หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (ททท.)
"หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร" คือชื่อของสถานที่ที่ว่านี้ ซึ่งกว่าจะผลักดันกันจนสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง ให้เราได้เข้าชมงานศิลป์ได้นั้น ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีเชียว เมื่อทุกอย่างทางสะดวก อาคารหอศิลปฯ จึงได้ผุดขึ้น ณ บริเวณสี่แยกปทุมวัน ตรงข้ามห้างมาบุญครองและสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งใครผ่านไปผ่านก็สามารถ สังเกตเห็นอาคารสีขาวสะอาดที่มีเพชรพลอยเม็ดเบ้อเร้อ พร้อมตระกร้าใบโข่งที่ล้มอยู่บริเวณหน้าอาคารได้ไม่ยาก
เกิดมาเป็นหอศิลปฯ ทั้งที จะให้รูปทรงเหมือนกับตึกออฟฟิศมันก็ยังไงยังไงอยู่ ทางด้านผู้ออกแบบจึงได้นำแนวคิดความเป็นไทยผสมผสานลงไปในดีไซน์ด้วย ทำให้หอศิลปฯ มีความทันสมั ยแต่ขณะเดียวกันก็อิงรูปทรงที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของไทยเอาไว้ด้วย
สังเกตได้ง่าย ๆ ถ้ามองจากมุมสูงหน่อยเช่นทางเดินเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS จะเห็นว่าผนังของหอศิลปฯ มีการสอบเข้าตามสถาปัตยกรรมไทยโบราณ ช่องบานหน้าต่างก็ได้นำรูปทรงไทย ๆ มาดัดแปลงให้เกิดเป็นองค์ประกอบใหม่ในลวดลายและรูปทรง ซึ่งสามารถควบคุมแสงทางด้านทิศตะวัน ไม่ให้เข้ามาภายในอาคารมากเกินไปอีกด้วย แหงนหน้ามองขึ้นไปอีกสักนิด ก็จะพบกับหลังคาและแผงกันแแดดที่มีเส้นสายโค้ง พริ้วไหวเช่นเดียวกับท่วงทีท่ารำของชาวไทยเรา
ย่างก้าวที่เดินเข้าไปในทีแรกนั้น ให้ความรู้สึกเลยว่านี่แหล่ะหอศิลปฯ ดูยิ่งใหญ่ โอ่โถง ดูแล้วเป็นสถานที่ที่บิ้วอารมณ์ศิลป์ได้ไม่ยากเย็น โถงกลางของชั้น 1 ได้รับการออกแบบให้เป็นจุดเด่นของอาคาร ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงภาพรวมของกิจกรรมทั้งหมดภายในหอศิลปฯ เพราะเกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็นโถงอาคารที่โล่งโปร่งทะลุไปถึงชั้น 9 โน่นกันเลย เมื่อมองขึ้นไปก็จะพบกับรูปทรงโค้งวนของระเบียงในแต่ละชั้น เวลามีกิจกรรมอะไร ก็จะมาจัดตรงพื้นที่โถงชั้น 1 ก่อน เพื่อให้คนที่เข้ามาชมกิจกรรมได้เห็นว่ามีอะไรน่าสนใจ ก่อนจะนำไปสู่งานศิลปะภายในห้องจัดแสดง ตรงกลางโถงเป็นช่องทรงกลมครอบด้วยช่องแสงที่ทะลุลงไปชั้นใต้ดิน
หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครนี้แบ่งออก เป็น 10 ชั้นของพื้นที่ส่วนจัดแสดง เริ่มตั้งแต่ชั้นใต้ดิน ไปสุดที่ชั้น 9 ของตัวอาคาร ซึ่งได้แบ่งพื้นที่การจัดแสดงต่าง ๆ ไว้ดังนี้…
ห้องสมุดศิลปะ ชั้น L รับรองว่าจะต้องถูกใจขาอาร์ทอย่างแน่นอน เพราะเขามีหนังสือและแหล่งความรู้ด้านศิลปะไว้บริการมากกว่า 6,000 รายการเลยทีเดียว!!! เท่านั้นยังไม่พอ เขายังมีบริการอินเตอร์เน็ทและมุมศิลปะสำหรับเด็กอีกด้วย มีน้องมีนุ่งไม่รู้จะพากันไปเที่ยวไหน มาที่นี่ได้ แอร์เย็นสบาย
ห้องเอนกประสงค์ ชั้น 1 ที่มีทางเดินเชื่อมต่อกับโถงใหญ่ ห้องนี้ไว้สำหรับงานจัดเลี้ยง งานแถลงข่าว การประชุม บรรยายต่า งๆ
โซนร้านค้า 34 คูหา บริเวณชั้น 1-4 ไว้จับจ่ายใช้สอย พักผ่อนหย่อนใจ สามารถช้อปสินค้าด้านศิลปวัฒนธรรมมากมาย ทั้งสินค้าทำมือ พ้อกเก็ตบุ้ค หรือจะนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ให้สบายใจเฉิบกับเพื่อน ๆ ก็ยังไหว มีบริการสเก็ตช์ Self-portriat โดยอาร์ตติสตัวจริงกันด้วย อยากได้แบบไหน บอกได้เลย พี่อาร์ตติสเขาจัดเต็ม!!!
ห้องสตูดิโอ บริเวณชั้น 4 เป็นพื้นที่อิสระสำหรับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะงานดนตรี ละคร หรือกิจกรรมแนวทดลองทางศิลปะ ศิลปะการแสดงสด ตลอดจนกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ มากมาย
ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 เป็นห้องขนาด 222 ที่นั่ง ใช้สำหรับการประชุมสัมมนา แสดงละคร ดนตรี ตลอดจนฉายภาพยนต์โน่นเลยทีเดียว บริเวณกำแพงกระจกเขายังจัดบริการโต๊ะเก้าอี้ เอาไว้ให้มานั่งทำการบ้านได้อีกด้วย ซึ่งบรรดาวัยรุ่นมักจะชื่นชอบบริเวณนี้เป็นพิเศษ เพราะให้ความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย จากกำแพงกระจกขนาดใหญ่
ห้องประชุม ชั้น 4-5 ทั้งหมด 4 ห้อง มีไว้สัมมนา ประชุม บรรยาย Workshop ต่าง ๆ จุคนได้ 10 - 40 คน
ส่วนสุดท้ายคือพื้นที่แสดงศิลปะ จัดแสดงทัศนศิลป์ ของชั้น 7- 9 บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ซึ่งจะมีงานนิทรรศการ งานศิลปะมากมาย วนเวียนมาจัดแสดงให้เราได้ชมกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ถ้ามีเวลาก็อย่าลืมแวะมาชมความอลังการของ "หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร" กันนะจ๊ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก