x close

โบโกต้า ต้นแบบเมืองจักรยาน คืนถนนให้คนเดิน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thisbigcity.net , clas.berkeley.edu และ gotravel24.com

          หากจะเอ่ยถึงเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ ๆ ที่ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมความเจริญและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าที่ใดมีความเจริญ ที่นั่นก็ต้องมีประชากรอาศัยเป็นจำนวนมาก จึงไม่แปลกที่จะมีปัญหาตามมามากมาย ทั้งปัญหาการจราจรติดขัด มลพิษในอากาศ ประชากรแออัด เกิดอาชญากรรมมากมาย คุณภาพชีวิตของประชากรย่ำแย่ขึ้นทุกวัน

          ซึ่งหนึ่งในเมืองดังกล่าวก็รวมถึง โบโกต้า เมืองหลวงของประเทศโคลัมเบียด้วยเช่นกัน เมืองใหญ่สุดแออัดซึ่งครั้งหนึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย แถมยังมีปัญหาโคเคนและอาชญากรรมสูงมาก แต่ ณ วันนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะ โบโกต้า ได้เปลี่ยนแปลงสภาพกลายเป็นเมืองจักรยาน ลดปัญหาโลกร้อน และเป็นเมืองในอุดมคติที่ไม่ว่าประเทศไหน ๆ ก็อยากนำไปปฏิบัติตามเป็นเยี่ยงอย่าง

          สำหรับความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง เกิดขึ้นจากแนวคิดของ นายเอนริเก้ เพนาโลซ่า นายกเทศมนตรีเมืองโบโกต้า ค.ศ. 1998 – ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2541 – พ.ศ. 2544) โดยเขามองว่า "เมืองต้องเป็นที่อยู่อาศัยที่ให้คุณภาพชีวิตแก่พลเมืองทุกคน และทุกคนต้องมีโอกาสเข้าถึงพื้นที่สาธารณะอย่างเท่าเทียมกัน" แต่ปัญหาก็คือ ผู้ขับรถยนต์ส่วนตัวซึ่งมีเพียง 25% กลับยึดพื้นที่สาธารณะไปหมดโดยจอดรถขึ้นมาบนทางเท้า



          ดังนั้น สิ่งแรกที่นายเพนาโลซ่าทำ คือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง พร้อมกับติดตั้งเสากั้นระหว่างถนนและทางเท้า และเพิ่มพื้นที่ทางเดินให้ประชาชนโดยเปลี่ยนที่จอดรถเป็นสวนสาธารณะ 1,200 แห่งและปลูกต้นไม้เพิ่ม 100,000 ต้น ขณะเดียวกันก็ขึ้นราคาน้ำมันและค่าจอดรถในเมือง และแบ่งมาเป็นกองทุนพัฒนาระบบโครงข่ายรถประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) มีเลนวิ่งสามารถคมนาคมได้อย่างสะดวก

          นอกจากนี้ นายเพนาโลซ่า ยังได้สร้างระบบเส้นทางจักรยานอย่างดี เข้าไปจนถึงเขตชุมชนยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนในการสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีต้นไม้ริมทางตลอดแนว เป็นโครงข่ายยาว 300 กิโลเมตร  เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน ด้วยเงินลงทุน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 45,000 ล้านบาท) แต่สามารถเพิ่มจำนวนคนขี่จักรยานเพิ่มขึ้น 20 เท่า



          การหันมาสนับสนุนการใช้จักรยานไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อในเมืองเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจากการขี่จักรยาน, สร้างอาชีพใหม่ ๆ ให้กับคนรายได้น้อย เช่น ช่างซ่อมจักรยาน ขายอะไหล่จักรยาน และยังเป็นพื้นที่สาธารณะที่หลอมรวมคนในสังคมเข้าด้วยกัน

          และทุกเช้าวันอาทิตย์ จะเป็นวันอาทิตย์ปลอดรถยนต์ ถนนใหญ่หลายสายในเมืองมีการกั้นทางไม่ให้รถผ่าน เปลี่ยนท้องถนนให้กลายเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ผู้คนมาเดินเที่ยวเล่นพบปะเพื่อนฝูง ใช้เวลาเดินเล่นกับครอบครัว ออกกำลังกาย ซึ่งก็เรียกได้ว่า ทุกวันนี้ โบโกต้าได้แปรสภาพกลายเป็นเมืองที่มีโครงสร้างและบรรยากาศเป็นมิตร รถติดน้อยลง 40% คุณภาพชีวิตดีขึ้น ชาวเมืองมีสุขภาพกายและใจดีขึ้น รวมถึงอัตราการเกิดอาชญากรรมลดลง 4 เท่า มีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ ชาวโบโกต้า ยังได้สรุปบทเรียนว่า "การสร้างเมืองน่าอยู่ไม่ได้ขึ้นกับงบประมาณ แต่ขึ้นอยู่กับเจตจำนงทางการเมือง และการลำดับความสำคัญนั่นเอง"




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โบโกต้า ต้นแบบเมืองจักรยาน คืนถนนให้คนเดิน อัปเดตล่าสุด 13 กันยายน 2555 เวลา 11:22:50 3,142 อ่าน
TOP