เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เป็นเรื่องน่าแปลกที่มนุษย์เรารู้ว่าที่ไหนเป็นอันตรายก็ยังอยากจะไปที่นั่นอยู่ดี ซึ่งมันก็คงช่วยไม่ได้ เพราะสถานที่เสี่ยงภัยอันตรายนั้น มันมีเสน่ห์ของความท้าทาย ชวนให้เราอยากลองไปทดสอบตัวเองด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคนที่รักการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ แบบเดียวกับที่นักปีนเขา ชอบไปลองวัดฝีมือบนภูเขาสูงชันกัน จนถึงแก่ความตายมาหลายคนแล้วยังไงล่ะ ซึ่งไม่นานมานี้ทางเว็บไซต์ Telegraph ได้มีการจัดอันดับภูเขาอันตรายที่เคยคร่าชีวิตนักปีนเขามาก่อนออกมา กระปุกท่องเที่ยวจึงได้รวบรวมมาฝากให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันบ้าง ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลยค่ะ
1. Eiger, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ยอดเขาสูง 3,970 เมตร ณ เทือกเขาแอลป์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกค้นพบเมื่อปี 1858 แต่มันก็เป็นภูเขาสุดหินเสียจนไม่มีใครสามารถพิชิตได้ เวลาผ่านไปจนถึงปี 1935 ก็ได้มีนักปีนเขาที่ตั้งใจจะพิสูจน์ความท้าทายทดสอบตัวเอง จบชีวิตลงที่นี่ถึง 64 คนแล้ว ทำให้มันมีฉายาว่า Mordwand หรือ Murder wall หมายถึงกำแพงแห่งความตายมาครอง จนกระทั่งวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1938 จึงมีผู้สามารถพิชิตมันได้ในที่สุด
2. Annapurna, ประเทศเนปาล
นักปีนเขา 60 คน ในจำนวนทั้งหมด 157 คน ต้องมาจบชีวิตลงที่ยอดเขาสูง 8,091 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลแห่งนี้ นับเป็นอัตราการตาย 38% ของผู้ท้าทายทั้งหมด ทำให้มันเป็นภูเขาที่มีอัตราการตายมากที่สุดในโลก โดยมันถูกพิชิตเป็นครั้งแรกในปี 1970 จากนั้นในปี 1987 ก็ได้มีนักปีนเขาคู่หนึ่งพิชิตมันท่ามกลางความเหน็บหนาวในฤดูหนาวได้เป็นครั้งแรก
3. K2, ประเทศปากีสถาน
ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกนี้ มีอัตราการตายมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยจำนวนราว 14% อย่างไรก็ตาม ที่นี่ผิดกับ Annapurna ตรงที่ไม่เคยมีใครพิชิตมันในหน้าหนาวได้เลย เพราะแม้จะไปถึงยอดเขาได้ก็จะถูกลมพายุพัดอย่างรุนแรง จนถึงแก่ความตายในที่สุด มันจึงได้ฉายาว่า Savage Mountain หรือภูเขาแห่งความทารุณ แถมกว่าจะพิชิตได้เมื่อปี 1977 โดยคณะนักปีนเขาชาวญี่ปุ่น พวกเขายังต้องขนเสบียงอาหารขึ้นไปด้วยถึง 1,500 ชุดแน่ะ
4. Mont Blanc, ประเทศฝรั่งเศส-ประเทศอิตาลี
แม้จะมีชื่อน่ารักเหมือนขนมหวาน แต่ภูเขา Mont Blanc ซึ่งอยู่ระหว่างพรมแดนประเทศฝรั่งเศสและอิตาลีนี้ โหดผิดกับชื่อเชียวล่ะ เพราะมันเป็นต้นเหตุให้หลายคนต้องมาจบชีวิตลง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้คนกล้าไปเสี่ยงที่ภูเขานี้น้อยลงเลยสักนิด เพราะปัจจุบัน มีนักปีนเขาขึ้นไปท้าความตายที่นี่กว่า 8,000 คนแล้ว
5. Nanga Parbat, ประเทศปากีสถาน
ดูเหมือน K2 จะไม่ใช่ภูเขาน่ากลัวเพียงแห่งเดียวในประเทศปากีสถาน เพราะยังมีภูเขาน่ากลัวอีกแห่ง ซึ่งก็คือ Nanga Parbat ภูเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเล 8,126 เมตรนั่นเอง โดยนักปีนเขามากมายล้มเหลวจนถึงแก่ความตายที่นี่ รวมไปถึง กันเธอร์ เมสเนอร์ น้องชายของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ นักปีนเขาระดับตำนานด้วย ทั้งนี้ ภูเขาแห่งนี้ยังไม่เคยมีใครพิชิตได้ในหน้าหนาวเช่นเดียวกับ K2
