เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก gfintegrity.org
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 255 เว็บไซต์ financialtaskforce.org รายงานว่า องค์การเพื่อความซื่อสัตย์มั่นคงทางการเงินแห่งโลก (Global Financial Integrity หรือ GFI) ซึ่งเป็นองค์การรณรงค์เพื่อให้การเงินในระดับโลกอยู่ในภาวะที่มีผู้รับผิดชอบสามารถตรวจสอบได้ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน จัดทำรายงานจัดอันดับการเคลื่อนย้ายของเงินผิดกฎหมายของบรรดาประเทศกำลังพัฒนา ในปี 2001-2010 จากรายชื่อทั้งหมด 143 ประเทศ
โดยพบว่า ในปี 2010 เพียงปีเดียว บรรดาเงินสกปรกจากชาติกำลังพัฒนาทั่วโลกซึ่งไหลเข้าไปตามศูนย์หลบหนีภาษีและพวกธนาคารตะวันตกทั้งหลาย มียอดรวมกันทั้งสิ้น 858,800 ล้านดอลลาร์ หรือนับได้ว่าเพิ่มขึ้น 11% จากปี 2009
ทางด้าน เรย์มอนด์ เบเกอร์ ผู้อำนวยการจีเอฟไอ ระบุว่า รายงานฉบับนี้จึงควรถือเป็นสัญญาณเตือนภัยให้บรรดาผู้นำของโลกตระหนักว่า จำเป็นที่จะต้องทำอะไรให้มากขึ้นเพื่อจัดการกับการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเป็นอันตรายเหล่านี้ เนื่องจากเวลานี้ยังคงมีเงินสกปรกจำนวนมากมายมหาศาลไหลออกจากโลกกำลังพัฒนา ไปเข้าสู่โลกพัฒนาแล้ว ตลอดจนเข้าสู่พวกศูนย์ออฟชอร์สำหรับหลบหนีภาษีและพวกธนาคารของประเทศพัฒนาแล้ว
สำหรับประเทศที่มีการเคลื่อนย้ายของเงินผิดกฎหมายสะสมมากที่สุด มีดังนี้
1. จีน 2.74 ล้านล้านดอลลาร์
2. เม็กซิโก 476 พันล้านดอลลาร์
3. มาเลเซีย 285 พันล้านดอลลาร์
4. ซาอุดิอาระเบีย 210 พันล้านดอลลาร์
5. รัสเซีย 152 พันล้านดอลลาร์
6. ฟิลิปปินส์ 138 พันล้านดอลลาร์
7. ไนจีเรีย 129 พันล้านดอลลาร์
8. อินเดีย 123 พันล้านดอลลาร์
9. อินโดนีเซีย 109 พันล้านดอลลาร์
10. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 107 พันล้านดอลลาร์
และการเคลื่อนย้ายของเงินผิดกฎหมายเฉพาะในปี 2010
1. จีน 420.36 พันล้านดอลลาร์
2. มาเลเซีย 64.38 พันล้านดอลลาร์
3. เม็กซิโก 51.17 พันล้านดอลลาร์
4. รัสเซีย 43.64 พันล้านดอลลาร์
5. ซาอุดิอาระเบีย 38.30 พันล้านดอลลาร์
6. อิรัก 22.21 พันล้านดอลลาร์
7. ไนจีเรีย 19.66 พันล้านดอลลาร์
8. คอสตาริกา 17.51 พันล้านดอลลาร์
9. ฟิลิปปินส์ 16.62 พันล้านดอลลาร์
10. ไทย 12.37 พันล้านดอลลาร์
สำหรับประเทศไทยนั้น ก็มีการเคลื่อนย้ายของเงินผิดกฎหมายไม่น้อยหน้าประเทศอื่น โดยติดอยู่อันดับที่ 13 ด้วยมูลค่าเงินฉาวสะสม 10 ปี สูงถึง 64.3 พันล้านดอลลาร์ และเฉพาะในปี 2010 ไทยไต่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 10 มีเงินผิดกฎหมายอยู่ที่ 12.37 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้นำกลุ่ม 20 ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก (จี20) กำลังให้ความสำคัญมากขึ้นกับวิธีการในการปราบปรามทั้งเรื่องการฟอกเงิน การรักษาความลับของพวกธนาคารที่ไม่เป็นผลดีต่อสาธารณชน และช่องโหว่ด้านภาษี ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้การยักยอกเงินแผ่นดินหรือการเคลื่อนย้ายเงินรายได้จากกิจกรรมผิดกฎหมาย ไปจากประเทศกำลังพัฒนา