบรรยากาศที่ไม่อยากจะทำงาน เป็นบรรยากาศที่ไม่ได้รู้สึกอยากนอน บรรยากาศที่ไม่ได้รู้สึกว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษ และไม่ว่าเราจะรู้สึกแบบไหน จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ จะยังไงก็ตามแต่สำหรับตอนนี้มันดีที่สุดที่ผมได้รู้ว่า โลกแห่งความฝันเราอยู่ที่ไหนบ้าง ?

          ต่อให้เราได้ไป...ไปถึงบ้างไม่ถึงบ้าง หรือยังไม่เคยได้ไป แต่อย่างน้อยเราก็รู้จักตัวเองมากขึ้น และมากขึ้นและไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือความฝัน ให้แน่ใจไว้ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม

ภูทับเบิก

          แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
          https://www.facebook.com/chanomworld
          (ผมรักภูเขา ผมรักสายหมอก by Chanomworld*)

ภูทับเบิก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชื่นชมไร่กะหล่ำปลี ตามหาสายหมอก ณ ภูทับเบิก อัปเดตล่าสุด 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11:06:10 34,938 อ่าน
TOP
x close