6. Kangchenjunga, ประเทศอินเดีย-ประเทศเนปาล
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน จะช่วยให้การขึ้นสู่ยอดเขาเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยมากขึ้น แต่อัตราการตายที่เกิดขึ้นบนภูเขาระหว่างพรมแดนประเทศอินเดียและเนปาลนี้ก็ยังคงสูงอยู่เหมือนเดิม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ต่อ 5 เลยด้วยซ้ำ ทั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะหิมะถล่มและอากาศเลวร้ายบนเขา อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากชมภาพความงามของภูเขานี้ชัด ๆ แต่ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง แวะพักที่เมืองดาร์จีลิ่ง ประเทศอินเดีย ที่เห็นภูเขาชัดเจนเป็นพิเศษแทนก็ได้นะคะ
7. Mount Fitz Roy, ประเทศอาร์เจนตินา
หากเป็นช่วงฤดูร้อนแล้วล่ะก็ แม้แต่ยอดเขาเอเวอเรสต์ที่คนเคยคิดว่าปีนยากกันนักหนา คนเป็นร้อยก็สามารถพิชิตได้ในวันเดียว ผิดกับภูเขา Mount Fitz Roy ที่แต่ละปีแทบจะไม่มีใครไปถึงยอดเขาได้สำเร็จ หรือบางปีก็ไม่มีเลยด้วยซ้ำ ซึ่งสาเหตุก็มาจากผาหินแกรนิตชันอันตรายกว่าที่ไหน ๆ นั่นเอง
8. Mount Vinson, ทวีปแอนตาร์กติกา
ตั้งแต่ถูกค้นพบในปี 1958 นักปีนเขาราว 1,400 คน สามารถพิชิตยอดเขานี้ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยทีเดียว เพราะความสูง 4,892 เมตร สูงที่สุดในทวีปแอนตาร์กติกา และตำแหน่งที่ตั้งของมันทำให้มันเป็นหนึ่งในภูเขาที่ยากที่สุดก็ว่าได้ แต่ถ้าคุณมั่นใจในประสบการณ์ของตัวเองพอสมควร และอยากลองแบบเสี่ยงอันตรายมากขึ้นดูบ้าง Mount Vinson ก็น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี
9. The Matterhorn, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์-ประเทศอิตาลี
เมื่อปี 1857 ได้มีกลุ่มคนริเริ่มลองปีนภูเขาสูง 4,478 เมตร ระหว่างพรมแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีนี้เป็นครั้งแรก แต่เรื่องก็จบลงอย่างน่าเศร้า เพราะ 4 คนในคณะได้เสียชีวิตลงระหว่างเดินทางกลับลงจากเขา และต่อมาก็ยังมีนักปีนเขาจบชีวิตลงที่นี่อีกเรื่อย ๆ ทำให้อัตราการตายสูงเป็นอันดับต้น ๆ เพราะความชันของมัน
10. Everest, ประเทศเนปาล
แน่นอนว่าภูเขาที่โด่งดังและสูงที่สุดในโลกอย่าง Everest ก็ต้องอยู่ในอันดับนี้ด้วย โดยนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีนักปีนเขาจบชีวิตลงที่นี่กว่า 200 รายแล้ว รวมทั้งมีไม่น้อยที่พยายามปีนเท่าไหร่ก็ไม่ถึงยอดจนต้องกลับลงมาก่อนด้วยเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้มีผู้สามารถพิชิตยอดเขานี้ได้มากขึ้น ทำให้มันไม่น่ากลัวเหมือในอดีต ในขณะที่ยังคงเป็นความฝันสำหรับนักปีนเขาอยู่ดี
เท่าที่อ่านมาคุณก็คงจะรู้แล้วว่า แต่ละที่นั้นไม่ได้แค่มีชื่อเสียงเรื่องความน่ากลัวเท่านั้น แต่เคยมีคนต้องตายกันไปหลายรายแล้วจริง ๆ ดังนั้น หากนักปีนเขาคนไหนอยากจะลองไปพิสูจน์ตัวเองดูสักครั้ง ต้องระมัดระวังให้มาก ๆ และศึกษาข้อมูลให้ดีด้วยนะคะ