วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2558) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานความคืบหน้ากรณีที่เรือท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ได้นำปลาสวยงามมาขังไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปว่ายน้ำเล่นกับปลา หลังจากนั้นก็นำไปปล่อยคืนทะเลหลังการทัวร์จบลงนั้น ล่าสุดมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันแล้วว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายจริงแม้จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติแล้วก็ตาม
โดย นายบุญแนม ช่วยระดม ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เผยว่า หลังทราบเรื่องดังกล่าวได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ แม้ว่ายังไม่พบเรือที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว แต่ยืนยันว่ากรณีนี้เป็นการกระทำที่เป็นความผิดตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติและพระราชบัญญัติสัตว์ป่าคุ้มครอง
ทั้งนี้ นายบุญเชาว์ ตั้งศิริไพศาล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่า มีความผิดแน่นอน ส่วนเรือลำดังกล่าวคาดว่าจะมาจากจังหวัดภูเก็ต เพราะเจ้าท่าจังหวัดกระบี่จะไม่จดทะเบียนให้กับเรือประเภทนี้ เนื่องจากไม่ส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับเรือลำดังกล่าวแล้ว
ล่าสุด มีรายงานว่า พ.ต.ท. ดนัย นิยมเดชา หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรย่อยเกาะพีพี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ สถานีตำรวจน้ำกระบี่ ได้นำเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเรือประเภทดังกล่าว ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าอ่าวต้นไทร เกาะพีพี เป็นเรือ 2 ชั้น ขนาดใหญ่ มีชื่อว่า "เรือโลกใต้ทะเล" โดยมีนายบุญส่ง ไสกล้วย อายุ 45 ปี เป็นผู้ควบคุมเรือ และยังพบนักท่องเที่ยวทั้งชาวเอเชียและยุโรป กว่า 50 คน อยู่บนเรืออีกด้วย
จากการตรวจสอบภายในเรือพบว่า บริเวณใต้ท้องเรือลำดังกล่าว มีการดัดแปลงเป็นช่องขนาดใหญ่ ดูคล้ายกระจก แต่ไม่ได้ติดกระจก มีน้ำลอดผ่าน และมีการใช้อาหารล่อปลาให้เข้ามาอยู่ในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ ยังพบว่า มีพื้นด้านล่างสำหรับลงไปเล่นน้ำได้อีกด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายบุญส่ง ผู้ควบคุมเรือ ไปสอบสวน และทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาใช้เรือผิดเงื่อนไข และข้อกำหนดใบอนุญาตใช้เรือ เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท พร้อมสั่งให้หยุดบริการ หากฝ่าฝืนก็จะถูกปรับอีกเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
